ใครเคยไปพิสูจน์รักแท้ที่ภูกระดึงแล้วบ้าง???

มีคนเคยเล่าให้ฟังว่าถ้าอยากพิสูจร์รักแท้ให้ไปภูกระดึง คนเรามันจะแสดงความเห็นแก่ตัวก็เมื่อตอนลำบาก ไม่ว่าจะเป็นคนรักหรือเพื่อน
หลายคนเลิกกันเมื่อไปที่นั้น อันนี้ไม่รู้ว่ามันจริงมั้ย? เราเลยขอลองไปดูสักครั้ง ซึ่งเราไปเมื่อปีที่แล้ว
   ปกติแฟนเราชอบทะเลมากๆ แต่เราขอว่าอยากไปภูกระดึงเพราะไม่เคยไป อ้างเหตุผลต่างๆนาๆว่าเดี๋ยวแก่แล้วจะขึ้นไม่ไหวนะ แต่แฟนกลัวเราลำบาก
เพราะแฟนเราเคยไปมาแล้วกับเพื่อนๆเขาว่ามันลำบาก เหนื่อย ขนาดคนออกกำลังกายเป็นประจำยังแย่ แล้วนับประส่าอะไรกับคนที่หายใจยังเหนื่อยอย่างเรา(มันหลอกด่าป่าว่ะ)
เราก็อ้อนเลยว่าเวลาที่เหลือจะออกกำลังกายรอ จะได้ไม่เหนื่อยมาก(อันที่จริงไม่ได้ทำไรสักอย่าง) เขาเลยใจอ่อนตามใจ
     วันเดินทางเราไปวันพฤหัส ไม่ได้เอารถไปเอง ขึ้นโดยสารต่อรถไปเอง ไปแบบไปเที่ยวจริงๆลุยๆ แถมบนรถเมืองเลยวันนั้นเกือบทั้งคันทุกคนมุ่งหน้าไปภูกระดึงทั้งนั้น
พอไปถึงที่หมายก็ไปจ่ายค่าจองเต้น จ่ายค่าประกันขยะ แบบคุณเอาของไปกินกี่ชิ้นขอให้เอากลับลงมาเท่านั้น แต่ถ้าใครเอากลับลงมาเป็นกิโล เขาจะออกประกาศนียบัตรให้ด้วยนะ
เออ ลืมบอกว่าเราฝากกระเป๋าจ้างลูกหาบเอาเพราะกระเป๋าหลายกิโลแบกไม่ไหว ถ้าจำไม่ผิดเขาคิดกิโลละ50บาท
ตอนนั้นเลยเหลือแค่กระเป๋าสะพายข้างใบเดียว พร้อมกับขนม2-3และน้ำ2ขวด เผื่อเหนื่อย
เมื่อเดินไปถึงทางขึ้นก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย (ตื่นเต้นๆ)
พอเริ่มเดินขึ้นไป ทางขึ้นเป็นดินธรรมดา แต่ดูออกว่าเป็นช่วงทางเดินคน แต่มันค่อนข้างชัน เดินลำบาก บอกตรงๆ5นาทีแรกเราขอพักเลย เราเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง
มันเหนื่อยจนชีพจรมาเต้นตุบๆบนหน้า แฟนเราเลยว่า เดินแค่5นาทีพักแล้ว หนทางยังอีกยาวไกลนะ(เหมือนมันไม่ทุกข์ร้อนเลยนะ)
พักเหนื่อยกินน้ำเสร็จแล้วก็เดินต่อ กว่าจะถึงซัมแรกเกือบตาย (จุดพักเขาเรียก ซัม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม) ทุกซัมจะมีร้านค้า ร้านขายอาหาร. มีของกินเยอะแยะ ราคาจะแพงขึ้นเรื่อยๆตามความสูง เราก็กินตลอดทาง พักซัมไหน เรากินซัมนั้น กองทัพต้องเดินด้วยท้อง555
   ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อยแต่แฟนเราไม่บนสักคำ เขาบอกแค่ว่าไม่ต้องรีบเดิน เหนื่อยก็พัก พักไปเรื่อยๆ จากที่เราสะพายกระเป๋าเอง แฟนก็เป็นคนสะพายให้ ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดเป็นพอ
เดินมา2ชั่วโมงแล้วทำไมไม่ถึงสักที หันไปมองคนข้างๆที่ไม่เห็นว่ามันจะออกอาการเหนื่อยเหมือนเรา (หรือมันกินยาอะไรก่อนขึ้นป่าวว่ะ)
ตอนนี้เสื้อเราเปียก ไปด้วยเหงื่อ เหม็นเหงื่อมากๆ พอเดินไปเจอทางชันมากๆ แบบขั้นบันได เราเลยหันไปหาแฟนที่เดินตามหลังว่าเราขึ้นไม่ไหวหรอก มันชันเกินไป ขาเราก็สั้น
  เขาเลยว่าขึ้นไปเลย เดี๋ยวดันข้างหลังเอง เราก็เลยทำตาม ระหว่างที่ปีนขึ้น เรียกว่าปีนได้เลย เขาก็เอามือดันก้นเราไว้กั้นตกลงมา ตอนนั้นน้ำตาเราไหลอะ คิดแค่ว่าเรามาทำอะไรที่นี้ แทนที่จะไปทะเลสบายๆ เรากลับพาคนรักมาลำบาก ตัวเองก็จะเอาตัวไปรอด
เราก็เดินไปต่อเรื่อยๆ พักเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่พักเราจะถามแฟนเราตลอดว่าใกล้ถึงยัง เขาก็จะพูดว่าเหลือไม่เยอะ(คือบอกว่าไม่เยอะมาหลายรอบแล้วนะ)
จนเราเดินไปถึงบันได แฟนเราบอกว่าถ้าผ่านบันไดไปก็จะเป็นหลังเขาแล้วละ เรายิ้มเลย แต่บันไดน่ากลัวอะ คือดูจากลักษณะคงถูกใช้งานมาหลายปี เก่าและไม่ค่อยมั่นคง ขณะกำลังขึ้นคิดในใจอย่าพังนะเว้ย
พอไปถึงหลังเขาก็พักอีก ใต้ต้นไม้ แฟนบอกว่าอีก2กิโลจะถึงที่พัก(พระเจ้า2กิโล) ตอนนั้นเป็นทางเรียบแล้ว แต่ระยะทางไกลมาก ช่วงนั้นเราเดินไม่ไหวแล้ว
เลยทำตัวเป็นเห็บเกาะแขนแฟนไปตลอดทาง (มันคงคิดนะว่ามาเกาะทำไม ในเมื่อกูก็จะเอาตัวไม่รอด)
บางคนที่เดินมาพร้อมๆกันกับเราก็พูดติดตลกว่า"ถ้ากูถึงเมื่อไหร่ยิ้มจะกระโดดเด้า8ทิศเลย555(ขออภัยในคำไม่สุภาพ)เราก็หัวเราะตามเขา
ในที่สุด2กิโลสุดท้าย ก็สิ้นสุดลง มันเหนื่อยจนลืมดีใจ เราก็ไปติดต่อเอาเต้นและที่นอนผ้าห่ม ตอนนั้นเรายังอาบน้ำไม่ได้เพราะกระเป๋าเดินทางมาไม่ถึง ลูกหาบยังไม่มา
เราเดินขึ้นประมาน10โมง ถึงประมาน5โมงเย็น เป็นการเดินเท้าที่นานที่สุดเท่าที่เคยทำมา อาจจะเพราะเราเหนื่อย และพักบ่อยกว่าคนอื่น แฟนเราบอกว่าถึงเวลาประมานนี้แหละโอเคแล้ว ถ้ามาถึงเร็วก็ไม่รู้จะทำอะไร มาถึงตอนนี้ก็อาบน้ำ กินข้าว และนอนพักผ่อนเลย กว่ากระเป๋าจะมาถึง ฟ้ามืดหมดแล้ว
   พออาบน้ำกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ซื้อยาคลายเส้นมากิน เพราะปวดขามาก (เฉพาะเรานะ) แฟนเราก็นวดให้ คืนนั้นนอนไม่ได้ ปวดขาจนนองร้องไห้ แฟนเราก็ไม่ได้นอน เพราะต้องคอยนวด
การมาภูกระดึงครั้งนี้ถือว่าคุ้มกว่าที่คิด ได้อะไรหลายๆอย่าง ได้ไปเที่ยว พิสูจร์ความรัก(ซึ้งตอนนั้นเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ อาจจะเพราะความเหนื่อยล้า) อยากบอกว่าบรรยากาศบนนั้นเป็นอะไรที่สุดยอกมาก การมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับคนรักมันเป็นอะไรที่ วิเศษจริงๆ ในเวลา3วัน2คืน ที่ภูกระดึงนั้น เป็นช่วงเวลาที่ลืมไม่ลง

ปล. เมื่อกลับลงมาแล้วเราเลยถามแฟนว่า ทำไมไม่เหนื่อยเลย เขาบอกเราว่าก็คนมันชอบออกกำลังกาย พอรู้ว่าจะไปภูกระดึงเลยไปเตะบอลทุกวัน เขาบอกว่าจะได้ดูแลเราได้ (เขิลลล) เขารู้ว่าอ่อนแอ ขี้โรค ยังสงสัยว่ารอดมั้ย แต่ก็อยากดูแล
  หนาวนี้ใครยังไม่มีที่เที่ยว เชิญที่ภูกระดึงสักครั้งในชีวิตนะคะ เรื่องอาจจะยาวหน่อย ขอบคุณที่อ่านจนจบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่