เรื่องเล่าที่ปารีสค่ะ ... how to survive in paris ..

HOW TO SURVIVE IN PARIS...... อยากแบ่งปันการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ค่ะ เป็นเรื่องเล่าในปารีสค่ะ เผื่อมีประโยชน์กับคนที่จะมาค่ะ

วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส …. หรือชีวิตของฉันที่ปารีสค่ะ
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งนะคะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (ทั้งภาษาการเล่าเรื่องและรูปประโยคและคำค่ะ ไม่ถนัดเล่าเรื่องเลยค่ะ ปกติแค่พูดก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยุ่แล้วทุกภาษา แม้แต่ภาษาตัวเองค่ะ) … และ จขกท ไม่มีเจตนาจะเหยียดชนชาตินะคะ เป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงค่ะ


จริง ๆ แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมาแชร์เรื่องราวดีไหม เพราะกลัวว่าบางอย่างจะฟังดูเป็นทางในแง่ร้ายเกินไปค่ะ .. คนดีคนเลวมีปะปนอยู่ทั่วโลกค่ะ ถือว่าเป็นอีกด้านของปารีสละกันนะคะ แต่สำหรับคนอยากจะมา ไม่ว่าอยากมาเรียนหรือมาเที่ยวก็ตาม อยากให้ระมัดระวังตัวค่ะ จากการที่อยู่มา (เพื่อเรียน) เป็นเวลา 9 เดือนแล้วค่ะ อยากให้ตั้งชื่อกระทู้แบบ “วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส”
คนไทยคงรู้จักปารีสเป็นเมืองที่สวยแลน่าอยู่ใช่ไหมคะ.. จริง ๆ แล้วมันก็สวยจริง ๆ ค่ะ มีอะไรน่าสนใจมากมาย เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดยเฉพาะมี museum มีงานศิลปะ มีขนมอร่อย มีอะไรน่าดูมากมาย แต่ถ้าพูดในเรื่องการท่องเที่ยว ที่นี่เหมาะกับการมาเที่ยวมากค่ะ แต่… ความเป็นอยู่ บอกเลยค่ะ ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าคนฝรั่งเศสพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก บ้างก็พูดได้แต่ไม่กล้าพูด บ้างก็พูดไม่ได้เลยค่ะ (คนที่พูดได้แต่ไม่กล้าพูดคือเขาทราบว่าสำเนียงการออกเสียงพูดออกมายังไงก็ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ.. ซึ่งนั่นจริง เพื่อน เคยพยายามพูดคำว่า result แต่ไม่มีใครเข้าใจเลย เขาออกเสียงประมาณ “เครอซู๊ด”)
จริง ๆ แล้วแต่ดวงด้วย ว่าจะเจออะไรหรือไม่ แต่ว่าป้องกันไว้ สำหรับคนที่จะมาเที่ยว ดีที่สุดค่ะ และ หรือถ้ามาแบบรวย ๆ สวย ๆ ไม่นั่งเมโทรหรือบัส นั่งแต่แท็กซี่, UBER ,หรือมีคนคอยพาไป ก็ปลอดภัยค่ะ หายห่วง (หรือพูดง่าย ๆ ถ้ามาแบบสวย ๆ เซเลปดารา ทุนการเงินมากมายไม่ได้เดินทางโดยการขนส่งสาธารณะ นั่งแต่แท็กซี่กลับโรมแรมทานข้าวโรงแรม ก็จะเป็นอีกคนละคุณภาพชีวิตกันค่ะ)


1. การแต่งตัวฉูดฉาดหรือเรียกภาษาบ้านเราว่า แต่งตัวเต็มเว่อไรเว่อ​... นี่เป็นเป้าหมายของพวกล้วงกระเป๋าเลยค่ะ (หรือ Pickpocket) คนเหล่านี้เป็นคนชนชาติโรมาเนียค่ะ หรือเรียกว่าพวก ยิปซี … จะเป็นคนที่ตัวเตี้ย ๆ หน่อย แต่งตัวเชย ๆ อยู่กันเป็นกลุ่ม บางทีจะมาถามว่า can you speak english? นั่นอย่าไปคุยกะเขาเลยนะคะ ให้เดินหนีให้เร็วที่สุด เพราะมันจะทำเป็นเหมือนกับว่า เนี่ยเค้าจะเช็คสถิติว่าคนมาเที่ยวพูดภาษาอังกฤษได้กี่เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างที่เขาถาม หรือให้เราเซ็นต์กระดาษหรือเอกสาร เค้าจะเอาเวลาช่วงนั้นแอบเอาของจากกระเป๋าเราไป (ขอคอนเฟิมว่า พวกนางเป็นมืออาชีพจริง ๆ ค่ะ) จขกท เคยด่ามันกลับไป มันเอากระดาษที่เซ็นต์มาฟาดหลัง จขกทเลยค่ะ (ด่าคำหยาบคายฝรั่งเศสค่ะ) หะหะ (ปล.กระเป๋าถือห้อยเป็นคุณนายแบบเอาแขนคล้องเดินไปเดินมายิ่งควรระวังตัวค่ะ)
คนส่วนมากที่นี่บอกว่าให้อยู่ห่าง ๆ คนชนชาติแอฟริกา แต่จริง ๆ มันแล้วแต่คนนะคะ มีชั่วมีดี ที่เจอคนแอฟฟริกดี ๆ มีเยอะมาก ๆๆ (เน้นว่ามาก) คิดว่าเค้าน่าจะถูกกดขี่มาก่อน เขาเลยประพฤติค่อนข้างดีกับคนเอเชียค่ะ (แต่ก็มีคนชาติแอฟริกาที่น่ากลัวและอันตรายอยู่ก็มีค่ะ) .. จริง ๆ ก็แล้วแต่เขตที่ไปด้วยค่ะ (แต่ที่น่ากลัวสุด บอกเลย “แขกขาว”ค่ะ)


2. สำหรับคนที่มักเป็นภูมิแพ้อากาศ แพ้น้ำหอม แพ้กลิ่น หอบหืด ให้เอายามาด้วยนะคะ เพราะการที่ต้องไปซื้อที่ร้านขายยา ส่วนใหญ่ ต้องมีใบสั่งแพทย์ค่ะ นี่คือ จขกท เป็นคนแพ้ฝุ่น .. (กลิ่นบุหรี่ของคนฝรั่งเศสนี่มีทุกที่ไปเลยนะคะ เป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” จริง ๆค่ะ) และท่าทางการสูบบุหรี่ของคนที่นี่(ในตามคาเฟ่)จะประดิษฐ์นิดนึงค่ะ นางจะกรีดกรายฉวัดเฉวียนบุหรี่นางไปมา อาจทำให้รองเท้าของเราเลอะขี้บุหรี่ได้ค่ะ …. และ ที่สำคัญ บุหรี่ที่นี่แพงมากค่ะ ……. และมากกว่านั้น คนชอบขอบุหรี่กันหน้าด้าน ๆ ด้วยค่ะ (แพงแล้วไม่คิดจะซื้อ) บางทีก็เห็นพวก homeless เก็บบุหรี่ตามถังขยะมาปัด ๆ แล้วสูบต่อก็มีค่ะ​ …………...


3. คนปารีสใจดี ?​…. ตอบเลยค่ะว่าน้อย การจะมาเที่ยว ศึกษาเส้นทางก่อนออกมาจากบ้านจะดีค่ะ เดี๋ยวนี้มันมี application มากมาย google map หรือ RATP ก็ได้ค่ะ
อย่างเช่น เมื่ออาทิตย์ก่อน เจอพี่คนไทยสองคนมาเที่ยวกันค่ะ ได้ยินเค้าบ่นกันว่าไม่รู้จะไปอันไหนยังไง ก็เลยเข้าไปถาม เพื่อที่จะบอกทางค่ะ รู้สึกเป็นห่วง ไม่อยากให้หลงทาง แล้วยิ่งถ้าไปคุยกับ information ของสถานี .. บ้างก็ไม่ยอมตอบค่ะ บ้างก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเรา อยู่ยากค่ะ บอกเลยยยยยยยย เคยเจอคนที่ information ดี ๆ เหมือนกันค่ะ
มีอีกเคสที่อยากเล่า เคยเจอคนตาบอดค่ะ เขาเดินออกจากเมโทร เขาเดินออกมาจากเมโทรเสร็จ เขาก็ตะโกนว่า ใครก็ได้พาฉันไปที่รสบัสหน่อย … (คนฝรั่งเศสบริเวณนั้นเดินอย่างไวมากกกกกก) เหลือเราคนเดียวสินะ เออ ๆ จขกท ก็คิดว่า เออ ฉันก็ได้ ก็เลยบอกกับคนตาบอดว่า ฉันพูดได้ไม่เก่งนะ ฉันไม่รู้ว่าจะโอเคไหม แต่ฉันจะพยายาม แล้วก็พานางไปถึงรถบัสแถวเมโทรโดยสำเร็จ …… (อีกเคสมีรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่าไปกะเพื่อนฝรั่งเศสเหมือนกัน) เจอคนตาบอด จะเข้าไปช่วย ปรากฎว่าคนฝรั่งเศสดึงแขน​.. บอกว่า ไม่ต้องไปช่วย การไปช่วยเหมือนเป็นการดูถูกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง ประเทศนี้สอนให้ทุกคนรู้จักดูแลตัวเอง เธอไม่ต้องเข้าไปช่วยหรอกนะ​......​(คือเข้าใจได้ค่ะ ก็ดีค่ะที่ทุกคนเท่าเทียม ถึงจะพิการจะแก่ชรา แต่ก็ดูแลตัวเองได้ แต่บางทีการยื่นมือเข้าไปช่วย มันก็เป็นน้ำใจที่เราอยากจะกระทำ...) .. ฮ่าๆ นอกเรื่องไปเยอะแล้วค่ะ มาต่อกัน


4. คนที่นี่เขาคิดว่าคนเอเชียทุกคนเป็นคนจีนค่ะ .. เวลาไปซื้อของหรืออะไร “ที่ไม่ใช่ห้างสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ” บางร้านเขาจะประพฤติกับเราค่อนข้างแย่ค่ะ แต่ส่วนมาก ยิ่งเราพูดภาษาของเขาไม่ได้ด้วยแล้วเนี่ย (ชาตินิยม) คนที่นี่ถ้าเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทยเขาจะไม่ค่อยอะไรนะคะ เพราะเขาชอบมาเที่ยวเมืองไทยกันค่ะ …. ภูเก็ต ฟูลมูน บลา ๆ ๆ พัทยา เชียงใหม่ ทะเล.. ผู้หญิงข้ามเพศไทย(ดังมาก ๆ ) เพื่อนชอบล้อว่า จขกท เป็น ผญข้ามเพศค่ะ เพราะเขาบอกว่าเขาแยกไม่ออกจริง ๆ สวยยยยย
(สำหรับคนที่อยากมาเรียนนะคะ “พูดให้ได้ จะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ”) แต่ส่วนใหญ่ ห้างแบบ printemp กับ la fayette จะทรีตเราดีมาก ๆ ค่ะ มีพี่คนไทยได้ใน shop แบรนเนมบางแบรนด้วยค่ะ ….. (ปล.ถ้าได้ยินคำว่า ชีนัว หรือ ชินต๊อก จากคนฝรั่งเศสเวลาเดินผ่านคือเขาด่าเราค่ะว่าเป็นคนจีน เวลาเค้าพูด เป็นในทางติดลบหน่อยนะคะ เหมือนเป็นคำด่าค่ะ...)


5. ตามสถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนต้องมีโจรหรือผู้ที่มาหาผลประโยชน์จากเรา (โดยเฉพาะคนเอเชีย โดนตล๊อดดด) เช่น ที่ monmarte (Sacré-coeur) จะมีแก็งค์ชาวผิวดำมาทำท่าเป็นมิตรละจะผูกข้อมือให้เรา เขาจะบอกว่า เพื่อต้อนรับ เป็นมิตร สุดท้ายยยย เขาจะเอาเงินจากเราค่ะ … เพื่อนเคยโดน 50 euro เพราะเขาขู่ว่ามีพวกอยู่ด้านหลัง ให้เอาตังค์มา (หยิบตังเพื่อนจากกระเป๋าตังค์ไปเลยค่ะ)  ให้ระวังตัวมาก ๆ เจอแล้วรีบสะบัดหนีไปเลย เพราะเคยพาเพื่อนไปเหมือนกัน เพื่อนเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาใจดี อีขุ่นเพื่อนก็ดัน ไปยอมเขา นี่ จขกท ต้องฉุดกระชากลากถู ด่ากับมัน พร้อมกระชากที่ผูกข้อมือของเพื่อนแล้วปาใส่มัน (จขกท ได้ความagressive มาจากการอยู่ที่นี่ค่ะ.....คือถ้าเรายอม เราจะต้องยิ่งโดนเอาเปรียบ โดยเฉพาะกับคนฝรั่งเศสค่ะ ตอนนี้กลายเป็นคนโหดมาก ๆ สกิลความเอาตัวรอดสูงส่งมาก ต้องขอบคุณปารีส.........ไม่รู้ว่าควรขอบคุณไหมนะคะ55) ส่วนใหญ่พวกนางจะอยู่ทางขึ้นด้านซ้ายค่ะ แต่ล่าสุดเพื่อนไปมา เพื่อนบอกว่ามันอยู่ทุกจุดทางขึ้นทั้งซ้ายและขวาแล้วค่ะ … ระวังตัวนะคะ


6. การออกจากบ้านตอนกลางคืน ให้ระมัดระวังตัว(อย่างมาก)กว่าตอนกลางวันนะคะ เพราะมิจฉาชีพ เยอะมาก ๆ แท็กซี่ที่นี่ไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสารค่ะ พาอ้อม..มี พูดจากับเราแย่...มี หายาก..(โดยเฉพาะตอนกลางคืน) เคยไปข้างนอกกับเพื่อน ๆค่ะ แล้วยืนเรียกแท็กซี่กับเพื่อน ประมาณ 40 นาที ยืนรอไป….หนาวมาก …. แต่ UBER ที่นี่ดีมาก ๆ ค่ะ ถ้ามีงบสูง แนะนำให้นั่ง UBER มากกว่า (ที่นี่นอกจากเราจะประเมิณเขาหลังบริการแล้ว คนขับก็จะประเมิณเราด้วยว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ดีไหมค่ะ)



7. service …. ใครคิดว่าที่ไทยการบริการไม่เป็นที่น่าพอใจแล้วเนี่ยยยย เจอที่นี่ก่อนเลยค่าาาาา ที่สุดของความแย่ของความแย่ อย่าคาดหวังอะไรเลยนะคะ 5555 บางที ไม่ได้การบริการที่ดีแถมโดนทำเลว ๆ ใส่ด้วย … ทำใจค่ะ … จขกท เคยมีเรื่องกับพนักงาน zara เหมือนกันค่ะ … (แต่เรื่องมันยาววววค่ะ)
สำหรับคนต้องการเดินทางโดยใช้ RER,SNCF (เช่นไป disneyland ,outlet ,เมืองน่ารักนอกปารีส เช่น fountainbleu) หากมีคนหน้าแขก ๆ มาแจกกระดาษหรืออะไร อย่าไปรับนะคะ เขาจะมาเอาเงินไปจากเราค่ะ หรือไม่ก็ ของหายกันบ่อยมาก ๆ บางทีเขาไม่ได้ตรวจบัตรคนตอนขึ้นค่ะ (แล้วแต่ดวง) พวกมิจฉาชีพก็ปะปนกันไปกับผู้โดยสารค่ะ
(อยู่ประเทศนี้เราต้องต่อสู้มาเพื่อสิ่งที่เราจริง ๆ สมควรจะได้แบบไม่ต้องต่อสู้อยู่แล้วค่ะ.... ทำให้มันยากเข้าไว้ ทำให้มันยุ่งเข้าไว้ เป็นนิสัยคนฝรั่งเศสเลยค่ะ)


8. สำหรับอยู่ระยะยาวและการประหยัดงบ​................ ให้ศึกษาว่าอพาร์ทเม้นของตนใกล้ตลาดไหนค่ะ แน่นอนค่ะ ว่าของสดในตลาดมักถูกกว่าใน supermarché อยู่แล้ว จขกท ใกล้ Bastille ค่ะ ทุกวันอาทิตย์ จะมีตลาดสด ตั้งแต่เช้า (ไม่ทราบว่าเช้ากี่โมงเพราะตื่นสายตลอด) ถึงประมาณ 14.00 น.ค่ะ จขกท ก็ไปประมาณ บ่ายโมงนิด ๆ  เพื่อเดินดูรอบ ๆ ตลาด และหาอะไรกิน จขกท ชอบรับประทาน หอยนางรมมาก ๆ ที่ตลาดก็จะมีสด ๆ ขาย 9 ตัว 10-11 ยูโรค่ะ (แล้วแต่ว่า เอาแบบ fine หรือ ธรรมดา) ช่วงหน้าร้อนไม่ใช่หน้าหอย นี่ก็พักไปตั้งนาน คิดถึงหอยมาก ๆ ไว้ว่าง ๆ จะไปกินอีกค่ะ ….. ก็จะยืนกินหอยไป รอเวลา และพอใกล้ตลาดปิด นาทีทอง!! ทุกอย่างจะลดไปหมดค่ะ เช่น สตรอเบอรี่ 2 backets 1-2 ยูโร ปลาเปลอ อะไรลดหมดเลยค่าา ตอนนี้แหละค่ะ เป็นช่วงช๊อปกระจายสำหรับ จขกท ฮ่าๆ  ๆๆ ผัดสลัดหัวละ 1 ยูโร หัวหอมกิโลละ 1 ยูโร พริกใหญ่(เหมือนที่เราเอามาทำพริกหนุ่ม)ตะกร้าละ 1 ยูโร เป็นต้นค่ะ



9. บัตรสมาชิก supermarché ต่าง ๆ ถ้ามาอยู่ แนะนำให้มีทั้งของ monoprix, franxprix, carrefour, D%A และอื่น ๆ ค่ะ
ห้อง จขกท อยู่ใกล้ monoprix และ Franprix ค่ะ บัตรสมาชิกนี่ช่วยให้ประหยัดได้มาก ๆ มันจะมีช่วงลดและ promotion ค่ะ มีบ่อยมากที่สามารถซื้อน้ำยาซักผ้าในราคา ซื้อ 1 แถม 1 ได้ หรืออย่าง Franprix ช่วงลดสามารถเอาแต้มในบัตรมาจ่ายเป็นค่าของได้เลยค่ะ อาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสที่นี่นางบอกว่าที่ Franprix  จะถูกกว่า monoprix แต่ส่วนตัว จขกท ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ รู้สึกว่า เฉพาะของบางอย่าง แล้วแต่ค่ะ เพราะก็เคยเจอของที่ franprix แพงกว่าก็มีค่ะ ... แต่ถ้ากระดาษทิชชู่ (ที่นี่แพงมาก) แนะนำให้ซื้อ D%A ค่ะ ถูกสุดค่ะ


10. Supermarché จีน และแน่นอน มีของไทยขายในนั้น มีตามจุดต่าง ๆ ในปารีสค่ะ มี 13eme arrondissement (métro :place l'italie) Belleville(métro:Belleville) Chine store (métro:Art et métier) ฯลฯ ของ(สด)จะถูกกว่าค่ะ สามารถนำมาประกอบอาหารแบบเอเชีย ๆ อย่างที่พวกเราทานได้


11.อึน้องหมา … ที่นี่ตามท้องถนนเยอะมาก ๆ ค่ะ เวลาเดิน ต้องระมัดระวังมาก ๆ (มีเยอะพอ ๆ กับไทยเลยค่ะ) คนที่นี่เป็นคนรักสัตว์มากค่ะ แต่ก็นานาจิตตังค่ะ มีทั้งรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม พาน้องหมามาอึ ก็เก็บบ้างไม่เก็บบ้างค่ะ แต่มันจะมีรถมาล้างทำความสะอาดทุกวัน … แต่กระนั้นแล้ว อึ น้องหมา ก็ยังมีทั่วเต็มทางเดินไปหมดค่ะ ต้องระวังการเดินมาก ๆ

12. ของแพง … ทุกอย่างแพงกว่าที่อื่นหมดค่ะ (แต่จะไม่แพงกว่าลอนดอนและสวิส) … อันนี้ต้องทำใจค่ะ น้ำขวดละ 1 ยูโรขึ้นไปค่ะ แล้วแต่ขนาดและยี่ห้อ … ค่าโทรศัพท์ ค่าซิม ค่าอินเตอร์เนต …. อย่างเครือข่ายโทรศัพท์ที่นี่จะมี orange, SFR, Free … ของ Free จะถูกสุดค่ะ ส่วน Orange จะแพงที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่