HOW TO SURVIVE IN PARIS...... อยากแบ่งปันการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ค่ะ เป็นเรื่องเล่าในปารีสค่ะ เผื่อมีประโยชน์กับคนที่จะมาค่ะ
วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส …. หรือชีวิตของฉันที่ปารีสค่ะ
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งนะคะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (ทั้งภาษาการเล่าเรื่องและรูปประโยคและคำค่ะ ไม่ถนัดเล่าเรื่องเลยค่ะ ปกติแค่พูดก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยุ่แล้วทุกภาษา แม้แต่ภาษาตัวเองค่ะ) … และ จขกท ไม่มีเจตนาจะเหยียดชนชาตินะคะ เป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงค่ะ
จริง ๆ แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมาแชร์เรื่องราวดีไหม เพราะกลัวว่าบางอย่างจะฟังดูเป็นทางในแง่ร้ายเกินไปค่ะ .. คนดีคนเลวมีปะปนอยู่ทั่วโลกค่ะ ถือว่าเป็นอีกด้านของปารีสละกันนะคะ แต่สำหรับคนอยากจะมา ไม่ว่าอยากมาเรียนหรือมาเที่ยวก็ตาม อยากให้ระมัดระวังตัวค่ะ จากการที่อยู่มา (เพื่อเรียน) เป็นเวลา 9 เดือนแล้วค่ะ อยากให้ตั้งชื่อกระทู้แบบ “วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส”
คนไทยคงรู้จักปารีสเป็นเมืองที่สวยแลน่าอยู่ใช่ไหมคะ.. จริง ๆ แล้วมันก็สวยจริง ๆ ค่ะ มีอะไรน่าสนใจมากมาย เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดยเฉพาะมี museum มีงานศิลปะ มีขนมอร่อย มีอะไรน่าดูมากมาย แต่ถ้าพูดในเรื่องการท่องเที่ยว ที่นี่เหมาะกับการมาเที่ยวมากค่ะ แต่… ความเป็นอยู่ บอกเลยค่ะ ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าคนฝรั่งเศสพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก บ้างก็พูดได้แต่ไม่กล้าพูด บ้างก็พูดไม่ได้เลยค่ะ (คนที่พูดได้แต่ไม่กล้าพูดคือเขาทราบว่าสำเนียงการออกเสียงพูดออกมายังไงก็ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ.. ซึ่งนั่นจริง เพื่อน เคยพยายามพูดคำว่า result แต่ไม่มีใครเข้าใจเลย เขาออกเสียงประมาณ “เครอซู๊ด”)
จริง ๆ แล้วแต่ดวงด้วย ว่าจะเจออะไรหรือไม่ แต่ว่าป้องกันไว้ สำหรับคนที่จะมาเที่ยว ดีที่สุดค่ะ และ หรือถ้ามาแบบรวย ๆ สวย ๆ ไม่นั่งเมโทรหรือบัส นั่งแต่แท็กซี่, UBER ,หรือมีคนคอยพาไป ก็ปลอดภัยค่ะ หายห่วง (หรือพูดง่าย ๆ ถ้ามาแบบสวย ๆ เซเลปดารา ทุนการเงินมากมายไม่ได้เดินทางโดยการขนส่งสาธารณะ นั่งแต่แท็กซี่กลับโรมแรมทานข้าวโรงแรม ก็จะเป็นอีกคนละคุณภาพชีวิตกันค่ะ)
1. การแต่งตัวฉูดฉาดหรือเรียกภาษาบ้านเราว่า แต่งตัวเต็มเว่อไรเว่อ... นี่เป็นเป้าหมายของพวกล้วงกระเป๋าเลยค่ะ (หรือ Pickpocket) คนเหล่านี้เป็นคนชนชาติโรมาเนียค่ะ หรือเรียกว่าพวก ยิปซี … จะเป็นคนที่ตัวเตี้ย ๆ หน่อย แต่งตัวเชย ๆ อยู่กันเป็นกลุ่ม บางทีจะมาถามว่า can you speak english? นั่นอย่าไปคุยกะเขาเลยนะคะ ให้เดินหนีให้เร็วที่สุด เพราะมันจะทำเป็นเหมือนกับว่า เนี่ยเค้าจะเช็คสถิติว่าคนมาเที่ยวพูดภาษาอังกฤษได้กี่เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างที่เขาถาม หรือให้เราเซ็นต์กระดาษหรือเอกสาร เค้าจะเอาเวลาช่วงนั้นแอบเอาของจากกระเป๋าเราไป (ขอคอนเฟิมว่า พวกนางเป็นมืออาชีพจริง ๆ ค่ะ) จขกท เคยด่ามันกลับไป มันเอากระดาษที่เซ็นต์มาฟาดหลัง จขกทเลยค่ะ (ด่าคำหยาบคายฝรั่งเศสค่ะ) หะหะ (ปล.กระเป๋าถือห้อยเป็นคุณนายแบบเอาแขนคล้องเดินไปเดินมายิ่งควรระวังตัวค่ะ)
คนส่วนมากที่นี่บอกว่าให้อยู่ห่าง ๆ คนชนชาติแอฟริกา แต่จริง ๆ มันแล้วแต่คนนะคะ มีชั่วมีดี ที่เจอคนแอฟฟริกดี ๆ มีเยอะมาก ๆๆ (เน้นว่ามาก) คิดว่าเค้าน่าจะถูกกดขี่มาก่อน เขาเลยประพฤติค่อนข้างดีกับคนเอเชียค่ะ (แต่ก็มีคนชาติแอฟริกาที่น่ากลัวและอันตรายอยู่ก็มีค่ะ) .. จริง ๆ ก็แล้วแต่เขตที่ไปด้วยค่ะ (แต่ที่น่ากลัวสุด บอกเลย “แขกขาว”ค่ะ)
2. สำหรับคนที่มักเป็นภูมิแพ้อากาศ แพ้น้ำหอม แพ้กลิ่น หอบหืด ให้เอายามาด้วยนะคะ เพราะการที่ต้องไปซื้อที่ร้านขายยา ส่วนใหญ่ ต้องมีใบสั่งแพทย์ค่ะ นี่คือ จขกท เป็นคนแพ้ฝุ่น .. (กลิ่นบุหรี่ของคนฝรั่งเศสนี่มีทุกที่ไปเลยนะคะ เป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” จริง ๆค่ะ) และท่าทางการสูบบุหรี่ของคนที่นี่(ในตามคาเฟ่)จะประดิษฐ์นิดนึงค่ะ นางจะกรีดกรายฉวัดเฉวียนบุหรี่นางไปมา อาจทำให้รองเท้าของเราเลอะขี้บุหรี่ได้ค่ะ …. และ ที่สำคัญ บุหรี่ที่นี่แพงมากค่ะ ……. และมากกว่านั้น คนชอบขอบุหรี่กันหน้าด้าน ๆ ด้วยค่ะ (แพงแล้วไม่คิดจะซื้อ) บางทีก็เห็นพวก homeless เก็บบุหรี่ตามถังขยะมาปัด ๆ แล้วสูบต่อก็มีค่ะ …………...
3. คนปารีสใจดี ?…. ตอบเลยค่ะว่าน้อย การจะมาเที่ยว ศึกษาเส้นทางก่อนออกมาจากบ้านจะดีค่ะ เดี๋ยวนี้มันมี application มากมาย google map หรือ RATP ก็ได้ค่ะ
อย่างเช่น เมื่ออาทิตย์ก่อน เจอพี่คนไทยสองคนมาเที่ยวกันค่ะ ได้ยินเค้าบ่นกันว่าไม่รู้จะไปอันไหนยังไง ก็เลยเข้าไปถาม เพื่อที่จะบอกทางค่ะ รู้สึกเป็นห่วง ไม่อยากให้หลงทาง แล้วยิ่งถ้าไปคุยกับ information ของสถานี .. บ้างก็ไม่ยอมตอบค่ะ บ้างก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเรา อยู่ยากค่ะ บอกเลยยยยยยยย เคยเจอคนที่ information ดี ๆ เหมือนกันค่ะ
มีอีกเคสที่อยากเล่า เคยเจอคนตาบอดค่ะ เขาเดินออกจากเมโทร เขาเดินออกมาจากเมโทรเสร็จ เขาก็ตะโกนว่า ใครก็ได้พาฉันไปที่รสบัสหน่อย … (คนฝรั่งเศสบริเวณนั้นเดินอย่างไวมากกกกกก) เหลือเราคนเดียวสินะ เออ ๆ จขกท ก็คิดว่า เออ ฉันก็ได้ ก็เลยบอกกับคนตาบอดว่า ฉันพูดได้ไม่เก่งนะ ฉันไม่รู้ว่าจะโอเคไหม แต่ฉันจะพยายาม แล้วก็พานางไปถึงรถบัสแถวเมโทรโดยสำเร็จ …… (อีกเคสมีรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่าไปกะเพื่อนฝรั่งเศสเหมือนกัน) เจอคนตาบอด จะเข้าไปช่วย ปรากฎว่าคนฝรั่งเศสดึงแขน.. บอกว่า ไม่ต้องไปช่วย การไปช่วยเหมือนเป็นการดูถูกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง ประเทศนี้สอนให้ทุกคนรู้จักดูแลตัวเอง เธอไม่ต้องเข้าไปช่วยหรอกนะ......(คือเข้าใจได้ค่ะ ก็ดีค่ะที่ทุกคนเท่าเทียม ถึงจะพิการจะแก่ชรา แต่ก็ดูแลตัวเองได้ แต่บางทีการยื่นมือเข้าไปช่วย มันก็เป็นน้ำใจที่เราอยากจะกระทำ...) .. ฮ่าๆ นอกเรื่องไปเยอะแล้วค่ะ มาต่อกัน
4. คนที่นี่เขาคิดว่าคนเอเชียทุกคนเป็นคนจีนค่ะ .. เวลาไปซื้อของหรืออะไร “ที่ไม่ใช่ห้างสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ” บางร้านเขาจะประพฤติกับเราค่อนข้างแย่ค่ะ แต่ส่วนมาก ยิ่งเราพูดภาษาของเขาไม่ได้ด้วยแล้วเนี่ย (ชาตินิยม) คนที่นี่ถ้าเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทยเขาจะไม่ค่อยอะไรนะคะ เพราะเขาชอบมาเที่ยวเมืองไทยกันค่ะ …. ภูเก็ต ฟูลมูน บลา ๆ ๆ พัทยา เชียงใหม่ ทะเล.. ผู้หญิงข้ามเพศไทย(ดังมาก ๆ ) เพื่อนชอบล้อว่า จขกท เป็น ผญข้ามเพศค่ะ เพราะเขาบอกว่าเขาแยกไม่ออกจริง ๆ สวยยยยย
(สำหรับคนที่อยากมาเรียนนะคะ “พูดให้ได้ จะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ”) แต่ส่วนใหญ่ ห้างแบบ printemp กับ la fayette จะทรีตเราดีมาก ๆ ค่ะ มีพี่คนไทยได้ใน shop แบรนเนมบางแบรนด้วยค่ะ ….. (ปล.ถ้าได้ยินคำว่า ชีนัว หรือ ชินต๊อก จากคนฝรั่งเศสเวลาเดินผ่านคือเขาด่าเราค่ะว่าเป็นคนจีน เวลาเค้าพูด เป็นในทางติดลบหน่อยนะคะ เหมือนเป็นคำด่าค่ะ...)
5. ตามสถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนต้องมีโจรหรือผู้ที่มาหาผลประโยชน์จากเรา (โดยเฉพาะคนเอเชีย โดนตล๊อดดด) เช่น ที่ monmarte (Sacré-coeur) จะมีแก็งค์ชาวผิวดำมาทำท่าเป็นมิตรละจะผูกข้อมือให้เรา เขาจะบอกว่า เพื่อต้อนรับ เป็นมิตร สุดท้ายยยย เขาจะเอาเงินจากเราค่ะ … เพื่อนเคยโดน 50 euro เพราะเขาขู่ว่ามีพวกอยู่ด้านหลัง ให้เอาตังค์มา (หยิบตังเพื่อนจากกระเป๋าตังค์ไปเลยค่ะ) ให้ระวังตัวมาก ๆ เจอแล้วรีบสะบัดหนีไปเลย เพราะเคยพาเพื่อนไปเหมือนกัน เพื่อนเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาใจดี อีขุ่นเพื่อนก็ดัน ไปยอมเขา นี่ จขกท ต้องฉุดกระชากลากถู ด่ากับมัน พร้อมกระชากที่ผูกข้อมือของเพื่อนแล้วปาใส่มัน (จขกท ได้ความagressive มาจากการอยู่ที่นี่ค่ะ.....คือถ้าเรายอม เราจะต้องยิ่งโดนเอาเปรียบ โดยเฉพาะกับคนฝรั่งเศสค่ะ ตอนนี้กลายเป็นคนโหดมาก ๆ สกิลความเอาตัวรอดสูงส่งมาก ต้องขอบคุณปารีส.........ไม่รู้ว่าควรขอบคุณไหมนะคะ55) ส่วนใหญ่พวกนางจะอยู่ทางขึ้นด้านซ้ายค่ะ แต่ล่าสุดเพื่อนไปมา เพื่อนบอกว่ามันอยู่ทุกจุดทางขึ้นทั้งซ้ายและขวาแล้วค่ะ … ระวังตัวนะคะ
6. การออกจากบ้านตอนกลางคืน ให้ระมัดระวังตัว(อย่างมาก)กว่าตอนกลางวันนะคะ เพราะมิจฉาชีพ เยอะมาก ๆ แท็กซี่ที่นี่ไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสารค่ะ พาอ้อม..มี พูดจากับเราแย่...มี หายาก..(โดยเฉพาะตอนกลางคืน) เคยไปข้างนอกกับเพื่อน ๆค่ะ แล้วยืนเรียกแท็กซี่กับเพื่อน ประมาณ 40 นาที ยืนรอไป….หนาวมาก …. แต่ UBER ที่นี่ดีมาก ๆ ค่ะ ถ้ามีงบสูง แนะนำให้นั่ง UBER มากกว่า (ที่นี่นอกจากเราจะประเมิณเขาหลังบริการแล้ว คนขับก็จะประเมิณเราด้วยว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ดีไหมค่ะ)
7. service …. ใครคิดว่าที่ไทยการบริการไม่เป็นที่น่าพอใจแล้วเนี่ยยยย เจอที่นี่ก่อนเลยค่าาาาา ที่สุดของความแย่ของความแย่ อย่าคาดหวังอะไรเลยนะคะ 5555 บางที ไม่ได้การบริการที่ดีแถมโดนทำเลว ๆ ใส่ด้วย … ทำใจค่ะ … จขกท เคยมีเรื่องกับพนักงาน zara เหมือนกันค่ะ … (แต่เรื่องมันยาววววค่ะ)
สำหรับคนต้องการเดินทางโดยใช้ RER,SNCF (เช่นไป disneyland ,outlet ,เมืองน่ารักนอกปารีส เช่น fountainbleu) หากมีคนหน้าแขก ๆ มาแจกกระดาษหรืออะไร อย่าไปรับนะคะ เขาจะมาเอาเงินไปจากเราค่ะ หรือไม่ก็ ของหายกันบ่อยมาก ๆ บางทีเขาไม่ได้ตรวจบัตรคนตอนขึ้นค่ะ (แล้วแต่ดวง) พวกมิจฉาชีพก็ปะปนกันไปกับผู้โดยสารค่ะ
(อยู่ประเทศนี้เราต้องต่อสู้มาเพื่อสิ่งที่เราจริง ๆ สมควรจะได้แบบไม่ต้องต่อสู้อยู่แล้วค่ะ.... ทำให้มันยากเข้าไว้ ทำให้มันยุ่งเข้าไว้ เป็นนิสัยคนฝรั่งเศสเลยค่ะ)
8. สำหรับอยู่ระยะยาวและการประหยัดงบ................ ให้ศึกษาว่าอพาร์ทเม้นของตนใกล้ตลาดไหนค่ะ แน่นอนค่ะ ว่าของสดในตลาดมักถูกกว่าใน supermarché อยู่แล้ว จขกท ใกล้ Bastille ค่ะ ทุกวันอาทิตย์ จะมีตลาดสด ตั้งแต่เช้า (ไม่ทราบว่าเช้ากี่โมงเพราะตื่นสายตลอด) ถึงประมาณ 14.00 น.ค่ะ จขกท ก็ไปประมาณ บ่ายโมงนิด ๆ เพื่อเดินดูรอบ ๆ ตลาด และหาอะไรกิน จขกท ชอบรับประทาน หอยนางรมมาก ๆ ที่ตลาดก็จะมีสด ๆ ขาย 9 ตัว 10-11 ยูโรค่ะ (แล้วแต่ว่า เอาแบบ fine หรือ ธรรมดา) ช่วงหน้าร้อนไม่ใช่หน้าหอย นี่ก็พักไปตั้งนาน คิดถึงหอยมาก ๆ ไว้ว่าง ๆ จะไปกินอีกค่ะ ….. ก็จะยืนกินหอยไป รอเวลา และพอใกล้ตลาดปิด นาทีทอง!! ทุกอย่างจะลดไปหมดค่ะ เช่น สตรอเบอรี่ 2 backets 1-2 ยูโร ปลาเปลอ อะไรลดหมดเลยค่าา ตอนนี้แหละค่ะ เป็นช่วงช๊อปกระจายสำหรับ จขกท ฮ่าๆ ๆๆ ผัดสลัดหัวละ 1 ยูโร หัวหอมกิโลละ 1 ยูโร พริกใหญ่(เหมือนที่เราเอามาทำพริกหนุ่ม)ตะกร้าละ 1 ยูโร เป็นต้นค่ะ
9. บัตรสมาชิก supermarché ต่าง ๆ ถ้ามาอยู่ แนะนำให้มีทั้งของ monoprix, franxprix, carrefour, D%A และอื่น ๆ ค่ะ
ห้อง จขกท อยู่ใกล้ monoprix และ Franprix ค่ะ บัตรสมาชิกนี่ช่วยให้ประหยัดได้มาก ๆ มันจะมีช่วงลดและ promotion ค่ะ มีบ่อยมากที่สามารถซื้อน้ำยาซักผ้าในราคา ซื้อ 1 แถม 1 ได้ หรืออย่าง Franprix ช่วงลดสามารถเอาแต้มในบัตรมาจ่ายเป็นค่าของได้เลยค่ะ อาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสที่นี่นางบอกว่าที่ Franprix จะถูกกว่า monoprix แต่ส่วนตัว จขกท ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ รู้สึกว่า เฉพาะของบางอย่าง แล้วแต่ค่ะ เพราะก็เคยเจอของที่ franprix แพงกว่าก็มีค่ะ ... แต่ถ้ากระดาษทิชชู่ (ที่นี่แพงมาก) แนะนำให้ซื้อ D%A ค่ะ ถูกสุดค่ะ
10. Supermarché จีน และแน่นอน มีของไทยขายในนั้น มีตามจุดต่าง ๆ ในปารีสค่ะ มี 13eme arrondissement (métro :place l'italie) Belleville(métro:Belleville) Chine store (métro:Art et métier) ฯลฯ ของ(สด)จะถูกกว่าค่ะ สามารถนำมาประกอบอาหารแบบเอเชีย ๆ อย่างที่พวกเราทานได้
11.อึน้องหมา … ที่นี่ตามท้องถนนเยอะมาก ๆ ค่ะ เวลาเดิน ต้องระมัดระวังมาก ๆ (มีเยอะพอ ๆ กับไทยเลยค่ะ) คนที่นี่เป็นคนรักสัตว์มากค่ะ แต่ก็นานาจิตตังค่ะ มีทั้งรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม พาน้องหมามาอึ ก็เก็บบ้างไม่เก็บบ้างค่ะ แต่มันจะมีรถมาล้างทำความสะอาดทุกวัน … แต่กระนั้นแล้ว อึ น้องหมา ก็ยังมีทั่วเต็มทางเดินไปหมดค่ะ ต้องระวังการเดินมาก ๆ
12. ของแพง … ทุกอย่างแพงกว่าที่อื่นหมดค่ะ (แต่จะไม่แพงกว่าลอนดอนและสวิส) … อันนี้ต้องทำใจค่ะ น้ำขวดละ 1 ยูโรขึ้นไปค่ะ แล้วแต่ขนาดและยี่ห้อ … ค่าโทรศัพท์ ค่าซิม ค่าอินเตอร์เนต …. อย่างเครือข่ายโทรศัพท์ที่นี่จะมี orange, SFR, Free … ของ Free จะถูกสุดค่ะ ส่วน Orange จะแพงที่สุด
เรื่องเล่าที่ปารีสค่ะ ... how to survive in paris ..
วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส …. หรือชีวิตของฉันที่ปารีสค่ะ
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งนะคะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (ทั้งภาษาการเล่าเรื่องและรูปประโยคและคำค่ะ ไม่ถนัดเล่าเรื่องเลยค่ะ ปกติแค่พูดก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยุ่แล้วทุกภาษา แม้แต่ภาษาตัวเองค่ะ) … และ จขกท ไม่มีเจตนาจะเหยียดชนชาตินะคะ เป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงค่ะ
จริง ๆ แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมาแชร์เรื่องราวดีไหม เพราะกลัวว่าบางอย่างจะฟังดูเป็นทางในแง่ร้ายเกินไปค่ะ .. คนดีคนเลวมีปะปนอยู่ทั่วโลกค่ะ ถือว่าเป็นอีกด้านของปารีสละกันนะคะ แต่สำหรับคนอยากจะมา ไม่ว่าอยากมาเรียนหรือมาเที่ยวก็ตาม อยากให้ระมัดระวังตัวค่ะ จากการที่อยู่มา (เพื่อเรียน) เป็นเวลา 9 เดือนแล้วค่ะ อยากให้ตั้งชื่อกระทู้แบบ “วิธีเอาตัวรอดที่ปารีส”
คนไทยคงรู้จักปารีสเป็นเมืองที่สวยแลน่าอยู่ใช่ไหมคะ.. จริง ๆ แล้วมันก็สวยจริง ๆ ค่ะ มีอะไรน่าสนใจมากมาย เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดยเฉพาะมี museum มีงานศิลปะ มีขนมอร่อย มีอะไรน่าดูมากมาย แต่ถ้าพูดในเรื่องการท่องเที่ยว ที่นี่เหมาะกับการมาเที่ยวมากค่ะ แต่… ความเป็นอยู่ บอกเลยค่ะ ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าคนฝรั่งเศสพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก บ้างก็พูดได้แต่ไม่กล้าพูด บ้างก็พูดไม่ได้เลยค่ะ (คนที่พูดได้แต่ไม่กล้าพูดคือเขาทราบว่าสำเนียงการออกเสียงพูดออกมายังไงก็ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ.. ซึ่งนั่นจริง เพื่อน เคยพยายามพูดคำว่า result แต่ไม่มีใครเข้าใจเลย เขาออกเสียงประมาณ “เครอซู๊ด”)
จริง ๆ แล้วแต่ดวงด้วย ว่าจะเจออะไรหรือไม่ แต่ว่าป้องกันไว้ สำหรับคนที่จะมาเที่ยว ดีที่สุดค่ะ และ หรือถ้ามาแบบรวย ๆ สวย ๆ ไม่นั่งเมโทรหรือบัส นั่งแต่แท็กซี่, UBER ,หรือมีคนคอยพาไป ก็ปลอดภัยค่ะ หายห่วง (หรือพูดง่าย ๆ ถ้ามาแบบสวย ๆ เซเลปดารา ทุนการเงินมากมายไม่ได้เดินทางโดยการขนส่งสาธารณะ นั่งแต่แท็กซี่กลับโรมแรมทานข้าวโรงแรม ก็จะเป็นอีกคนละคุณภาพชีวิตกันค่ะ)
1. การแต่งตัวฉูดฉาดหรือเรียกภาษาบ้านเราว่า แต่งตัวเต็มเว่อไรเว่อ... นี่เป็นเป้าหมายของพวกล้วงกระเป๋าเลยค่ะ (หรือ Pickpocket) คนเหล่านี้เป็นคนชนชาติโรมาเนียค่ะ หรือเรียกว่าพวก ยิปซี … จะเป็นคนที่ตัวเตี้ย ๆ หน่อย แต่งตัวเชย ๆ อยู่กันเป็นกลุ่ม บางทีจะมาถามว่า can you speak english? นั่นอย่าไปคุยกะเขาเลยนะคะ ให้เดินหนีให้เร็วที่สุด เพราะมันจะทำเป็นเหมือนกับว่า เนี่ยเค้าจะเช็คสถิติว่าคนมาเที่ยวพูดภาษาอังกฤษได้กี่เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างที่เขาถาม หรือให้เราเซ็นต์กระดาษหรือเอกสาร เค้าจะเอาเวลาช่วงนั้นแอบเอาของจากกระเป๋าเราไป (ขอคอนเฟิมว่า พวกนางเป็นมืออาชีพจริง ๆ ค่ะ) จขกท เคยด่ามันกลับไป มันเอากระดาษที่เซ็นต์มาฟาดหลัง จขกทเลยค่ะ (ด่าคำหยาบคายฝรั่งเศสค่ะ) หะหะ (ปล.กระเป๋าถือห้อยเป็นคุณนายแบบเอาแขนคล้องเดินไปเดินมายิ่งควรระวังตัวค่ะ)
คนส่วนมากที่นี่บอกว่าให้อยู่ห่าง ๆ คนชนชาติแอฟริกา แต่จริง ๆ มันแล้วแต่คนนะคะ มีชั่วมีดี ที่เจอคนแอฟฟริกดี ๆ มีเยอะมาก ๆๆ (เน้นว่ามาก) คิดว่าเค้าน่าจะถูกกดขี่มาก่อน เขาเลยประพฤติค่อนข้างดีกับคนเอเชียค่ะ (แต่ก็มีคนชาติแอฟริกาที่น่ากลัวและอันตรายอยู่ก็มีค่ะ) .. จริง ๆ ก็แล้วแต่เขตที่ไปด้วยค่ะ (แต่ที่น่ากลัวสุด บอกเลย “แขกขาว”ค่ะ)
2. สำหรับคนที่มักเป็นภูมิแพ้อากาศ แพ้น้ำหอม แพ้กลิ่น หอบหืด ให้เอายามาด้วยนะคะ เพราะการที่ต้องไปซื้อที่ร้านขายยา ส่วนใหญ่ ต้องมีใบสั่งแพทย์ค่ะ นี่คือ จขกท เป็นคนแพ้ฝุ่น .. (กลิ่นบุหรี่ของคนฝรั่งเศสนี่มีทุกที่ไปเลยนะคะ เป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” จริง ๆค่ะ) และท่าทางการสูบบุหรี่ของคนที่นี่(ในตามคาเฟ่)จะประดิษฐ์นิดนึงค่ะ นางจะกรีดกรายฉวัดเฉวียนบุหรี่นางไปมา อาจทำให้รองเท้าของเราเลอะขี้บุหรี่ได้ค่ะ …. และ ที่สำคัญ บุหรี่ที่นี่แพงมากค่ะ ……. และมากกว่านั้น คนชอบขอบุหรี่กันหน้าด้าน ๆ ด้วยค่ะ (แพงแล้วไม่คิดจะซื้อ) บางทีก็เห็นพวก homeless เก็บบุหรี่ตามถังขยะมาปัด ๆ แล้วสูบต่อก็มีค่ะ …………...
3. คนปารีสใจดี ?…. ตอบเลยค่ะว่าน้อย การจะมาเที่ยว ศึกษาเส้นทางก่อนออกมาจากบ้านจะดีค่ะ เดี๋ยวนี้มันมี application มากมาย google map หรือ RATP ก็ได้ค่ะ
อย่างเช่น เมื่ออาทิตย์ก่อน เจอพี่คนไทยสองคนมาเที่ยวกันค่ะ ได้ยินเค้าบ่นกันว่าไม่รู้จะไปอันไหนยังไง ก็เลยเข้าไปถาม เพื่อที่จะบอกทางค่ะ รู้สึกเป็นห่วง ไม่อยากให้หลงทาง แล้วยิ่งถ้าไปคุยกับ information ของสถานี .. บ้างก็ไม่ยอมตอบค่ะ บ้างก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเรา อยู่ยากค่ะ บอกเลยยยยยยยย เคยเจอคนที่ information ดี ๆ เหมือนกันค่ะ
มีอีกเคสที่อยากเล่า เคยเจอคนตาบอดค่ะ เขาเดินออกจากเมโทร เขาเดินออกมาจากเมโทรเสร็จ เขาก็ตะโกนว่า ใครก็ได้พาฉันไปที่รสบัสหน่อย … (คนฝรั่งเศสบริเวณนั้นเดินอย่างไวมากกกกกก) เหลือเราคนเดียวสินะ เออ ๆ จขกท ก็คิดว่า เออ ฉันก็ได้ ก็เลยบอกกับคนตาบอดว่า ฉันพูดได้ไม่เก่งนะ ฉันไม่รู้ว่าจะโอเคไหม แต่ฉันจะพยายาม แล้วก็พานางไปถึงรถบัสแถวเมโทรโดยสำเร็จ …… (อีกเคสมีรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่าไปกะเพื่อนฝรั่งเศสเหมือนกัน) เจอคนตาบอด จะเข้าไปช่วย ปรากฎว่าคนฝรั่งเศสดึงแขน.. บอกว่า ไม่ต้องไปช่วย การไปช่วยเหมือนเป็นการดูถูกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง ประเทศนี้สอนให้ทุกคนรู้จักดูแลตัวเอง เธอไม่ต้องเข้าไปช่วยหรอกนะ......(คือเข้าใจได้ค่ะ ก็ดีค่ะที่ทุกคนเท่าเทียม ถึงจะพิการจะแก่ชรา แต่ก็ดูแลตัวเองได้ แต่บางทีการยื่นมือเข้าไปช่วย มันก็เป็นน้ำใจที่เราอยากจะกระทำ...) .. ฮ่าๆ นอกเรื่องไปเยอะแล้วค่ะ มาต่อกัน
4. คนที่นี่เขาคิดว่าคนเอเชียทุกคนเป็นคนจีนค่ะ .. เวลาไปซื้อของหรืออะไร “ที่ไม่ใช่ห้างสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ” บางร้านเขาจะประพฤติกับเราค่อนข้างแย่ค่ะ แต่ส่วนมาก ยิ่งเราพูดภาษาของเขาไม่ได้ด้วยแล้วเนี่ย (ชาตินิยม) คนที่นี่ถ้าเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทยเขาจะไม่ค่อยอะไรนะคะ เพราะเขาชอบมาเที่ยวเมืองไทยกันค่ะ …. ภูเก็ต ฟูลมูน บลา ๆ ๆ พัทยา เชียงใหม่ ทะเล.. ผู้หญิงข้ามเพศไทย(ดังมาก ๆ ) เพื่อนชอบล้อว่า จขกท เป็น ผญข้ามเพศค่ะ เพราะเขาบอกว่าเขาแยกไม่ออกจริง ๆ สวยยยยย
(สำหรับคนที่อยากมาเรียนนะคะ “พูดให้ได้ จะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ”) แต่ส่วนใหญ่ ห้างแบบ printemp กับ la fayette จะทรีตเราดีมาก ๆ ค่ะ มีพี่คนไทยได้ใน shop แบรนเนมบางแบรนด้วยค่ะ ….. (ปล.ถ้าได้ยินคำว่า ชีนัว หรือ ชินต๊อก จากคนฝรั่งเศสเวลาเดินผ่านคือเขาด่าเราค่ะว่าเป็นคนจีน เวลาเค้าพูด เป็นในทางติดลบหน่อยนะคะ เหมือนเป็นคำด่าค่ะ...)
5. ตามสถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนต้องมีโจรหรือผู้ที่มาหาผลประโยชน์จากเรา (โดยเฉพาะคนเอเชีย โดนตล๊อดดด) เช่น ที่ monmarte (Sacré-coeur) จะมีแก็งค์ชาวผิวดำมาทำท่าเป็นมิตรละจะผูกข้อมือให้เรา เขาจะบอกว่า เพื่อต้อนรับ เป็นมิตร สุดท้ายยยย เขาจะเอาเงินจากเราค่ะ … เพื่อนเคยโดน 50 euro เพราะเขาขู่ว่ามีพวกอยู่ด้านหลัง ให้เอาตังค์มา (หยิบตังเพื่อนจากกระเป๋าตังค์ไปเลยค่ะ) ให้ระวังตัวมาก ๆ เจอแล้วรีบสะบัดหนีไปเลย เพราะเคยพาเพื่อนไปเหมือนกัน เพื่อนเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาใจดี อีขุ่นเพื่อนก็ดัน ไปยอมเขา นี่ จขกท ต้องฉุดกระชากลากถู ด่ากับมัน พร้อมกระชากที่ผูกข้อมือของเพื่อนแล้วปาใส่มัน (จขกท ได้ความagressive มาจากการอยู่ที่นี่ค่ะ.....คือถ้าเรายอม เราจะต้องยิ่งโดนเอาเปรียบ โดยเฉพาะกับคนฝรั่งเศสค่ะ ตอนนี้กลายเป็นคนโหดมาก ๆ สกิลความเอาตัวรอดสูงส่งมาก ต้องขอบคุณปารีส.........ไม่รู้ว่าควรขอบคุณไหมนะคะ55) ส่วนใหญ่พวกนางจะอยู่ทางขึ้นด้านซ้ายค่ะ แต่ล่าสุดเพื่อนไปมา เพื่อนบอกว่ามันอยู่ทุกจุดทางขึ้นทั้งซ้ายและขวาแล้วค่ะ … ระวังตัวนะคะ
6. การออกจากบ้านตอนกลางคืน ให้ระมัดระวังตัว(อย่างมาก)กว่าตอนกลางวันนะคะ เพราะมิจฉาชีพ เยอะมาก ๆ แท็กซี่ที่นี่ไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสารค่ะ พาอ้อม..มี พูดจากับเราแย่...มี หายาก..(โดยเฉพาะตอนกลางคืน) เคยไปข้างนอกกับเพื่อน ๆค่ะ แล้วยืนเรียกแท็กซี่กับเพื่อน ประมาณ 40 นาที ยืนรอไป….หนาวมาก …. แต่ UBER ที่นี่ดีมาก ๆ ค่ะ ถ้ามีงบสูง แนะนำให้นั่ง UBER มากกว่า (ที่นี่นอกจากเราจะประเมิณเขาหลังบริการแล้ว คนขับก็จะประเมิณเราด้วยว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ดีไหมค่ะ)
7. service …. ใครคิดว่าที่ไทยการบริการไม่เป็นที่น่าพอใจแล้วเนี่ยยยย เจอที่นี่ก่อนเลยค่าาาาา ที่สุดของความแย่ของความแย่ อย่าคาดหวังอะไรเลยนะคะ 5555 บางที ไม่ได้การบริการที่ดีแถมโดนทำเลว ๆ ใส่ด้วย … ทำใจค่ะ … จขกท เคยมีเรื่องกับพนักงาน zara เหมือนกันค่ะ … (แต่เรื่องมันยาววววค่ะ)
สำหรับคนต้องการเดินทางโดยใช้ RER,SNCF (เช่นไป disneyland ,outlet ,เมืองน่ารักนอกปารีส เช่น fountainbleu) หากมีคนหน้าแขก ๆ มาแจกกระดาษหรืออะไร อย่าไปรับนะคะ เขาจะมาเอาเงินไปจากเราค่ะ หรือไม่ก็ ของหายกันบ่อยมาก ๆ บางทีเขาไม่ได้ตรวจบัตรคนตอนขึ้นค่ะ (แล้วแต่ดวง) พวกมิจฉาชีพก็ปะปนกันไปกับผู้โดยสารค่ะ
(อยู่ประเทศนี้เราต้องต่อสู้มาเพื่อสิ่งที่เราจริง ๆ สมควรจะได้แบบไม่ต้องต่อสู้อยู่แล้วค่ะ.... ทำให้มันยากเข้าไว้ ทำให้มันยุ่งเข้าไว้ เป็นนิสัยคนฝรั่งเศสเลยค่ะ)
8. สำหรับอยู่ระยะยาวและการประหยัดงบ................ ให้ศึกษาว่าอพาร์ทเม้นของตนใกล้ตลาดไหนค่ะ แน่นอนค่ะ ว่าของสดในตลาดมักถูกกว่าใน supermarché อยู่แล้ว จขกท ใกล้ Bastille ค่ะ ทุกวันอาทิตย์ จะมีตลาดสด ตั้งแต่เช้า (ไม่ทราบว่าเช้ากี่โมงเพราะตื่นสายตลอด) ถึงประมาณ 14.00 น.ค่ะ จขกท ก็ไปประมาณ บ่ายโมงนิด ๆ เพื่อเดินดูรอบ ๆ ตลาด และหาอะไรกิน จขกท ชอบรับประทาน หอยนางรมมาก ๆ ที่ตลาดก็จะมีสด ๆ ขาย 9 ตัว 10-11 ยูโรค่ะ (แล้วแต่ว่า เอาแบบ fine หรือ ธรรมดา) ช่วงหน้าร้อนไม่ใช่หน้าหอย นี่ก็พักไปตั้งนาน คิดถึงหอยมาก ๆ ไว้ว่าง ๆ จะไปกินอีกค่ะ ….. ก็จะยืนกินหอยไป รอเวลา และพอใกล้ตลาดปิด นาทีทอง!! ทุกอย่างจะลดไปหมดค่ะ เช่น สตรอเบอรี่ 2 backets 1-2 ยูโร ปลาเปลอ อะไรลดหมดเลยค่าา ตอนนี้แหละค่ะ เป็นช่วงช๊อปกระจายสำหรับ จขกท ฮ่าๆ ๆๆ ผัดสลัดหัวละ 1 ยูโร หัวหอมกิโลละ 1 ยูโร พริกใหญ่(เหมือนที่เราเอามาทำพริกหนุ่ม)ตะกร้าละ 1 ยูโร เป็นต้นค่ะ
9. บัตรสมาชิก supermarché ต่าง ๆ ถ้ามาอยู่ แนะนำให้มีทั้งของ monoprix, franxprix, carrefour, D%A และอื่น ๆ ค่ะ
ห้อง จขกท อยู่ใกล้ monoprix และ Franprix ค่ะ บัตรสมาชิกนี่ช่วยให้ประหยัดได้มาก ๆ มันจะมีช่วงลดและ promotion ค่ะ มีบ่อยมากที่สามารถซื้อน้ำยาซักผ้าในราคา ซื้อ 1 แถม 1 ได้ หรืออย่าง Franprix ช่วงลดสามารถเอาแต้มในบัตรมาจ่ายเป็นค่าของได้เลยค่ะ อาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสที่นี่นางบอกว่าที่ Franprix จะถูกกว่า monoprix แต่ส่วนตัว จขกท ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ รู้สึกว่า เฉพาะของบางอย่าง แล้วแต่ค่ะ เพราะก็เคยเจอของที่ franprix แพงกว่าก็มีค่ะ ... แต่ถ้ากระดาษทิชชู่ (ที่นี่แพงมาก) แนะนำให้ซื้อ D%A ค่ะ ถูกสุดค่ะ
10. Supermarché จีน และแน่นอน มีของไทยขายในนั้น มีตามจุดต่าง ๆ ในปารีสค่ะ มี 13eme arrondissement (métro :place l'italie) Belleville(métro:Belleville) Chine store (métro:Art et métier) ฯลฯ ของ(สด)จะถูกกว่าค่ะ สามารถนำมาประกอบอาหารแบบเอเชีย ๆ อย่างที่พวกเราทานได้
11.อึน้องหมา … ที่นี่ตามท้องถนนเยอะมาก ๆ ค่ะ เวลาเดิน ต้องระมัดระวังมาก ๆ (มีเยอะพอ ๆ กับไทยเลยค่ะ) คนที่นี่เป็นคนรักสัตว์มากค่ะ แต่ก็นานาจิตตังค่ะ มีทั้งรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม พาน้องหมามาอึ ก็เก็บบ้างไม่เก็บบ้างค่ะ แต่มันจะมีรถมาล้างทำความสะอาดทุกวัน … แต่กระนั้นแล้ว อึ น้องหมา ก็ยังมีทั่วเต็มทางเดินไปหมดค่ะ ต้องระวังการเดินมาก ๆ
12. ของแพง … ทุกอย่างแพงกว่าที่อื่นหมดค่ะ (แต่จะไม่แพงกว่าลอนดอนและสวิส) … อันนี้ต้องทำใจค่ะ น้ำขวดละ 1 ยูโรขึ้นไปค่ะ แล้วแต่ขนาดและยี่ห้อ … ค่าโทรศัพท์ ค่าซิม ค่าอินเตอร์เนต …. อย่างเครือข่ายโทรศัพท์ที่นี่จะมี orange, SFR, Free … ของ Free จะถูกสุดค่ะ ส่วน Orange จะแพงที่สุด