หลังจากสิงอยู่ใน pantip มาระยะหนึ่ง จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ....คนที่ไว้ใจสุดท้าย ร้ายที่สุด
มันอ่านจะยาวหน่อย ขอเรียกแทนเขาว่านาย ต และน้อง น นะค่ะ
เรากับนาย ต เคยคบกันแล้วเลิกลากันได้ 2 ปี ในระหว่าง 2 ปีนั้นเราได้กลับไปคบกับแฟนอีกคนและเลิกลากันไป
โดยไม่ได้มานั่งบอกใครว่าตอนนี้ฉันโสด เพราะเราก็ทำตัวปกติไปเที่ยวกับเพื่อน กินข้าวกับเพื่อน ไปไหนมาไหนกับเพื่อน
ในระหว่าง 2 ปีนั้นเรากับกับนาย ต ยังเป็นคุยกัน ยังห่วง ยังดูแล และตลอดเวลาเหมือนเค้ารอเรา
คอยถามอยู่บ่อยครั้งว่าเราจะกลับมาเหมือนเดิมไหม และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางนาย ต ก็ถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
คำตอบที่เราตอบ เพราะด้วยประสบการณ์ที่เจอมาเรื่องผู้ชายเลยบอกนาย ต ว่า "ปล่อยไปเรื่องของอนาคตได้ไหม"
หลังจากนั้นเราสองคนก็ไปไหนมาไหนกันมากขึ้น นาย ต พยายามเอาอกเอาใจเราทุกอย่าง
และเค้าบอกว่าเค้าเปลี่ยนไปแล้วจะพาเราไปเที่ยวตามที่เราอยากไป อยากทำไรจะทำให้ เราเลยตัดสินใจให้นาย ต เข้ามาในชีวิตอีกครั้งในฐานะแฟน
แต่แล้วหลังจากนั้นไม่ถึง 1 เดือน ก็พบว่า นาย ต มาบอกว่ารู้สึกดีกับอีกคน ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานเดียวกันกับเรา คือน้อง น นั่นเอง
น้อง น เป็นน้องที่สนิทกันกับเรา แต่บอกว่าไม่มีอะไร และนาย ต ก็บอกกับเราว่าจะหยุด แต่แล้วสิ่งที่เจอมันไม่ใช่ ในระหว่างนั้นนาย ต ไม่ได้หยุด เค้าแทบเปลี่ยนไปเป็นอีกคนและมาบอกเลิกเราในที่สุด ด้วยเหตุผลว่า "เค้าอยากอยู่คนเดียว" "เราไปกันไม่ได้"
แต่สุดท้ายเราจับได้ว่าจริงๆ เค้าแค่อยากมีอีกคน!! หลังจากนั้นเราได้คุยกับน้อง น ซึ่งน้องก็ยืนยันเองว่า น้องไม่ได้คิดอะไร น้องจะจบ
และน้อง น รับปาก มั่นเหมาะว่าคนอย่างเรา "จบคือจบ" หลังจากเคลียร์กันแล้วพยายามเชื่อใจทั้งคู่ เรากับน้อง น ยังคุยกันว่า เรายังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม และยังคงรักกันเหมือนเดิม!!! หลังจากแยกย้ายไปทำงาน น้องยังส่งข้อความมาให้กำลังใจเรา และบอกให้เราสู้ๆ น้องได้เคลียร์กับพี่แล้วมันโล่งและสบายใจมากเลย ส่วนเราพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม พยายามทำตัวปกติ แต่ระหว่างเรากับนาย ต เราสองแทบกลายเป็นคนอื่นต่อกัน เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยเรื่องนี้ เค้าเลี่ยงที่จะไม่คุยและหนี ได้แต่บอกว่า "เรากำลังดีขึ้นไง เค้าก็พยายามจะทำให้เหมือนเดิม"
แต่แล้วตอนเช้าวันหนึ่งเจอเค้าเดินมาด้วยกันตอนเช้าก่อนเข้าทำงาน เราเลยเดินไปขอคุยกับผู้ชาย คำตอบที่ได้ คือ "ผมขอเห็นแก่ตัว และจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะผมบอกเลิกคุณแล้วคุณไม่เลิกเอง" เหมือนโดนผลักให้ล้มซ้ำสอง เราพยายามที่จะนัดให้เราสามคนมาคุยกันว่าทำไมถึงทำกันแบบนี้ ทั้งที่รู้กันอยู่เต็มอก ถึงเวลานัดไม่มาได้แต่บอกเพื่อนน้อง น มาว่า"นาย ต และน้อง น แค่คุยกันยังไม่ได้คบกันเลย" แต่น้อง น "รู้ว่าผิดที่ทำแบบนี้" แต่ไม่รู้จะทำยังไง แต่สิ่งที่เราเจอหลังจากนี้มันไม่ใช่!!!
เรารู้สึกแปลกจากหลายพฤติกรรม เราตัดสินใจไปดูด้วยตาตัวเอง แล้วก็พบว่า...น้อง น และนาย ต อยู่ด้วยกันที่บ้านของนาย ต และเจอแบบไม่ธรรมดา!! ณ ตอนนั้นเรายอมรับคะ ว่าขาดสติ เราต้องการให้น้อง น นาย ต ลงมาเคลียร์กับเรา แต่แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น นาย ต โกหกว่าไม่มีใครอยู่ ณ ตรงนั้น ขอบอกอิฉันไม่ได้โง่ และหลักฐานมันคาตา แต่เราพลาดเราสองคนใช้อารมณ์คุยกัน และเราก็โดนเค้าทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เราเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เจอและเกิดขึ้น ทั้งสองคนกลับไม่รู้สึกผิดอะไรเลย มันผ่านไป เกือบสองเดือนแล้ว ในขณะที่เราพิมพ์มือของเราก็คงยังใส่เฝือกอยู่
แผลที่ร่างกายเริ่มจางหาย แต่แผลที่ใจคงอีกยาว เราสามคนยังคงทำงานที่เดียวกันต่อไป ไม่เคยคาดคิดจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ แต่เราพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นและเดินต่อไปให้ได้ เป็นกำลังใจให้อีกหลายๆคน ที่เจอเหตุการณ์เลวร้ายเช่นกัน เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เมื่อนั้นเราจะเข้มแข็งขึ้นอีกเยอะ
ในวันที่โดนทำร้ายจากคนที่ไว้ใจ...และสุดท้ายร้ายที่สุด
มันอ่านจะยาวหน่อย ขอเรียกแทนเขาว่านาย ต และน้อง น นะค่ะ
เรากับนาย ต เคยคบกันแล้วเลิกลากันได้ 2 ปี ในระหว่าง 2 ปีนั้นเราได้กลับไปคบกับแฟนอีกคนและเลิกลากันไป
โดยไม่ได้มานั่งบอกใครว่าตอนนี้ฉันโสด เพราะเราก็ทำตัวปกติไปเที่ยวกับเพื่อน กินข้าวกับเพื่อน ไปไหนมาไหนกับเพื่อน
ในระหว่าง 2 ปีนั้นเรากับกับนาย ต ยังเป็นคุยกัน ยังห่วง ยังดูแล และตลอดเวลาเหมือนเค้ารอเรา
คอยถามอยู่บ่อยครั้งว่าเราจะกลับมาเหมือนเดิมไหม และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางนาย ต ก็ถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
คำตอบที่เราตอบ เพราะด้วยประสบการณ์ที่เจอมาเรื่องผู้ชายเลยบอกนาย ต ว่า "ปล่อยไปเรื่องของอนาคตได้ไหม"
หลังจากนั้นเราสองคนก็ไปไหนมาไหนกันมากขึ้น นาย ต พยายามเอาอกเอาใจเราทุกอย่าง
และเค้าบอกว่าเค้าเปลี่ยนไปแล้วจะพาเราไปเที่ยวตามที่เราอยากไป อยากทำไรจะทำให้ เราเลยตัดสินใจให้นาย ต เข้ามาในชีวิตอีกครั้งในฐานะแฟน
แต่แล้วหลังจากนั้นไม่ถึง 1 เดือน ก็พบว่า นาย ต มาบอกว่ารู้สึกดีกับอีกคน ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานเดียวกันกับเรา คือน้อง น นั่นเอง
น้อง น เป็นน้องที่สนิทกันกับเรา แต่บอกว่าไม่มีอะไร และนาย ต ก็บอกกับเราว่าจะหยุด แต่แล้วสิ่งที่เจอมันไม่ใช่ ในระหว่างนั้นนาย ต ไม่ได้หยุด เค้าแทบเปลี่ยนไปเป็นอีกคนและมาบอกเลิกเราในที่สุด ด้วยเหตุผลว่า "เค้าอยากอยู่คนเดียว" "เราไปกันไม่ได้"
แต่สุดท้ายเราจับได้ว่าจริงๆ เค้าแค่อยากมีอีกคน!! หลังจากนั้นเราได้คุยกับน้อง น ซึ่งน้องก็ยืนยันเองว่า น้องไม่ได้คิดอะไร น้องจะจบ
และน้อง น รับปาก มั่นเหมาะว่าคนอย่างเรา "จบคือจบ" หลังจากเคลียร์กันแล้วพยายามเชื่อใจทั้งคู่ เรากับน้อง น ยังคุยกันว่า เรายังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม และยังคงรักกันเหมือนเดิม!!! หลังจากแยกย้ายไปทำงาน น้องยังส่งข้อความมาให้กำลังใจเรา และบอกให้เราสู้ๆ น้องได้เคลียร์กับพี่แล้วมันโล่งและสบายใจมากเลย ส่วนเราพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม พยายามทำตัวปกติ แต่ระหว่างเรากับนาย ต เราสองแทบกลายเป็นคนอื่นต่อกัน เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยเรื่องนี้ เค้าเลี่ยงที่จะไม่คุยและหนี ได้แต่บอกว่า "เรากำลังดีขึ้นไง เค้าก็พยายามจะทำให้เหมือนเดิม"
แต่แล้วตอนเช้าวันหนึ่งเจอเค้าเดินมาด้วยกันตอนเช้าก่อนเข้าทำงาน เราเลยเดินไปขอคุยกับผู้ชาย คำตอบที่ได้ คือ "ผมขอเห็นแก่ตัว และจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะผมบอกเลิกคุณแล้วคุณไม่เลิกเอง" เหมือนโดนผลักให้ล้มซ้ำสอง เราพยายามที่จะนัดให้เราสามคนมาคุยกันว่าทำไมถึงทำกันแบบนี้ ทั้งที่รู้กันอยู่เต็มอก ถึงเวลานัดไม่มาได้แต่บอกเพื่อนน้อง น มาว่า"นาย ต และน้อง น แค่คุยกันยังไม่ได้คบกันเลย" แต่น้อง น "รู้ว่าผิดที่ทำแบบนี้" แต่ไม่รู้จะทำยังไง แต่สิ่งที่เราเจอหลังจากนี้มันไม่ใช่!!!
เรารู้สึกแปลกจากหลายพฤติกรรม เราตัดสินใจไปดูด้วยตาตัวเอง แล้วก็พบว่า...น้อง น และนาย ต อยู่ด้วยกันที่บ้านของนาย ต และเจอแบบไม่ธรรมดา!! ณ ตอนนั้นเรายอมรับคะ ว่าขาดสติ เราต้องการให้น้อง น นาย ต ลงมาเคลียร์กับเรา แต่แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น นาย ต โกหกว่าไม่มีใครอยู่ ณ ตรงนั้น ขอบอกอิฉันไม่ได้โง่ และหลักฐานมันคาตา แต่เราพลาดเราสองคนใช้อารมณ์คุยกัน และเราก็โดนเค้าทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ เราเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เจอและเกิดขึ้น ทั้งสองคนกลับไม่รู้สึกผิดอะไรเลย มันผ่านไป เกือบสองเดือนแล้ว ในขณะที่เราพิมพ์มือของเราก็คงยังใส่เฝือกอยู่
แผลที่ร่างกายเริ่มจางหาย แต่แผลที่ใจคงอีกยาว เราสามคนยังคงทำงานที่เดียวกันต่อไป ไม่เคยคาดคิดจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ แต่เราพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นและเดินต่อไปให้ได้ เป็นกำลังใจให้อีกหลายๆคน ที่เจอเหตุการณ์เลวร้ายเช่นกัน เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เมื่อนั้นเราจะเข้มแข็งขึ้นอีกเยอะ