ช็อก! เศรษฐีดัง “วอร์เร็น บัฟเฟตต์” สูญเงินเกือบ “6.5 หมื่นล้าน” ภายใน 2 วัน หลังเก็งกำไรพลาดในหุ้น IBM-COKE
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ตุลาคม 2557 07:00 น.
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังในวัย 84 ปี ซึ่งมีทรัพย์สินในความครอบครองมากกว่า 67,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.17 ล้านล้านบาท) มีอันต้องสูญเงินไปกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64,665 ล้านบาท) ตลอด 2 วันที่ผ่านมาจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ที่ได้ชื่อว่า เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การสูญเงินมหาศาลของบัฟเฟตต์ดังกล่าวภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงถูกระบุว่า เกิดจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดของเขาในหุ้นของบริษัทไอทีชื่อดังอย่างInternational Business Machines Corporation หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ “IBM” รวมถึง หุ้นของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำดำชื่อก้อง “โคคา-โคลา”
รายงานข่าวระบุว่า ราคาหุ้นของไอบีเอ็มปรับร่วงลงไปกว่า 13 เปอร์เซ็นต์แล้วในปีนี้ และถูกเทขายอย่างหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของโคคา-โคลาก็ปรับร่วงไป 0.15 เปอร์เซ็นต์เมื่อปิดตลาดในวันพุธ (22 ต.ค.) ที่ผ่านมา
ด้านแหล่งข่าวในวอลล์สตรีทเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้บัฟเฟตต์ ซีอีโอแห่งบริษัท “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” ต้องสูญเงินก้อนโตถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน เกิดจากปัญหาการปรับพอร์ตลงทุนในระยะหลังของบัฟเฟตต์ที่เน้น “การลงทุนกระจุกตัว” ในหุ้นของ 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ คือ ไอบีเอ็ม, โคคา-โคลา, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และเวลล์ส ฟาร์โก มากเกินไปเนื่องจากคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ในช่วงสิ้น “ไตรมาสสาม” ที่ผ่านมา จะมีกำไรอย่างสำคัญ แทนที่บัฟเฟตต์จะเลือกปรับพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยง
ก่อนหน้านี้เมื่อ 17 ตุลาคม วอร์เร็น บัฟเฟตต์เพิ่งตกเป็นข่าวว่าตัดสินใจขายทิ้งหุ้นของห้างค้าปลีกดังสัญชาติอังกฤษอย่าง “เทสโก้” ที่ถือครองไว้จำนวนมากกว่า 245 ล้านหุ้นหลังจากที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นของเทสโก้สะสมไว้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยเจ้าตัวระบุการตัดสินใจลงทุนในห้างค้าปลีกดังกล่าวถือเป็น “ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง” และเป็น “การลงทุนที่โง่เขลา”
ช็อก! เศรษฐีดัง “วอร์เร็น บัฟเฟตต์” สูญเงินเกือบ “6.5 หมื่นล้าน” ภายใน 2 วัน หลังเก็งกำไรพลาดในหุ้น IBM-COKE โดย ASTV
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ตุลาคม 2557 07:00 น.
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังในวัย 84 ปี ซึ่งมีทรัพย์สินในความครอบครองมากกว่า 67,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.17 ล้านล้านบาท) มีอันต้องสูญเงินไปกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64,665 ล้านบาท) ตลอด 2 วันที่ผ่านมาจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ที่ได้ชื่อว่า เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การสูญเงินมหาศาลของบัฟเฟตต์ดังกล่าวภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงถูกระบุว่า เกิดจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดของเขาในหุ้นของบริษัทไอทีชื่อดังอย่างInternational Business Machines Corporation หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ “IBM” รวมถึง หุ้นของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำดำชื่อก้อง “โคคา-โคลา”
รายงานข่าวระบุว่า ราคาหุ้นของไอบีเอ็มปรับร่วงลงไปกว่า 13 เปอร์เซ็นต์แล้วในปีนี้ และถูกเทขายอย่างหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของโคคา-โคลาก็ปรับร่วงไป 0.15 เปอร์เซ็นต์เมื่อปิดตลาดในวันพุธ (22 ต.ค.) ที่ผ่านมา
ด้านแหล่งข่าวในวอลล์สตรีทเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้บัฟเฟตต์ ซีอีโอแห่งบริษัท “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” ต้องสูญเงินก้อนโตถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน เกิดจากปัญหาการปรับพอร์ตลงทุนในระยะหลังของบัฟเฟตต์ที่เน้น “การลงทุนกระจุกตัว” ในหุ้นของ 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ คือ ไอบีเอ็ม, โคคา-โคลา, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และเวลล์ส ฟาร์โก มากเกินไปเนื่องจากคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ในช่วงสิ้น “ไตรมาสสาม” ที่ผ่านมา จะมีกำไรอย่างสำคัญ แทนที่บัฟเฟตต์จะเลือกปรับพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยง
ก่อนหน้านี้เมื่อ 17 ตุลาคม วอร์เร็น บัฟเฟตต์เพิ่งตกเป็นข่าวว่าตัดสินใจขายทิ้งหุ้นของห้างค้าปลีกดังสัญชาติอังกฤษอย่าง “เทสโก้” ที่ถือครองไว้จำนวนมากกว่า 245 ล้านหุ้นหลังจากที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นของเทสโก้สะสมไว้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยเจ้าตัวระบุการตัดสินใจลงทุนในห้างค้าปลีกดังกล่าวถือเป็น “ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง” และเป็น “การลงทุนที่โง่เขลา”