ความรู้สึกที่เปลี่ยน กับ 9 ปี ที่คบกันมา

กระทู้คำถาม
เราคบกับแฟนมา 9 ปีค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก้มีช่วงเวลาที่ สุข บ้าง ทุกข์ บ้าง ช่วงเวลาแรกๆ เค้าดีกับเราเสมอค่ะ ตอนนั้นเราเรียนอยุ่มหาวิทยาลัย เค้ารับราชการอยุ่พักนึง อยุ่กันคนละที่ มีเวลาก็มาเจอกัน กินข้าวบ้าง ดูหนังบ้าง เค้าโทรหาทุกคืน ทำแบบนี้อยุ่เกือบปี จนเราใกล้เรียนจบและมีเวลาให้กันมากขึ้น เราจึงตัดสินใจไปเช่าคอนโดอยุ่ด้วยกันค่ะ หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก้ลาออกจากราชการและมาทำงานเอกชน เนื่องจากช่วงนั้น เค้าคิดว่าเงินเดือนที่ได้รับ มันน้อยกว่างานเอกชนมาก เค้าจึงตัดสินใจลาออก ส่วนเราก้อเรียนจบแล้ว เริ่มมองหางานให้ตัวเองเช่นกัน จนเราคบกันมาถึงช่วงปีที่สี่ ต่างคนต่างทำงาน ทุกอย่างกำลังไปได้ดีค่ะ ถือว่าเราต่างเป้นช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวก้อว่าได้ จนเรามีแพลนที่จะแต่งงานกัน แต่เรื่องนั้นก้ต้องพักไว้ เนื่องจากฝ่ายชาย บอกค่ะ ว่าเค้ายังไม่พร้อม เค้าตั้งใจจะซื้อบ้านก่อน.เค้าเลยขอให้เรารอ ช่วงนี้เราคบกันเค้ามา เรามีความสุขมากค่ะ เค้าไม่เคยทำให้เราเสียใจเลย ทำงานกลับบ้านตรงเวลา วันหยุดมีเวลาก้พาไปเท่ว มันทำให้เรารู้ว่าเค้าสามารถดูแลเราได้จริงๆ เราเชื่อใจเค้ามากขึ้น จนมีช่วงนึงที่งานเค้าเริ่มเปลี่ยนเวลา จากเริ่มงานเช้า. เปลี่ยนมาเริ่มงานบ่าย ช่วงนั้น เราเริ่มไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไหร่ เพราะเราทำงานเช้ากลับเย็น แต่เค้าเข้างานบ่ายกลับเที่ยงคืน. เราไม่ค่อยได้คุยกัน วันหยุดก้อเริ่มไม่ตรงกัน จากที่เคยโทรหาก้อไม่โทร เค้าให้เหตุผลว่าอยุ่ด้วยกัน จะต้องคุยอะไรกันมากมาย ตอนนั้นก้น้อยใจค่ะ แต่ก้เก็บไว้ ผ่านไปไม่นาน เค้าเริ่มห่างเรื่อยๆ คือ ออกทำงานเร็วกว่าเวลา อ้างว่ามีประชุม และกลับบ้าน ตีสาม ทุกวัน จนเราเริ่มสงสัยในความผิดปกติของเค้า กลับมาแทบไม่ได้คุยกัน และเป็นอย่างนี้หลายเดือน มีช่วงนึง ที่เราเปลี่ยนงาน และรอที่จะเริ่มงานเดือนใหม่ เราตัดสิน ไปหาเค้าที่ทำงาน และรอรับกลับบ้านพร้อมกัน คือนั่งรอเค้าตอนสี่ทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นแบบนี้อยุ่สองสามวัน เราเห็นว่าทุกอย่างที่ทำงานเค้าโอเคร เราจึงเชื่อใจเค้าว่าไม่มีอะไร หลังจากนั้นก้มาถึงวันหยุดเค้า และเราได้อยุ่ด้วยกัน สักพัก เค้าก้ออกไปหาเพื่อน ประเด็นคือ เค้าไม่ได้เอาโทรศัพท์เค้าไป มันทำให้เราสงสัย ว่าทำไม ช่วงนี้ โทรศัพท์ไม่เคยมีใครโทรเข้ามา ทั้งๆที่เมื่อก่อน ดังตลอด หยิบโทรศัพท์เค้ามากดดูหน้าจอ ก้อเห็นเปิดปกติ ก้เลยเฉยๆ อีกใจก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองโทรเข้าเครื่องเค้า กลายเป็นฝากข้อความ โทรแบบนี้อยุ่หลายครั้ง จนหยิบโทรศัพท์เค้ามาดู ถึงได้รุ้ว่าเค้าล็อคการโทรเข้า ก้เลยลองตั้งค่าใหม่ ไม่เกิน สิบนาที ที่เราวางโทรศัพท์เค้าลง มันก้มีคนโทรเข้ามา เบอร์แปลกค่ะ เค้าไม่ได้เมมไว้ และเราก้รับสาย เสียงนั่นเป็นเสียงผู้หญิง บอกขอสายแฟนเรา เราก้อบอกไปว่าเค้าไม่อยุ่ เด่วให้เค้าโทรกลับ พอแฟนเรากลับมา เราก้อบอกเค้าว่ามี ผญ โทรมา เค้าเอาโทรศัพท์ ไปดูเบอร์และก้เงียบไม่โทรกลับไป ตอนนั้นเราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงานเลย เฉยๆ จน มันเป็นแบบนี้หลายครั้ง ซึ่งครั้งอีกครั้งที่รับสาย คือตอนตีสาม อ้างว่า ติดต่อจากโรงพยาบาล เพื่อขอข้อมูลทำประวัติคนไข้ เราถึงกับอึ้งเหมือนกัน ว่าโรงบาลบ้าบออะไร มีนโยบายโทรมาขอประวัติคนไข้ ตอนตีสาม ทั้งๆที่แฟนเราก้หลับอยุ่ข้างๆ จะขอสายแฟนเราให้ได้ เราบอกว่าเราคือภรรยาเค้า เราก่สามารถให้ข้อมูลเค้าได้เช่นกัน แต่นางพยาบาลคนนี้ไม่ยอมค่ะ จะติดต่อกับแฟนเราอย่างเดียว และมันทำให้เราเหวี่ยงกลับไปอย่างจริงจังค่ะ โมโหมาก สุดท้ายเธอคนนั่นก้อวางสายไป ส่วนเราก้ปลุกแฟนขึ้นมาถาม เค้าให้คำตอบเราว่าเค้าจะไปตรวจสุขภาพ ก้อเลยให้น้องทำประวัติให้ก่อน รุ้จักกันที่ทำงานเพราะนางคือพยาบาลที่อยุ่ประจำ ในห้องพยาบาล มารับจ้อบพิเศษ ส่วนเรา ก้ไม่ได้จุกจิกอะไรค่ะ คิดว่าเค้าบอกมาขนาดนี้แล้วก้ไม่น่ามีเรื่องแฝงเข้ามา วันรุ่งขึ้น แฟนเราก้อไปบ้านเพื่อนตามเคย และทิ้งโทรศัพท์ ไว้  มีมิสคอลหลายสายที่ไม่ได้รับ จนเรารำคาญ และรับสายนั้น มันคือเสียงผู้หญิงคนนั้น เราได้คุยกันและรับรู่ว่าแฟนเรากับผญ คนนี่ แอบคบกันมา ได้สองเดือนกว่า ช่วงเวลาที่เค้ากลับบ้านมาตีสาม จริงๆแล้วเค้าไปส่งกันที่หอพักพยาบาล และออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้าทั้งๆที่ทำงายบ่าย คือเข้าไปรับ ไปส่ง ไปกินข้าว โดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อยเลยว่า ผช ที่เราไว้ใจที่สุด กลับทำลายความเชื่อใจของเราไปหมดแล้ว ณ ตอนนั้น บอกเลยว่าทั้งเกลียดทั้งเสียใจ ผญ คนนั้น ขอ ให้เราปล่อยแฟนไปคบกับเค้าอย่างไม่อายปากแม้แต่น้อย จบลงโดยที่ เราไม่ยอม และบอกเค้าไว้ เลยว่า เราจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ ผญ คนนั้น มันไม่มีที่ยืน บนโลกนี้ หากเรื่องนี้ยังไม่จบ และคุยกันได้สักพักแฟนเรากลับมาพร้อมหน้าที่อึ้งไป และโวยวายกับเรื่องนี้ เค้าหยิบโทรศัพท์ไปพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พร้อมที่จะไป ในตอนนั้น เรากระชากเค้าไว้ และเราได้เคลียกัน แน่นอนว่าเราเป็นคนนึงที่จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแย่ๆแบบนี้ จะไม่ยอมให้เค้าไปรักกันง่ายๆแบบนี้ พูดกับเค้าไว้ ว่าเราจะไปเคลียให้จบทั้งสามคน.แต่แฟนเราไม่ยอมไป และเค้ายืนยันที่จะจบปัญหาโดยการเลิกติดต่อ ผญ คนนั้น เค้ายอมเปลี่ยนเบอร์โทร เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ ช่วงนั้น บอกตรงๆว่า เสียใจจริงๆและคิดว่าจะเดินจากไปจากชีวิตเค้า แต่ด้วยเหตุผลอะไรก้ตาม ความรัก มันทำใฟ้ตาบอด และพร้อมที่จะอภัยให้เค้า เรากลับมาคบกันเหมือนเดิม เค้าได้เลื่อนตำแหน่ง ส่วนเราทำงานก้ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอีก เหมือนกัน ช่วงนั่นเราโทรหาเค้า ทุกช่วงที่ว่าง เพราะบอกตรงๆ ไม่ไว้ใจเลยค่ะ ช่วงที่เค้ารับตำแหน่งใหม่ๆ เค้าบอกว่าอยากได้ big bike เราก้อเลยตัดสินใจที่จะซื้อให้ หลังจากได้รถ กลายเป็นอีกช่วงนึงที่ได้ เท่วต่างจังหวัดบ่อยมาก เรามีเวลาอยุ่ด้วยมากขึ้น เหมือนทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม เราเริ่มตัดสินใจสร้างเนื้อสร้างตัวกันอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานแฟนเราลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว  และเค้าตัดสินใจซื้อรถให้เราก่อน ช่วงนั้นดีใจที่สุดค่ะ ถือว่าเรากำลังไปได้ด้วยดี ถึงช่วงที่แฟนรุ้สึกแย่ที่สุด ก้คงเป็นช่วงที่เราให้เค้าเอา big bike ไปขาย เนื่องเราประสบอุบัติเหตุบ่อยค่ะ ครั้งสุดท้ายถึงกลับ เกือบตายกันเลยทั้งคุ่ เพียงเพราะ มีไอ้ขี้เมาขับมอไซ ตัดหน้า ใช้เวลารักษาตัวเองเกือบเดือน เราคิดว่ามันไม่ปลอดภัย และทุกอย่างอยุ่บนความเสี่ยง เราคิดว่าเรายังมีหลายสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ไม่อยากตายก่อนก้เท่านั่น จึงบอกให้เค้าขาย และตัดสินใจให้เค้าซื้อรถยนต์ อีกคัน.เพื่อเอาไว้ใช้งานได้ ถ้ามีกำไรจากธุรกิจมากพอก้อไม่ได้ห้ามเค้าว่าจะซื้อbig bike คันใหม่มาขี่นะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันก้มีหลายเรื่องเข้ามา  แต่สำหรับเรามันเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยกว่าเคสที่เกิดมาก่อนหน้านั้นมาก อะไรที่เราพอจะปล่อยวางได้ เราก้ปล่อยค่ะ บางที เหมือนเราเก็บปัญหานี้ไว้คนเดียว พูดออกไปไม่ได้ ทะเลาะกันตลอด เพราะจากคนที่ใจเย็นกลับกลายเป็นคนใจร้อน อันนี้เราสังเกตุ จากหลายครั้งที่ทะเลาะ เมื่อก่อนเค้ายอมรับฟังและยอมปรับตัวเองถ้าเค้าคิดว่า มันแย่ เราต่างปรับตัวเพื่อให้เข้ากันได้ แต่หลังๆมา พูดอะไรไม่ได้ ก็กลายเป็นว่าเราหาเรื่องเค้า เราให้เหตุผลเค้า แต่เค้าหาว่าเราเถียง พูดไม่รุ้เรื่อง จนเราคิดว่าเราคงงี่เง่าและยอมที่จะเก็บไว้คนเดียว วันนึง พี่ที่ทำงานเค้าคงสังเกตุ ว่าเราเงียบไป อยุ่ๆพี่เค้าก้พูดว่าถ้ามีอะไรอยากระบาย ก้ระบายออกมานะ มันอึดอัด พี่ดูแกออก บอกเลยตอนนั้นน้ำตาแตกจริงๆค่ะ ได่เล่าเรื่องนี้ให้พี่เค้าฟัง เค้าบอกมาคำนึง ว่าให้เราถอยออกมา ทั้งๆที่ตอนนี้ยังมีเวลา ตอนนั้นทำตัวไม่ถูกเลย ใจนึงก้ยังรักเค้า เพราะเค้าก้อทำอะไรเพื่อเราเยอะมากเหมือนกัน แต่อีกใจนึงก้ออยากไปจากเค้า เหมือนตัวเองทนมามากพอแล้ว รุ้ตัวเลยค่ะว่าเหนื่อยมาก แฟนเราเค้าเป็นคน คารมดี สังคมเพื่อนเยอะ ส่วนมากเค้าจะคิดถึงเพื่อนก่อนเราเสมอ เมื่อก่อนเป็นเค้าที่ต้องตามเรา แต่ตอนนี้เป็นเราที่ต้องตามเค้า หลังจากที่เค้ามีธุรกิจ เราก้ออกจากงานมาช่วยแฟน เราอยากช่วยค่ะ แต่เวลาที่จะออกไปติดต่อลูกค้า เค้ามักจะออกไปคนเดียวเสมอ ใจก้ออยากไปด้วยนะคะ หวังจะเรียนรู้งาน ไปเปิดโลก แต่แฟนเค้าให้เหตุผลว่า ถ้าเอา ผญ ไปด้วย มันดูไม่โปร ใจเราอยากไปช่วยค่ะ แต่แค่เรื่องนี้เราก้ต้องยอม ตอนนี้ ที่เราเริ่มรู้สึกแย่อีกครั้งคือเราเห็นแฟนเล่นแต่แทปเลทค่ะ คุยไลน์กับเพื่อนหรือสาวๆ ซึ่งในไลน์เค้าแอดเพื่อนเยอะมาก เราเคยถาม เค้าบอกว่าพวกเซลล์. ก้อเลยไม่ถามไรต่อ จะนอน จะอาบน้ำ จะเข้าห้องน้ำ เค้าไม่เคยวางไว้เลย มันทำให้เรากลับระแวงเค้าอีกครั้ง เพราะเรากลับมาไม่คุยกันเหมือนเก่าทั้งๆที่อยุ่ด้วยกัน เค้าสนใจแต่แทปเลทที่บอกว่าคุยกับเพื่อนๆเค้า แม้บางทีกระทั่งกินข้าว เค้าจะมีไว้ติดตัวเสมอ เค้าไม่ชอบให้เราไปยุ่มย่ามมือถือเค้า รวมถึงไม่ชอบให้เราโพสใน เฟสของเค้า เราบอกตรงๆค่ะ เรื่องนี้ เรายอมรับไม่ได้  เค้าสั่งเราห้ามยุ่งทุกอย่างที่เป็นของเค้า เราไม่เข้าใจว่าทำไม ซึ่งเค้าให้เหตุผลกับเราไม่ได้ เพียงแค่ตอบมาว่าทำไมต้องเข้ามายุ่ง เมื่อก่อนเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้ค่ะ ต่อให้เค้าออนเฟสไว้ เราก้อไม่เคยเข้าไปเม้น ไปยุ่งอยุ่แล้วแต่ สิ่งนี้มันทำให้เราเริ่มรุ้สึกว่าเค้ามีอะไรที่ปิดบังเรา เราได้เคลียกันเรื่องนี้ และเราไม่ได้คำตอบเหมือนเคย เค้าทำเป็นโวยวาย และ โมโหใส่ เราทะเลาะกัน เค้าไล่ให้เราเก็บเสื้อผ้าออกไป เพียงเพราะเหตุผลที่ให้เราไม่ได้ เสียใจจริงๆค่ะ เราไม่รุ้ว่าตอนนี้เค้าเป็นอะไร เค้าเปลี่ยนไปมาก จริงๆ เราควรจะทนอยุ่เพื่ออะไร ในใจมีแต่คำถามนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่