สวัสดีครับ
สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ได้เปิดเที่ยวบินราคาประหยัดบินตรง
ดอนเมือง-โอซาก้า-ดอนเมือง ตั้งแต่ 1 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าจุดหมายสำคัญ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ น้องๆ วัยซน หรือยังอยู่ในวัยสนุกอยากจะไปกัน นั่นก็คือ
Universal Studios Japan ที่โอซาก้านั่นเองครับ เพิ่งจะเปิดตัว Attraction ใหม่เมื่อ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เอาใจสาวกแฮรี่พอตเตอร์ กับโซนที่ชื่อว่า
The Wizarding World of Harry Potter ผมเชื่อว่าแฟนๆ แฮรี่ ที่ตามมาทุกภาคไปเจอของจริง รับรองอิ่มครับ พื้นที่แม้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ตัวเครื่องเล่น แม้แต่ของฝากร้านชอป นี่ โดนใจแฟนแฮรี่แน่นอน
สำหรับกระทู้นี้จะขอกล่าวถึง
Universal Studios Japan ที่ได้อนุญาตให้เข้าไปชมพื้นที่ (แบบปล่อยม้าก่อนใคร) จากการประสานงานล่วงหน้าของ
สถานกงศุลไทย ณ นครโอซาก้า และ ผู้สนับสนุนหลัก [SR] ก็คือ
สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ บินตรงสู่โอซาก้า ง่ายๆ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตารางบินฤดูหนาว ไปถึงโอซาก้าไม่ดึกมากแล้ว 22.40 น. รีบซิ่งผ่าน ตม. เกาะรถไฟฟ้าเข้าเมืองน่าจะทันอยู่

**โปรโมชั่นเที่ยวบินขาไป 3,990 บาท ยังมีอยู่ให้เห็น โปรดดูด้วยว่า
เที่ยวบินตรงต้องเป็น XJ610 และ XJ611 เท่านั้น นอกนั้นจะต้องอ้อมมาเลย์กับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ มาเลเซีย (D7)**
**ระวังการจองเที่ยวบินขากลับด้วย
จะต้องเช็คอินวันก่อนหน้านั้น อาทิเช่น จองเดินทาง 11 ธันวาคม เวลา 0.10 น. แปลว่าต้องเช็คอินคืน 10 ธันวาคม เคาน์เตอร์เปิด 21.10 น. (หรือ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง)**
**จะสังเกตได้ว่า บางช่วงเวลาทำโปรโมชั่นชั้น Business Class นอนยาวสบาย ราคาแพงกว่าชั้นประหยัดนิดเดียวเอง**
(โดยสิ่งที่ได้รับก็คือ ที่นั่งนอนยาวแบบ Business Class โซนหน้าของเครื่อง, โหลดกระเป๋าฟรี 40 กิโลกรัม, อาหารร้อน-ของหวาน แบบพรีเมียม, หมอน-ผ้าห่มหนานุ่ม นอนอุ่นสบายตลอดการเดินทาง ซึ่งเหมาะมากสำหรับไฟล์ทขากลับ โอซาก้า-ดอนเมือง ได้หลับเต็มอิ่มจนถึงดอนเมืองตี 4 )
รายละเอียดการเดินทาง บินกับ ไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ และ ชั้น Business Class คลิ๊ก Spoil ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อดีของ Business Class คือนอนยาวได้ นอนตะแคง ถ้าเป็นผู้โดยสารมีอายุหน่อยแนะนำเลยครับ พ่อ-แม่ผมลองกับ D7 (แอร์เอเชียเอ๊กซ์มาเลย์) แล้วท่านชอบมากได้นอนสบายๆ พักผ่อนเต็มที่ ถ้าจะหวังว่าจะได้นอนยาวสามที่ยกแถว สำหรับไฟล์ทญี่ปุ่นเวลาดีๆ เป็นเรื่องยากครับ !!!

1. ปัจจุบัน สามารถทำเว็บเช็คอินล่วงหน้าได้ 14 วันก่อนเดินทาง ที่นั่งจัดเรียงจากแถว 51 ท้ายเครื่องไปหน้าเครื่องตามลำดับ ตามรายละเอียดในกระทู้นี้ครับ ถ้าอยากเสียตังค์เลือกที่นั่ง แนะนำที่นั่งฮันนี่มูนซีทนั่งคู่ แถว 44-51 (หรือจะให้ระบบเว็บเช็คอินช่วยจัดก็ได้ เทคนิคมีลองคุ้ยๆ ดูได้ครับ)

2. อาหารร้อน สั่งซื้อล่วงหน้าก่อนการเดินทางได้ อย่างช้าสุด 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง อาหารร้อนจะมาพร้อมน้ำแร่มองเฟลอขนาด 330 ซีซี
3. น้ำหนักกระเป๋า สามารถซื้อล่วงหน้าก่อนการเดินทางได้ ในระบบ Manage My Booking อย่างช้าสุด 6 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
4. แม้ว่าจะทำเว็บเช็คอินมา ก็ต้องตรวจเอกสารก่อนที่เคาน์เตอร์เช็คอินอยู่ดี เคาน์เตอร์เช็คอินเปิด 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และปิด 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

5. การบริการบนเครื่อง หลังจากเครื่องไต่ระดับได้ ลูกเรือจะแจกแบบฟอร์ม ตม. และเริ่มจำหน่ายเครื่องดื่ม หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมงจึงจะเริ่มให้บริการอาหารร้อน เข็นจากหัวและท้ายเครื่องมาพบกันกลางเครื่อง ผู้โดยสาร Pre-book จะได้อาหารเรียงตามลำดับ แต่ถ้ายังไม่ต้องการ แจ้งลูกเรือให้นำมาให้ในภายหลัง หรือขอเคลมรอบ 2 ได้ (ลูกเรือจะเดินรถเข็น 2 รอบ ช่วง 1.30 ชั่วโมงหลังออกจากต้นทาง และราว 1.40 ชั่วโมงก่อนถึงปลายทาง)

6. คำแนะนำเพื่อความสบายในการนอน ควรเตรียมผ้าปิดตา หมอนรองคอ และผ้าห่มส่วนตัว ควรเตรียมเสื้อกันหนาวเพราะช่วงกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็น

สำหรับ
วิธีการเดินทางเข้าโอซาก้าตอนดึกๆ จากสนามบินคันไซ คลิ๊ก Spoil เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บินไปถึงแล้ว มีรถไฟ Nankai ให้เลือกอยู่ 3 ขบวนสุดท้าย แบบ Express เวลา 23.12 น. 23.29 น. ส่วนขบวนสุดท้ายสายเก็บตกแบบ Local 23.40 น. จอดทุกสถานีสุดสายที่ Namba ส่วนของ JR ขบวนสุดท้ายสุดสายที่สถานี Tennoji (Osaka Loop Line) เวลา 23.32 น. ซึ่งไปต่อขบวนอะไรก็ไม่ทัน รถไฟอื่นหมดก่อน !!


**คำแนะนำคือ ควรนั่งโซนหน้าๆ พอเครื่องจอดสนิทแล้ว รีบออกจากเครื่องบินไปขึ้นรถไฟฟ้าเข้าสู่อาคารหลัก ผ่าน ตม.คิวแรกๆ ไปรับกระเป๋าแล้วผ่านศุลกากรออกไปด้านนอก ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปอาคารสถานีรถไฟฟ้า** โดยปกติแล้ว ไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จะค่อนข้างทำเวลามากๆ เพื่อให้เที่ยวบินไปถึงตรงเวลา เว้นแต่เจอดีเลย์เป็นลูกโซ่จากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ต้องทำใจครับ
ถ้าพลาดรถไฟ แต่จะต้องไป Nankai Namba Station แนะนำ Nankai Airport Limousine รอบ 0.30 น. รอบสุดท้าย ขึ้นที่ชานชลาหมายเลข 2 ด้านนอกอาคารครับ ราคา 1,550 เยน


แต่ถ้าไม่ทันจริงจรี๊งงง ก็ยังมี Airport Limousine ออกเวลา 23.45, 0.45 น. และเที่ยวสุดท้าย 1.45 น. สุดสายที่สถานี Umeda (Osaka Station)
ขึ้นที่ชานชลาหมายเลข 5 ด้านนอกอาคารครับ ราคา 1,550 เยน


แนะนำที่พักหน่อยสิ ?? ไปถึงดึกแล้วนอนไหนดี ??
จริงๆ ทริปนี้ [SR] นอนหรูคือ Swisshotel Nankai อยู่เหนือสถานีรถไฟ Nankai Namba ย่าน Shinsaibashi พอดี
คือทำเลดีนะครับ แต่เหมาะสำหรับท่านที่มีงบสูงหน่อย สะดวกที่สุด แต่ราคาก็ตามทำเลจริงๆ

รู้สึกว่า ใกล้ๆ กันในย่าน Namba เดินออกไปหน่อยก็มีที่พักราคาไม่โหดมากครับ ผมก็ใช้วิธีจองในเว็บจองโรงแรมชื่อดัง ดูเรตติ้งและคอมเม้นท์เป็นหลัก
แต่ส่วนใหญ่ ถ้าผมไปเอง [CR] ผมมักจะเลือกนอนประหยัดๆ แถวย่าน Shinimyamina มากกว่า (มีสถานีรถไฟ Nankai ด้วย 1 สถานีก่อนถึง Namba ถ้ามาจากสนามบินครับ) คือโรงแรมตระกูล Chuo, Chuo Oasis, Chuo Serene ฯลฯ มีหลายแห่งเลย ถ้าท่านที่คิดว่าจะประหยัด จะนอนสนามบินคืนแรก แล้วตอนเช้าค่อยมาเช็คอิน ฝากของไว้ แล้วอาบน้ำที่ห้องน้ำรวมก็ได้ครับ (ห้องอาบน้ำแบบ private ก็มีนะ แต่อยู่ชั้นล่างสุด หรืออยากอาบรวมก็ตามสะดวก ส่วนตัวผมชอบอาบรวมเพราะได้ลงบ่อน้ำร้อน 555+) ผมว่าสบายตัวใช้ได้เลย แต่ตามกฎจะเช็คอินเข้าห้องได้ก็หลังบ่าย 2-3 โมงเป็นต้นไป ญี่ปุ่นค่อนข้างเป๊ะกับเรื่องนี้พอสมควรครับ
สำหรับท่านที่กลัวเครื่องดีเลย์ กะว่าไปนอนแถวๆ Umeda เลย ผมว่าจริงๆ ย่านนี้โรงแรมดี และราคาไม่โหดไป (ตกคืนละ 2xxx บาท) ก็พอมีอยู่หลายแห่งครับ ผมว่า ค่าครองชีพที่โอซาก้า ไม่โหดเท่าโตเกียว ถ้าเป็นโตเกียวนี่ ทำเลแบบนี้ ราคานี้ไม่ได้แน่นอน เว็บจองโรงแรม+เรตติ้ง+คอมเม้นท์ ตัดสินใจโลดเลยครับ
เอาหล่ะครับ กระทู้นี้
Universal Studios Japan !! เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 31 มีนาคม 2544 โอ้ว ปีนั้นผมกำลังเข้ามหาวิทยาลัยพอดี !!
ส่วนตัวผม เคยได้ยินชื่อมานานมากแล้วครับ แต่แปลกดี ทำไมไม่ยักจะรู้สึกตื่นเต้น แต่พอได้มีโอกาสไปที่ Universal Studios Singapore ณ เซนโตซ่า แดดเปรี้ยงๆ ร้อนๆ แล้วผมว่าที่ญี่ปุ่นดูน่าสนใจกว่านะ (ไม่นับหน้าร้อน) ดู Attraction ต่างๆ แล้วน่าสนใจกว่า แม้จะเปิดมาก่อน แต่ก็อาจจะด้วยพื้นที่ที่เยอะกว่า และมีแนวโน้มว่า อาจจะขยายออกได้ โดยการดึงพื้นที่จอดรถออกไป
(อย่างโซนแฮรี่ เดิมก็คือที่จอดรถ ตามภาพใน Google Maps เลย)
ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นความโชคดี ที่ได้มีโอกาสมาที่นี่ แต่ต้องบอกเลยว่า ผมทึ่งในความพยายามของคนญี่ปุ่นมากๆ ในเรื่องการต่อคิว ยอมแพ้จริงๆ !!
แน่นอนครับ ตัว Harry Potter ที่เปิดใหม่ ทำให้คนไหลเข้ามาเป็นจำนวน "มหาศาล" ประตูทางเข้าจะเปิด 9 โมงเช้าครับ
แต่สิ่งที่เราพบเห็น เวลาราว 8 โมงกว่าๆ ก็คือ ..... ผู้คนแบบอุ่นหนาฝาคั่งมากๆๆ และพร้อมที่จะวิ่งเข้าไปยังเครื่องเล่นทันทีเมื่อประตูเปิด (ให้นึกภาพปล่อยม้าไว้นะๆ)
สิ่งที่ผมคิดว่า ..... คนไทยอย่างเราๆ ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวที่นี่ อาจจะต้องทำการบ้านและเตรียมตัวกันนิดนึง
เว็บไซต์ ลองดูรายละเอียด และโชว์การแสดง กิจกรรมต่างๆ วางแผนดูได้ครับ
ดาวน์โหลดแผนที่แบบ PDF ได้ที่นี่เลยครับ ไฟล์ 8.4 MB
http://www.usj.co.jp/e/common/studiomap.pdf
เพื่อที่จะได้เที่ยวครบ ตามที่ต้องการครับ
1. บัตรเข้าชม จริงๆ ตัวแทนในไทยมีครับ แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องการออกตั๋ว (อันนี้ยอมรับไม่มีข้อมูลจริงๆ) ถ้าจำไม่ผิดถ้าเป็นตั๋วเอเจ้นท์หรือตั๋วกรุ๊ปต้องไปติดต่อแผนกตั๋วกรุ๊ปให้ออกบัตรจริงอีกครั้งหนึ่ง (ราคาขาย ตามที่บางเจ้าขาย อิงเงินเยนตามราคาหน้างาน ไม่มีส่วนลดใดๆ) กรณีซื้อหน้างาน ราคาก็ตามนี้เลยครับ ถ้าเข้าหลัง 15.00 น. เป็น Twilight Pass เหลือ 5,000 เยน (ไม่รวม tax) ประหยัดลงไปเยอะเลย

2. ผมชอบที่นี่ตรงที่ สามารถเลือกเวลาเข้าเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้ เป็นระบบจองคิวครับ พอถึงเวลา ก็จะสามารถไป "เข้าคิว" รอเครื่องเล่นนั้นๆ ได้เลย
ก็จะทำให้มีโอกาสได้เล่นเครื่องเล่นมากขึ้น (สารภาพว่าเนื่องจากเข้าไปแบบวิธีการพิเศษ เลยไม่สามารถล๊อกคิวได้ 555+) จะมีจุดบริการออกบัตรคิวและเวลาเล่นที่นี่ครับ อยู่ตรงกลางเลย

3. แต่ถ้าพูดตรงๆ นะถ้าจะแย่งกับคนญี่ปุ่น อาจเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะเวลา 9.00 น.เป๊งงง ปล่อยม้าญี่ปุ่นฝูงยักษ์มา พี่ท่านวิ่งแบบสุดชีวิตเพื่อจะไปเครื่องเล่นที่ชื่นชอบ แน่นอน แฮรี่คือเป้าหมายสำคัญ ดังนั้น ถ้าไปแฮรี่อันดับแรกสุด ก็น่าจะดีกว่าช่วงสายๆ บ่ายๆ ครับ (แต่ถ้าจองคิวไว้แล้วก็ดีเลยครับ)

ปล. ข้อมูลใดผิดพลาด ทักท้วงได้นะครับ เพราะผมก็ไม่ใช่แฟนสวนสนุก ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ
[SR] ตะลุยแดน Harry Potter สนุกสุดเหวี่ยงที่ Universal Studios Japan โอซาก้า บินตรงสบายๆ กับ Thai AirAsia X
สำหรับกระทู้นี้จะขอกล่าวถึง Universal Studios Japan ที่ได้อนุญาตให้เข้าไปชมพื้นที่ (แบบปล่อยม้าก่อนใคร) จากการประสานงานล่วงหน้าของ สถานกงศุลไทย ณ นครโอซาก้า และ ผู้สนับสนุนหลัก [SR] ก็คือ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ บินตรงสู่โอซาก้า ง่ายๆ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตารางบินฤดูหนาว ไปถึงโอซาก้าไม่ดึกมากแล้ว 22.40 น. รีบซิ่งผ่าน ตม. เกาะรถไฟฟ้าเข้าเมืองน่าจะทันอยู่
**โปรโมชั่นเที่ยวบินขาไป 3,990 บาท ยังมีอยู่ให้เห็น โปรดดูด้วยว่าเที่ยวบินตรงต้องเป็น XJ610 และ XJ611 เท่านั้น นอกนั้นจะต้องอ้อมมาเลย์กับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ มาเลเซีย (D7)**
**ระวังการจองเที่ยวบินขากลับด้วย จะต้องเช็คอินวันก่อนหน้านั้น อาทิเช่น จองเดินทาง 11 ธันวาคม เวลา 0.10 น. แปลว่าต้องเช็คอินคืน 10 ธันวาคม เคาน์เตอร์เปิด 21.10 น. (หรือ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง)**
**จะสังเกตได้ว่า บางช่วงเวลาทำโปรโมชั่นชั้น Business Class นอนยาวสบาย ราคาแพงกว่าชั้นประหยัดนิดเดียวเอง**
(โดยสิ่งที่ได้รับก็คือ ที่นั่งนอนยาวแบบ Business Class โซนหน้าของเครื่อง, โหลดกระเป๋าฟรี 40 กิโลกรัม, อาหารร้อน-ของหวาน แบบพรีเมียม, หมอน-ผ้าห่มหนานุ่ม นอนอุ่นสบายตลอดการเดินทาง ซึ่งเหมาะมากสำหรับไฟล์ทขากลับ โอซาก้า-ดอนเมือง ได้หลับเต็มอิ่มจนถึงดอนเมืองตี 4 )
รายละเอียดการเดินทาง บินกับ ไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ และ ชั้น Business Class คลิ๊ก Spoil ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับ วิธีการเดินทางเข้าโอซาก้าตอนดึกๆ จากสนามบินคันไซ คลิ๊ก Spoil เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาหล่ะครับ กระทู้นี้ Universal Studios Japan !! เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 31 มีนาคม 2544 โอ้ว ปีนั้นผมกำลังเข้ามหาวิทยาลัยพอดี !!
ส่วนตัวผม เคยได้ยินชื่อมานานมากแล้วครับ แต่แปลกดี ทำไมไม่ยักจะรู้สึกตื่นเต้น แต่พอได้มีโอกาสไปที่ Universal Studios Singapore ณ เซนโตซ่า แดดเปรี้ยงๆ ร้อนๆ แล้วผมว่าที่ญี่ปุ่นดูน่าสนใจกว่านะ (ไม่นับหน้าร้อน) ดู Attraction ต่างๆ แล้วน่าสนใจกว่า แม้จะเปิดมาก่อน แต่ก็อาจจะด้วยพื้นที่ที่เยอะกว่า และมีแนวโน้มว่า อาจจะขยายออกได้ โดยการดึงพื้นที่จอดรถออกไป (อย่างโซนแฮรี่ เดิมก็คือที่จอดรถ ตามภาพใน Google Maps เลย)
ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นความโชคดี ที่ได้มีโอกาสมาที่นี่ แต่ต้องบอกเลยว่า ผมทึ่งในความพยายามของคนญี่ปุ่นมากๆ ในเรื่องการต่อคิว ยอมแพ้จริงๆ !!
แน่นอนครับ ตัว Harry Potter ที่เปิดใหม่ ทำให้คนไหลเข้ามาเป็นจำนวน "มหาศาล" ประตูทางเข้าจะเปิด 9 โมงเช้าครับ
แต่สิ่งที่เราพบเห็น เวลาราว 8 โมงกว่าๆ ก็คือ ..... ผู้คนแบบอุ่นหนาฝาคั่งมากๆๆ และพร้อมที่จะวิ่งเข้าไปยังเครื่องเล่นทันทีเมื่อประตูเปิด (ให้นึกภาพปล่อยม้าไว้นะๆ)
สิ่งที่ผมคิดว่า ..... คนไทยอย่างเราๆ ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวที่นี่ อาจจะต้องทำการบ้านและเตรียมตัวกันนิดนึง
เว็บไซต์ ลองดูรายละเอียด และโชว์การแสดง กิจกรรมต่างๆ วางแผนดูได้ครับ
ดาวน์โหลดแผนที่แบบ PDF ได้ที่นี่เลยครับ ไฟล์ 8.4 MB http://www.usj.co.jp/e/common/studiomap.pdf
เพื่อที่จะได้เที่ยวครบ ตามที่ต้องการครับ
1. บัตรเข้าชม จริงๆ ตัวแทนในไทยมีครับ แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องการออกตั๋ว (อันนี้ยอมรับไม่มีข้อมูลจริงๆ) ถ้าจำไม่ผิดถ้าเป็นตั๋วเอเจ้นท์หรือตั๋วกรุ๊ปต้องไปติดต่อแผนกตั๋วกรุ๊ปให้ออกบัตรจริงอีกครั้งหนึ่ง (ราคาขาย ตามที่บางเจ้าขาย อิงเงินเยนตามราคาหน้างาน ไม่มีส่วนลดใดๆ) กรณีซื้อหน้างาน ราคาก็ตามนี้เลยครับ ถ้าเข้าหลัง 15.00 น. เป็น Twilight Pass เหลือ 5,000 เยน (ไม่รวม tax) ประหยัดลงไปเยอะเลย
2. ผมชอบที่นี่ตรงที่ สามารถเลือกเวลาเข้าเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้ เป็นระบบจองคิวครับ พอถึงเวลา ก็จะสามารถไป "เข้าคิว" รอเครื่องเล่นนั้นๆ ได้เลย
ก็จะทำให้มีโอกาสได้เล่นเครื่องเล่นมากขึ้น (สารภาพว่าเนื่องจากเข้าไปแบบวิธีการพิเศษ เลยไม่สามารถล๊อกคิวได้ 555+) จะมีจุดบริการออกบัตรคิวและเวลาเล่นที่นี่ครับ อยู่ตรงกลางเลย
3. แต่ถ้าพูดตรงๆ นะถ้าจะแย่งกับคนญี่ปุ่น อาจเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะเวลา 9.00 น.เป๊งงง ปล่อยม้าญี่ปุ่นฝูงยักษ์มา พี่ท่านวิ่งแบบสุดชีวิตเพื่อจะไปเครื่องเล่นที่ชื่นชอบ แน่นอน แฮรี่คือเป้าหมายสำคัญ ดังนั้น ถ้าไปแฮรี่อันดับแรกสุด ก็น่าจะดีกว่าช่วงสายๆ บ่ายๆ ครับ (แต่ถ้าจองคิวไว้แล้วก็ดีเลยครับ)
ปล. ข้อมูลใดผิดพลาด ทักท้วงได้นะครับ เพราะผมก็ไม่ใช่แฟนสวนสนุก ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ