.....แนวโน้มสำคัญในอนาคต (Mega -Trends)
เคยเป็นคำฮิตเพราะหนังสือขายดีของ John Naisbitt เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980
หลังจากนั้นคำคำนี้ก็ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าใดนัก
จนกระทั่งกลับมาในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ดูเหมือนว่า
จะมีการพูดหรือเขียนถึง Mega-Trends กันขึ้นมามากขึ้น
ดังนั้น เราจึงลองรวบรวมความหมายมันมาจากหลายๆ สำนัก
ว่า Mega-Trends ที่สำคัญคืออะไรบ้าง
และจากแนวโน้มสำคัญเหล่านี้
เราจะต้องมีทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในอนาคต
....ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่าเจ้า Mega-Trends นั้น
เป็นความพยายามในการตรวจจับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก
ของบรรดานักวิชาการหรือบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ
ซึ่งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมหภาคเหล่านี้มีหลายด้านหลายประการมาก
และแต่ละสำนักก็จะไม่ได้ออกมาเหมือนกันทีเดียว
แต่ในส่วนที่คล้ายๆ กันนั้นประกอบไปด้วย
.....1)
การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างประชากร

..ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นตรงกันทุกสำนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนาทั้งหลายกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย
ทำให้ในอนาคตโครงสร้างประชากรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ
นอกจากตัวโครงสร้างที่เปลี่ยนไปแล้ว
ลักษณะการดำรงชีวิตของประชากรโลกก็เปลี่ยนไปด้วยครับ
แนวโน้มหนึ่งที่ตรวจจับพบได้คือเรื่องของการเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ของคนในประเทศต่างๆ
หรือ ที่เขาเรียกเป็น
Urbanization มากขึ้น
ซึ่งพอคนเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่มากขึ้น ก็ทำให้เมืองมีขนาดใหญ่ขึ้น
แออัดขึ้น และความไม่พอเพียงของทั้งงานและที่อยู่อาศัยในเมือง
....2)
ความขาดแคลนและไม่เพียงพอในทรัพยากรของโลก

...ซึ่งครอบคลุมทั้งทางด้านอาหารและพลังงานครับ
ความขาดแคลนและไม่เพียงพอนั้นอาจจะเกิดขึ้น
จากทั้งน้ำมือมนุษย์ และจากภัยทางธรรมชาติ
ทำให้เรื่องของ Food & Energy Security ทวีความสำคัญมากขึ้น
และส่งผลให้ความพยายามขององค์กรต่างๆ
ในการดูแลโลกใบนี้มีมากขึ้นและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
......3)
พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป

..ทั้งเกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป และจากพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ผู้บริโภคยุคใหม่จะมีความฉลาดมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น
และรู้จักที่จะเปรียบเทียบหรือหาข้อมูลก่อนซื้อมากขึ้น
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผู้บริโภคมีความภักดีต่อสิ่งใดแล้ว
ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินหรือเพิ่มเงินเพื่อการซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าว
....4)
ฐานอำนาจทางเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนไป

...จากประเทศอเมริกาและยุโรปกลับมาที่ประเทศแถบเอเชียมากขึ้น
และไม่ได้เป็นเฉพาะในด้านธุรกิจเท่านั้น
ในด้านอื่นๆ ก็มีการย้ายฐานอำนาจมาเช่นเดียวกันครับ
เช่นในด้านการศึกษา ซึ่งปัจจุบันจีนและอินเดียก็กลายเป็นเป้าหมายหลัก
ของสถาบันการศึกษาชั้นนำในโลกตะวันตก
.....Mega-Trends สี่ข้อข้างต้นเป็นสี่ข้อที่พบเจอในการพยากรณ์
หรือมองแนวโน้มในอนาคตของบรรดาสำนักวิชาการต่างๆ ครับ
ซึ่งคราวนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญต่อไปว่าจาก Mega-Trends เหล่านี้
..การที่เราจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตนั้น
เราควรจะต้องมีทักษะอะไรบ้าง หรือ ทักษะอะไรบ้างคือสิ่งที่จำเป็นและสำคัญสำหรับอนาคต
....ทักษะที่เราคุ้นๆ กันอยู่ก็มีอาทิเช่น เรื่องความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรม
หรือ การบริหารการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ฉุกเฉิน
หรือ การคิดและทำงานในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
ผมคงไม่อธิบายเพิ่มเติมครับ
..แต่ที่พบเจอและน่าสนใจก็จะมีเช่น
Social Intelligence หรือความฉลาดทางสังคม
ที่เพิ่มเติมมาจากความฉลาดทางปัญญา (IQ) กับ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
..โดยความฉลาดทางสังคมนั้นจะช่วยให้เราสามารถดำรงตนได้อย่างสมดุลย์
และมีความสุขท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคม
และความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายของบุคคลรอบตัวเรา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของทักษะในด้าน
Visualization
ที่เป็น
การรับรู้และเรียนรู้ด้วยภาพมากกว่าที่จะเป็นแค่ตัวอักษรหรือตัวเลข
ที่แนวโน้มด้านของ Visualization มาพร้อมกับคนและผู้บริโภคในยุคใหม่ ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ
...
ที่มาบทความ : ดร.พสุ เดชะรินทร์ กรุงเทพธุรกิจ
......แนวโน้มสำคัญในอนาคต
เคยเป็นคำฮิตเพราะหนังสือขายดีของ John Naisbitt เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980
หลังจากนั้นคำคำนี้ก็ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าใดนัก
จนกระทั่งกลับมาในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ดูเหมือนว่า
จะมีการพูดหรือเขียนถึง Mega-Trends กันขึ้นมามากขึ้น
ดังนั้น เราจึงลองรวบรวมความหมายมันมาจากหลายๆ สำนัก
ว่า Mega-Trends ที่สำคัญคืออะไรบ้าง
และจากแนวโน้มสำคัญเหล่านี้
เราจะต้องมีทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในอนาคต
....ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่าเจ้า Mega-Trends นั้น
เป็นความพยายามในการตรวจจับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก
ของบรรดานักวิชาการหรือบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ
ซึ่งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมหภาคเหล่านี้มีหลายด้านหลายประการมาก
และแต่ละสำนักก็จะไม่ได้ออกมาเหมือนกันทีเดียว
แต่ในส่วนที่คล้ายๆ กันนั้นประกอบไปด้วย
.....1) การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างประชากร
..ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นตรงกันทุกสำนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนาทั้งหลายกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย
ทำให้ในอนาคตโครงสร้างประชากรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ
นอกจากตัวโครงสร้างที่เปลี่ยนไปแล้ว
ลักษณะการดำรงชีวิตของประชากรโลกก็เปลี่ยนไปด้วยครับ
แนวโน้มหนึ่งที่ตรวจจับพบได้คือเรื่องของการเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ของคนในประเทศต่างๆ
หรือ ที่เขาเรียกเป็น Urbanization มากขึ้น
ซึ่งพอคนเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่มากขึ้น ก็ทำให้เมืองมีขนาดใหญ่ขึ้น
แออัดขึ้น และความไม่พอเพียงของทั้งงานและที่อยู่อาศัยในเมือง
....2) ความขาดแคลนและไม่เพียงพอในทรัพยากรของโลก
...ซึ่งครอบคลุมทั้งทางด้านอาหารและพลังงานครับ
ความขาดแคลนและไม่เพียงพอนั้นอาจจะเกิดขึ้น
จากทั้งน้ำมือมนุษย์ และจากภัยทางธรรมชาติ
ทำให้เรื่องของ Food & Energy Security ทวีความสำคัญมากขึ้น
และส่งผลให้ความพยายามขององค์กรต่างๆ
ในการดูแลโลกใบนี้มีมากขึ้นและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
......3) พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป
..ทั้งเกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป และจากพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ผู้บริโภคยุคใหม่จะมีความฉลาดมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น
และรู้จักที่จะเปรียบเทียบหรือหาข้อมูลก่อนซื้อมากขึ้น
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผู้บริโภคมีความภักดีต่อสิ่งใดแล้ว
ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินหรือเพิ่มเงินเพื่อการซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าว
....4) ฐานอำนาจทางเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนไป
...จากประเทศอเมริกาและยุโรปกลับมาที่ประเทศแถบเอเชียมากขึ้น
และไม่ได้เป็นเฉพาะในด้านธุรกิจเท่านั้น
ในด้านอื่นๆ ก็มีการย้ายฐานอำนาจมาเช่นเดียวกันครับ
เช่นในด้านการศึกษา ซึ่งปัจจุบันจีนและอินเดียก็กลายเป็นเป้าหมายหลัก
ของสถาบันการศึกษาชั้นนำในโลกตะวันตก
.....Mega-Trends สี่ข้อข้างต้นเป็นสี่ข้อที่พบเจอในการพยากรณ์
หรือมองแนวโน้มในอนาคตของบรรดาสำนักวิชาการต่างๆ ครับ
ซึ่งคราวนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญต่อไปว่าจาก Mega-Trends เหล่านี้
..การที่เราจะทำงานแล้วประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตนั้น
เราควรจะต้องมีทักษะอะไรบ้าง หรือ ทักษะอะไรบ้างคือสิ่งที่จำเป็นและสำคัญสำหรับอนาคต
....ทักษะที่เราคุ้นๆ กันอยู่ก็มีอาทิเช่น เรื่องความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรม
หรือ การบริหารการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ฉุกเฉิน
หรือ การคิดและทำงานในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
ผมคงไม่อธิบายเพิ่มเติมครับ
..แต่ที่พบเจอและน่าสนใจก็จะมีเช่น Social Intelligence หรือความฉลาดทางสังคม
ที่เพิ่มเติมมาจากความฉลาดทางปัญญา (IQ) กับ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
..โดยความฉลาดทางสังคมนั้นจะช่วยให้เราสามารถดำรงตนได้อย่างสมดุลย์
และมีความสุขท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคม
และความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายของบุคคลรอบตัวเรา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของทักษะในด้าน Visualization
ที่เป็นการรับรู้และเรียนรู้ด้วยภาพมากกว่าที่จะเป็นแค่ตัวอักษรหรือตัวเลข
ที่แนวโน้มด้านของ Visualization มาพร้อมกับคนและผู้บริโภคในยุคใหม่ ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ
...ที่มาบทความ : ดร.พสุ เดชะรินทร์ กรุงเทพธุรกิจ