สวัสดีค่ะ หลังจากที่อ่านรีวิวอ่านกระทู้หาข้อมูลเรื่องเที่ยวจากที่นี่มานาน
ก็รู้สึกขอบคุณทุกๆ กระทู้ที่ทำให้การหาข้อมูลและตัดสินใจไปเที่ยวทำได้ง่ายขึ้นมาก
เลยอยากลองแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ของเราดูบ้าง เผื่อจะพอมีประโยชน์สำหรับคนที่หาข้อมูลไปเที่ยวอยู่
-------------------------------
ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะตั้งใจไว้ว่าถ้าได้ตั๋วAirAsia Xราคาไม่เกิน7000บาทก็จะพาพ่อแม่ไปเที่ยวด้วย
เงื่อนไขคือไปเดือนไหนก็ได้ แต่ต้องติดเสาร์-อาทิตย์ ลางานน้อยที่สุด แล้วสวรรค์(หรือเปล่าก็ไม่รู้)ก็เข้าข้าง กดได้ตั๋วช่วงตุลา
พี่ที่ไปด้วยกันก็อยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสี แต่ตุลานี่มันก็ต้องไปทางโทโฮขุ เราไปแค่โตเกียวก็ไม่รู้จะเห็นมั้ย
แต่เนื่องจากเราอยากไปคารุซาว่ามากๆ ดูจากรีวิวในนี้แหละ หลายๆ รีวิวบอกว่าเมืองสวย สบายๆ อากาศดี
แล้วครั้งนี้ไปแบบได้เที่ยวแค่ 3 วันก็เลยจัดการดูพาสแล้วก็ลงเอยกับ Kanto Pass ไปคารุยซาว่าเช้าแล้วเย็นก็กลับ
หน้าตาคันโตพาส
วันบิน –เที่ยววันแรก / Meiji Jingu, Ginza, Tokyo Tower, Shibuya
รู้สึกถึงความซวยเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าระบบขัดข้องต้องเขียนมือหมดเลย กว่าเราจะเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จก็เที่ยงคืน
แล้วคนข้างหลังนี่อีกยาวมาก พี่บอกว่าสงสัยเครื่องออกหลังตี1แน่เลย สรุปวันนั้นเครื่องออกตีสองค่า เวลาเที่ยวหายไป1ชั่วโมงเลย
แต่ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ช่วงบ่ายก็เลยได้ไปแค่ศาลเมจิ
ความเฟลของวันนี้คือปกติเราจะเดินจากชิบุยะไปเมจิจินกู
แต่ครั้งนี้พาคนแก่ไปด้วย ก็เลยคิดว่านั่งรถไฟดีกว่ามั้งมันบอกว่า 1นาทีเอง ใช่สิ เวลาบนรถไฟแค่ 1นาที แต่กว่าจะเดินจากตึก109 ไปขึ้นรถไฟล่ะ
แล้วตอนเดินออกจากสถานีเมจิจินกูมาเอะอีก ไกลมากกกก เรียกว่าเดินข้างบนดีกว่า ข้างทางยังมีอะไรให้ดู
ถ้ามาจากชิบุยะก็เดินไปทางParcoนะคะ ซ้ายมือเป็นพารุโก้ ขวามือเป็นแอปเปิ้ล เดินตรงทะลุโยโยหงิไปเลย
ถ้าเดินจากชิบุยะก็จะมาทางสะพานลอยในรูปค่ะ
ก่อนเข้าศาลจะมีที่ให้ล้างมือล้างปาก มีป้ายอธิบายวิธีการเป็นภาษาอังกฤษไว้ บวกกับหลังจากยืนดูญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่งเราก็ทำตามบ้าง
เอากระบวยตักน้ำมา 1ครั้ง ล้างมือซ้าย มือขวา แล้วเทน้ำใส่มือซ้ายเอามาบ้วนปาก
แล้วก็ตั้งกระบวยให้ตรงเพื่อใช้น้ำที่เหลือล้างด้ามกระบวย เสร็จแล้วก็เก็บเข้าที่ เป็นการชำระร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าไปอธิษฐาน
วันที่เราไปนี่เจอคู่แต่งงาน3คู่เลย เจ้าสาวสวยมาก ยิ่งใส่ชุดแบบนี้ยิ่งสวย
ตอนเย็นไปเจอเพื่อนที่กินซ่า ที่นี่มี Uniqlo ร้านใหญ่ขนาด 12 ชั้น (ทางออกA2) ถ้าใครอยากช้อปแนะนำให้มาที่นี่เพราะของครบ
Uniqlo มีสาขาทั่วไปก็จริง แต่บางสาขามีของน้อยมากอย่างที่เราพลาดมาแล้ว กะซื้อใกล้ที่พักแต่ได้ของไม่ครบ
ข้างหลังUniqloก็จะเป็นร้านกอมโดเวอร์สตรีท ถ้าจำไม่ผิดนะคะขึ้นไปชั้นบนๆก็เดินทะลุไปร้านกอมได้เลย
ก่อนถึงUniqlo ก็มีจียู(GU) เสื้อผ้าถูกกว่าUniqlo เพื่อนบอกว่าเป็นร้านลูกของUniqlo
จากนั้นก็ให้เพื่อนที่เป็นคนโอซาก้าพาไปกินโอโคโนมิยากิ (อาหารโอซาก้า) เพื่อนก็เตือนแล้วว่าที่โตเกียวมันไม่อร่อยนะ T.T
มันไม่อร่อยจริงๆ แพงด้วย TT.TT
ร้านอยู่ที่กินซ่า ห้างMitsukoshi ชั้น11 ไปถึงก็ต้องรอต่อคิวเล็กน้อย เขามารับออเดอร์ตั้งแต่รอคิวเลย ร้านนี้จะมีครัวอยู่หน้าร้าน
พอเราเข้าไปนั่งเขาก็จะให้เก็บกระเป๋าไว้ในเบาะ (ดีเลย กลัวเหม็นอยู่พอดี) มีผ้ากันเปื้อนเป็นกระดาษสำหรับผูกคอ
แล้วก็จะเอาโอโคโนมิยากิที่ทำเสร็จแล้วมาวางไว้ให้ในเตาบนโต๊ะ เราก็จัดการทานได้เลย
โอโคโนมิยากิที่นี่จะเป็นแป้งทอดแผ่นบางๆ กรอบเล็กน้อย โปะอยู่บนผัก อารมณ์คล้ายๆ หอยทอดบ้านเรา
จากนั้นเราก็ไปโตเกียวทาวเวอร์ นั่งโตเกียวเมโทรไปลงที่kamiyacho
ใครที่ถือบัตรJCB สามารถไปโชว์บัตรที่เค้าน์เตอร์ขายตั๋วแล้วแลกตั๋วขึ้นได้ฟรี
แต่ขึ้นไปรู้สึกเฉยๆ ก็เหมือนหอสูงทั่วไป เดินไม่นานก็รอบ กระจกสะอาดกว่าที่นัมซานทาวเวอร์ที่โซลเนื่องจากมีแม่บ้านคอยเช็ดตลอด มีช่องที่เป็นกระจกใสเล็กๆ ให้มองลงมาเห็นพื้นด้านล่างพอหวาดเสียวเล็กน้อย
เห็นคนเค้ามุงดูอันนี้กันเราก็ไปดูบ้าง เค้าบรรยายไว้ว่า10ก.ค.2012 ลูกบอลปริศนาที่ถูกค้นพบในรอบครึ่งศตวรรษที่เหนือพื้นดิน306เมตร
(แต่ในหัวเราคือ แล้วยังไง ขอโทษนะคะ เราช่างเป็นคนที่เฉยชาจริงๆT.T)
ถ้าใครไม่มีบัตรJCB เราแนะนำให้ไปขึ้นที่Tokyo tochoค่ะ นั่งโทเอไปลงได้เลย
ที่นั่นเค้าให้ขึ้นฟรี ถ้าอากาศดีก็เห็นฟูจิซังเหมือนกัน
พอดึกๆก็มาเดินเล่นต่อที่ชิบุยะ เจอแต่คนเมาๆมึนๆ
วันที่ 2 / Karuizawa, Ueno, Shibuya
วันนี้ตั้งใจจะไปปั่นจักรยานที่คารุยซาว่าค่ะ เนื่องจากเรามี Kanto Pass อยู่แล้ว ก็ไปเค้าน์เตอร์ JR ที่สถานีเพื่อขอบัตรที่นั่ง
ซึ่งเราก็จัดทั้งไป-กลับเลยทีเดียวเพื่อไม่เสียเวลาและได้กลับชัวร์ๆ ไม่ต้องกลัวรถไฟเต็ม
รถไฟที่เรานั่งเป็นเบาะแบบ 2-3 ค่อนข้างเต็มทีเดียว เราเตรียมอาหารเช้าที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อไปกินบนรถ
ไม่นานก็ถึงสถานีคารุยซาว่า (ก่อนลงอย่าลืมเก็บขยะมาทิ้งด้วยนะ มีถังให้ทิ้งอยู่ตรงประตูก่อนลงรถ)
ออกจากรถไฟมา สิ่งแรกที่รู้สึกคือ หนาวมากกก อากาศเย็นกว่าที่โตเกียวมากๆ เลยได้ชื่นใจนิดนึงที่ต้นไม้บางชนิดเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว
หลังจากฝ่าลมหนาวถ่ายรูปชื่นชมซาบซึ้งกับใบไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีเราก็รีบวิ่งหาที่หลบหนาว
ออกจากสถานีมาก็จะเจอ Karuizawa Prince Shopping Plaza เป็นเอาท์เล็ทขนาดกว้างใหญ่มาก
ในแผนที่ดูเหมือนเป็นตึกเดียวแล้วมีร้านเยอะๆ แต่ความจริงคือเป็นOpen Mall มีช้อปหลายๆ ช้อปเรียงกันเป็นโซนๆ
มีแผนที่ภาษาอังกฤษให้หยิบตามเสา information ไม่อย่างนั้นทั้งวันก็เดินช้อปไม่ทั่วแน่ๆ
นอกจากนี้แล้วที่เอาท์เล็ทยังมีผลไม้ขายด้วยค่ะ เราซื้อแอปเปิ้ลกลับมา(ขนกลับมาไทยนี่แหละ) อร่อยมาก กรอบๆ หวานอมเปรี้ยว
4ลูก 750เยน ลูกใหญ่ สีแดงเข้ม พันธุ์อะไรไม่รู้ลืมถามคนขายมา แต่เค้าแนะนำว่าอันนี้อร่อย
สุดท้ายความน่าช้อปทำให้เราไม่ได้ไปขี่จักรยานและไปเดินเล่น หมดเวลาเสียก่อน
พอเสร็จจากที่นี่ก็ไปตึกม่วงที่Uenoต่อ
เคยมีคนรีวิวอย่างละเอียดแล้วขอไม่ลงซ้ำนะคะ แต่บอกเลยว่าทุกคนช้อปกันจนหิ้วไม่ไหว
(บวกกับของจากเอาท์เล็ทเมื่อเช้าอีก) เลยต้องขอกลับห้องเอาของไปเก็บก่อน
จากนั้นก็ออกมาแวะกิน Godiva ก่อนมื้อค่ำ (ห้าง Seibu Shibuya ตึก A ชั้นใต้ดิน อยู่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต)
ที่นี่มีทั้งไอติมและเครื่องดื่ม อร่อยมากๆ แต่ร้านไม่มีที่นั่งนะ ไอติมก็มีแต่แบบถ้วยกระดาษเล็กๆ ด้วยค่ะ แอบเสียดาย
วันก่อนได้แอปเปิลมาแล้ว วันนี้ก็ได้ลูกพลับมาอีกค่ะ เค้ามีให้ชิมด้วย
ตรงนั้นมันมีอีกแบบนึง ลูกจะเล็กกว่าอันที่เค้าให้ชิม ราคาแพงกว่าหน่อยนึง ป้ายบอกว่าปลูกที่ไอจิ
แต่สุดท้ายเราก็เอาแบบที่เค้าให้ชิมมาเพราะลูกใหญ่กว่า อันนี้ปลูกที่ฟุคุชิมะ
มื้อเย็นเราไปกิน โทราจิ ที่ชิบุยะพาร์โก้ชั้น 7 ไปถึงพนักงานบอกต้องรอ 30 นาที เราจึงออกมาเดินเล่นก่อน
ชั้น6 เป็นชั้นที่ขายของ anime ต่างๆ มีร้านที่ขายของ One Piece ทั้งร้านด้วย
แต่จุดหมายของเราคือร้าน Disney ที่อยู่ใกล้ๆกัน มาเพื่อซึมุซึมุโดยเฉพาะเลย
พอกินร้านนี้แล้วก็เสียดาย ไม่ใช่ไม่อร่อยนะคะ อร่อยดีแต่ว่ามันอร่อยไม่คุ้มราคา
คงไม่ไปกินอีกเป็นครั้งที่2ยกเว้นว่าจะไปส่องพนักงานในร้าน อิอิ
วันที่3 / Kichijoji, Shinjuku, Shibuya
ช่วงเช้าเราใช้เวลาอยู่ที่คิจิโจจินานหน่อย จากชิบุยะนั่งรถไฟไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว
ที่สถานีนี้มีแหล่งช้อปปิ้งอยู่ทั้งสองฝั่งของสถานี ฝั่ง Kitaguchi จะเป็น Sun Road ถนนมีหลังคาช้อปได้อย่างไม่เปียกฝน
ส่วนทาง Minamiguchi ก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นกัน แต่ถ้าเดินทะลุตรงไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงสวนสาธารณะเล็กๆ มีเรือเป็ดยักษ์ให้นั่ง
*31ในรูปคือbaskin robbinsค่ะ เพิ่งกูเกิ้ลดูเมื่อกี๊เลยว่าเขียนยังไง คนญี่ปุ่นเรียนซาตี้วัน
ที่สวนมีปลาตัวใหญ่มาก แล้วปลาก็ตลกมาก มันพยายามจะหาของกิน แล้วบนผิวน้ำก็มีแต่ใบไม้
พอมันยื่นปากออกไปก็มีแต่ใบไม้ที่เข้ามาติด แล้วมันก็พ่นทิ้ง ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาตลอด
นี่สงสัยว่าปลากินอะไรถึงได้ตัวใหญ่ขนาดนี้ (หรือจะกินใบไม้?)
จากตรงนี้มีป้ายเขียนว่าสามารถเดินทะลุไปถึง Ghibli Museum ได้ ระยะทาง 1,100 เมตร
เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่พายุจะเข้าโตเกียว ฝนตกปรอยๆ ตกๆ หยุดๆ ตั้งแต่เช้า คนญี่ปุ่นแทบทุกคนถือร่มคันใหญ่ติดมือมาด้วย
ตกบ่ายไปชินจุกุก็เริ่มตกหนักขึ้น เลยไม่ได้ออกไปเดินข้างนอกเพราะมันเฉอะแฉะ
จากนั้นก็รีบกลับมาแถวชิบุย่าเพราะฝนเริ่มตกเยอะขึ้น มาเก็บตกซื้อของฝากที่ดองกี้
(พิกัดร้านดองกี้จะอยู่ตรงข้ามกับBunkamura จากแยกชิบุยะก็เดินไปถนนตรงตึก109 ให้ตึกอยู่ซ้ายมือ เดินฝั่งตึกไปเรื่อยๆก็จะเจอร้านค่ะ)
แล้วก็ซื้ออาหารเย็นไปกินบนห้องพัก ฤดูนี้ KFC มีไก่ทอดรสส้มYuzu+Chilli แต่กินแล้วรู้สึกเหมือนไก่ทอดรสต้มยำบ้านเรา งั้นๆมาก
วันที่ 4 กลับไทยแล้วจ้า
วันนี้เครื่องออก 10:30 น. แต่เราต้องตื่นตั้งแต่ 4:30 เผื่อเวลาสำหรับ Narita Express และสำหรับเช็คอิน
ตอนเช้ามืดยังมีสลับฝนตกหนักอยู่บ้าง แต่ตอนออกจากบ้านประมาณ 5:40 ฟ้าก็สว่างแล้วและฝนไม่ตกแล้ว
เราไปแลกตั๋ว reserved seat ที่เค้าน์เตอร์ JR เหมือนเดิม เช้าๆ ขนาดนี้สถานีรถไฟที่เคยวุ่นวายกลับโล่งมาก
ทำให้เราเดินได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องปวดเศียรเวียนเกล้า บนรถไฟบริเวณหัวตู้จะมีที่สำหรับวางกระเป๋าขนาดใหญ่ได้
ไปถึงสนามบินแล้วต้องขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปอีกสองชั้นเพื่อไป Departure Hall เค้าน์เตอร์ AirAsia X อยู่ Terminal 2 แถว N
ซึ่งจะแยกออกมาฝั่งตรงข้ามกับแถวอื่นๆ (อารมณ์เหมือนจะเดินออกนอกตึกนั่นแหละ)
แนะนำให้ไปเช็คอินเร็วๆ ขนาดเราไปเร็วแล้วยังต้องรออีกพักหนึ่ง มองย้อนหลังกลับไปแล้วแถวยาวจนออกนอกฮอลล์ไปเลย
เพอเซอร์ขากลับน่ารักมากเลยค่ะ ประกาศได้เอนเตอร์เทนมาก
ปิดท้ายด้วยรูปจากสถานีโตเกียว เป็นที่ที่เราอยากไปแต่ไม่มีเวลาไป เพื่อนเลยถ่ายส่งมาให้อิจฉาเล่น
ปล. รูปนี้จากi6ค่ะ
[CR] รีวิวโตเกียวแบบด่วนมากๆ 3คืน3วัน+karuizawaน้อยนิด
ก็รู้สึกขอบคุณทุกๆ กระทู้ที่ทำให้การหาข้อมูลและตัดสินใจไปเที่ยวทำได้ง่ายขึ้นมาก
เลยอยากลองแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ของเราดูบ้าง เผื่อจะพอมีประโยชน์สำหรับคนที่หาข้อมูลไปเที่ยวอยู่
-------------------------------
ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะตั้งใจไว้ว่าถ้าได้ตั๋วAirAsia Xราคาไม่เกิน7000บาทก็จะพาพ่อแม่ไปเที่ยวด้วย
เงื่อนไขคือไปเดือนไหนก็ได้ แต่ต้องติดเสาร์-อาทิตย์ ลางานน้อยที่สุด แล้วสวรรค์(หรือเปล่าก็ไม่รู้)ก็เข้าข้าง กดได้ตั๋วช่วงตุลา
พี่ที่ไปด้วยกันก็อยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสี แต่ตุลานี่มันก็ต้องไปทางโทโฮขุ เราไปแค่โตเกียวก็ไม่รู้จะเห็นมั้ย
แต่เนื่องจากเราอยากไปคารุซาว่ามากๆ ดูจากรีวิวในนี้แหละ หลายๆ รีวิวบอกว่าเมืองสวย สบายๆ อากาศดี
แล้วครั้งนี้ไปแบบได้เที่ยวแค่ 3 วันก็เลยจัดการดูพาสแล้วก็ลงเอยกับ Kanto Pass ไปคารุยซาว่าเช้าแล้วเย็นก็กลับ
หน้าตาคันโตพาส
วันบิน –เที่ยววันแรก / Meiji Jingu, Ginza, Tokyo Tower, Shibuya
รู้สึกถึงความซวยเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าระบบขัดข้องต้องเขียนมือหมดเลย กว่าเราจะเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จก็เที่ยงคืน
แล้วคนข้างหลังนี่อีกยาวมาก พี่บอกว่าสงสัยเครื่องออกหลังตี1แน่เลย สรุปวันนั้นเครื่องออกตีสองค่า เวลาเที่ยวหายไป1ชั่วโมงเลย
แต่ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ช่วงบ่ายก็เลยได้ไปแค่ศาลเมจิ
ความเฟลของวันนี้คือปกติเราจะเดินจากชิบุยะไปเมจิจินกู
แต่ครั้งนี้พาคนแก่ไปด้วย ก็เลยคิดว่านั่งรถไฟดีกว่ามั้งมันบอกว่า 1นาทีเอง ใช่สิ เวลาบนรถไฟแค่ 1นาที แต่กว่าจะเดินจากตึก109 ไปขึ้นรถไฟล่ะ
แล้วตอนเดินออกจากสถานีเมจิจินกูมาเอะอีก ไกลมากกกก เรียกว่าเดินข้างบนดีกว่า ข้างทางยังมีอะไรให้ดู
ถ้ามาจากชิบุยะก็เดินไปทางParcoนะคะ ซ้ายมือเป็นพารุโก้ ขวามือเป็นแอปเปิ้ล เดินตรงทะลุโยโยหงิไปเลย
ถ้าเดินจากชิบุยะก็จะมาทางสะพานลอยในรูปค่ะ
ก่อนเข้าศาลจะมีที่ให้ล้างมือล้างปาก มีป้ายอธิบายวิธีการเป็นภาษาอังกฤษไว้ บวกกับหลังจากยืนดูญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่งเราก็ทำตามบ้าง
เอากระบวยตักน้ำมา 1ครั้ง ล้างมือซ้าย มือขวา แล้วเทน้ำใส่มือซ้ายเอามาบ้วนปาก
แล้วก็ตั้งกระบวยให้ตรงเพื่อใช้น้ำที่เหลือล้างด้ามกระบวย เสร็จแล้วก็เก็บเข้าที่ เป็นการชำระร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าไปอธิษฐาน
วันที่เราไปนี่เจอคู่แต่งงาน3คู่เลย เจ้าสาวสวยมาก ยิ่งใส่ชุดแบบนี้ยิ่งสวย
ตอนเย็นไปเจอเพื่อนที่กินซ่า ที่นี่มี Uniqlo ร้านใหญ่ขนาด 12 ชั้น (ทางออกA2) ถ้าใครอยากช้อปแนะนำให้มาที่นี่เพราะของครบ
Uniqlo มีสาขาทั่วไปก็จริง แต่บางสาขามีของน้อยมากอย่างที่เราพลาดมาแล้ว กะซื้อใกล้ที่พักแต่ได้ของไม่ครบ
ข้างหลังUniqloก็จะเป็นร้านกอมโดเวอร์สตรีท ถ้าจำไม่ผิดนะคะขึ้นไปชั้นบนๆก็เดินทะลุไปร้านกอมได้เลย
ก่อนถึงUniqlo ก็มีจียู(GU) เสื้อผ้าถูกกว่าUniqlo เพื่อนบอกว่าเป็นร้านลูกของUniqlo
จากนั้นก็ให้เพื่อนที่เป็นคนโอซาก้าพาไปกินโอโคโนมิยากิ (อาหารโอซาก้า) เพื่อนก็เตือนแล้วว่าที่โตเกียวมันไม่อร่อยนะ T.T
มันไม่อร่อยจริงๆ แพงด้วย TT.TT
ร้านอยู่ที่กินซ่า ห้างMitsukoshi ชั้น11 ไปถึงก็ต้องรอต่อคิวเล็กน้อย เขามารับออเดอร์ตั้งแต่รอคิวเลย ร้านนี้จะมีครัวอยู่หน้าร้าน
พอเราเข้าไปนั่งเขาก็จะให้เก็บกระเป๋าไว้ในเบาะ (ดีเลย กลัวเหม็นอยู่พอดี) มีผ้ากันเปื้อนเป็นกระดาษสำหรับผูกคอ
แล้วก็จะเอาโอโคโนมิยากิที่ทำเสร็จแล้วมาวางไว้ให้ในเตาบนโต๊ะ เราก็จัดการทานได้เลย
โอโคโนมิยากิที่นี่จะเป็นแป้งทอดแผ่นบางๆ กรอบเล็กน้อย โปะอยู่บนผัก อารมณ์คล้ายๆ หอยทอดบ้านเรา
จากนั้นเราก็ไปโตเกียวทาวเวอร์ นั่งโตเกียวเมโทรไปลงที่kamiyacho
ใครที่ถือบัตรJCB สามารถไปโชว์บัตรที่เค้าน์เตอร์ขายตั๋วแล้วแลกตั๋วขึ้นได้ฟรี
แต่ขึ้นไปรู้สึกเฉยๆ ก็เหมือนหอสูงทั่วไป เดินไม่นานก็รอบ กระจกสะอาดกว่าที่นัมซานทาวเวอร์ที่โซลเนื่องจากมีแม่บ้านคอยเช็ดตลอด มีช่องที่เป็นกระจกใสเล็กๆ ให้มองลงมาเห็นพื้นด้านล่างพอหวาดเสียวเล็กน้อย
เห็นคนเค้ามุงดูอันนี้กันเราก็ไปดูบ้าง เค้าบรรยายไว้ว่า10ก.ค.2012 ลูกบอลปริศนาที่ถูกค้นพบในรอบครึ่งศตวรรษที่เหนือพื้นดิน306เมตร
(แต่ในหัวเราคือ แล้วยังไง ขอโทษนะคะ เราช่างเป็นคนที่เฉยชาจริงๆT.T)
ถ้าใครไม่มีบัตรJCB เราแนะนำให้ไปขึ้นที่Tokyo tochoค่ะ นั่งโทเอไปลงได้เลย
ที่นั่นเค้าให้ขึ้นฟรี ถ้าอากาศดีก็เห็นฟูจิซังเหมือนกัน
พอดึกๆก็มาเดินเล่นต่อที่ชิบุยะ เจอแต่คนเมาๆมึนๆ
วันที่ 2 / Karuizawa, Ueno, Shibuya
วันนี้ตั้งใจจะไปปั่นจักรยานที่คารุยซาว่าค่ะ เนื่องจากเรามี Kanto Pass อยู่แล้ว ก็ไปเค้าน์เตอร์ JR ที่สถานีเพื่อขอบัตรที่นั่ง
ซึ่งเราก็จัดทั้งไป-กลับเลยทีเดียวเพื่อไม่เสียเวลาและได้กลับชัวร์ๆ ไม่ต้องกลัวรถไฟเต็ม
รถไฟที่เรานั่งเป็นเบาะแบบ 2-3 ค่อนข้างเต็มทีเดียว เราเตรียมอาหารเช้าที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อไปกินบนรถ
ไม่นานก็ถึงสถานีคารุยซาว่า (ก่อนลงอย่าลืมเก็บขยะมาทิ้งด้วยนะ มีถังให้ทิ้งอยู่ตรงประตูก่อนลงรถ)
ออกจากรถไฟมา สิ่งแรกที่รู้สึกคือ หนาวมากกก อากาศเย็นกว่าที่โตเกียวมากๆ เลยได้ชื่นใจนิดนึงที่ต้นไม้บางชนิดเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว
หลังจากฝ่าลมหนาวถ่ายรูปชื่นชมซาบซึ้งกับใบไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีเราก็รีบวิ่งหาที่หลบหนาว
ออกจากสถานีมาก็จะเจอ Karuizawa Prince Shopping Plaza เป็นเอาท์เล็ทขนาดกว้างใหญ่มาก
ในแผนที่ดูเหมือนเป็นตึกเดียวแล้วมีร้านเยอะๆ แต่ความจริงคือเป็นOpen Mall มีช้อปหลายๆ ช้อปเรียงกันเป็นโซนๆ
มีแผนที่ภาษาอังกฤษให้หยิบตามเสา information ไม่อย่างนั้นทั้งวันก็เดินช้อปไม่ทั่วแน่ๆ
นอกจากนี้แล้วที่เอาท์เล็ทยังมีผลไม้ขายด้วยค่ะ เราซื้อแอปเปิ้ลกลับมา(ขนกลับมาไทยนี่แหละ) อร่อยมาก กรอบๆ หวานอมเปรี้ยว
4ลูก 750เยน ลูกใหญ่ สีแดงเข้ม พันธุ์อะไรไม่รู้ลืมถามคนขายมา แต่เค้าแนะนำว่าอันนี้อร่อย
สุดท้ายความน่าช้อปทำให้เราไม่ได้ไปขี่จักรยานและไปเดินเล่น หมดเวลาเสียก่อน
พอเสร็จจากที่นี่ก็ไปตึกม่วงที่Uenoต่อ
เคยมีคนรีวิวอย่างละเอียดแล้วขอไม่ลงซ้ำนะคะ แต่บอกเลยว่าทุกคนช้อปกันจนหิ้วไม่ไหว
(บวกกับของจากเอาท์เล็ทเมื่อเช้าอีก) เลยต้องขอกลับห้องเอาของไปเก็บก่อน
จากนั้นก็ออกมาแวะกิน Godiva ก่อนมื้อค่ำ (ห้าง Seibu Shibuya ตึก A ชั้นใต้ดิน อยู่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต)
ที่นี่มีทั้งไอติมและเครื่องดื่ม อร่อยมากๆ แต่ร้านไม่มีที่นั่งนะ ไอติมก็มีแต่แบบถ้วยกระดาษเล็กๆ ด้วยค่ะ แอบเสียดาย
วันก่อนได้แอปเปิลมาแล้ว วันนี้ก็ได้ลูกพลับมาอีกค่ะ เค้ามีให้ชิมด้วย
ตรงนั้นมันมีอีกแบบนึง ลูกจะเล็กกว่าอันที่เค้าให้ชิม ราคาแพงกว่าหน่อยนึง ป้ายบอกว่าปลูกที่ไอจิ
แต่สุดท้ายเราก็เอาแบบที่เค้าให้ชิมมาเพราะลูกใหญ่กว่า อันนี้ปลูกที่ฟุคุชิมะ
มื้อเย็นเราไปกิน โทราจิ ที่ชิบุยะพาร์โก้ชั้น 7 ไปถึงพนักงานบอกต้องรอ 30 นาที เราจึงออกมาเดินเล่นก่อน
ชั้น6 เป็นชั้นที่ขายของ anime ต่างๆ มีร้านที่ขายของ One Piece ทั้งร้านด้วย
แต่จุดหมายของเราคือร้าน Disney ที่อยู่ใกล้ๆกัน มาเพื่อซึมุซึมุโดยเฉพาะเลย
พอกินร้านนี้แล้วก็เสียดาย ไม่ใช่ไม่อร่อยนะคะ อร่อยดีแต่ว่ามันอร่อยไม่คุ้มราคา
คงไม่ไปกินอีกเป็นครั้งที่2ยกเว้นว่าจะไปส่องพนักงานในร้าน อิอิ
วันที่3 / Kichijoji, Shinjuku, Shibuya
ช่วงเช้าเราใช้เวลาอยู่ที่คิจิโจจินานหน่อย จากชิบุยะนั่งรถไฟไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว
ที่สถานีนี้มีแหล่งช้อปปิ้งอยู่ทั้งสองฝั่งของสถานี ฝั่ง Kitaguchi จะเป็น Sun Road ถนนมีหลังคาช้อปได้อย่างไม่เปียกฝน
ส่วนทาง Minamiguchi ก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นกัน แต่ถ้าเดินทะลุตรงไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงสวนสาธารณะเล็กๆ มีเรือเป็ดยักษ์ให้นั่ง
*31ในรูปคือbaskin robbinsค่ะ เพิ่งกูเกิ้ลดูเมื่อกี๊เลยว่าเขียนยังไง คนญี่ปุ่นเรียนซาตี้วัน
ที่สวนมีปลาตัวใหญ่มาก แล้วปลาก็ตลกมาก มันพยายามจะหาของกิน แล้วบนผิวน้ำก็มีแต่ใบไม้
พอมันยื่นปากออกไปก็มีแต่ใบไม้ที่เข้ามาติด แล้วมันก็พ่นทิ้ง ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาตลอด
นี่สงสัยว่าปลากินอะไรถึงได้ตัวใหญ่ขนาดนี้ (หรือจะกินใบไม้?)
จากตรงนี้มีป้ายเขียนว่าสามารถเดินทะลุไปถึง Ghibli Museum ได้ ระยะทาง 1,100 เมตร
เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่พายุจะเข้าโตเกียว ฝนตกปรอยๆ ตกๆ หยุดๆ ตั้งแต่เช้า คนญี่ปุ่นแทบทุกคนถือร่มคันใหญ่ติดมือมาด้วย
ตกบ่ายไปชินจุกุก็เริ่มตกหนักขึ้น เลยไม่ได้ออกไปเดินข้างนอกเพราะมันเฉอะแฉะ
จากนั้นก็รีบกลับมาแถวชิบุย่าเพราะฝนเริ่มตกเยอะขึ้น มาเก็บตกซื้อของฝากที่ดองกี้
(พิกัดร้านดองกี้จะอยู่ตรงข้ามกับBunkamura จากแยกชิบุยะก็เดินไปถนนตรงตึก109 ให้ตึกอยู่ซ้ายมือ เดินฝั่งตึกไปเรื่อยๆก็จะเจอร้านค่ะ)
แล้วก็ซื้ออาหารเย็นไปกินบนห้องพัก ฤดูนี้ KFC มีไก่ทอดรสส้มYuzu+Chilli แต่กินแล้วรู้สึกเหมือนไก่ทอดรสต้มยำบ้านเรา งั้นๆมาก
วันที่ 4 กลับไทยแล้วจ้า
วันนี้เครื่องออก 10:30 น. แต่เราต้องตื่นตั้งแต่ 4:30 เผื่อเวลาสำหรับ Narita Express และสำหรับเช็คอิน
ตอนเช้ามืดยังมีสลับฝนตกหนักอยู่บ้าง แต่ตอนออกจากบ้านประมาณ 5:40 ฟ้าก็สว่างแล้วและฝนไม่ตกแล้ว
เราไปแลกตั๋ว reserved seat ที่เค้าน์เตอร์ JR เหมือนเดิม เช้าๆ ขนาดนี้สถานีรถไฟที่เคยวุ่นวายกลับโล่งมาก
ทำให้เราเดินได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องปวดเศียรเวียนเกล้า บนรถไฟบริเวณหัวตู้จะมีที่สำหรับวางกระเป๋าขนาดใหญ่ได้
ไปถึงสนามบินแล้วต้องขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปอีกสองชั้นเพื่อไป Departure Hall เค้าน์เตอร์ AirAsia X อยู่ Terminal 2 แถว N
ซึ่งจะแยกออกมาฝั่งตรงข้ามกับแถวอื่นๆ (อารมณ์เหมือนจะเดินออกนอกตึกนั่นแหละ)
แนะนำให้ไปเช็คอินเร็วๆ ขนาดเราไปเร็วแล้วยังต้องรออีกพักหนึ่ง มองย้อนหลังกลับไปแล้วแถวยาวจนออกนอกฮอลล์ไปเลย
เพอเซอร์ขากลับน่ารักมากเลยค่ะ ประกาศได้เอนเตอร์เทนมาก
ปิดท้ายด้วยรูปจากสถานีโตเกียว เป็นที่ที่เราอยากไปแต่ไม่มีเวลาไป เพื่อนเลยถ่ายส่งมาให้อิจฉาเล่น
ปล. รูปนี้จากi6ค่ะ