ครั้งแรกขี่หลังเสือ ที่แม่ริม

กระทู้สนทนา
หลังจากที่มีโอกาสได้กลับมาปั่นจักรยานอีกครั้งในชีวิต จากที่ไม่ได้ปั่นมาเป็น 10 ปี และแรงสนับสนุนจากเพื่อนเก่าวัยเรียนที่มาเจอกันอีกครั้งตอนที่ปั่นแม่บ้านเล่นในเชียงคานว่าให้ผมหันมาปั่นจักรยานจริงจังดู ผมจึงเริ่มด้วยการหาคำตอบจากอากู๋ ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมโง่มานานมากที่เข้าใจว่าน้ำหนักตัว 140 กิโล อย่าได้หวังจะไปปั่นจักรยานกับใครเขาเลย

วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปพักที่แม่ริมด้วยเรื่องงาน และทางโรงแรมมีจักรยานให้ปั่น จึงตั้งใจว่า เอาวะ โอกาสดีๆ ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ขอสนุกกับแม่บ้านซักหน่อยละกัน แต่พอไปถึงห้องยืมจักรยานจริงๆ กลายเป็นว่าเขามีแต่เสือภูเขา และเจ้าหน้าที่โรงแรมก็เข็น Giant Rincon ไซส์ L เบอร์ 20 ให้ผม พร้อมกับช่วยจัดแจงหาหมวกกันน็อคที่ผมใส่ได้ แล้วก็ให้คำแนะนำกับมือใหม่ไม่เคยขึ้นหลังเสือมาก่อนเลยในชีวิต ว่าผมจะต้องทำอย่างไร เส้นทางเป็นแบบไหน และผมจะต้องระมัดระวังในเรื่องใดบ้างระหว่างอยู่บนถนน และที่ขาดไม่ได้คือ แผนที่เส้นทางแม่ริม และกำลังใจว่า "ปั่นให้สนุกนะคะ คนแม่ริมเป็นมิตรและน่ารักมากค่ะ"


Giant Rincon คันนี้แหละครับ เสือตัวแรกที่พาผมท่องแม่ริม รายละเอียดสเปคว่าปีไหนรุ่นอะไรไม่ทราบจริงๆ ครับ รู้แค่มันสนุกมากที่ได้ปั่น

จากจุดสตาร์ทหน้าล็อบบี้ ผมปล่อยตัวไหลลงมาตามเนินของโรงแรม ด้วยมือที่กำแฮนด์ไว้แน่น กับตัวที่แข็งเกร็งเพราะมันเร็วมากจริงๆ ตอนนั้นขาปล่อยฟรีไม่ถีบบันไดแล้ว แต่มือบีบๆ ปล่อยๆ เบรคขวาอยู่จนออกมาถึงถนนหน้าโรงแรม ก็เริ่มปั่นไปทางสะพานข้ามคลองที่ไปออกวัดป่าดาราภิรมย์ (หากเขียนผิดขออภัย) ช่วงที่ปั่นไปตามถนนได้เห็นคนปั่นจักรยานหลายท่านปั่นสวนไป ขออภัยหากไม่ทันได้ทักทายใครเพราะผมเกร็งกับการบังคับรถให้เข้าที่อยู่ บางจังหวะก็มีอาการปวดเข่าซึ่งเป็นอยู่ก่อนเสียววาบขึ้นมา แต่ก็ยังพอไหว แต่ที่ชอบคือการได้สัมผัสกับบรรยากาศในแบบสบายๆ ปั่นบ้าง ปล่อยไหลฟรีบ้าง ถึงจะเกร็งๆ แต่มันก็สุดยอดจริงๆ ตอนที่ไปปั่นแม่บ้านที่เชียงคานก็ประมาณนี้ แต่ครั้งนี้สนุกกว่าตรงที่ได้รถตรงกับใจเหมือนสมัยเด็กๆ ที่ได้ปั่น BMX ก่อนจะโดนแม่เอาไปล่ามโซ่ทิ้งไว้เพราะผมแอบไปปั่นบนถนนใหญ่กับเพื่อน จะมีเสียวบ้างก็ตอนรถวิ่งแซงไป มีหลายครั้งที่ไปหยุดหน้าร้านค้า หน้าบ้านคน เพื่อหยุดพักให้หายเจ็บก้นและเข่า ประมาณ 20 นาทีผมก็ออกมาถึงถนนใหญ่ แวะเซเว่นเพื่อซื้อน้ำและตั้งหลัก ลืมไปสนิทเลยว่าจะไปหาอะไรกินที่ตลาด

จากหน้าเซเว่น ด้วยความที่อ่านแผนที่ผิด ก็ได้คุณลุงชาวแม่ริมช่วยบอกทางให้ว่าวัดป่าดาราภิรมย์ไปทางไหน แต่พอหันหัวรถไปจริงๆ ก็ไม่ได้ไปจนได้ เพราะมองไปเห็นเป็นเนินแล้วตอนนั้นก็เหนื่อยมากผสมกับอาการปวดเข่าเป็นริ้วๆ และมือซ้ายไม่สามารถพยุงแฮนด์ได้เพราะหมดแรงไปเฉยๆ หลังจากพักได้ซักครู่ก็เริ่มปั่นกลับ รู้สึกเลยว่ามันหนักกว่าขามาเยอะ บางช่วงต้องลงมาจูงรถ ยอมรับว่าเหนื่อยมากอยากจะเป็นลม แต่มันสนุกสุดๆ สนุกแบบเอาอะไรมาแลกไม่ได้เลยกับการได้ปั่นจักรยานแบบนี้แม้หน้าตาจะโคตะระเครียดแต่ใจมันไปก่อนแล้วจริงๆ นะ สุดท้ายผมก็กลับถึงโรงแรมได้สำเร็จ ใช้เวลาไปประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง กับระยะทาง 5.6 กิโลเมตร

ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปตามรายทางมา เพราะเวลานั้นมันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ในหัวมีแต่คำว่าปั่นเข้าไป ปั่นให้รู้สึก ปั่นให้แน่ใจว่าเราต้องการมาออกกำลังแบบนี้จริงๆ และขออภัยหากไม่ได้ทักทายเพื่อนร่วมทางหรือเจ้าถิ่นที่ผ่านไปมา หรือหากจะเผลอเซออกขวาไปบ้างจนไปเกะกะถนน หรือไปหยุดรถขวางหน้าร้านใครเข้า ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ โอกาสหน้าถ้าได้ปั่นอีกผมจะทำให้ดีขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่