เรากับแฟนคบกันมา 3 ปี รู้จักกันมา 8 ปี (จากการเรียนด้วยกัน) ตอนนี้อายุ23ปี ด้วยกันทั้งคู่
เหตุการณ์เริ่มเรื่องคือ เรามีอะไรกับแฟนและแม่เรารู้ แม่เราจึงเรียกแฟนเราไปคุย แฟนเราก็ไปคุย สรุปว่า แม่เราให้แฟนเราเรียกพ่อแม่เค้ามาคุยเรื่องเรา แต่แฟนเรากลัวและก็ยังผลัดไปเรื่อยจนไม่ได้บอก ณ จุดนี้มันพลาดที่เราปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมานาน เพราะเค้าก็คงกลัวพ่อแม่ด่าด้วย
จนหลังจากเหตุการณ์นั้นเรากับแฟนก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด จนพ่อแม่เค้าก็รู้ว่าเรากับแฟนคบกันอยู่ และมีอะไรกันแล้วในบ้านแฟนนั้นก็มี น้องสาวของแฟน,แฟน,เรา พี่ชายแฟนมาทุกเสาร์อาทิตย์ พ่อแม่แฟนมาบ้างเป็นบางอาทิตย์ เราก็ได้เจอกับพ่อแม่เค้าบ้างได้คุยกันบ้าง วันสำคัญแฟนเราก็ชวนเราไปบ้านที่พ่อแม่เค้าอยู่(ต่างอำเภอ) หลังๆเราก็ถามแฟนว่าพ่อแม่เค้าเคยคุยเรื่องเราบ้างไหม เค้าก็ตอบว่าก็ต้องคุยบ้างสิ เราก็ยังค้างคาใจอยู่เสมอว่าพ่อแม่แฟนชอบเราบ้างไหม เค้าคิดยังไงกับเรา แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์วันต่างๆ พ่อแม่เค้าก็จะเอ่ยปากชวนเราเสมอ เช่น งานวันเกิดพ่อ แม่ น้อง งานปีใหม่ หรือเทศกาลต่างๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเราเริ่มใกล้ชิดกับครอบครัวเค้ามากขึ้น แต่กับฝั่งแม่เราแฟนเราก็ยังกลัวแม่เราเสมอ เราพยายามให้เค้าเข้าหาบ้านเราบ้าง แต่พักหลังก็มีบ้าง 1-2 ครั้ง ซึ่งไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร
แม่เราก็เริ่มถามเรื่องแฟนเรา(แม่เราก็รู้ว่าเรายังคบกับแฟนเราอยู่) ว่าเมื่อไหร่เค้าจะมาขอ แกจะได้แต่งงานไหม ทุกครั้งที่แม่เราถาม เราก็กังวลใจเสมอว่าจะถามกับทางนั้นยังไง แม่เราก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรแฟนเรา เพียงแต่แม่เราอยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝาสักที
จนวันนึงที่แม่เราต้องย้ายไปอยู่บ้านต่างตำบลซึ่งมันไกลจากที่ทำงานเรา ด้วยงานที่ต้องเลิกค่ำด้วย ทางเปลี่ยวด้วย เราจึงขอแม่เรามาอยู่บ้านแฟน แม่เราก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เราเลยให้แฟนไปคุยกับแม่แฟน เราก็บอกทิ้งท้ายไปด้วยว่า “ฉันไปอยู่กับแก ก็อยากอยู่ให้มันถูก อยากให้แฟนพาพ่อแม่แฟนมาคุยกับแม่เราบ้าง” แฟนก็รับปากว่าจะถามให้ แฟนก็เลยไปถามแม่แฟนว่า “เรามาอยู่จะได้ไหม แม่แฟนก็ไม่ได้ว่าอะไรให้มาอยู่ได้ และถามว่าถ้าแม่เราอยากให้เค้ามาแต่งงานกับเรา แม่แฟนจะว่ายังไง แม่แฟนตอบว่าจะแต่งยังไงแกยังไม่มีอะไรสักอย่างเลย จะเอาเงินไหนไปแต่ง” (คือแฟนเรายังไม่ได้ทำงานอะไร) สรุปว่าเหตุการณ์ตอนนั้นก็ผ่านไปโดยไม่ได้ข้อสรุปเรื่องเรากับแฟนเรา
เมื่อวันก่อนพ่อแม่แฟนมาบ้าน แล้วเค้าก็คุยเรื่องธุรกิจที่จะไปทำที่บ้านแม่เค้า(ซึ่งอยู่ต่างอำเภอ) เค้าอยากให้เราออกจากงานไปทำกับแฟนเรา จะได้มีอะไรทำกัน แฟนเราก็อยากทำ เราก็ว่าดี เราเลยลองคุยกับแม่เรา แม่เราบอกว่าถ้าจะไปอยู่บ้านเค้า ก็ให้พ่อแม่เค้ามาคุยแม่เราให้มันถูก แม่เราจะให้เราแต่งงาน ถ้าเราจะไปทำธุรกิจกับทางบ้านแฟน แม่เราบอกว่าจะมีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าพวกแกจะไม่เลิกกัน อย่างน้อยก็ได้แต่งงาน เพราะเราเป็นผู้หญิงมีแต่จะเสียหาย เราเลยไปบอกกับแฟนเราว่าแม่เราจะให้เราแต่งงานถ้าเราไปทำธุรกิจกับแฟน แฟนเราก็บอกว่ามันยังไม่ถึงเวลาเลย แฟนเรายังไม่ได้บวช และไม่อยากพึ่งพาเงินพ่อแม่เอาไปใช้ในการแต่งงาน แฟนเราอยากให้ทำธุรกิจ(ที่แม่แฟนเป็นคนออกเงินทุน) ในการเก็บเงิน ถ้าจะแต่งงานก็อยากใช้เงินตรงนั้นแต่ง
เราควรจะพูดยังไงให้ลงตัวทั้งสองฝ่ายคะ เรารู้ว่ามันเกินเวลาที่จะแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดมา แต่ ณ ปัจจุบันนี้เรากังวลมากและยังหาทางออกให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เลย เรารู้สึกไม่อยากจะยอมแพ้เรื่องเรากับแฟน แฟนเราก็คงจะไม่ยอมแพ้
ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่เข้ามาตอบนะคะ
แม่เราต้องการให้แต่งงาน แต่ทางฝ่ายชายยังไม่พร้อม ควรจะคุยยังไงให้ลงตัว
เหตุการณ์เริ่มเรื่องคือ เรามีอะไรกับแฟนและแม่เรารู้ แม่เราจึงเรียกแฟนเราไปคุย แฟนเราก็ไปคุย สรุปว่า แม่เราให้แฟนเราเรียกพ่อแม่เค้ามาคุยเรื่องเรา แต่แฟนเรากลัวและก็ยังผลัดไปเรื่อยจนไม่ได้บอก ณ จุดนี้มันพลาดที่เราปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมานาน เพราะเค้าก็คงกลัวพ่อแม่ด่าด้วย
จนหลังจากเหตุการณ์นั้นเรากับแฟนก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด จนพ่อแม่เค้าก็รู้ว่าเรากับแฟนคบกันอยู่ และมีอะไรกันแล้วในบ้านแฟนนั้นก็มี น้องสาวของแฟน,แฟน,เรา พี่ชายแฟนมาทุกเสาร์อาทิตย์ พ่อแม่แฟนมาบ้างเป็นบางอาทิตย์ เราก็ได้เจอกับพ่อแม่เค้าบ้างได้คุยกันบ้าง วันสำคัญแฟนเราก็ชวนเราไปบ้านที่พ่อแม่เค้าอยู่(ต่างอำเภอ) หลังๆเราก็ถามแฟนว่าพ่อแม่เค้าเคยคุยเรื่องเราบ้างไหม เค้าก็ตอบว่าก็ต้องคุยบ้างสิ เราก็ยังค้างคาใจอยู่เสมอว่าพ่อแม่แฟนชอบเราบ้างไหม เค้าคิดยังไงกับเรา แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์วันต่างๆ พ่อแม่เค้าก็จะเอ่ยปากชวนเราเสมอ เช่น งานวันเกิดพ่อ แม่ น้อง งานปีใหม่ หรือเทศกาลต่างๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเราเริ่มใกล้ชิดกับครอบครัวเค้ามากขึ้น แต่กับฝั่งแม่เราแฟนเราก็ยังกลัวแม่เราเสมอ เราพยายามให้เค้าเข้าหาบ้านเราบ้าง แต่พักหลังก็มีบ้าง 1-2 ครั้ง ซึ่งไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร
แม่เราก็เริ่มถามเรื่องแฟนเรา(แม่เราก็รู้ว่าเรายังคบกับแฟนเราอยู่) ว่าเมื่อไหร่เค้าจะมาขอ แกจะได้แต่งงานไหม ทุกครั้งที่แม่เราถาม เราก็กังวลใจเสมอว่าจะถามกับทางนั้นยังไง แม่เราก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรแฟนเรา เพียงแต่แม่เราอยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝาสักที
จนวันนึงที่แม่เราต้องย้ายไปอยู่บ้านต่างตำบลซึ่งมันไกลจากที่ทำงานเรา ด้วยงานที่ต้องเลิกค่ำด้วย ทางเปลี่ยวด้วย เราจึงขอแม่เรามาอยู่บ้านแฟน แม่เราก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เราเลยให้แฟนไปคุยกับแม่แฟน เราก็บอกทิ้งท้ายไปด้วยว่า “ฉันไปอยู่กับแก ก็อยากอยู่ให้มันถูก อยากให้แฟนพาพ่อแม่แฟนมาคุยกับแม่เราบ้าง” แฟนก็รับปากว่าจะถามให้ แฟนก็เลยไปถามแม่แฟนว่า “เรามาอยู่จะได้ไหม แม่แฟนก็ไม่ได้ว่าอะไรให้มาอยู่ได้ และถามว่าถ้าแม่เราอยากให้เค้ามาแต่งงานกับเรา แม่แฟนจะว่ายังไง แม่แฟนตอบว่าจะแต่งยังไงแกยังไม่มีอะไรสักอย่างเลย จะเอาเงินไหนไปแต่ง” (คือแฟนเรายังไม่ได้ทำงานอะไร) สรุปว่าเหตุการณ์ตอนนั้นก็ผ่านไปโดยไม่ได้ข้อสรุปเรื่องเรากับแฟนเรา
เมื่อวันก่อนพ่อแม่แฟนมาบ้าน แล้วเค้าก็คุยเรื่องธุรกิจที่จะไปทำที่บ้านแม่เค้า(ซึ่งอยู่ต่างอำเภอ) เค้าอยากให้เราออกจากงานไปทำกับแฟนเรา จะได้มีอะไรทำกัน แฟนเราก็อยากทำ เราก็ว่าดี เราเลยลองคุยกับแม่เรา แม่เราบอกว่าถ้าจะไปอยู่บ้านเค้า ก็ให้พ่อแม่เค้ามาคุยแม่เราให้มันถูก แม่เราจะให้เราแต่งงาน ถ้าเราจะไปทำธุรกิจกับทางบ้านแฟน แม่เราบอกว่าจะมีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าพวกแกจะไม่เลิกกัน อย่างน้อยก็ได้แต่งงาน เพราะเราเป็นผู้หญิงมีแต่จะเสียหาย เราเลยไปบอกกับแฟนเราว่าแม่เราจะให้เราแต่งงานถ้าเราไปทำธุรกิจกับแฟน แฟนเราก็บอกว่ามันยังไม่ถึงเวลาเลย แฟนเรายังไม่ได้บวช และไม่อยากพึ่งพาเงินพ่อแม่เอาไปใช้ในการแต่งงาน แฟนเราอยากให้ทำธุรกิจ(ที่แม่แฟนเป็นคนออกเงินทุน) ในการเก็บเงิน ถ้าจะแต่งงานก็อยากใช้เงินตรงนั้นแต่ง
เราควรจะพูดยังไงให้ลงตัวทั้งสองฝ่ายคะ เรารู้ว่ามันเกินเวลาที่จะแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดมา แต่ ณ ปัจจุบันนี้เรากังวลมากและยังหาทางออกให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เลย เรารู้สึกไม่อยากจะยอมแพ้เรื่องเรากับแฟน แฟนเราก็คงจะไม่ยอมแพ้
ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่เข้ามาตอบนะคะ