บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใช้แท็กติกเพิ่มทุน PP ตลท. จ่อปรับกฎ ดูแลรายย่อย

กระทู้คำถาม
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใช้แท็กติกเพิ่มทุน PP ตลท.จ่อปรับกฎดูแลรายย่อย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1413539625

จับตาบจ.ใช้แท็กติกเพิ่มทุนPP ตลท.จ่อปรับกฎดูแลรายย่อย

updated: 17 ต.ค. 2557 เวลา 16:52:52 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ตลท.จับ ตา บจ.ใช้แท็กติกเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจง สร้างสตอรี่-เปิดช่องนักลงทุนเฉพาะกลุ่มโกยหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด หลังรายย่อยร้องเรียน ชี้อยู่ระหว่างหาช่องปรับหลักเกณฑ์ให้เป็นธรรมขึ้น ฟาก ก.ล.ต.แนะรายย่อยใช้เครื่องมือที่ประชุมผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ์วีโต้

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้มีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement : PP) ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเกิดความกังวล เนื่องจากพบว่าปัจจุบันมี บจ.หลายบริษัทได้ออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ในราคาต่ำกว่าราคาบนกระดาน และนำไปเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใด ๆ ให้กับบริษัท

โดย ขณะนี้กลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึงผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และเจ้าหน้าที่กำกับและดูแล ตลท.ให้ดำเนินการควบคุมการออกหุ้นแบบ PP ของ บจ.ต่าง ๆ มากขึ้น พร้อมระบุว่าแม้บริษัทเหล่านั้นจะชี้แจงว่าบุคคลที่ทางบริษัทขาย PP ในราคาต่ำนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทหรือผู้บริหาร แต่ก็ยังทำให้นักลงทุนรายย่อยเกิดความสงสัยว่า การขายหุ้นในลักษณะนี้มีเจตนาขายหุ้นราคาถูกให้กับกลุ่มพวกพ้องของผู้บริหาร บริษัทหรือผู้ถือหุ้นใหญ่หรือไม่

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยอมรับว่า มีนักลงทุนรายย่อยได้ส่งหนังสือมาร้องเรียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีที่มีบริษัทจดทะเบียนบางแห่งได้ออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ด้วยการเสนอขายให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ในระดับที่ราคาต่ำกว่ากระดานจนทำให้ผู้ ถือหุ้นรายเดิมได้รับผลกระทบ ซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่า ประเด็นนี้มีหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทั้ง ตลท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดให้ถี่ถ้วน รวมถึงใช้วิธีการหารือแบบเฉพาะกลุ่มด้วย

"เรื่องของการออก หุ้นแบบ PP เราก็ดูอยู่ ถ้ามีช่องว่างที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าจะทำ เช่น เราจะกำหนดเรื่องการ PP ด้วยราคาที่ใช้อะไรจึงจะเหมาะสม เป็นต้น เพียงแต่ประเด็นนี้คงต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง ตลท.และ ก.ล.ต. รวมทั้งบริษัทจดทะเบียน และวาณิชย์ธนกิจ (IB) ด้วย เพื่อจะได้พิจารณากันอย่างรอบคอบ" นางเกศรากล่าว

ด้านนาย ธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ประเด็นการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงของบริษัทจดทะเบียนที่มีการพูดถึงประเด็น ความไม่เหมาะสมนั้น ในส่วนของ ก.ล.ต.อยากแนะนำให้นักลงทุนรายย่อยที่มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญต่อการใช้สิทธิ์เข้าประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากวิธีการดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนที่ไม่เห็นด้วยกับบางมติ เช่นการเพิ่มทุนแบบ PP สามารถออกเสียงคัดค้าน (วีโต้) ในที่ประชุมเพื่อระงับการดำเนินการของ บจ.ได้

"ตามหลัก เกณฑ์ประกาศคณะกรรมการตลาดทุนที่ ทจ.28/2551 ได้กำหนดว่า สำหรับกรณีที่ บจ.มีการเสนอขายหลักทรัพย์ใหม่ จนทำให้นักลงทุนเดิมมีมูลค่าและสิทธิ์ออกเสียงลดลง (Dilution Effect) นั้น ให้นักลงทุนเดิมที่มีสัดส่วนรวมกัน 10% มีสิทธิ์วีโต้วาระการเพิ่มทุน ที่จะมีการขายหุ้นให้แก่บุคคลภายนอกในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดได้" นายธวัชชัยกล่าว

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลของ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่า ในช่วงที่ผ่านมามีบางบริษัทใช้เทคนิคเพื่อเปิดช่องทางให้มีการซื้อ PP ในราคาต่ำ โดยเปิดให้ผู้จองซื้อเลือกตัดสินใจที่จะจองซื้อ หรือชำระค่าหุ้นได้ในช่วงเวลาหลายเดือน และยังให้โอกาสแบ่งทยอยซื้อจ่ายเงิน และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดเป็นส่วน ๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เป็นการเก็งกำไร (ซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ราคาต่ำ) และปล่อยขายในตลาด ก่อนเอาเงินหมุนเวียนออกมาชำระค่าหุ้นในส่วนต่อไปได้ ซึ่งถ้าหุ้นในตลาดปรับราคาลงจนต่ำกว่าราคา PP ก็เป็นไปได้ที่ผู้จองซื้อเหล่านี้อาจจะปฏิเสธไม่จ่ายเงินค่าจองซื้อดังกล่าว ก็ได้

นอกจากนี้ยังมีบาง บจ.ที่ใช้ประโยชน์จากการขาย PP เพื่อสร้างสถานการณ์ความน่าสนใจให้แก่ธุรกิจด้วย ซึ่งวิธีการคือ ผู้บริหารจะประกาศว่าจะมีการเตรียมขาย PP ให้กับนักลงทุนที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) และขอมติเพิ่มทุนไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ยังไม่พร้อมเปิดเผยชื่อของพันธมิตรรายนั้น มีเพียงข้อมูลชวนเชื่อว่าพันธมิตรรายใหม่เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญ และสามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจได้ และจะสร้างผลดีต่อบริษัทในอนาคต

สำหรับ กรณีการขายหุ้น PP ราคาต่ำกว่ากระดานนั้น ซึ่งล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯได้สั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บมจ.ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ (CYBER) ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่ 29 กันยายน 2557 เป็นต้นมา เนื่องจาก CYBER ยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มทุน PP ในราคาต่ำอย่างครบถ้วนและชัดเจนตามที่ ตลท.ได้เคยสอบถาม โดยเมื่อวันที่ 13 ต.ค. CYBER ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 แต่ ตลท.ยังไม่ได้ปลดเครื่องหมาย SP ออกในวันที่ 14 ต.ค.

รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (1 ม.ค. 54-14 ต.ค. 57) บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้ง ในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้มีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) เป็นมูลค่าถึงประมาณ 1.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นในปี 2554 มูลค่าราว 1.5 หมื่นล้านบาท ปี 2555 มูลค่าราว 4.8 หมื่นล้านบาท ปี 2556 มูลค่าราว 8 พันล้านบาท และปี 2557 มูลค่าราว 4.1 หมื่นล้านบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่