ผมกับแฟนเลิกกันได้หลายเดือนกว่าแล้วตั้งแต่เลิกกันไปเมื่อ ช่วงสงกราน เราตกลงที่จะเป็นพี่น้องกัน
แต่เมื่อประมาณสิงหา เราได้มีโอกาสกลับมาคุยกันใหม่
เจอกันบ้าง ช่วงนั้นเค้ายังว่างงาน เพราะเค้าลาออกจากงานอยู่ เราเลยได้เจอกันบ่อย เค้าก็ไปหาผมที่มหาลัยบ้าง ไปที่ฟิตเนสบ้าง
เพราะเค้าเห็นผมตัวใหญ่ขึ้น อวบขึ้น กว่าตอนที่คบกับเค้า ผมเลยบอกว่า ก็เข้าฟิตเนสบ้างไรบ้าง เค้าก็บอกให้พาเค้าไปลองเล่นบ้าง
ก็เป็นอย่างงี้สักระยะ เค้าก็ชวนไปที่ห้องเค้าบ้าง(แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะ)ไปทำกับข้าวกินกันบ้าง เค้าเป็นคนทำ ผมเป็นคนกิน ช่วงแรกๆ
ที่กลับมาเจอกัน คุยกัน เค้ามาหาผมที่ม. ผมก็รู้สึก รำคาญ มาทำไม ไม่อยากเจอ (แต่จริงๆน่ะ อยากจะวิ่งเข้าไปกอด) ผมนิ่ง ยิ่งไม่คุยเลย ช่วงแรกๆ
วันนึงหลานเค้าไม่อยู่บ้านสองวัน เค้าเลยชวนผมไปค้าง แต่ผมไม่ไป(ใจจริงน่ะ อยากไป)เพราะไป อาจจะ.... ก็เป็นได้ ผมเลยไม่ไป
ะยะหลังผมก็เริ่มรู้ใจตัวเอง ว่าแกล้งทำเป็นไม่รักเค้าแล้วต่อไปไม่ไหว ก็เลย ยอมไปตามหัวใจ .. ช่วงที่เค้าว่างงาน เราก็เจอกันบ่อยครับ
มีวันนึงที่ผมเลิกเรียน และชวนเค้าไปเจอเพื่อนผมพอดี และก็ไปกินข้าวกันแถวๆหลังม. กินเสร็จก็ แยกย้าย ผมก็เลยชวนเค้าไปไหว้พระกัน
เพราะตอนก่อนที่จะเลิกกันเพื่อนสนิทเค้าเสียพอดี (เหตุผลที่เลิกกันไม่ใช่เรื่องนี้นะ เพื่อนเค้าเสียช่วง ม.ค. เลิกกับเค้าตอน เม.ย.) ตอนคบกัน
ไม่เคยได้ไปทำบุญให้เพื่อนเค้าเลย มีวันนีก็เลยได้โอกาสไปทำบุญกัน ... ระหว่างไปทำบุญก็ปกติครับ ความรู้สึกของผม มันเหมือนไม่ใช่ พีน้อง หรือเพื่อน
มันเหมือนคนเป็นแฟนกัน ไปทำบุญด้วยกันมากกว่า ให้อาหารวัว ถวายสังฆทาน ... จากนั้น ก็เดินเล่นกันไปเรื่อยๆ ไปห้างๆนึงแถวพระราม9 ก็เห็นว่าฝนจะตกล่ะ เลยไปนั่งที่ แมคโดนัล .. ความรู้สึกตอนนั้นมัน ฝนก็ตก อากาศก็เย็น นั่งคุยกัน ผมสังเกตได้จากสายตาเค้าว่า สายตาที่เค้ามองมา เค้าก็ยังรักผมอยู่
ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ ... อ้อ ลืมเล่า ช่วงที่เค้ายังว่างๆงานอยู่หลังจากไปกินข้าวบ้านเค้า หรือ ไปเที่ยวด้วยกันมา เค้ามาส่งผมถึงบ้านตลอดเลยนะ ซึ่งจริงๆ ผมคิดว่า ส่งหน้าปากซอยก็พอมั้ง(บ้านผมกะเค้าไม่ไกลเท่าไหร่) -ซึ่งทำให้ผมเองก็คิดไปว่า มาส่งทำไม คิดอะไรรึเปล่า
ต่อมา ผมเริ่มรู้สึกจะขาดเค้าไม่ได้แล้วซิ เค้าบอกว่า ที่ทำงานที่ใหม่จะรับเข้าทำงานละ ผมก็จิตตกว่า เราคงไม่ได้มาเจอกันบ่อยๆ แบบนีแน่ๆเลย
และก็มีช่วงนึงที่ผมจิตตก แต่ก็หายไป ก็มีเวลามาเจอกันบ้าง ทำบุญ ไปวิ่งด้วยกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง กินข้าวทำกับข้าว โทรคุยกันแต่ไม่บ่อย
เรื่องเพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักของเค้า เค้าก็แนะนำผมกับเพื่อนเค้านะ แต่เค้าก็ไม่บอกว่าฐานะอะไร แต่คือ เพื่อนๆเค้าคิดว่าผมเป็นแฟนเค้าไปแล้ว
ระยะหลังๆ ผมกับเค้าก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย เดือนละ 1-2ครั้ง หรือก็ไม่ได้เจอ ผมก็เรียน ทำงานไปด้วย ไปต่างประเทศบ้าง ล่าสุด ผมไปมาเลเซีย
กลับมา ผมซื่อของฝากของเค้ามาให้เค้าเป็นของขวัญวันเกิด เป็นหนังสือ Architecture of Cocktail เพราะเค้าทำงานด้านอาหาร สองวันหลังจากกลับมาผมก็โทรไปหาเค้า เค้าเลยชวนผมไปว่ายน้ำ ... ผมก็ไป จากนั้นก็ไปเดินเล่นซื้อของกัน ผมอะด้วยความ11รดมั้ง เลยควงแขนเค้านะ เค้าก็ไม่ว่าอะไร เสร็จก็ไปดริ้งกันต่อ ก็ดีครับ ปกติผมไม่ดื่มแอลกอลฮอลนะ แต่ไหนๆแล้วก็ ดื่มเถอะ เค้าบอกมีความสุขดีวันนี้ ร้านอาหารก็ชิวเพลงก็เพราะ เค้าบอก และก็ถ่ายรูปคู่กันลงเฟส ดริ้งเสร็จก็กลับบ้าน ผมก็ไปส่งเค้าแหละ จริงๆเค้าชวนไปกินข้าวที่ห้องด้วย แต่ผมไปไม่ได้เพราะลืมหยิบกุญแจบ้าน ก็เลยไปส่งเค้าที่บ้านแทนและก็ให้ของขวัญวันเกิด เค้าก็เข้ามากอดผม .. แล้วผมก็ขึ้นรถกลับบ้าน ..
วันต่อมา เฟสบุคเค้าโพสรูปของขวัญที่ผมให้แล้วบอกชอบใจมากๆเลย เพราะผมให้ของขวัญที่มีประโยชน์กับเค้า ผมเขียนการ์ดไปด้วยว่า
You are my destiny, I believe และก็เพลง Have i told you lately และอวยพรเค้าเรื่องงาน จริงๆวันเกิดเค้ายังไม่ถึงหรอก ผมให้ก่อน
พอถึงคืนก่อนวันเกิดเค้าผมไปเที่ยวกับเพื่อน ไปฉลองวันเกิดเพื่อนที่ผับ จิงๆก็ไม่ตั้งใจที่จะไม่อวยพรเค้าในวันเกิดนะ แต่ไม่มีเวลาตอนนั้น
กำลังมันส์ได้ที่ ผมอยู่ในผับ เค้าก็โทรมา บอกว่า ตอนเช้าวันเกิดเค้า ผมว่างไปใส่บาตรกะเค้าไหม ตอนนั้นผมก้กึ่งๆเมาละ แต่ผมบอกว่าไป
สรุปผมก็ตื่นไปใส่บาตรกะเค้าแหละ และเค้าก็ลงรูปผมกับเค้าในเฟส เค้าจับมือผมด้วย แต่วันเกิดเค้าผมก็ไม่ว่างไปฉลองเลย เพราะผมต้องไปงาน Party ตอนเย็นๆ เพราะมีบัตรเชิญแล้วอะ ไม่อยากพลาดเพราะปีที่แล้วก็ไม่ได้ไป .. หลังจากงานเลิก ผมก็ ส่ง HBD ไปหาเค้าบอกว่า ผมอยากจะเป็นคนสุดท้ายที่บอก HBD นะ ผมบอกไป 23:56 ได้มั้ง ... ผมก็เห็นแหละว่าวันเกิดเค้าไปกับเพื่อนคนนึงซึ่งผมก็รู้จัก เค้าโพสเฟสเหมือนน้อยใจผมยังไงไม่รู้ว่า ขอบคุณ xxxxx ที่มาอยู่เป็นเพื่อนในวันเกิด ทำนองนีน่ะ (ผมก็ไม่อยากคิดไปเองว่า เค้าพูดถึงผมหรอ แต่เพื่อนบอกว่าใช่) หลังจากวันเกิดเค้า ผมก็เลยชวนเค้าไปทำบุญวันเกิดเค้าที่วัดที่มีตลาดน้ำขวัญเรียม ก็ดีครับ มีความสุข ปล่อยนกปล่อยปลา ผมก็เดินควงแขนเค้าและเค้าก็ถ่ายรูปผมกับเค้าลงเฟสเหมือนกัน
และเพื่อนผมบอก เค้าถ่ายรูปกับผมบ่อยนะ หลังจากวันนั้นผมกับเค้าได้ไม่ได้ว่างเจอกันซะเท่าไหร่ ก็มีคุยไลน โทรหาบ้าง
และสองสามวันที่ผ่านมาผมเองรู้สึกคิดถึงเค้ามากๆ จนรู้สึกรักเค้ามากจนไม่อยากจะเสียเค้าไปอีกแล้ว เพราะผมเองเชื่อ ว่าเค้าคือ Destiny ของผมจริงๆ
ผมเคยคบกับแฟนคนนึงมา 7 ปี ยังไม่รู้สึกมากเท่ากับคนนี้ 3 เดือน
ผมไม่เคยบอกเค้าเลยนะว่าผมคิดยังไงกับเค้า ร้กเค้ามากแค่ไหน คิดถึงแทบใจจะขาด ผมไม่เคยบอกเลย
มันอึดอัด ที่บางทีผมเองก็ไม่รู้ว่าเราคบกันยังไง บางครั้งก็วนฟังเพลง ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน เรื่องของเรา อยากได้ยินว่ารักกัน พรุ่งนี..ไม่สาย
ผมฟังเพลงแบบนี้ ก็ยิ่งฟิลไปใหญ่ ทุกวันนี้ผมเองก็ยังไม่รู้จะทำยังไง และผมเองก็กลัว กลัวว่ามันจะจบแบบเดิมเหมือนที่เคยเป็น ผมไม่เคยถาม ไม่เคยบอกว่า เรากลับมาคบกันดีไหม ... ผมถามเพื่อน เพื่อนบอกว่า ให้เราทั้งคู่เป็นแบบนี้ไปน่ะดีแล้ว ซึ่งผมเองก็มองว่าดีนะ ให้เราต่างคนต่างรู้สึกดีต่อกัน คนอื่นมองว่าเราคือแฟนกัน แต่แค่เราไม่พูดถึงสถานะเท่านั้นเอง
ผมอาจเขียน อ่านอาจจะงงๆ หน่อยนะครับ
ขออภัยด้วย
เลิกกับแฟนไปนาน กลับมาคุยกันใหม่ แต่สถานะอะไรยังไม่แน่ใจ
แต่เมื่อประมาณสิงหา เราได้มีโอกาสกลับมาคุยกันใหม่
เจอกันบ้าง ช่วงนั้นเค้ายังว่างงาน เพราะเค้าลาออกจากงานอยู่ เราเลยได้เจอกันบ่อย เค้าก็ไปหาผมที่มหาลัยบ้าง ไปที่ฟิตเนสบ้าง
เพราะเค้าเห็นผมตัวใหญ่ขึ้น อวบขึ้น กว่าตอนที่คบกับเค้า ผมเลยบอกว่า ก็เข้าฟิตเนสบ้างไรบ้าง เค้าก็บอกให้พาเค้าไปลองเล่นบ้าง
ก็เป็นอย่างงี้สักระยะ เค้าก็ชวนไปที่ห้องเค้าบ้าง(แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะ)ไปทำกับข้าวกินกันบ้าง เค้าเป็นคนทำ ผมเป็นคนกิน ช่วงแรกๆ
ที่กลับมาเจอกัน คุยกัน เค้ามาหาผมที่ม. ผมก็รู้สึก รำคาญ มาทำไม ไม่อยากเจอ (แต่จริงๆน่ะ อยากจะวิ่งเข้าไปกอด) ผมนิ่ง ยิ่งไม่คุยเลย ช่วงแรกๆ
วันนึงหลานเค้าไม่อยู่บ้านสองวัน เค้าเลยชวนผมไปค้าง แต่ผมไม่ไป(ใจจริงน่ะ อยากไป)เพราะไป อาจจะ.... ก็เป็นได้ ผมเลยไม่ไป
ะยะหลังผมก็เริ่มรู้ใจตัวเอง ว่าแกล้งทำเป็นไม่รักเค้าแล้วต่อไปไม่ไหว ก็เลย ยอมไปตามหัวใจ .. ช่วงที่เค้าว่างงาน เราก็เจอกันบ่อยครับ
มีวันนึงที่ผมเลิกเรียน และชวนเค้าไปเจอเพื่อนผมพอดี และก็ไปกินข้าวกันแถวๆหลังม. กินเสร็จก็ แยกย้าย ผมก็เลยชวนเค้าไปไหว้พระกัน
เพราะตอนก่อนที่จะเลิกกันเพื่อนสนิทเค้าเสียพอดี (เหตุผลที่เลิกกันไม่ใช่เรื่องนี้นะ เพื่อนเค้าเสียช่วง ม.ค. เลิกกับเค้าตอน เม.ย.) ตอนคบกัน
ไม่เคยได้ไปทำบุญให้เพื่อนเค้าเลย มีวันนีก็เลยได้โอกาสไปทำบุญกัน ... ระหว่างไปทำบุญก็ปกติครับ ความรู้สึกของผม มันเหมือนไม่ใช่ พีน้อง หรือเพื่อน
มันเหมือนคนเป็นแฟนกัน ไปทำบุญด้วยกันมากกว่า ให้อาหารวัว ถวายสังฆทาน ... จากนั้น ก็เดินเล่นกันไปเรื่อยๆ ไปห้างๆนึงแถวพระราม9 ก็เห็นว่าฝนจะตกล่ะ เลยไปนั่งที่ แมคโดนัล .. ความรู้สึกตอนนั้นมัน ฝนก็ตก อากาศก็เย็น นั่งคุยกัน ผมสังเกตได้จากสายตาเค้าว่า สายตาที่เค้ามองมา เค้าก็ยังรักผมอยู่
ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ ... อ้อ ลืมเล่า ช่วงที่เค้ายังว่างๆงานอยู่หลังจากไปกินข้าวบ้านเค้า หรือ ไปเที่ยวด้วยกันมา เค้ามาส่งผมถึงบ้านตลอดเลยนะ ซึ่งจริงๆ ผมคิดว่า ส่งหน้าปากซอยก็พอมั้ง(บ้านผมกะเค้าไม่ไกลเท่าไหร่) -ซึ่งทำให้ผมเองก็คิดไปว่า มาส่งทำไม คิดอะไรรึเปล่า
ต่อมา ผมเริ่มรู้สึกจะขาดเค้าไม่ได้แล้วซิ เค้าบอกว่า ที่ทำงานที่ใหม่จะรับเข้าทำงานละ ผมก็จิตตกว่า เราคงไม่ได้มาเจอกันบ่อยๆ แบบนีแน่ๆเลย
และก็มีช่วงนึงที่ผมจิตตก แต่ก็หายไป ก็มีเวลามาเจอกันบ้าง ทำบุญ ไปวิ่งด้วยกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง กินข้าวทำกับข้าว โทรคุยกันแต่ไม่บ่อย
เรื่องเพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักของเค้า เค้าก็แนะนำผมกับเพื่อนเค้านะ แต่เค้าก็ไม่บอกว่าฐานะอะไร แต่คือ เพื่อนๆเค้าคิดว่าผมเป็นแฟนเค้าไปแล้ว
ระยะหลังๆ ผมกับเค้าก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย เดือนละ 1-2ครั้ง หรือก็ไม่ได้เจอ ผมก็เรียน ทำงานไปด้วย ไปต่างประเทศบ้าง ล่าสุด ผมไปมาเลเซีย
กลับมา ผมซื่อของฝากของเค้ามาให้เค้าเป็นของขวัญวันเกิด เป็นหนังสือ Architecture of Cocktail เพราะเค้าทำงานด้านอาหาร สองวันหลังจากกลับมาผมก็โทรไปหาเค้า เค้าเลยชวนผมไปว่ายน้ำ ... ผมก็ไป จากนั้นก็ไปเดินเล่นซื้อของกัน ผมอะด้วยความ11รดมั้ง เลยควงแขนเค้านะ เค้าก็ไม่ว่าอะไร เสร็จก็ไปดริ้งกันต่อ ก็ดีครับ ปกติผมไม่ดื่มแอลกอลฮอลนะ แต่ไหนๆแล้วก็ ดื่มเถอะ เค้าบอกมีความสุขดีวันนี้ ร้านอาหารก็ชิวเพลงก็เพราะ เค้าบอก และก็ถ่ายรูปคู่กันลงเฟส ดริ้งเสร็จก็กลับบ้าน ผมก็ไปส่งเค้าแหละ จริงๆเค้าชวนไปกินข้าวที่ห้องด้วย แต่ผมไปไม่ได้เพราะลืมหยิบกุญแจบ้าน ก็เลยไปส่งเค้าที่บ้านแทนและก็ให้ของขวัญวันเกิด เค้าก็เข้ามากอดผม .. แล้วผมก็ขึ้นรถกลับบ้าน ..
วันต่อมา เฟสบุคเค้าโพสรูปของขวัญที่ผมให้แล้วบอกชอบใจมากๆเลย เพราะผมให้ของขวัญที่มีประโยชน์กับเค้า ผมเขียนการ์ดไปด้วยว่า
You are my destiny, I believe และก็เพลง Have i told you lately และอวยพรเค้าเรื่องงาน จริงๆวันเกิดเค้ายังไม่ถึงหรอก ผมให้ก่อน
พอถึงคืนก่อนวันเกิดเค้าผมไปเที่ยวกับเพื่อน ไปฉลองวันเกิดเพื่อนที่ผับ จิงๆก็ไม่ตั้งใจที่จะไม่อวยพรเค้าในวันเกิดนะ แต่ไม่มีเวลาตอนนั้น
กำลังมันส์ได้ที่ ผมอยู่ในผับ เค้าก็โทรมา บอกว่า ตอนเช้าวันเกิดเค้า ผมว่างไปใส่บาตรกะเค้าไหม ตอนนั้นผมก้กึ่งๆเมาละ แต่ผมบอกว่าไป
สรุปผมก็ตื่นไปใส่บาตรกะเค้าแหละ และเค้าก็ลงรูปผมกับเค้าในเฟส เค้าจับมือผมด้วย แต่วันเกิดเค้าผมก็ไม่ว่างไปฉลองเลย เพราะผมต้องไปงาน Party ตอนเย็นๆ เพราะมีบัตรเชิญแล้วอะ ไม่อยากพลาดเพราะปีที่แล้วก็ไม่ได้ไป .. หลังจากงานเลิก ผมก็ ส่ง HBD ไปหาเค้าบอกว่า ผมอยากจะเป็นคนสุดท้ายที่บอก HBD นะ ผมบอกไป 23:56 ได้มั้ง ... ผมก็เห็นแหละว่าวันเกิดเค้าไปกับเพื่อนคนนึงซึ่งผมก็รู้จัก เค้าโพสเฟสเหมือนน้อยใจผมยังไงไม่รู้ว่า ขอบคุณ xxxxx ที่มาอยู่เป็นเพื่อนในวันเกิด ทำนองนีน่ะ (ผมก็ไม่อยากคิดไปเองว่า เค้าพูดถึงผมหรอ แต่เพื่อนบอกว่าใช่) หลังจากวันเกิดเค้า ผมก็เลยชวนเค้าไปทำบุญวันเกิดเค้าที่วัดที่มีตลาดน้ำขวัญเรียม ก็ดีครับ มีความสุข ปล่อยนกปล่อยปลา ผมก็เดินควงแขนเค้าและเค้าก็ถ่ายรูปผมกับเค้าลงเฟสเหมือนกัน
และเพื่อนผมบอก เค้าถ่ายรูปกับผมบ่อยนะ หลังจากวันนั้นผมกับเค้าได้ไม่ได้ว่างเจอกันซะเท่าไหร่ ก็มีคุยไลน โทรหาบ้าง
และสองสามวันที่ผ่านมาผมเองรู้สึกคิดถึงเค้ามากๆ จนรู้สึกรักเค้ามากจนไม่อยากจะเสียเค้าไปอีกแล้ว เพราะผมเองเชื่อ ว่าเค้าคือ Destiny ของผมจริงๆ
ผมเคยคบกับแฟนคนนึงมา 7 ปี ยังไม่รู้สึกมากเท่ากับคนนี้ 3 เดือน
ผมไม่เคยบอกเค้าเลยนะว่าผมคิดยังไงกับเค้า ร้กเค้ามากแค่ไหน คิดถึงแทบใจจะขาด ผมไม่เคยบอกเลย
มันอึดอัด ที่บางทีผมเองก็ไม่รู้ว่าเราคบกันยังไง บางครั้งก็วนฟังเพลง ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน เรื่องของเรา อยากได้ยินว่ารักกัน พรุ่งนี..ไม่สาย
ผมฟังเพลงแบบนี้ ก็ยิ่งฟิลไปใหญ่ ทุกวันนี้ผมเองก็ยังไม่รู้จะทำยังไง และผมเองก็กลัว กลัวว่ามันจะจบแบบเดิมเหมือนที่เคยเป็น ผมไม่เคยถาม ไม่เคยบอกว่า เรากลับมาคบกันดีไหม ... ผมถามเพื่อน เพื่อนบอกว่า ให้เราทั้งคู่เป็นแบบนี้ไปน่ะดีแล้ว ซึ่งผมเองก็มองว่าดีนะ ให้เราต่างคนต่างรู้สึกดีต่อกัน คนอื่นมองว่าเราคือแฟนกัน แต่แค่เราไม่พูดถึงสถานะเท่านั้นเอง
ผมอาจเขียน อ่านอาจจะงงๆ หน่อยนะครับ