ในทฤษฎีทางสังคมวิทยาหรืออาชญวิทยากล่าวว่าสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเราต้องตกต่ำลงนั้น อาจไม่ใช่เพียง “ความขี้เกียจ” หรือ “ความไม่เก่ง” หรือ จนเครียด กินเหล้า หรือชะตากรรมของตัวเขาเอง แต่โครงสร้างและวัฒนธรรมต่างหากที่มีผลกดมนุษย์เอาไว้ อย่างเช่นที่ กฎหมายหรือวัฒนธรรมที่ส่ง คนๆหนึ่ง ไปพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายหากพูดถึง “ความรุนแรง” แล้ว เราอาจนึกว่ามันหมายถึงเพียงการทำร้ายร่างกายต่อกัน แต่ในเชิงสังคมศาสตร์แล้วมีความรุนแรงอีกแบบที่เรียกว่า “ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง” และ “ความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม” ทั้ง 2 อาจไม่ได้มีผลต่อความเจ็บปวดของร่างกายโดยตรง แต่หมายถึง ตัวสภาพโครงสร้างสังคม ไม่ว่าจะเป็น กฎหมาย หรือการใช้อำนาจบาดใหญ่ของผู้นำ
ชีวิตของแด็กคิวล่าก็ เช่นกัน ในหนังเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าค่อนข้างจะซื่อตรงกับประวัติศาสตร์ของ วล้าด เทเปส (Vlad Tepes) เป็นเจ้าครองแคว้นวาลาเชียพอควรถึงจะไม่มากขนาดนั้น หนังฉายภาพถึงประวัติชีวิตของ เจ้าชาย วล้าด เทเปส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ปกครองประเทศราชอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรออตโตมานอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้นที่เขามีฉายว่าความเหี้ยมโหด "จอมเสียบประจาน" โดยเขาทำเพราะต้องการให้เมืองต่างๆหวาดกลัวมากจนหนีไปแทนที่จะสู้รบตบมือกับออโตมัน ซึ่งหากฆ่าล้างหมู่บ้านหนึ่งอีก ร้อยหมู่บ้านจะหนีแทนที่จะสู้ ในวัย 13 แดร็กคิวล่าถูกส่งไปอยู่เอเดรียนโนเปิลนาน 4 ปีในฐานะตัวประกัน ท่ามกลางความโหดร้ายของสงครามที่ญาติพี่น้องถูกสังหาร แดร็กคิวล่าสะสมความกลัวและแค้นแปรเป็นความโหดแบบเลือดเย็น โดยได้รับการฝึกทหารพร้อมเด็กอีกจำนวน 1 พันคนเพื่อควบคุมจำนวนประชากรประเทศราชทั้งปวง (ในสมัยนั้นพวกเตริก์มักนิยมใช้เด็กพวกนี้เป็นคนบำเรอกามบ่อยๆ หรือเรียกว่าตุ๋ยนั่นเอง)หลังจากรับใช้เตริก์ได้ซักพักจึงได้กลับมาครองบ้านเมืองของตน ต่อมาโดยที่สุลต่านเติร์กต้องการที่จะขยายอาณาจักรออตโตมานให้ครอบคลุมยุโรปทั้งหมด จึงได้ออกคำสั่งให้เกณฑ์เด็กชายในประเทศราชทั้งหลายไปฝึกเป็นทหารเด้กอีกครั้ง เจ้าชายจึงปรึกษากับชาวบ้าน ซึ่งหนังให้ภาพประชาธิปไตยที่ถูกระบอบเผด็จการกดขี่ แม้นตนเองจะไม่ยอมแต่ก็ต้องทำ เจ้าชายจึงต้องออกไปตกลงกับปีศาจเพื่อให้ได้อำนาจบางอย่างมาทำลายเผด็จการ นี่คือความรุนแรงเชิงโครงสร้างเชิงระบบที่เผด็จการสร้างให้กับโลก พูดคุยก้แล้วก้ไม้รู้เรื่อง ทำไมอะ ก็กรูจะเอาแบบนี้หนักหัวใคร นี่คือวิธีคิดของเผด็จการทั่วไปจนปัจจุบัน ด้วยเรื่องทั้งหมดจึงเกิด ปีศาจขึ้นมาที่ไม่มีใครต้องการ เจ้าชายเองก็ไม่ต้องการ แม้นผลสุดท้ายจะชนะได้แต่ก็ศูนย์เสียมากเหลือเกินจนคิดว่า ชนะจริงๆรึเปล่า
เพื่อความต้องการของคนๆเดียว ถงกับต้องเอาคนเป็นแสนมาฆ่าตายเพื่อสนองความต้องการของตน
ปล. เราว่าหนังเรื่องนี้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงประเด็นทางศาสนาออกไป ซึ่งก็โอเคสำหรับคนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ใมาก่อน แต่จริงๆแล้วมันก็คือสงครามระหว่างคริสต์กับอิสลามนั่นแหละที่จะสื่อออกมา
หนัง Dracula Untold ความรุนแรงเชิงโครงสร้างคือผู้สร้างปีศาจตัวจริง
ชีวิตของแด็กคิวล่าก็ เช่นกัน ในหนังเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าค่อนข้างจะซื่อตรงกับประวัติศาสตร์ของ วล้าด เทเปส (Vlad Tepes) เป็นเจ้าครองแคว้นวาลาเชียพอควรถึงจะไม่มากขนาดนั้น หนังฉายภาพถึงประวัติชีวิตของ เจ้าชาย วล้าด เทเปส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ปกครองประเทศราชอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรออตโตมานอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้นที่เขามีฉายว่าความเหี้ยมโหด "จอมเสียบประจาน" โดยเขาทำเพราะต้องการให้เมืองต่างๆหวาดกลัวมากจนหนีไปแทนที่จะสู้รบตบมือกับออโตมัน ซึ่งหากฆ่าล้างหมู่บ้านหนึ่งอีก ร้อยหมู่บ้านจะหนีแทนที่จะสู้ ในวัย 13 แดร็กคิวล่าถูกส่งไปอยู่เอเดรียนโนเปิลนาน 4 ปีในฐานะตัวประกัน ท่ามกลางความโหดร้ายของสงครามที่ญาติพี่น้องถูกสังหาร แดร็กคิวล่าสะสมความกลัวและแค้นแปรเป็นความโหดแบบเลือดเย็น โดยได้รับการฝึกทหารพร้อมเด็กอีกจำนวน 1 พันคนเพื่อควบคุมจำนวนประชากรประเทศราชทั้งปวง (ในสมัยนั้นพวกเตริก์มักนิยมใช้เด็กพวกนี้เป็นคนบำเรอกามบ่อยๆ หรือเรียกว่าตุ๋ยนั่นเอง)หลังจากรับใช้เตริก์ได้ซักพักจึงได้กลับมาครองบ้านเมืองของตน ต่อมาโดยที่สุลต่านเติร์กต้องการที่จะขยายอาณาจักรออตโตมานให้ครอบคลุมยุโรปทั้งหมด จึงได้ออกคำสั่งให้เกณฑ์เด็กชายในประเทศราชทั้งหลายไปฝึกเป็นทหารเด้กอีกครั้ง เจ้าชายจึงปรึกษากับชาวบ้าน ซึ่งหนังให้ภาพประชาธิปไตยที่ถูกระบอบเผด็จการกดขี่ แม้นตนเองจะไม่ยอมแต่ก็ต้องทำ เจ้าชายจึงต้องออกไปตกลงกับปีศาจเพื่อให้ได้อำนาจบางอย่างมาทำลายเผด็จการ นี่คือความรุนแรงเชิงโครงสร้างเชิงระบบที่เผด็จการสร้างให้กับโลก พูดคุยก้แล้วก้ไม้รู้เรื่อง ทำไมอะ ก็กรูจะเอาแบบนี้หนักหัวใคร นี่คือวิธีคิดของเผด็จการทั่วไปจนปัจจุบัน ด้วยเรื่องทั้งหมดจึงเกิด ปีศาจขึ้นมาที่ไม่มีใครต้องการ เจ้าชายเองก็ไม่ต้องการ แม้นผลสุดท้ายจะชนะได้แต่ก็ศูนย์เสียมากเหลือเกินจนคิดว่า ชนะจริงๆรึเปล่า
เพื่อความต้องการของคนๆเดียว ถงกับต้องเอาคนเป็นแสนมาฆ่าตายเพื่อสนองความต้องการของตน
ปล. เราว่าหนังเรื่องนี้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงประเด็นทางศาสนาออกไป ซึ่งก็โอเคสำหรับคนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ใมาก่อน แต่จริงๆแล้วมันก็คือสงครามระหว่างคริสต์กับอิสลามนั่นแหละที่จะสื่อออกมา