การจากไปของอั่งเปา ที่ทำให้เราได้โตขึ้น



เป็นวันนึงที่เสียใจที่สุดในชีวิต มาหาอั่งเปาเป็นครั้งสุดท้าย อยู่ด้วยกันมา 6ปี หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก กลับมาห้องมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีเสียงกระทืบ

เพราะความหิวเหมือนเคย ขอโทษอีกครั้งทีดูแลไม่ดี RIP  นี้เป็นข้อความของแฟนเราที่เขียนถึงอั่งเปาเป็นครั้งสุดท้าย  เราเลี้ยงอังเป่าตั้งแต่เราเรียนอยู่ปี 4  

จนตอนนี้เราทำงานมาแล้ว 5 ปี อั่งเปาก็ยังอยู่กับเรา เพื่อนๆของเราสองคนทุกคนจะรู้จักอังเปาหมดเพราะม่ว่าใครไปใครมาทุกคนก็ต้องมาเล่นกับอังเปา อั่ง

เปาเป็นกระต่ายที่อายุยืนและทึกมากสำหรบเราสองคนเพราะไม่ว่าจะเสียงดงใส่แค่ไหน  ทั้งฟ้ารอง เสียงรถไฟ (อั่งเปาเคยนั่งรถไฟบ่อยมากตอนปิดเทอม

แฟนเราจะเอากลับบ้านด้วย)  อั่งเปาก็ไม่เคยกลัว  แม้กระทั้งแมวหรือ หมา  เข้ามาอยู่ใก้ลๆก็ไม่กลัว  แต่อังเปาดันมากลัวกระจกซะงั้น  


ยิ่งเห็นตัวเองในกระจกแล้วตกใจกระโดดหนีเลย  5555  เป็นอะไรที่ขำมากสำหรับเรา    ส่วนวีรกรรม ของอังเปาที่เราจำได้เม่นที่สุดคือ เราตั้งสายชาร์ต

โทรศัพท์ไว้ สองเส้น คือ สายชาร์ต ไอโฟน  และสายชาร์ตโนเกีย  อั่งเปาเลือกที่จะกัดสายชาร์ตไอโฟนจ้า   ทำไมถึงไม่กัดสายโนเกียนะ  เลือกกัดของแพง

ซะด้วย   แต่การที่เรามีอังเปาเข้ามาในชีวิตมันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรๆหลายๆอย่าง  เราสองคนทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องให้อาหารของอั่งเปายอมรับตรงๆเลย

ว่าบางครั้งก็ขี้เกียจคะ  แต่ก็ไม่เคยลืมนะคะแค่เกียงกันเท่านั้นเอง  การที่มีอั่งเปาเข้ามาในชีวิต  ทำให้เราได้เรียนรู้รับผิดชอบ ชิวิตชีวิตหนึ่ง  ทั้งต้อง คอยใส่

ใจดูแลทุกอย่าง  และแล้ววันหนึ่งที่อังเปาไม่สบายก็มาถึง  เราสองคน พาอังเปาไปที่โรงพยาบาล  เพราะอังเปามีอาการชัก  หมอพาอังเปาเข้าไปในห้องแต่

เราไม่สามารถที่จะยืนดูอังเปาอยู่ได้  เราจึงออกมานั่งหน้าห้อง  เราร้องไห้เสียใจมากความรู้สึกตอนนั้นเข้าใจเลยคะว่า วันที่เราไม่สบายพ่อแม่เราเป็นห่วงเรา

ยังไง  จนหมอเดินมาบอกว่าอั่งเปาต้องนอนที่โรงพยาบาลถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะติดต่อกลับไป  แต่หมอบอกว่าโอกาสที่อังเปาจะจากเราไปนั้นมีสูงมาก  ตอนนั้น

เราสองคนเริ่มทำใจเลยว่าอั่งเปาอาจจะไม่ได้อู่กับเราอีกแล้ว   คืนนั้นหมอก็ติดต่อกลับมาตอนเวลาเทียงคืน  เรากลัวมากว่าหมอจะบอกว่าอังเปาเป็ฯอะไร  แต่

หมอ ก็โทรมาแค่บอกอาการเท่านั้น  เราโล่งใจมากที่อังเปายังอยู่กับเรา   เช้าของวันจันทร์ประมาณ 10.30  เราเลยโทรหาคุณหมอ ถามอาการของอังเปา  

หมอก็บอกว่าอังเปา พยายามที่จะลุกขึนเอง  แต่ไม่มีแรก เลยลุกไม่ได้  แต่อังเปาไม่ทานอาหาร  หมอเลยให้น้ำเกลือ   พอประมาณเทียง แฟนเราก็ไลน์

มาบอกว่า เสียแล้ว  เราถามว่าอะไรเสีย ก็ไม่บอก  ด้วยความร้อยใจ เราเลยโทรไปถาม เขากลับพูดกับเราไม่ได้  เราได้ยินแต่เสียงร้องไห้ เราเลยร้องไห้ด้วย

กันทางโทรศัพท์   เย็ฯวันนั้นเราสองคนรีบไปที่โรงพยาบาล  เพื่อจัดการกับร่างอันไร้วิญญาณของอังเปา  เราให้ทางโรงพยาบาลเผาศพอังเปาให้  แต่แฟน


เราขอให้ทางโรงพยาบาลตัดขนอังเปาเก็บไว้เป็ฯความทรงจำครั้งหนึ่งเคยมีสมาชิกในครอบครัวเป็นกระต่าย อ้วนกินจุ  ชอบกัดของทุกสิ่งอย่าง  

ปล.ขอบคุณอั่งเปามากๆนะที่เข้ามาเต็มเติมในชีวิตของเราสองคน   ขอบคุณที่ทำให้ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเรามีความสุขมาก  และขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรจากอังเปามากมาย  ขอบคุณจริงๆนะอังเปา  รักอังเปาเสมอ .........(-  -)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่