คือเรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวเรามีกัน 5 คนค่ะ เราเป็นลูกสาวคนโต ตอนนี้แต่งงานมีลูก 1 คนแล้ว คนกลางกำลังเรียนอยู่ปี4 มีแฟนแล้ว ตอนนี้อาศัยอยู่บ้านแฟน น้องชายคนเล็ก อายุ 17 เรียนไม่จบ เพราะไม่เอาถ่าน ติดเพื่อน ติดเกมส์ ที่สำคัญ มีลูกแล้วด้วย 1 ขวบ เท่าที่ดูเหมือนครอบครัวไม่ค่อยอบอุ่นค่ะ มีปัญหาเรื่องเงินมาโดยตลอด
ขอเท้าความเรื่องพ่อกับแม่เลยละกันค่ะ พ่อกับแม่แต่งกันกันมา 23 ปีแล้วค่ะ พ่ออายุแก่กว่าแม่ 10 ปี ตอนนี้แม่อายุ 43 ค่ะ พ่อเป็นคนที่ไม่ค่อยเอาถ่าน งานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้ เวลาเหล้าเข้าปากจะกลายเป็นอีกคนไปเลย ก้าวร้าวมาก ตอนเราเด็กๆ เคยเห็นภาพพ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยมาก ยังจำภาพที่พ่อทำร้ายแม่จนเลือดอาบได้เลย แต่พอลูกๆโตขึ้น ก็ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ (เหตุการณ์พ่อเมาเหล้าแล้วทำร้ายแม่) แต่ก็ยังดื่มเหล้าบ้าง แต่ทุกครั้งที่เมา ก็จะมีเรื่องตลอด เหตุการณ์น่าจะเริ่มเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน เราจับได้ว่าแม่แอบคุยโทรศัพท์กับกิ๊กค่ะ เราแอบฟัง พอจับใจความได้ว่า กิ๊กน่าจะเด็กกว่าแล้วโทรมาขอเงิน พอแม่เราวางโทรศัพท์ไป เราก็ทะเลาะกับแม่เรื่องนี้เลยค่ะ หลังจากทีจับได้เราก็โทรไปหา ผช.คนนั้น ว่าอย่ามายุ่งกับแม่เราอีก หลังจากจบเหตุการณ์นั้นไปแล้ว เราก็ไม่ได้สนใจอีก เพราะคิดว่ามันคงจบไปแล้ว
แม่เราทำงานขายของตอนกลางคืนค่ะ ไปคนเดียว แล้วมักจะคลุกคลีอยู่กับสาวนั่งดริ้งค่ะ เพราะขายของให้กับคนพวกนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่เราจับได้ว่าแม่คุยกับกิ๊ก หลังจากนั้น ซักประมาณ 6 – 8 เดือน แม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน (คือแม่เราปกติตอนเช้าจะนอนอยู่บ้าน แล้วเย็นๆถึงจะออกไปขายของกลับบ้านมาก็ประมาณที่ตองตีสามค่ะ) แต่ช่วงหลังแม่จะกลับมาซัก 7-8 โมง ทำกับข้าวให้กิน แล้วซัก 10 โมง ก็ออกบ้านไป อ้างว่าไปทำงานกับร้านเสริมสวยแถวๆที่ขายของ เค้าให้วันละ 200 แล้วแม่ก็เริ่มขนเสื้อผ้าออกบ้านไปวันละชุดสองชุด เราก็ถามไปว่าไปอาบน้ำไปเปลี่ยนผ้าที่ไหน แล้วทำไมไม่กลับมาเปลี่ยนที่บ้านมานอนที่บ้านเหมือนเดิม แกก็บอกว่าไปอยู่หอเด็กนั่งดริ้งค์คนนึง ชื่อฟาง(นามสมมุติค่ะ) ดูแกจะสนิทสนมกับเด็กคนนี้มาก แม่จะคุยว่าไปนั่นไปนี่กับคนชื่อฟางตลอด แม่คนชื่อฟางตายก็ไปงานศพเค้าที่เชียงราย ลืมบอกไปครอบครัวเราอยู่เชียงใหม่ค่ะ ไปเที่ยวไปกินที่ไหนก็อ้างว่าไปกับคนชื่อฟางตลอด เราก็เริ่มเอะใจนะ ว่าทำไมสนิทสนมกันขนาดนี้ คิดไปไกลถึงขนาดหรือแม่จะเป็นทอมแล้วแอบคบกับคนชื่อฟางรึเปล่า (แม่เราชอบตัดผมสั้นแบบบ๊อบเลยค่ะ แล้วชอบแต่งตัวแบบเสื้อโปโล กางเกงยีนส์ ) แม่เริ่มขนเสื้อผ้าออกไปจนหมดตู้ มีเหลือแต่เสื้อผ้าพ่อ จนพ่อเริ่มคิดมาก ว่าแม่ไม่เคยกลับมานอนบ้านเลย กลับมาแค่ตอนเช้า ชั่วโมงสองชั่วโมงก็ออกไป พอพ่อเริ่มคิดมากก็กินเหล้าค่ะ พอกินแล้วก็เมาค่ะ เมาแล้วก็กลับมาโวยวายที่บ้าน ทำลายข้าวของ จนบางครั้งเราต้องโทรเรียก ตร.มาช่วยเลยค่ะ เพราะเรากลัว
ตอนนั้นเราเริ่มตั้งครรภ์แล้วค่ะอยู่กับน้องชายแค่สองคน เพราะน้องคนกลางย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวแฟนเค้าได้ปีสองปีแล้ว พ่อเมาแล้วเป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 ครั้งตลอดระยะเวลา 2 ปี พอเราคลอดลูกเราก็ย้ายมาอยู่บ้านแฟน แต่เราก็กลับไปบ้านทุกอาทิตย์ค่ะ จนเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม่โทรมาหาเราว่าจะขายบ้าน เพราะมีหนี้สินล้นตัว จะขายเพื่อนำเงินมาปิดหนี้ แล้วจะเอาเงินก้อนที่เหลือมาตั้งตัวใหม่ แรกๆเราไม่เห็นด้วยค่ะ แต่พ่อกับแม่ก็คงปรึกษากันแล้วว่าจะขาย เราก็เลยบอกขาย ก็ขาย แต่ต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งนะ หรือไม่ก็อย่างน้อยก็ซื้อที่ดินเก็บไว้ซักผืน ต้นเดือนสิงหาคม ตอนเช้าแม่โทรมาบอกเราว่าขายบ้านเรียบร้อยแล้วนะ ย้ายมาเช่าตึกแถวแล้ว พ่อจะขายก๋วยเตี๋ยว เราก็อึ้งแป๊บ พร้อมกับบ่นว่าทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันเลย แม่ก็บ่นกลับเราว่าไม่ต้องบ่น เลิกยุ่งได้ละ แม่กับพ่อตัดสินใจแล้ว เราก็เลยเลิกบ่นค่ะ หักหนี้หักสินไป เหลือเงินประมาณ 1 แสนกว่าๆ ค่ะ ไม่พอซื้อที่ดินเปล่าเก็บไว้ตามที่คิดไว้ เพราะแม่ขายแบบถูกมาก เหมือนต้องการเงินด่วน
เดี๋ยวมาต่อค่ะ ไปทานข้าวก่อนค่ะ
พ่อโดนแม่สวมเขามานาน 3-4 ปี ตอนนี้ไปไม่ถูกเครียดมาก ไม่รู้จะจัดการปัญหายังไงดีค่ะ
ขอเท้าความเรื่องพ่อกับแม่เลยละกันค่ะ พ่อกับแม่แต่งกันกันมา 23 ปีแล้วค่ะ พ่ออายุแก่กว่าแม่ 10 ปี ตอนนี้แม่อายุ 43 ค่ะ พ่อเป็นคนที่ไม่ค่อยเอาถ่าน งานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้ เวลาเหล้าเข้าปากจะกลายเป็นอีกคนไปเลย ก้าวร้าวมาก ตอนเราเด็กๆ เคยเห็นภาพพ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยมาก ยังจำภาพที่พ่อทำร้ายแม่จนเลือดอาบได้เลย แต่พอลูกๆโตขึ้น ก็ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ (เหตุการณ์พ่อเมาเหล้าแล้วทำร้ายแม่) แต่ก็ยังดื่มเหล้าบ้าง แต่ทุกครั้งที่เมา ก็จะมีเรื่องตลอด เหตุการณ์น่าจะเริ่มเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน เราจับได้ว่าแม่แอบคุยโทรศัพท์กับกิ๊กค่ะ เราแอบฟัง พอจับใจความได้ว่า กิ๊กน่าจะเด็กกว่าแล้วโทรมาขอเงิน พอแม่เราวางโทรศัพท์ไป เราก็ทะเลาะกับแม่เรื่องนี้เลยค่ะ หลังจากทีจับได้เราก็โทรไปหา ผช.คนนั้น ว่าอย่ามายุ่งกับแม่เราอีก หลังจากจบเหตุการณ์นั้นไปแล้ว เราก็ไม่ได้สนใจอีก เพราะคิดว่ามันคงจบไปแล้ว
แม่เราทำงานขายของตอนกลางคืนค่ะ ไปคนเดียว แล้วมักจะคลุกคลีอยู่กับสาวนั่งดริ้งค่ะ เพราะขายของให้กับคนพวกนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่เราจับได้ว่าแม่คุยกับกิ๊ก หลังจากนั้น ซักประมาณ 6 – 8 เดือน แม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน (คือแม่เราปกติตอนเช้าจะนอนอยู่บ้าน แล้วเย็นๆถึงจะออกไปขายของกลับบ้านมาก็ประมาณที่ตองตีสามค่ะ) แต่ช่วงหลังแม่จะกลับมาซัก 7-8 โมง ทำกับข้าวให้กิน แล้วซัก 10 โมง ก็ออกบ้านไป อ้างว่าไปทำงานกับร้านเสริมสวยแถวๆที่ขายของ เค้าให้วันละ 200 แล้วแม่ก็เริ่มขนเสื้อผ้าออกบ้านไปวันละชุดสองชุด เราก็ถามไปว่าไปอาบน้ำไปเปลี่ยนผ้าที่ไหน แล้วทำไมไม่กลับมาเปลี่ยนที่บ้านมานอนที่บ้านเหมือนเดิม แกก็บอกว่าไปอยู่หอเด็กนั่งดริ้งค์คนนึง ชื่อฟาง(นามสมมุติค่ะ) ดูแกจะสนิทสนมกับเด็กคนนี้มาก แม่จะคุยว่าไปนั่นไปนี่กับคนชื่อฟางตลอด แม่คนชื่อฟางตายก็ไปงานศพเค้าที่เชียงราย ลืมบอกไปครอบครัวเราอยู่เชียงใหม่ค่ะ ไปเที่ยวไปกินที่ไหนก็อ้างว่าไปกับคนชื่อฟางตลอด เราก็เริ่มเอะใจนะ ว่าทำไมสนิทสนมกันขนาดนี้ คิดไปไกลถึงขนาดหรือแม่จะเป็นทอมแล้วแอบคบกับคนชื่อฟางรึเปล่า (แม่เราชอบตัดผมสั้นแบบบ๊อบเลยค่ะ แล้วชอบแต่งตัวแบบเสื้อโปโล กางเกงยีนส์ ) แม่เริ่มขนเสื้อผ้าออกไปจนหมดตู้ มีเหลือแต่เสื้อผ้าพ่อ จนพ่อเริ่มคิดมาก ว่าแม่ไม่เคยกลับมานอนบ้านเลย กลับมาแค่ตอนเช้า ชั่วโมงสองชั่วโมงก็ออกไป พอพ่อเริ่มคิดมากก็กินเหล้าค่ะ พอกินแล้วก็เมาค่ะ เมาแล้วก็กลับมาโวยวายที่บ้าน ทำลายข้าวของ จนบางครั้งเราต้องโทรเรียก ตร.มาช่วยเลยค่ะ เพราะเรากลัว
ตอนนั้นเราเริ่มตั้งครรภ์แล้วค่ะอยู่กับน้องชายแค่สองคน เพราะน้องคนกลางย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวแฟนเค้าได้ปีสองปีแล้ว พ่อเมาแล้วเป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 ครั้งตลอดระยะเวลา 2 ปี พอเราคลอดลูกเราก็ย้ายมาอยู่บ้านแฟน แต่เราก็กลับไปบ้านทุกอาทิตย์ค่ะ จนเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม่โทรมาหาเราว่าจะขายบ้าน เพราะมีหนี้สินล้นตัว จะขายเพื่อนำเงินมาปิดหนี้ แล้วจะเอาเงินก้อนที่เหลือมาตั้งตัวใหม่ แรกๆเราไม่เห็นด้วยค่ะ แต่พ่อกับแม่ก็คงปรึกษากันแล้วว่าจะขาย เราก็เลยบอกขาย ก็ขาย แต่ต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งนะ หรือไม่ก็อย่างน้อยก็ซื้อที่ดินเก็บไว้ซักผืน ต้นเดือนสิงหาคม ตอนเช้าแม่โทรมาบอกเราว่าขายบ้านเรียบร้อยแล้วนะ ย้ายมาเช่าตึกแถวแล้ว พ่อจะขายก๋วยเตี๋ยว เราก็อึ้งแป๊บ พร้อมกับบ่นว่าทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันเลย แม่ก็บ่นกลับเราว่าไม่ต้องบ่น เลิกยุ่งได้ละ แม่กับพ่อตัดสินใจแล้ว เราก็เลยเลิกบ่นค่ะ หักหนี้หักสินไป เหลือเงินประมาณ 1 แสนกว่าๆ ค่ะ ไม่พอซื้อที่ดินเปล่าเก็บไว้ตามที่คิดไว้ เพราะแม่ขายแบบถูกมาก เหมือนต้องการเงินด่วน
เดี๋ยวมาต่อค่ะ ไปทานข้าวก่อนค่ะ