.....ข้าวไทยน้ำตาลต่ำ..กินแล้วไม่อ้วน

กระทู้สนทนา
.....เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นักวิจัยสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าประชากรโลกป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งเป็นผลมาจากโรคอ้วน
ทั้งนี้ เบาหวานยังก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามอีกมาก อาทิ โรคหัวใจ
และสุดท้ายผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากโรคตับและไต เนื่องจากต้องกินยามาก
ดังนั้น การป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าวจึงจำเป็น
ทั้งนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือ กินอาหารในชีวิตประจำวันให้เป็นยา

....สำหรับประเทศไทยที่บริโภคข้าวเป็นหลัก
จึงต้องการให้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวให้มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักตัว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ทั้งนี้ จากการศึกษาคุณสมบัติข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
พบว่า ข้าวเหลือง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกภาคอีสานมีปริมาณโฟเลต
(ซึ่งช่วยป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่
และป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้)
สูงถึง 100 ไมโครกรัม ต่อข้าว 100 กรัม
ขณะที่คนปกติต้องการโฟเลตวันละ 400 ไมโครกรัม

แต่ปัญหาคือข้าวสายพันธุ์นี้ค่อนข้างแข็งจึงต้องมีการศึกษาและพัฒนาให้ข้าวอ่อนนุ่มมากขึ้น
..ส่วนข้าวเจ้าลอย หรือข้าวหนีน้ำมีปริมาณโฟเลตและฟอสฟอรัสต่ำเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มแพทย์ แต่ปริมาณข้าวมีไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการของบประมาณเพื่อศึกษา

....“นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวกล่ำ มีสารแอนโทไซยานินสูง ซึ่งช่วยเรื่องผิวพรรณ ชะลอการเหี่ยวย่น
ที่น่าสนใจคือมีความคล้ายคลึงกับข้าวดำของจีน
ที่สกัดเอาสารสำคัญไปให้หนูทดลองกินอย่างสม่ำเสมอ
แล้วเอาดวงตาหนูไปจ่อกับรังสีอัลตราไวโอเลต เพื่อเร่งให้เกิดต้อกระจก
โดยพบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดจากข้าวดำมีดวงตาเป็นปกติ
แต่หนูที่ไม่ได้รับสารพบว่าเรตินาถูกทำลายลง
..ขณะนี้ เรากำลังค้นหาพันธุ์ข้าวที่มีในประเทศไทยเพื่อศึกษาคุณสมบัติ
คุณค่าทางโภชนาการ และความจำเพาะต่อโรคบางโรคว่ามีหรือไม่อย่างไร

เพราะถ้าหวังให้มีการปรับปรุงสายพันธุ์จะใช้เวลานาน
ซึ่งหากพบแล้วจะเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร
สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
และเกษตรกรก็จะไม่ละทิ้งที่ดินของตัวเอง” [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สนับสนุนเนื้อหา :  ครอบครัวข่าว 3
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่