ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่าเรื่องราวที่อยากจะแชร์และขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ
มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตเรามาจนถึงวันนี้จะ ครบรอบ2ปีแล้วค่ะ
ตามหัวข้อกระทู้เลย ... เราเป็นผู้หญิงที่มีแฟนเป็นผู้หญิง... จะว่ามีแฟนเป็นทอมก็ไม่ใช่
เพราะด้วยอายุและหน้าที่การงานเวลาอยู่ในสังคมแฟนของเราเค้าจะวางตัวให้เหมาะสมเสมอ
เราอายุ27ปีค่ะส่วนแฟนอายุ33 เราทั้งสองเป็นคนภาคเดียวกันแต่พบรักกันต่างพื้นที่และผิดเวลา
ขอเล่าความเป็นมาเลยล้ะกันนะค่ะ เราขอย้อนเวลากลับไปช่วงเดือน ธันวา ปี55 ที่ได้รู้จักแฟนคนนี้
อย่างที่บอกว่าเราพบรักกันต่างพื้นที่และผิดเวลา เราทั้งสองตอนนั้นมีแฟนแล้วค่ะ(แฟนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน)
เราบังเอิญพบกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งโดยเพื่อนเค้าเป็นแม่สื่อให้ ตอนแรกเค้าเข้าใจว่าเรายังเรียนอยุ่
(อาจจะเพราะตัวเล็กๆและหน้าเด็กค่ะ) แต่เราทำงานแล้วหน้าที่การงานตอนนั้นโอเคค่ะถือได้ว่าเป็นอาชีพใฝ่ฝัน
ของใครหลายๆคนเลยว่าได้ส่วนแฟนเราพี่เค้าก็หน้าที่การงานและหน้าตาทางสังคมถือว่าดีค่ะ
เพราะเนื่องจากแฟนคนเก่าของพี่เค้าเป็นคนในพื้นที่ (สรุปทุกคนมีหน้าที่การงานดีหมดแต่จะต่าง
กันตรงที่หน้าตาทางสังคมแค่นั้นค่ะ) เริ่มแรกก็แลกเบอร์กันตามปกติตอนนั้นเรายอมรับว่าไม่ได้สนใจอะไรพี่เค้าเลย
อาจด้วยเพราะสเป็กเราชอบคนตัวเล็กขาวๆน่ารักๆแต่นี่ตรงกันข้ามเลยค่ะพี่เค้าเป็นคนตัวใหญ่(ถ้ามองเป็นผู่หญิงถือว่าอ้วนและเตี้ย)
แต่พอได้คุยและรู้จักได้ใกล้ชิดพี่เค้าเป็นคนที่มีเสน่ห์มากทั้งต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกันอาจเพราะอายุและสังคมที่ทำให้พี่เค้าสามารถที่จะ
คุยกับทุกเพศทุกฐานะได้เป็นอย่างดีและมันก็ทำให้เราตกหลุมเสน่ห์เค้าค่ะ เราสองคนแอบนัดมาเจอกันบ่อยมากค่ะจนสุดท้ายเเกินเลยถึงเรื่องแบบนั้น
จากนั้น มามันยิ่งทำให้เราพอใจกันมากยิ่งขึ้น(ยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่าเราทั้งสองต่างฝ่ายต่างพอใจในอารมณ์รักของกันและกันค่ะ)
จนท้ายสุดแฟนเราทั้งสองจับได้ตอนนั้นยืดยื้อกันซักระยะนึงค่ะเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยทีเดียวเพราะการกระทำของเราทั้งสองไม่มีใครยอมรับและเข้าใจแม้กระทั่งคนในครอบครัวของทั้งสองฝ่าย
อ่อลืมบอกไปค่ะเราคบกับคนเก่าได้6ปี ส่วนแฟนเราก็คบกับคนนั้น6ปีเช่นกันแต่ด้วยอายุและหน้าที่การงานจึงทำให้ฝ่ายแฟนของเรากับผู้หญิงคนนั้นมีภาระและหนี้สินเกี่ยวพันกันมากมาย
ทั้งคอนโดทั้งรถทั้งบัตรเครดิตที่เคยใช้ร่วมกันจึงส่งผลมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ตัดขาดจากกัน....ส่วนตัวของเราและแฟนคนเก่าเราจากกันด้วยดีค่ะ เพราะเราทั้งสองเริ่มมีปัญหา
กันก่อนหน้าแล้วเพราะเริ่มคบกันตั้งแต่สมัยเรียนพอสังคมเปลี่ยนเข้าสู่วัยทำงานทำให้มีปัญหากันบ่อยขึ้นจนพูดกันไว้ว่าถ้าเจอคนที่ใช่กว่าจะยอมปล่อยกันและกันและพอมีเรื่องนี้ขึ้นมาเค้าก็เข้าใจค่ะ เอาล่ะ......ดูเหมือนเรื่องราวมันจะจบง่ายๆใช่ไหมค่ะแต่ไม่เลยค่ะ หลังจากนั้นประมาณ3เดือน (ขอเรียกแฟนปัจจุบันว่าพี่ จ. แล้วแฟนเก่าของพี่ จ. ว่าพี่ น. #เจ้าของกระทู้เริ่ม งง เองค่ะ) มันมีเหตุการณ์ที่ต้องทำให้พี่ จ. กลับไปอยุ่บ้านอย่างถาวร มันจึงทำให้พี่ จ. และพี่ น. ห่างกันยิ่งขึ้น รวมไปถึงตัวเราด้วย ตอนนั้นยอมรับว่าช่วงที่พี่ จ. กลับไปอยุ่บ้านเรารู้สึกโหยหาเค้ามาก ดิ้นรนที่อยากจะเจอ เราลางานทุกเดือนเพื่อเดินทางไปหาพี่ จ. (งานที่เราทำตอนนั้นสามารถสะสมวันหยุดได้ค่ะหยุดทีนึงก็3วันขึ้นไป แต่ต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเราที่ไปหาพี่เค้าต้องบอกว่าสูงมาก #ต่อเครื่อง2ไฟท์ ภายในประเทศนะค่ะ) ซึ่งต่างจาก พ่ี น. ที่ไม่มีเวลาไปหาเพราะเวลางานไม่ได้ ต้องบอกก่อนนะค่ะว่าตอนนั้น พี่ จ. กับพี่ น. ยังไม่เลิกกันเด็ดขาดเหตุผลที่แท้จริงเราก็ยังไม่มั่นใจจนถึงปัจจุบันนี้ ตอนนั่นเรายอมที่จะขึ้นชื่อว่า เป็นรองค่ะ แต่ก็ยอมเค้าโดยพี่ จ. จะมีเหตุผลของเค้าเสมอ (บางทีเรายังคิดว่ามัน...ใช่ไหม??) เราบินไปบินมาหาพี่ จ. ทุกเดือนเป็นแบบนี้ได้ประมาณ 7 เดือนค่ะ ทุกครั้งที่ไปหาพี่ จ. ที่บ้านตอนแรกๆเราไม่ได้รับความยินดีกับที่บ้านพี่เค้าเลย อาจเพราะคงมองว่าเราเด็กและเข้ามาแบบผิดๆ แอบมาหาทั้งๆที่ พี่ จ. กับ พ่ี น. ยังไม่เลิกรากัน แม่พี่เค้าจะออกอาการกับเรามากทุกครั้งที่ไปบ้านเค้า มีครั้งนึงไม่รับไหว้จากเรา เราแอบร้องในห้องก็มี แม่พี่เค้าจะรู้เรื่องราวทุกอย่างเพราะจะคุยกันตลอดกับพี่ น. ตอนแรกเราถอดใจไปแล้วค่ะเพราะไม่รู้จะทนไปทำไม อะไรมันก็บอกอยุ่แล้วว่าเราไม่ใช่ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเราถึงเชื่อพี่ จ. ทุกอย่างไม่ว่าเค้าจะพูดหรือทำอะไร ทุกครั้งที่เราบินไปหาพี่เค้าก่อนนอนหรือช่วงเวลาของวัน พี่ น. ก็จะโทมาตลอด เราก็ได้แต่เงียบไม่ให้พี่ น. รู้ว่าเราอยุ่ (เมียน้อยชัดๆ--") แต่พี่ จ. จะระวังคำพูดตัวเองไม่ให้ทำร้ายเรามากเกินไปเวลาต่อหน้าเราก็จะเลี่ยงๆคำพูด แต่เราก็พอรู้แหละว่าลับหลังจะพูดยังไง ถ้าถามว่าทำไมถึงยอม??? เราก็ถามตัวเองอยุ่ตลอดว่าทำไม แต่เรารู้อยู่อย่างเดียวว่าอยากมีพี่ จ. อยุ่ไม่ว่าจะอยุ่ในสถานะไหนจะอยุ่จนกว่ารู้สึกไม่ไหวและจะเดินออกไปเอง ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆค่ะ อาจจะว่าหลงก็คงใช่นะค่ะ พอเราได้รู้จักและสนิทสนมจนคุยกับพี่ จ. ทุกเรื่อง เรื่องราวสาเหตุที่พี่เค้าไม่เลิกกับพี่ น. เพราะเรื่องเงินค่ะ คือเหตุการณ์ต่างๆมันเริ่มจะทำให้เราเข้าใจเองได้บ้างแต่เราก็ไม่อยากคิดแบบนั้นกับพี่เค้า จนเค้าเป็นฝ่ายบอกเราเองจากปาก...(อึ้งค่ะ) ยังไม่จบนะค่ะมีต่อค่ะ...อาบน้ำแปป
เราควรคบผู้หญิง..คนดีต่อไปดีหรือเปล่าค่ะ??
มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตเรามาจนถึงวันนี้จะ ครบรอบ2ปีแล้วค่ะ
ตามหัวข้อกระทู้เลย ... เราเป็นผู้หญิงที่มีแฟนเป็นผู้หญิง... จะว่ามีแฟนเป็นทอมก็ไม่ใช่
เพราะด้วยอายุและหน้าที่การงานเวลาอยู่ในสังคมแฟนของเราเค้าจะวางตัวให้เหมาะสมเสมอ
เราอายุ27ปีค่ะส่วนแฟนอายุ33 เราทั้งสองเป็นคนภาคเดียวกันแต่พบรักกันต่างพื้นที่และผิดเวลา
ขอเล่าความเป็นมาเลยล้ะกันนะค่ะ เราขอย้อนเวลากลับไปช่วงเดือน ธันวา ปี55 ที่ได้รู้จักแฟนคนนี้
อย่างที่บอกว่าเราพบรักกันต่างพื้นที่และผิดเวลา เราทั้งสองตอนนั้นมีแฟนแล้วค่ะ(แฟนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน)
เราบังเอิญพบกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งโดยเพื่อนเค้าเป็นแม่สื่อให้ ตอนแรกเค้าเข้าใจว่าเรายังเรียนอยุ่
(อาจจะเพราะตัวเล็กๆและหน้าเด็กค่ะ) แต่เราทำงานแล้วหน้าที่การงานตอนนั้นโอเคค่ะถือได้ว่าเป็นอาชีพใฝ่ฝัน
ของใครหลายๆคนเลยว่าได้ส่วนแฟนเราพี่เค้าก็หน้าที่การงานและหน้าตาทางสังคมถือว่าดีค่ะ
เพราะเนื่องจากแฟนคนเก่าของพี่เค้าเป็นคนในพื้นที่ (สรุปทุกคนมีหน้าที่การงานดีหมดแต่จะต่าง
กันตรงที่หน้าตาทางสังคมแค่นั้นค่ะ) เริ่มแรกก็แลกเบอร์กันตามปกติตอนนั้นเรายอมรับว่าไม่ได้สนใจอะไรพี่เค้าเลย
อาจด้วยเพราะสเป็กเราชอบคนตัวเล็กขาวๆน่ารักๆแต่นี่ตรงกันข้ามเลยค่ะพี่เค้าเป็นคนตัวใหญ่(ถ้ามองเป็นผู่หญิงถือว่าอ้วนและเตี้ย)
แต่พอได้คุยและรู้จักได้ใกล้ชิดพี่เค้าเป็นคนที่มีเสน่ห์มากทั้งต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกันอาจเพราะอายุและสังคมที่ทำให้พี่เค้าสามารถที่จะ
คุยกับทุกเพศทุกฐานะได้เป็นอย่างดีและมันก็ทำให้เราตกหลุมเสน่ห์เค้าค่ะ เราสองคนแอบนัดมาเจอกันบ่อยมากค่ะจนสุดท้ายเเกินเลยถึงเรื่องแบบนั้น
จากนั้น มามันยิ่งทำให้เราพอใจกันมากยิ่งขึ้น(ยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่าเราทั้งสองต่างฝ่ายต่างพอใจในอารมณ์รักของกันและกันค่ะ)
จนท้ายสุดแฟนเราทั้งสองจับได้ตอนนั้นยืดยื้อกันซักระยะนึงค่ะเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยทีเดียวเพราะการกระทำของเราทั้งสองไม่มีใครยอมรับและเข้าใจแม้กระทั่งคนในครอบครัวของทั้งสองฝ่าย
อ่อลืมบอกไปค่ะเราคบกับคนเก่าได้6ปี ส่วนแฟนเราก็คบกับคนนั้น6ปีเช่นกันแต่ด้วยอายุและหน้าที่การงานจึงทำให้ฝ่ายแฟนของเรากับผู้หญิงคนนั้นมีภาระและหนี้สินเกี่ยวพันกันมากมาย
ทั้งคอนโดทั้งรถทั้งบัตรเครดิตที่เคยใช้ร่วมกันจึงส่งผลมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ตัดขาดจากกัน....ส่วนตัวของเราและแฟนคนเก่าเราจากกันด้วยดีค่ะ เพราะเราทั้งสองเริ่มมีปัญหา
กันก่อนหน้าแล้วเพราะเริ่มคบกันตั้งแต่สมัยเรียนพอสังคมเปลี่ยนเข้าสู่วัยทำงานทำให้มีปัญหากันบ่อยขึ้นจนพูดกันไว้ว่าถ้าเจอคนที่ใช่กว่าจะยอมปล่อยกันและกันและพอมีเรื่องนี้ขึ้นมาเค้าก็เข้าใจค่ะ เอาล่ะ......ดูเหมือนเรื่องราวมันจะจบง่ายๆใช่ไหมค่ะแต่ไม่เลยค่ะ หลังจากนั้นประมาณ3เดือน (ขอเรียกแฟนปัจจุบันว่าพี่ จ. แล้วแฟนเก่าของพี่ จ. ว่าพี่ น. #เจ้าของกระทู้เริ่ม งง เองค่ะ) มันมีเหตุการณ์ที่ต้องทำให้พี่ จ. กลับไปอยุ่บ้านอย่างถาวร มันจึงทำให้พี่ จ. และพี่ น. ห่างกันยิ่งขึ้น รวมไปถึงตัวเราด้วย ตอนนั้นยอมรับว่าช่วงที่พี่ จ. กลับไปอยุ่บ้านเรารู้สึกโหยหาเค้ามาก ดิ้นรนที่อยากจะเจอ เราลางานทุกเดือนเพื่อเดินทางไปหาพี่ จ. (งานที่เราทำตอนนั้นสามารถสะสมวันหยุดได้ค่ะหยุดทีนึงก็3วันขึ้นไป แต่ต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเราที่ไปหาพี่เค้าต้องบอกว่าสูงมาก #ต่อเครื่อง2ไฟท์ ภายในประเทศนะค่ะ) ซึ่งต่างจาก พ่ี น. ที่ไม่มีเวลาไปหาเพราะเวลางานไม่ได้ ต้องบอกก่อนนะค่ะว่าตอนนั้น พี่ จ. กับพี่ น. ยังไม่เลิกกันเด็ดขาดเหตุผลที่แท้จริงเราก็ยังไม่มั่นใจจนถึงปัจจุบันนี้ ตอนนั่นเรายอมที่จะขึ้นชื่อว่า เป็นรองค่ะ แต่ก็ยอมเค้าโดยพี่ จ. จะมีเหตุผลของเค้าเสมอ (บางทีเรายังคิดว่ามัน...ใช่ไหม??) เราบินไปบินมาหาพี่ จ. ทุกเดือนเป็นแบบนี้ได้ประมาณ 7 เดือนค่ะ ทุกครั้งที่ไปหาพี่ จ. ที่บ้านตอนแรกๆเราไม่ได้รับความยินดีกับที่บ้านพี่เค้าเลย อาจเพราะคงมองว่าเราเด็กและเข้ามาแบบผิดๆ แอบมาหาทั้งๆที่ พี่ จ. กับ พ่ี น. ยังไม่เลิกรากัน แม่พี่เค้าจะออกอาการกับเรามากทุกครั้งที่ไปบ้านเค้า มีครั้งนึงไม่รับไหว้จากเรา เราแอบร้องในห้องก็มี แม่พี่เค้าจะรู้เรื่องราวทุกอย่างเพราะจะคุยกันตลอดกับพี่ น. ตอนแรกเราถอดใจไปแล้วค่ะเพราะไม่รู้จะทนไปทำไม อะไรมันก็บอกอยุ่แล้วว่าเราไม่ใช่ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเราถึงเชื่อพี่ จ. ทุกอย่างไม่ว่าเค้าจะพูดหรือทำอะไร ทุกครั้งที่เราบินไปหาพี่เค้าก่อนนอนหรือช่วงเวลาของวัน พี่ น. ก็จะโทมาตลอด เราก็ได้แต่เงียบไม่ให้พี่ น. รู้ว่าเราอยุ่ (เมียน้อยชัดๆ--") แต่พี่ จ. จะระวังคำพูดตัวเองไม่ให้ทำร้ายเรามากเกินไปเวลาต่อหน้าเราก็จะเลี่ยงๆคำพูด แต่เราก็พอรู้แหละว่าลับหลังจะพูดยังไง ถ้าถามว่าทำไมถึงยอม??? เราก็ถามตัวเองอยุ่ตลอดว่าทำไม แต่เรารู้อยู่อย่างเดียวว่าอยากมีพี่ จ. อยุ่ไม่ว่าจะอยุ่ในสถานะไหนจะอยุ่จนกว่ารู้สึกไม่ไหวและจะเดินออกไปเอง ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆค่ะ อาจจะว่าหลงก็คงใช่นะค่ะ พอเราได้รู้จักและสนิทสนมจนคุยกับพี่ จ. ทุกเรื่อง เรื่องราวสาเหตุที่พี่เค้าไม่เลิกกับพี่ น. เพราะเรื่องเงินค่ะ คือเหตุการณ์ต่างๆมันเริ่มจะทำให้เราเข้าใจเองได้บ้างแต่เราก็ไม่อยากคิดแบบนั้นกับพี่เค้า จนเค้าเป็นฝ่ายบอกเราเองจากปาก...(อึ้งค่ะ) ยังไม่จบนะค่ะมีต่อค่ะ...อาบน้ำแปป