รื่องมันเกิดนานแล้วจะครอบปีได้แล้วมั้งครับ แต่ผมยังมีคำถามในใจมากมาย+ผมก็รู้อยู่ว่าผมผิดมากอยู่ด้วย เรื่องมันเริ่มจากตอนที่ผม เริ่มคบแฟนคนที่ผมจะแต่งงานด้วย ก่อนหน้านั้นผมคบกับพนักงานแบงค์คนหนึ่ง เธอไม่เคยเรียกร้องไม่เคยต้องการอะไรจากผมเลย จนวันนึงผมเจอแนคนที่ผมคิดว่าจะฝากชีวิตไว้และหยุดทุกๆอย่างไว้กับเธอ แต่เรื่องก็เกิดจนได้ วันนั้นผมไปฉลองกับเพื่อนที่บ้านเพื่อนผม แล้วผมทะเลาะกับเธอ บวกกับอาการเมาๆผมก็เลยโทรไปหาแนเก่าที่เป็นพนักงานแบค์ว่าอยู่ที่ห้องไหม เธอตอบว่าอยู่ ผมก็เลยไปหา แล้วจบลงด้วยเรื่องอย่างว่า แต่ไม่รู้เลยว่าเธอคนนั้น(ที่เป็นพนักงานแบค์) ได้กดสายโทรหาแฟนผม หลังจากมีอะไรกัน เธอได้ยินทุกคำสนทนา พอผมกลับจากหอพักเธอคนนั้น แนผมโทรมาถามด้วยเสียงสั่นๆว่าอยู่ไหน ด้วยความกลัวจึงตอบไปว่าอยู่บ้านเพื่อน เธอถามว่าอยู่บ้านเพื่อนใช่ไหม ซ้ำอีกครั้ง ผมก็ตอบคำเดิม เพราะกลัวในใจว่าเธอจะรู้ แต่ตอนนั้นผมยังไม่ทราบว่าเธอรู้ แล้วเธอก็กดวางไป
จนวันนึ่งเรื่องมันเกิดหนังข้อขึ้นคือเธอมีปํญหากับแม่ผม (นั้นคือจุดแตกหักทั้งหมด)
ผมเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว(จีน) ทุกๆอย่างผมต้องรับผิดชอบหมดไม่ว่าธุระกิจที่บ้าน การเรียน และร้านที่พึ่งจะเปิดใหม่ (เปิดไว้เพื่ออนาคตให้แฟนมาทำหลังจากเราอยู่ด้วยกัน) รวมถึงบ้านใหม่ที่พึ่งซื้อเพื่อเป็นเรือนหอ (เนื่องจากม้ารู้ว่าเรารักแนคนนี้มาก และบ้านหลังเดิมก็คงเล็กเกินไปสำหรับอีก1คนที่จะเข้ามา) ในวันที่เกิดปัญหาขึ้น ผมต้องไปซื้อของเข้าร้านใหม่ที่พึ่งทำไม่นาน แล้วเธอมาหาเธอจะมาทุกวันศุกร์แล้วกลับอาทิตย์เย็น พอเธอมาถึง ผมก็บอกว่าให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่เธอยืนยันที่จะตามไปด้วยผมก็ไม่อยากขัดใจ กว่าจะกลับจากซื้อของก็ 6โมงเช้า ถึงบ้านก็7โมง เนื่องจากผมไม่ได้นอน เลย จึงขอตัวไปนอนก่อน เรื่องเจ้ากรรมก็เกิดขึ้น เธอทะเลาะกับม่าม้าผม เรื่องซักผ้าม้าบอกซักผ้าไว้ในเครื่องนะลูก เอาไปตากด้วย ด้วยการที่เธอยังไม่นอนหรือเหตุผลกลใดไม่ทราบ เธอจ้องหน้าแม่ผมด้วยสายตาแข็งมาก (ม่าม้าเล่าให้ฟัง) ผมไม่ได้เห้นเอง แต่ม้าก็ไม่พูดอะไร พอเธอกลับบ้าน ม้าก็มาพูดกับผมว่า บอกแฟนเราด้วยนะว่าทำแบบนี้ม้าไม่ชอบ อย่ามองม้าด้วยสายตาแบบนี้ เราเป็นเด็ก ไอผมก็เลยโทรไปคุยเลยหลังจากจบบทสนทนากับม้า
หลังจากที่ผมโทรไปคุยกับเธอผมบอกให้เธอขอโทษม้าซะเรื่องจะได้จบๆไป เธอ บอกว่าเธอไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องขอโทษ แล้วเราก็มีปัญหากันบ่อยขึ้น หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น เธอไม่มาที่บ้านผมอีกเลย จนวันนึงผมหลุดปากไปว่าเราอยู่ห่างกันซักพักเหอะ เราติดต่อกันน้อยลง เราแทบไม่ได้คุยกันเลย เพราะผมมัวแต่ ยุ่งอยู่กับร้านเจ้ากรรมและบ้านที่พึ่งจะซื้อใหม่ ไว้ใช้เป็นเรือนหอ จนวันที่มันกิดเหตุขึ้น คิอ ผมรถล้ม แล้ว ผมถามเพื่อนผมที่เป็นแฟนกับเพื่อนเธอว่า เธอไม่คิดจะมาเยี่ยมกันบ้างใช่ไหม เธอตอบเพื่อนเธอว่าไม่กล้ามารู้ว่าผมรถล้มจากเฟสบุคแล้ว ที่ไม่กล้ามาเพราะว่ากลัวแม่ผม จนวันนึ่งผมรู้ว่าเธอไปมีคนใหม่ กำลังเริ่มคบกัน ผมถึงกับโลกหมุนเลยครับ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง วันที่ผมเจอเธอบอกว่าเธอคุยกันได้แค่สองอาทิตย์ แต่พอสืบไปสืบมาซักพักมันไม่ใช้2อาทิตย์ แต่มันหลายเดือนเลยครับ ตั้งแต่ผมบอกให้ห่างกัน ตัวผมไม่มีใครจริงๆผมสาบานได้เพราะทำแต่งาน อยู่กับเพื่อน และเกมส์ ซึ่งเพื่อนคนนั้นเธอรู้จักดี เธอให้เหตุผลที่เธอมีคนใหม่ว่า พี่เป็นฝ่ายทิ้งหนูก่อนนะคะ ผมก็ตามง้อตามระเบียบสิครับ ไปทั้งแผลนี้แหละ ผมขอหมออกจากโรงพยาบาลก่อนเพราะจะไปตามง้อเธอ โดยให้พี่สาวผมขับรถให้ ไปถึงประมาณตี2ได้มั้งครับ เพราะ ต้องรอพี่ปิดร้าน พอไปถึงห้อง เธอกับไม่มีความดีใจแม้แต่น้อย กับแสดงสีหน้าตกใจ ปนลำคาน ว่ามาทำไม แล้วมาทำไมกันเยอะแยะ ซึ่งมันเป็นหอหญิง ซึ่งตามกฎผมทำผิดเต็มๆ เพราะผมเป็นคนให้เธอเลือกหอที่นี้เอง ช่วงเธอย้ายของมาเอง แต่ผมพาน้องที่ร้านมาด้วย(น้องผู้หญิง) แล้วน้องๆที่ผมพาไปด้วยคือคนที่เธอรู้จักทุกคน เป็นน้องข้างๆร้าน ที่เธอเคยทำงานคือพี่สาวผม ผมเอาแหวนไปง้อ เอาชอดอกไม้ไป ไปทั้งเจ็บๆแบบนั้น แต่เธอกับบอกว่ามันไม่ทันแล้วพี่ พี่น่าจะมาก่อนหน้านี้ ผมเอาแหวนใส่ให้ที่มือเธอ ถอดทิ้งแล้ววางลงกับพื้น คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่ารู้สึกยังไง ช่อดอกไม่เธอโยนมันไว้ตรงหลังตู้เย็น ก่อนจะออกมาผมขอให้เธอกอดผมเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นมา ทิ้งแขน แล้วบอกว่าพี่กลับไปซะเหอะ ผมก็กลับ แต่พี่สาวกับน้องๆบอกเลย ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วนะสาวยาน้ำเสียงทุกอย่างหมดใจแล้วนะ ตัดใจซะเหอะ แต่ผมก็ยังดื้อรั้นอยู่ดี คือผมไม่เคยให้ผู้หญิงคนในเข้ามาในชีวิตมากขนาดนี้มาก่อนคือมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านผม นอนเตียงเดียวกับผม เพราะผมจริงจังกับเธอจริงๆ ผมจึงเลือกที่จะยื้อต่อโดยโทรหาเธอตลอด จนวันนึงด้วยความสิ้นคิดหรืออะไรมิทราบได้ก็เลยเอามีดแทงที่มือ เพียงแค่จะขอให้เธออยู่ต่อกับผมอีกซักวินาทีหรือได้เจอหน้าเธออีกครั้ง ผลที่ได้คือทุกคำที่ผมคุยกับเธอระหว่างผมเดินเลือดไหลไปเรื่อยๆนั้น เธอไปปรึกษากับผู้ชายคนนั้น ทุกคำพูด แถมบอกว่าผมเป็นคนโง่มาก และไม่ได้รักผมแล้ว คำนึงที่สะดุดใจผมมากคือ พี่บอกเค้าไปลยว่า นู๋เป็นผ่ายโทรหาพี่เอง สวนคุณผู้ชายคนนั้น ผมเคยโทรไปคุยกับเค้าว่าให้เลิกยุ่งกับแฟนผมเหอะ อย่าโทรหาเธอเลย รับปากครั้บ แต่ไปคุยกับแนผมว่า เค้าแมนตัวเองว่าพี่นะครับ พี่ไม่ได้โทรซะหน่อยพี่แค่คุยไลน์กับเรา ไม่ได้โทรซะหน่อย อันนี้ผมรู้ที่หลังเนื่องจากเธอ ล็อคอินเฟสบุคไว้ในคอมพีซีที่บ้าน ผมถึงกับของขึ้นครับด่ากันซะยับเลยครับ ไม่เคยด่าผู้หิงมาก่อนแต่ไม่รู้จะพูดยังไง ผมนัดผู้ชายให้ออกมาเจอ แบบตัวๆ แต่เค้ากับไปบอกว่ามันนัดพี่ออกไปเจอตัวๆ แม้งนักเลงสวะ อืมหืม ผมถึงกับอยากฆ่าทั้งสองคนเลย แต่ผมก็รักมาก (เกิดอาการสับสน) ทั้งรักทั้งเกลียด ใครไม่เจอคงไม่เข้าใจ เหมือนทุกๆอย่างที่ผมเคยทำให้เธอมันเลวร้ายมาก เธอบอกกับทุกคนว่าตลอดเวลาที่อยู่กับผม ผมใช้งานเธอหนักมาก ทั้งๆที่ ผมให้เธอไปเฝ้าร้านให้พี่สาวผม เพราะเธอบอกว่าอยากได้โทรศัพท์ใหม่ให้ บ้านผมเป็นคนจีน สอนว่าอยากได้อะไรต้องทำงาน ซึ่งงานมันก็ไม่ได้หนักอะไร หรือเปล่าช่วยตอบผมทีว่างานมันหนักมากใช่ไหมครับ ตอนเย็นหลังเลิกจากมหาลัย ผมจะขับมอไซน์ไปส่งเธอที่ร้าน ส่วนตอนเลิกร้านพี่สาวผมจะขับแอคคอร์ด ไปส่งถึง ซ.หอ มื้อย็นพี่สาวผมซื้อให้ พี่สาวผมทานอะไรเธอได้ทานอย่างงั้น เนื่องจากพี่สาวผมรักเธอเหมือนน้อง และรักผมมาก จึงดูแลเธออย่างดี ถ้าเลิกร้านไปหาอะไรทานพิเศษกว่านั้นก็ให้เธอไปด้วย เธอไม่ต้องออกพี่สาวผมจัดการหมด (พี่สาวผมคือลูกของตั่วอี้ หรือป้าผมนั้นเอง) เงินเดือนแปดพัน และร้อยละสอง จากยอดขาย ทำงานตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงห้าทุ่ม เปิดร้าน เฝ้าร้าน ขายของ แอร์ก็มี อีกอย่างที่ผมรับไม่ได้มากที่สุดที่เธอพูดกับทุกๆคนคือผมมีคนอื่นตลอดเวลาที่คบกัน เธอคงเข้าใจว่าผมแอบกับไปคบแฟนเก่าผมมั้งนะครับ ต้องบอกว่านี้ก็เป้นส่วนหนึ่งของความผิดผม คือ ผมค่อนข้างเป็นคนเฟรนลี่ มาก ไม่เคยลบไม่เคยบล็อคแฟนเก่าผมเลยทุกคน มากดไลท์ ผมหรือผมไปกดไลน์ก็ปกติเพราะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แค่เป็นเพื่อน หรือพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่มันคงดูไม่ดีมากจริงๆ หรือเธอไม่แน่ใจทั้งๆที่เธอเป็นคนนอนข้างผม รู้ทุกอย่างในบ้านผม ผมไม่เคยปิดอะไรเลย บัญชี ที่ซื้อของ หรือแม้งกระทั้งความลับต่างๆ ผมไม่เคยซ่อน หรือบล็อคโทรศัพท์ไลน์ หรือเฟสบุค เธออยากดูผมให้ดูเพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ เธอบอกผมส่งรูปภาพตอนมีอะไรกับแฟนเก่าที่เล่าไว้ข้างบนไปให้เธอดู โอ้แม่เจ้าใครจะทำ เธอบอกกับทุกคนแบบนี้ แย่ที่สุดคือ แม่ผมเป็นคนจีนหัวโบราณ จะให้แม่สามีมาถูบ้านให้ลูกสะไภอยู่หลอครับ เป็นไปไม่ได้ เะอบอกทุกคนว่าแม่ผมใช่เธออย่างกับทาส ทั้งๆที่ ผมให้เธอถูพื้นแค่ชั้นบน บ้านผมสองชั้น มีสองห้องนอน ด้านบน ให้ถูแค่ทางเดินระหว่างห้องกับ ห้องนอนของเรา ข้างล่างผมเป็นคนจัดการ งานอื่นๆผมเป็นคนทำทั้งหมด นอกจากเรื่องตากผ้า ที่บ้านผมซักผ้าปูที่นอนสองอาทิตย์ครั้งรวมทั้งผ้าหม่ด้วย ก็แค่ให้เธอเอาไปตาก มันเป็นงานที่หนักมากเลยใช่ไหมครับ ตอบผมที่ ทุกอย่างที่ผมให้เธอทำ มันแย่ที่สุดเลยใช่ไหมเธอ ถึงไปบอกกับทุกคนอย่างงั้น สรุปทั้งหมดผมมันเลวมากเลยใช่ไหม ให้อภัยไม่ได้เลยใช่ไหมครับ
รบกวนช่วยตอบผมหน่อยนะครับว่าผมมันแย่มากเลยใช่ไหมครับ บอกที ทุกวันนี้ผมยังทำใจไม่ค่อยได้เลย
ผมผิดมากจริงๆจนไม่น่าให้อภัยใช่ไหมครับ
จนวันนึ่งเรื่องมันเกิดหนังข้อขึ้นคือเธอมีปํญหากับแม่ผม (นั้นคือจุดแตกหักทั้งหมด)
ผมเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว(จีน) ทุกๆอย่างผมต้องรับผิดชอบหมดไม่ว่าธุระกิจที่บ้าน การเรียน และร้านที่พึ่งจะเปิดใหม่ (เปิดไว้เพื่ออนาคตให้แฟนมาทำหลังจากเราอยู่ด้วยกัน) รวมถึงบ้านใหม่ที่พึ่งซื้อเพื่อเป็นเรือนหอ (เนื่องจากม้ารู้ว่าเรารักแนคนนี้มาก และบ้านหลังเดิมก็คงเล็กเกินไปสำหรับอีก1คนที่จะเข้ามา) ในวันที่เกิดปัญหาขึ้น ผมต้องไปซื้อของเข้าร้านใหม่ที่พึ่งทำไม่นาน แล้วเธอมาหาเธอจะมาทุกวันศุกร์แล้วกลับอาทิตย์เย็น พอเธอมาถึง ผมก็บอกว่าให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่เธอยืนยันที่จะตามไปด้วยผมก็ไม่อยากขัดใจ กว่าจะกลับจากซื้อของก็ 6โมงเช้า ถึงบ้านก็7โมง เนื่องจากผมไม่ได้นอน เลย จึงขอตัวไปนอนก่อน เรื่องเจ้ากรรมก็เกิดขึ้น เธอทะเลาะกับม่าม้าผม เรื่องซักผ้าม้าบอกซักผ้าไว้ในเครื่องนะลูก เอาไปตากด้วย ด้วยการที่เธอยังไม่นอนหรือเหตุผลกลใดไม่ทราบ เธอจ้องหน้าแม่ผมด้วยสายตาแข็งมาก (ม่าม้าเล่าให้ฟัง) ผมไม่ได้เห้นเอง แต่ม้าก็ไม่พูดอะไร พอเธอกลับบ้าน ม้าก็มาพูดกับผมว่า บอกแฟนเราด้วยนะว่าทำแบบนี้ม้าไม่ชอบ อย่ามองม้าด้วยสายตาแบบนี้ เราเป็นเด็ก ไอผมก็เลยโทรไปคุยเลยหลังจากจบบทสนทนากับม้า
หลังจากที่ผมโทรไปคุยกับเธอผมบอกให้เธอขอโทษม้าซะเรื่องจะได้จบๆไป เธอ บอกว่าเธอไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องขอโทษ แล้วเราก็มีปัญหากันบ่อยขึ้น หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น เธอไม่มาที่บ้านผมอีกเลย จนวันนึงผมหลุดปากไปว่าเราอยู่ห่างกันซักพักเหอะ เราติดต่อกันน้อยลง เราแทบไม่ได้คุยกันเลย เพราะผมมัวแต่ ยุ่งอยู่กับร้านเจ้ากรรมและบ้านที่พึ่งจะซื้อใหม่ ไว้ใช้เป็นเรือนหอ จนวันที่มันกิดเหตุขึ้น คิอ ผมรถล้ม แล้ว ผมถามเพื่อนผมที่เป็นแฟนกับเพื่อนเธอว่า เธอไม่คิดจะมาเยี่ยมกันบ้างใช่ไหม เธอตอบเพื่อนเธอว่าไม่กล้ามารู้ว่าผมรถล้มจากเฟสบุคแล้ว ที่ไม่กล้ามาเพราะว่ากลัวแม่ผม จนวันนึ่งผมรู้ว่าเธอไปมีคนใหม่ กำลังเริ่มคบกัน ผมถึงกับโลกหมุนเลยครับ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง วันที่ผมเจอเธอบอกว่าเธอคุยกันได้แค่สองอาทิตย์ แต่พอสืบไปสืบมาซักพักมันไม่ใช้2อาทิตย์ แต่มันหลายเดือนเลยครับ ตั้งแต่ผมบอกให้ห่างกัน ตัวผมไม่มีใครจริงๆผมสาบานได้เพราะทำแต่งาน อยู่กับเพื่อน และเกมส์ ซึ่งเพื่อนคนนั้นเธอรู้จักดี เธอให้เหตุผลที่เธอมีคนใหม่ว่า พี่เป็นฝ่ายทิ้งหนูก่อนนะคะ ผมก็ตามง้อตามระเบียบสิครับ ไปทั้งแผลนี้แหละ ผมขอหมออกจากโรงพยาบาลก่อนเพราะจะไปตามง้อเธอ โดยให้พี่สาวผมขับรถให้ ไปถึงประมาณตี2ได้มั้งครับ เพราะ ต้องรอพี่ปิดร้าน พอไปถึงห้อง เธอกับไม่มีความดีใจแม้แต่น้อย กับแสดงสีหน้าตกใจ ปนลำคาน ว่ามาทำไม แล้วมาทำไมกันเยอะแยะ ซึ่งมันเป็นหอหญิง ซึ่งตามกฎผมทำผิดเต็มๆ เพราะผมเป็นคนให้เธอเลือกหอที่นี้เอง ช่วงเธอย้ายของมาเอง แต่ผมพาน้องที่ร้านมาด้วย(น้องผู้หญิง) แล้วน้องๆที่ผมพาไปด้วยคือคนที่เธอรู้จักทุกคน เป็นน้องข้างๆร้าน ที่เธอเคยทำงานคือพี่สาวผม ผมเอาแหวนไปง้อ เอาชอดอกไม้ไป ไปทั้งเจ็บๆแบบนั้น แต่เธอกับบอกว่ามันไม่ทันแล้วพี่ พี่น่าจะมาก่อนหน้านี้ ผมเอาแหวนใส่ให้ที่มือเธอ ถอดทิ้งแล้ววางลงกับพื้น คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่ารู้สึกยังไง ช่อดอกไม่เธอโยนมันไว้ตรงหลังตู้เย็น ก่อนจะออกมาผมขอให้เธอกอดผมเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นมา ทิ้งแขน แล้วบอกว่าพี่กลับไปซะเหอะ ผมก็กลับ แต่พี่สาวกับน้องๆบอกเลย ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วนะสาวยาน้ำเสียงทุกอย่างหมดใจแล้วนะ ตัดใจซะเหอะ แต่ผมก็ยังดื้อรั้นอยู่ดี คือผมไม่เคยให้ผู้หญิงคนในเข้ามาในชีวิตมากขนาดนี้มาก่อนคือมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านผม นอนเตียงเดียวกับผม เพราะผมจริงจังกับเธอจริงๆ ผมจึงเลือกที่จะยื้อต่อโดยโทรหาเธอตลอด จนวันนึงด้วยความสิ้นคิดหรืออะไรมิทราบได้ก็เลยเอามีดแทงที่มือ เพียงแค่จะขอให้เธออยู่ต่อกับผมอีกซักวินาทีหรือได้เจอหน้าเธออีกครั้ง ผลที่ได้คือทุกคำที่ผมคุยกับเธอระหว่างผมเดินเลือดไหลไปเรื่อยๆนั้น เธอไปปรึกษากับผู้ชายคนนั้น ทุกคำพูด แถมบอกว่าผมเป็นคนโง่มาก และไม่ได้รักผมแล้ว คำนึงที่สะดุดใจผมมากคือ พี่บอกเค้าไปลยว่า นู๋เป็นผ่ายโทรหาพี่เอง สวนคุณผู้ชายคนนั้น ผมเคยโทรไปคุยกับเค้าว่าให้เลิกยุ่งกับแฟนผมเหอะ อย่าโทรหาเธอเลย รับปากครั้บ แต่ไปคุยกับแนผมว่า เค้าแมนตัวเองว่าพี่นะครับ พี่ไม่ได้โทรซะหน่อยพี่แค่คุยไลน์กับเรา ไม่ได้โทรซะหน่อย อันนี้ผมรู้ที่หลังเนื่องจากเธอ ล็อคอินเฟสบุคไว้ในคอมพีซีที่บ้าน ผมถึงกับของขึ้นครับด่ากันซะยับเลยครับ ไม่เคยด่าผู้หิงมาก่อนแต่ไม่รู้จะพูดยังไง ผมนัดผู้ชายให้ออกมาเจอ แบบตัวๆ แต่เค้ากับไปบอกว่ามันนัดพี่ออกไปเจอตัวๆ แม้งนักเลงสวะ อืมหืม ผมถึงกับอยากฆ่าทั้งสองคนเลย แต่ผมก็รักมาก (เกิดอาการสับสน) ทั้งรักทั้งเกลียด ใครไม่เจอคงไม่เข้าใจ เหมือนทุกๆอย่างที่ผมเคยทำให้เธอมันเลวร้ายมาก เธอบอกกับทุกคนว่าตลอดเวลาที่อยู่กับผม ผมใช้งานเธอหนักมาก ทั้งๆที่ ผมให้เธอไปเฝ้าร้านให้พี่สาวผม เพราะเธอบอกว่าอยากได้โทรศัพท์ใหม่ให้ บ้านผมเป็นคนจีน สอนว่าอยากได้อะไรต้องทำงาน ซึ่งงานมันก็ไม่ได้หนักอะไร หรือเปล่าช่วยตอบผมทีว่างานมันหนักมากใช่ไหมครับ ตอนเย็นหลังเลิกจากมหาลัย ผมจะขับมอไซน์ไปส่งเธอที่ร้าน ส่วนตอนเลิกร้านพี่สาวผมจะขับแอคคอร์ด ไปส่งถึง ซ.หอ มื้อย็นพี่สาวผมซื้อให้ พี่สาวผมทานอะไรเธอได้ทานอย่างงั้น เนื่องจากพี่สาวผมรักเธอเหมือนน้อง และรักผมมาก จึงดูแลเธออย่างดี ถ้าเลิกร้านไปหาอะไรทานพิเศษกว่านั้นก็ให้เธอไปด้วย เธอไม่ต้องออกพี่สาวผมจัดการหมด (พี่สาวผมคือลูกของตั่วอี้ หรือป้าผมนั้นเอง) เงินเดือนแปดพัน และร้อยละสอง จากยอดขาย ทำงานตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงห้าทุ่ม เปิดร้าน เฝ้าร้าน ขายของ แอร์ก็มี อีกอย่างที่ผมรับไม่ได้มากที่สุดที่เธอพูดกับทุกๆคนคือผมมีคนอื่นตลอดเวลาที่คบกัน เธอคงเข้าใจว่าผมแอบกับไปคบแฟนเก่าผมมั้งนะครับ ต้องบอกว่านี้ก็เป้นส่วนหนึ่งของความผิดผม คือ ผมค่อนข้างเป็นคนเฟรนลี่ มาก ไม่เคยลบไม่เคยบล็อคแฟนเก่าผมเลยทุกคน มากดไลท์ ผมหรือผมไปกดไลน์ก็ปกติเพราะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แค่เป็นเพื่อน หรือพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่มันคงดูไม่ดีมากจริงๆ หรือเธอไม่แน่ใจทั้งๆที่เธอเป็นคนนอนข้างผม รู้ทุกอย่างในบ้านผม ผมไม่เคยปิดอะไรเลย บัญชี ที่ซื้อของ หรือแม้งกระทั้งความลับต่างๆ ผมไม่เคยซ่อน หรือบล็อคโทรศัพท์ไลน์ หรือเฟสบุค เธออยากดูผมให้ดูเพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ เธอบอกผมส่งรูปภาพตอนมีอะไรกับแฟนเก่าที่เล่าไว้ข้างบนไปให้เธอดู โอ้แม่เจ้าใครจะทำ เธอบอกกับทุกคนแบบนี้ แย่ที่สุดคือ แม่ผมเป็นคนจีนหัวโบราณ จะให้แม่สามีมาถูบ้านให้ลูกสะไภอยู่หลอครับ เป็นไปไม่ได้ เะอบอกทุกคนว่าแม่ผมใช่เธออย่างกับทาส ทั้งๆที่ ผมให้เธอถูพื้นแค่ชั้นบน บ้านผมสองชั้น มีสองห้องนอน ด้านบน ให้ถูแค่ทางเดินระหว่างห้องกับ ห้องนอนของเรา ข้างล่างผมเป็นคนจัดการ งานอื่นๆผมเป็นคนทำทั้งหมด นอกจากเรื่องตากผ้า ที่บ้านผมซักผ้าปูที่นอนสองอาทิตย์ครั้งรวมทั้งผ้าหม่ด้วย ก็แค่ให้เธอเอาไปตาก มันเป็นงานที่หนักมากเลยใช่ไหมครับ ตอบผมที่ ทุกอย่างที่ผมให้เธอทำ มันแย่ที่สุดเลยใช่ไหมเธอ ถึงไปบอกกับทุกคนอย่างงั้น สรุปทั้งหมดผมมันเลวมากเลยใช่ไหม ให้อภัยไม่ได้เลยใช่ไหมครับ
รบกวนช่วยตอบผมหน่อยนะครับว่าผมมันแย่มากเลยใช่ไหมครับ บอกที ทุกวันนี้ผมยังทำใจไม่ค่อยได้เลย