จากกิ๊ก กลายเป็นน้อย

สวัสดีค่ะ เราอายุ21ปี เป็นลูกคนโตค่ะ มีน้องชาย2คน

พ่อเรามีกิ๊กค่ะ เรื่องนี้แม่รับรู้แต่แม่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้ พ่อกับแม่เราแยกกันอยู่ค่ะไม่ได้หย่ากัน พ่ออยู่ กทม. ส่วนแม่อยู่ต่างจังหวัด เราอยู่กับพ่อและน้องคนกลาง ส่วนน้องคนเล็กอยู่กับแม่ค่ะ เรากับน้องคนกลางรับรู้ว่าพ่อมีกิ๊กตั้งแต่หลังน้ำท่วมปี54ค่ะ แต่ก็ไม่รู้นะคะว่าเขารู้จักกันก่อนหน้านี้รึป่าว แต่ที่เรารู้เพราะผู้หญิงคนนี้ขนของมาอยู่ที่บ้านเลยค่ะ แต่แม่รู้แค่ว่าพ่อมีกิ๊กแม่รู้เมื่อปลายปี56ค่ะ เราตกลงกับน้องคนกลางว่าจะไม่บอกให้แม่รับรู้เรื่องนี้ ให้แม่รู้แค่ว่าพ่อมีก็พอค่ะ แม่กับพ่อเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อกลางปี54ค่ะ เป็นครั้งสุดท้ายเราครอบครัวเราพร้อมหน้าพร้อมตากัน

ก่อนหน้าที่น้ำจะท่วม ครอบครัวเรามีความสุขมากค่ะ ถึงแม้พ่อแม่แยกกันอยู่ พ่อกับแม่โทรคุยกันทุกวันค่ะ ก็จะมีช่วงที่พ่อว่างแล้วให้แม่มาหา พ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง พ่อเป็นคนทำงานหนักค่ะ ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ และออกงานต่างจังหวัดและต่างประเทศบ่อย เลยเป็นผลพอยได้ให้ครอบครัวเราได้ไปเที่ยว เรามองว่าเราถูกเลี้ยงด้วยเงินซะมากกว่า พ่อแม่ก็จะโทรมาถามทุกวันว่าทำอะไร กินข้าวยัง กลับบ้านยัง เปรียบเสมือนเราอยู่หอเลยค่ะ ทั้งๆที่เราอยู่บ้านตัวเอง แต่ทั้งบ้านจะมีแค่เรา กับแม่บ้านค่ะ เพราะน้องคนกลางเรียนโรงเรียนประจำจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุด ปัจจุบันแม่บ้านออกแล้วค่ะ

ตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาบ้านก็เหมือนอารมณ์มีแม่บ้านคนใหม่มา ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็พูดคุยกันธรรมดาปกติ ไปเที่ยวไปช๊อปตามประสาผู้หญิงค่ะ ผู้หญิงคนนั้นอายุห่างจากเรา12ปี จนมาวันนึงเราก็เปิดคอมเล่นปกติ เข้าเฟสบุ๊ค ปรากฏว่านางลืมล๊อคเอาท์ค่ะ เราก็เลือกที่ดูในอินบล๊อคค่ะ ปรากฏว่าในบทสนทนานางกับเพื่อนๆเมาท์กันสนุกปากมากค่ะ ทั้งเรื่องเรา เรื่องแม่ เรื่องพ่อเรา ทำให้เราเกลียดเขาไปเลยค่ะ ไม่พูด ไม่คุย ไม่สนใจ ไม่สบตา ไม่อะไรเลย ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนค่ะ และยิ่งเราได้แอบอ่านข้อความในโทรศัพท์พ่อที่นางส่งมา แม่เจ้า!!!! คำด่ามาทั้งสวนสัตว์เลยค่ะ เรายิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่เลย คือไม่ใช่คนโลกสวยที่รับคำด่าไม่ได้นะค่ะ คือรับได้ค่ะเวลาวัยรุ่นด่ากัน แต่รุ่นเดอะขนาดนั้นบอกเลยค่ะว่าไม่เคยเจอ แลดูเป็นหญิงที่แรง ความมั่นใจเกินร้อย ช่วงหลังๆพ่อสังเกตเห็นความผิดปกติของเรา แต่พ่อไม่ถามเราค่ะ เราเลือกที่จะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ทางพ่อฟัง ทางผู้ใหญ่เลยบอกพ่อเราว่าเรามีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น เวลาพ่อมีงานต่างจังหวัดพ่อก็จะเอานางไปด้วยค่ะ

เมื่อปลายปี56ทางบ้านเริ่มมีปัญหาด้านการเงินค่ะ แม่โทรหาพ่อ พ่อก็ไม่ค่อยรับ แม่เริ่มสงสัยค่ะว่าเรื่องทั้งหมดจะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้รึป่าว และแล้วแม่ก็มา กทม.ค่ะ มาแบบไม่บอกใครเลย กะว่าจะมาจับจะมาเห็นกับตา แต่โชคดีวันนั้นเราอยู่บ้านกับน้อง2คน เราเลยเลือกที่จะโทรบอกพ่อว่าแม่มาทั้งๆที่แม่ขอเราว่าอย่าบอกพ่อนะว่าแม่มา คืนนั้นแม่มาติเราว่าทำไมเราไม่บอกเรื่องนี้กับแม่ แม่เลือกที่จะไประบายกับน้อง น้องมาเล่าให้ฟังว่าแม่ร้องไห้ วันต่อมาเรากับน้องก็ไปส่งแม่ที่สนามบินค่ะ จากวันนั้นมาแม่จะโทรหาเราดึกๆตลอด ทุกบทสนทนาจะมีเรื่องพวกนี้เข้ามาตลอดค่ะ เราก็ทำได้แค่รับฟัง จากพ่อกับแม่คุยกันทุกวัน กลับกลายเป็นว่าแม่ต้องเป็นฝ่ายรอให้พ่อโทรมา เพราะแม่โทรหาพ่อ พ่อจะไม่รับเลยค่ะ เราคาดว่าน่าจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ช่วงหลังๆมีมาระรานบ้านใหญ่ด้วยค่ะ แอบกระเป๋าตังค์พ่อเราไปซ่อนไม่ให้โอนเงินไปให้แม่ค่ะ

ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาค่ะ เรากลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัดค่ะ จนสิ้นเดือนเมษาเรากลับมา กทม. เพื่อทำเรื่องเรียนซัมเมอร์ จนวันนึงเราเห็นนางเดินเข้ามาในบ้านสภาพท้องป่องมาเลยค่ะ บอกเลยว่าช็อค ช็อคมากๆ(ตอนที่เราแอบอ่านข้อความในโทรศัพท์พ่อ เราจำข้อความนึงได้ว่า นางด่าพ่อเราแล้วบอกว่าเพราะพ่อเราเป็นแบบนี้ลูกเขาเลยไม่มาเกิด) เดินเข้าห้องไปร้องไห้คนเดียวเลยค่ะ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ โทรหาเพื่อนสนิทที่เค้ารู้เรื่องนี้ดี คืนนั้นเพื่อนได้มาหาที่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนเลยค่ะ คือเรารับไม่ได้ค่ะ เพราะปัญหาที่เป็นอยู่นี้เราก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วค่ะ พอเปิดเทอมแรกๆเราเลือกที่บินไปหาแม่ทุกอาทิตย์เลยค่ะ ย้ำ!!ว่าทุกอาทิตย์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่บอกให้พ่อรู้ค่ะ เวลาพ่อถามก็บอกว่าอยู่หอเพื่อนค่ะ มีวันนึงพ่อรู้ว่าเราไปหาแม่ พ่อเราว่าเราใหญ่เลยค่ะน้ำตาเราร่วงต่อหน้าแม่เลย ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโดนตีไม่เคยโดนด่าเลยแม้แต่น้อย เวลาทำผิดจะเป็นคำสอนมากกว่าค่ะ แต่วันนั้นพ่อขึ้นเสียงใส่ เสียงดุมาก พอเรากลับมา กทม. เราไม่คุยกับพ่อเลยค่ะ เราเลยเขียนใส่สมุดเราว่าเบื่อ ไม่ไหว ไม่มีความสุข พ่อเราดันไปอ่านค่ะ แกก็คิดมากแกเลยโทรไปหาแม่ว่าเราทำประชดพ่อรึป่าว แม่ก็โทรมาบอกให้ไปขอโทษพ่อซะ โอเคเราเจอพ่อเราก็ขอโทษคุยกันตามปกติค่ะ

ปัจจุบันแม่ยังไม่รู้นะคะว่าผู้หญิงคนนั้นท้อง เราคิดภาพไม่ออกเลยค่ะว่าถ้าแม่รู้ว่าเขาท้องแม่จะเป็นยังไง ครอบครัวเราจะเป็นยังไง แล้วถ้าเด็กคนนั้นเกิดมาครอบครัวเราจะเป็นยังไง เราจะเป็นยังไง จะใช้ชีวิตแบบไหน จะแบกรับเรื่องพวกนี้ได้ยังไง เคลียดพอตัวเลยค่ะ

แก้ไขครั้งที่1
พ่อกับผู้หญิงคนนี้มีธุรกิจร่วมกัน ซึ่งการทำสัญญาการถือหุ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ มีเราไปเกี่ยวข้องด้วยทุกธุรกิจค่ะ ซึ่งทุกธุรกิจที่ว่านี้แม่ก็ไม่รู้เรื่องค่ะ แต่ถ้าเกิดวันนึงซึ่งบุญบารมีพ่อแล้ว เราจะทำยังไงค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่