จั่วหัวกระทู้แรงไปหน่อยอยากจะฝากเป็นข้อเตือนสำหรับคุณผู้หญิงหลายๆคนนะครับ อยากให้คุณคิดถึงความรู้สึกของคนใหม่บ้าง
เกริ่นก่อนนะครับ พอดีผมพึ่งได้รู้จักกับ ผญ. คนหนึ่งได้ไม่นานนัก จะเรียกว่าจีบก็ได้ครับ คือผมคุยมาสักระยะนึง มารู้ทีหลังว่าเธอนั้นมีลูกอยู่แล้ว ผมมารู้ทีหลังก็เสียความรู้สึกมากครับ แล้วเธอบอกว่าเลิกกับแฟนเพราะว่าแฟนไปเป็นทหาร ผมก็ถามว่า อ้าว แล้วแฟนไปเป็นทหารทำไมต้องเลิกกันด้วยล่ะ ลูกก็ยังเล็กอยู่ด้วย (ประมาณ 6-7 เดือนครับ) ผมก็เลยบอกว่าก็น่าจะรอให้แฟนกลับมาดูแลลูกก็ได้ไม่น่าจะต้องเลิกกัน อย่างน้อยมีลูกแล้วฝ่ายชายน่าจะต้องรับผิดชอบ เลี้ยงดูด้วย เธอตอบว่าหนูถามเค้าแล้วเค้าบอกว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว (หมายถึงเลิกกันก็ดีแล้ว) ผมถามว่าอ้าวแล้วลูกล่ะ เธอก็บอกว่า ลูกหนูเลี้ยงเองก็ได้ ไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ไม่เห็นจะต้องแคร์ ถ้าเค้าอยากเลิกก็ให้เค้าเลิกไปหนูก็ดูแลลูกได้หรือถ้ามีคนใหม่ก็มีได้
คือไม่ได้จะว่าอะไรนะครับกับผู้หญิงที่เก่งและดูแลลูกได้โดยไม่ต้องง้อแฟนมันก็น่าชื่นชมอยู่นะครับ แต่อยากให้คิดนิดนึงว่า คนใหม่ที่จะเข้ามาเนี่ย ไม่สงสารความรู้สึกบ้างหรอครับว่าเค้าจะต้องมาแบกรับภาระที่เค้าไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นมา เพียงเพราะแค่เค้ามีความรู้สึกดีๆให้กับคุณ บอกก่อนนะครับเผื่อใครจะแย้งว่าอ้าวทำไมแค่มีลูกแล้วทำเป็นรับไม่ได้ คือถ้ารักจริงก็น่าจะรับได้ใช่ไหม มันก็ใช่ครับ แต่คือพึ่งรู้จักได้ไม่นานแล้วมารู้ว่ามีลูกนี่เสียความรู้สึกมากเลยนะครับ อีกอย่างผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาเลยถ้าเธอจะฐานะด้อยกว่า การศึกษาด้อยกว่า หรือแม้แต่มีแฟนมากี่คนก็ไม่เคยถามครับ เพราะผมก็ให้เกียรติ ผญ. นะครับ แต่เรื่องมีลูกแล้วนี่ยอมรับเลยทำใจไม่ได้ครับ ผมอยากได้คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกผมที่เกิดมาจากผม ไม่ใช่เกิดมาจากคนอื่นแล้วผมต้องมาช่วยเลี้ยงดู หวังว่าประเด็นนี้ ผช. คงเข้าใจความรู้สึกผมนะครับ
อยากจะฝากบอกถึง ผญ. เก่งทุกๆคนเลยนะครับที่คิดว่าเลี้ยงลูกเองได้ ดูแลลูกเองได้โดยไม่ต้องง้อแฟน แง่หนึ่งมันก็น่าชื่นชมนะครับ แต่อย่าลืมว่าคุณสามารถเรียกร้องสิทธิจากคนที่เป็นสามีหรือเป็นพ่อของลูกได้นะครับ ขนาดกฎหมายยังบอกให้เรียกร้องสิทธิการดูแลจากฝ่ายชายได้เลยครับเวลาเลิกกันแล้ว ทำไมคุณยังนิ่งเฉยยังทำเป็น ผญ. เก่ง คือถ้าทำแบบนี้ ฝ่ายชายจะยิ่ง เหรี้... ขึ้นอีกนะครับเพราะเค้ายิ่งได้ใจ ฟันแล้วทิ้งก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่ลูกทั้งคนที่เกิดมา ถ้า ผญ ไม่เรียกร้องอะไรเลย ฝ่ายชายก็สบายสิครับ งี้เค้าก็จะมีแฟนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีภาระอะไร ไม่ต้องคิดอะไรแล้วจะมีอีกกี่คนก็ได้ไปเรื่อยๆยังงั้นหรอครับ ยิ่งเจอ ผญ. เก่งๆมากขึ้นเท่าไรมันก็ทำให้ ฝ่ายชายมันเคยตัวมากขึ้นเท่านั้น แล้วคนใหม่ที่เข้ามาล่ะครับ เค้ายิ่งโชคร้ายยิ่งกว่าอีก ต้องทำใจก็ลำบากแล้ว ต้องมาแบกรับภาระที่เค้าไม่ได้สร้างขึ้นมาอีก คุณบอกว่ารับไม่ได้กับการข่มขืน กับการฟันแล้วทิ้ง แต่พอคบกันเป็นแฟนแล้วมีลูกกันกลับปล่อยยอมให้เลิกกันได้ง่ายๆ ไม่เรียกร้องอะไรเลย มันก็ไม่ต่างฟันแล้วทิ้งเลยนะครับ คือถ้าเค้าอยากเลิกก็ให้เค้าเลิก แต่เรื่องลูกคุณต้องเรียกร้องให้เค้ามีส่วนรับผิดชอบด้วย ถ้าอยากให้สังคมดีขึ้นทำไมคุณไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากสังคม จากคนที่เค้าควรที่จะมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ของบางอย่างนะครับมันไม่ได้เราก็ต้องเรียกร้อง ถ้ามันเป็นสิทธิของเรา ถ้าคิดว่าปล่อยเลยช่างมันเถอะ อีกหน่อยก็จะมีแต่คนที่เห็นแก่ตัว มักง่าย ไม่มีความรับผิดชอบมากขึ้นๆอยู่เต็มสังคม แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ผช. ที่คุณคบอยู่เคยทำ ผญ. ท้องมากี่คนแล้ว เคยเป็นพ่อของลูกใครมาบ้าง ถ้าวันนั้นคุณเจอคุณจะเข้าใจความรู้สึกของผม ขอแท็กห้องเครื่องแป้งเพราะ ผญ. เยอะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ.
ก็เพราะผู้หญิงเป็นแบบนี้ไง ผู้ชาย(บางคน) ถึงได้ใจ เห็นแก่ตัว ไม่มีความรับผิดชอบ
เกริ่นก่อนนะครับ พอดีผมพึ่งได้รู้จักกับ ผญ. คนหนึ่งได้ไม่นานนัก จะเรียกว่าจีบก็ได้ครับ คือผมคุยมาสักระยะนึง มารู้ทีหลังว่าเธอนั้นมีลูกอยู่แล้ว ผมมารู้ทีหลังก็เสียความรู้สึกมากครับ แล้วเธอบอกว่าเลิกกับแฟนเพราะว่าแฟนไปเป็นทหาร ผมก็ถามว่า อ้าว แล้วแฟนไปเป็นทหารทำไมต้องเลิกกันด้วยล่ะ ลูกก็ยังเล็กอยู่ด้วย (ประมาณ 6-7 เดือนครับ) ผมก็เลยบอกว่าก็น่าจะรอให้แฟนกลับมาดูแลลูกก็ได้ไม่น่าจะต้องเลิกกัน อย่างน้อยมีลูกแล้วฝ่ายชายน่าจะต้องรับผิดชอบ เลี้ยงดูด้วย เธอตอบว่าหนูถามเค้าแล้วเค้าบอกว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว (หมายถึงเลิกกันก็ดีแล้ว) ผมถามว่าอ้าวแล้วลูกล่ะ เธอก็บอกว่า ลูกหนูเลี้ยงเองก็ได้ ไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ไม่เห็นจะต้องแคร์ ถ้าเค้าอยากเลิกก็ให้เค้าเลิกไปหนูก็ดูแลลูกได้หรือถ้ามีคนใหม่ก็มีได้
คือไม่ได้จะว่าอะไรนะครับกับผู้หญิงที่เก่งและดูแลลูกได้โดยไม่ต้องง้อแฟนมันก็น่าชื่นชมอยู่นะครับ แต่อยากให้คิดนิดนึงว่า คนใหม่ที่จะเข้ามาเนี่ย ไม่สงสารความรู้สึกบ้างหรอครับว่าเค้าจะต้องมาแบกรับภาระที่เค้าไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นมา เพียงเพราะแค่เค้ามีความรู้สึกดีๆให้กับคุณ บอกก่อนนะครับเผื่อใครจะแย้งว่าอ้าวทำไมแค่มีลูกแล้วทำเป็นรับไม่ได้ คือถ้ารักจริงก็น่าจะรับได้ใช่ไหม มันก็ใช่ครับ แต่คือพึ่งรู้จักได้ไม่นานแล้วมารู้ว่ามีลูกนี่เสียความรู้สึกมากเลยนะครับ อีกอย่างผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาเลยถ้าเธอจะฐานะด้อยกว่า การศึกษาด้อยกว่า หรือแม้แต่มีแฟนมากี่คนก็ไม่เคยถามครับ เพราะผมก็ให้เกียรติ ผญ. นะครับ แต่เรื่องมีลูกแล้วนี่ยอมรับเลยทำใจไม่ได้ครับ ผมอยากได้คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกผมที่เกิดมาจากผม ไม่ใช่เกิดมาจากคนอื่นแล้วผมต้องมาช่วยเลี้ยงดู หวังว่าประเด็นนี้ ผช. คงเข้าใจความรู้สึกผมนะครับ
อยากจะฝากบอกถึง ผญ. เก่งทุกๆคนเลยนะครับที่คิดว่าเลี้ยงลูกเองได้ ดูแลลูกเองได้โดยไม่ต้องง้อแฟน แง่หนึ่งมันก็น่าชื่นชมนะครับ แต่อย่าลืมว่าคุณสามารถเรียกร้องสิทธิจากคนที่เป็นสามีหรือเป็นพ่อของลูกได้นะครับ ขนาดกฎหมายยังบอกให้เรียกร้องสิทธิการดูแลจากฝ่ายชายได้เลยครับเวลาเลิกกันแล้ว ทำไมคุณยังนิ่งเฉยยังทำเป็น ผญ. เก่ง คือถ้าทำแบบนี้ ฝ่ายชายจะยิ่ง เหรี้... ขึ้นอีกนะครับเพราะเค้ายิ่งได้ใจ ฟันแล้วทิ้งก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่ลูกทั้งคนที่เกิดมา ถ้า ผญ ไม่เรียกร้องอะไรเลย ฝ่ายชายก็สบายสิครับ งี้เค้าก็จะมีแฟนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีภาระอะไร ไม่ต้องคิดอะไรแล้วจะมีอีกกี่คนก็ได้ไปเรื่อยๆยังงั้นหรอครับ ยิ่งเจอ ผญ. เก่งๆมากขึ้นเท่าไรมันก็ทำให้ ฝ่ายชายมันเคยตัวมากขึ้นเท่านั้น แล้วคนใหม่ที่เข้ามาล่ะครับ เค้ายิ่งโชคร้ายยิ่งกว่าอีก ต้องทำใจก็ลำบากแล้ว ต้องมาแบกรับภาระที่เค้าไม่ได้สร้างขึ้นมาอีก คุณบอกว่ารับไม่ได้กับการข่มขืน กับการฟันแล้วทิ้ง แต่พอคบกันเป็นแฟนแล้วมีลูกกันกลับปล่อยยอมให้เลิกกันได้ง่ายๆ ไม่เรียกร้องอะไรเลย มันก็ไม่ต่างฟันแล้วทิ้งเลยนะครับ คือถ้าเค้าอยากเลิกก็ให้เค้าเลิก แต่เรื่องลูกคุณต้องเรียกร้องให้เค้ามีส่วนรับผิดชอบด้วย ถ้าอยากให้สังคมดีขึ้นทำไมคุณไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากสังคม จากคนที่เค้าควรที่จะมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ของบางอย่างนะครับมันไม่ได้เราก็ต้องเรียกร้อง ถ้ามันเป็นสิทธิของเรา ถ้าคิดว่าปล่อยเลยช่างมันเถอะ อีกหน่อยก็จะมีแต่คนที่เห็นแก่ตัว มักง่าย ไม่มีความรับผิดชอบมากขึ้นๆอยู่เต็มสังคม แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ผช. ที่คุณคบอยู่เคยทำ ผญ. ท้องมากี่คนแล้ว เคยเป็นพ่อของลูกใครมาบ้าง ถ้าวันนั้นคุณเจอคุณจะเข้าใจความรู้สึกของผม ขอแท็กห้องเครื่องแป้งเพราะ ผญ. เยอะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ.