คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ปัญหาขององค์กรคุณอยู่ที่ระบบคิด ในเชิงการจัดการ การลดราคาเมื่อการการแข่งขัน เป็นหนทางสุดท้ายที่จะทำกัน เพราะรู้อยู่แล้วว่า เป็นการลดค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต สุดท้ายของปลายทางวิธีคิดแบบนี้คือปิดโรงงาน หรือผลิตสินค้าตัวใหม่ หรือสร้างแบนรด์ใหม่ ไม่ว่าจะแก้ด้วยวิธีใหน ล้วนแต่เป็นปัญหาทั้งสิ้น
ประเด็นคือ เมื่อเกิดการแข่งขัน มีโปรโมชั่นมากมาย ที่จะส่งเสริมทางการตลาด ทำไมจึงเลือกวิะีลดราคา อาทิ 10 ลังแถม 1 ลัง หรือออกพรีเมี่ยมอะไรก้ได้มาสร้างแรงจูงใจ
ประเด็นของ เจ้ ก การลดราคา ก็เป็นการขับไส ให้เจ้ หาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาขาย เพราะถ้าเจ้รู้ว่า บริษัททำแบบนี้ จะไม่มีความไว้วางใจอีกต่อไป ต้องยืนกระต่ายขาเดียวว่า เท่าที่ทราบ ยี่ปั๊วบางรายใช้วิธีขายพ่วง เพือระบายของตัวอื่น ที่ค้างสต็อคซึ่งของนั้นก็ไม่ใช่ของบริษัทเรา เช่น ซื้อ......ในราคาปกติ แล้วสามารถซื้อของเราได้ในราคานี้จำนวนไม่เกินเท่านี้ เป็นต้น
การเยียวยา เจ้ ก. มีสารพัดวิธี อาทิเช่น ยืดเครดิต จัดเซทลดราคาพิเศษบางชุด เอาร้านเจ้ขึ้นหน้าเว็บขนาด..... 2 เดือน เปิดเฟสบุ๊คให้ ฯลฯ
ประเด็นคือ เมื่อเกิดการแข่งขัน มีโปรโมชั่นมากมาย ที่จะส่งเสริมทางการตลาด ทำไมจึงเลือกวิะีลดราคา อาทิ 10 ลังแถม 1 ลัง หรือออกพรีเมี่ยมอะไรก้ได้มาสร้างแรงจูงใจ
ประเด็นของ เจ้ ก การลดราคา ก็เป็นการขับไส ให้เจ้ หาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาขาย เพราะถ้าเจ้รู้ว่า บริษัททำแบบนี้ จะไม่มีความไว้วางใจอีกต่อไป ต้องยืนกระต่ายขาเดียวว่า เท่าที่ทราบ ยี่ปั๊วบางรายใช้วิธีขายพ่วง เพือระบายของตัวอื่น ที่ค้างสต็อคซึ่งของนั้นก็ไม่ใช่ของบริษัทเรา เช่น ซื้อ......ในราคาปกติ แล้วสามารถซื้อของเราได้ในราคานี้จำนวนไม่เกินเท่านี้ เป็นต้น
การเยียวยา เจ้ ก. มีสารพัดวิธี อาทิเช่น ยืดเครดิต จัดเซทลดราคาพิเศษบางชุด เอาร้านเจ้ขึ้นหน้าเว็บขนาด..... 2 เดือน เปิดเฟสบุ๊คให้ ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำค่ะ เจ้านายบอกแก้ปัญหาไม่ได้ไม่ต้องกลับ
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการนี้จะมี
1. เจ้. ก คือ 1ในagent ของทางบริษัทเรา ในจังหวัดนี้และใกล้เคียง
2.ร้าน เจ้ ข อดีตเคยเป็นลูกค้าของเจ้ ก แต่อยู่ๆหายไป ไปซื้อสินค้าชนิด a จากที่อื่น และขายราคาตัดหน้าร้านเจ้ ก ร้านเจ้ ข เป็น agent ของสินค้าแบร์นอื่นๆด้วย
3. ร้าน เจ้ ค อดีตเคยเป็นลูกค้าของเจ้ ก แต่ตอนนี้หันไปซื้อของร้าน เจ้ ข เนื่องจากได้ราคาที่ถูกกว่า
ปัญหาก็คือ เจ้ ก คิดว่าสินค้าชนิด a ของเรามีของปลอมอยู่ในตลาด เนื่องจาก ร้านเจ้ ข สามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกกว่า เจ้ ก จึงคิดว่า เจ้ ข คือผู้ที่ปลอมสินค้าเรา เราจึงได้ลงมาสำรวจและพิสูจน์ ก็พบว่าสินค้านั้นเป็นของเราจริง เจ้ ก ก็เลยถามทางเรากลับมาว่างั้น เจ้ ข ไปเอาสินค้ามาจากไหน ถึงขายถูกได้ ทั้งๆที่เจ้ ก ก็ไปรับสินค้าที่โรงงานเรา และเป็นราคาหน้าโรงงาน ซึ่งแกเอามาขายต่อก็เป็นราคาที่ หักค่าใช้จ่ายอื่นๆออกก็แทบจะขาดทุน แถมแกยังโดนลูกค้าว่าแกขายแพงเอากำไรอยู่ฝ่ายเดียว
หลังจากที่เราได้สำรวจและสอบถามร้านเจ้ ข แล้ว เราก็ได้ข้อมูลว่าแกไปรับสินค้ามาอีกทีที่ภาคกลาง ซึ่งก็เป็นหนึ่งใน agent ของเราในภาคกลาง ซึ่งโครงสร้างราคาและการแข่งขันในภาคกลางค่อนข้างสูงจึงทำให้ราคาของเราที่ขายให้ภาคกลางนั้นถูกกว่า มารับที่หน้าโรงงานและภาคอื่นๆ จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างราคา
และปัญหาที่เราต้องแก้ตอนนี้คือ 1.จะตอบเจ้ ก ยังไงว่าทำไม เจ้ ข ถึงได้ราคาที่ถูกกว่า ซึ่งถ้าบอกความจริงไปเจ้ ก ก็จะเสียความรู้สึก 2.เราจะช่วยเจ้ ก ในเรื่องกำไรและราคาอย่างไร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับ agent รายอื่นๆที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน
สำหรับทางออกที่ จขกท คิดได้ตอนนี้คือ แก้ปัญหาระยะสั้นคือ ช่วยในเรื่องการลดราคาของที่มีอยู่ในสต็อกของ เจ้ ก ก่อน ระยะยาวคือ อาจจะลดราคาสินค้า ชนิด B ที่ทางโรงงานผลิตให้เจ้ ก เพียงคนเดียว เพื่อให้เจ้ ก เอากำไรไปช่วยพยุงสินค้าชนิด A
รบกวนเพื่อนๆ ใน pantip ช่วยเสนอแนวคิดและแนวทางให้ด้วยค่ะ เราคิดไม่ตกจนนอนไม่หลับเลย ขอบคุณค่ะ