แชร์ประสบการณ์พบเจอมนุษย์ลูกผู้น่ารัก

จากที่มีโอกาสได้อ่านกระทู้ต่างๆของผู้อื่นที่ได้พบเจอลักษณะนิสัยต่างๆของมนุษย์แม่  วันนี้เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเราเองด้วยค่ะ

ความจริงมีหลายเรื่องมากๆ รู้สึกว่าชีวิตไม่สดใสสุดๆเวลาเจอเหตุการณ์พวกนี้
วันนี้ขอเอามาเล่าให้ฟัง 3 เรื่องนะคะ

เรื่องที่ 1

ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน
เราได้ไปนั่งทานอาหารฟู้ดคอร์ดในห้างกับเพื่อนๆค่ะ คือมันจะมีโซนนึงที่พื้นยกระดับขึ้นมาเป็นขั้นบันได 4-5 ขั้น แล้วก็จะมีทางสโลปอะคะ ที่เค้าไว้ให้สำหรับคนที่นั่งรถเข็นหรือเวลาแม่บ้านเข็นรถเก็บจาน เรากับเพื่อนๆก็นั่งกินข้าวกันปกติค่ะ ฟู้ดคอร์ดก็มีเสียงดังบ้างเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วอันนี้ไม่ซีเรียส แต่!!! ไม่นานหลังจากนั้น มีครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ เด็กวัยไล่เลี่ยกัน 3 คน และก็ผู้ใหญ่อีก 2 คน (เดาว่าน่าจะเป็นป้ากับน้าค่ะ) สายตาอันแหลมคมของเราก็หันไปเห็นแล้วว่าครอบครัวนี้กำลังเดินมายังโซนที่เรานั่งอยู่ แล้วรู้ใช่ไหมคะว่า เด็ก+พื้นสโลป มันจะเกิดอะไรขึ้น?  ไม่ค่ะไม่ ไม่ได้ลื่นล้มกลิ้งลงไปกับพื้นแต่อย่างใด เด็กๆพวกนั้นต่างพากันเล่นสไลด์เดอร์กันอย่างเมามันส์ โดยผู้ปกครองทั้งสี่คนนั้นได้วางกระเป๋าจองโต๊ะไว้แล้วไปเดินเลือกอาหาร ทิ้งเด็กๆสามคนนี้เล่นกัน แล้วก็เป็นปกติของเด็กอีกที่จะต้องส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด คือสำหรับเรามันน่ารำคาญมากเลยนะ เราไม่ใช่คนเกลียดเด็ก แต่การที่ให้เด็กมาเล่น ส่งเสียงกรี๊ดในศูนย์อาหารนี่มันไม่ใช่อะ คนอื่นเค้าก็เริ่มมองกันมา เราก็มองหาพวกผู้ปกครองของเด็ก สรุปพวกเค้าเห็นนะ แล้วก็ได้ยิน (ต้องได้ยินสิ เดาเลยว่าพวกเค้าหูไม่ได้หนวกแน่นอน) แต่ปฏิกิริยาที่ตอบโต้มาคือ...แม่หันไปสะกิดพ่อแล้วชี้มาที่ลูกๆที่น่ารัก แล้วก็ยิ้มหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน ไม่สนใจเลยว่าคนอื่นๆที่นั่งทานอาหารในนี้เค้าจะรู้สึกอย่างไร จนกระทั่งทั่ง 4 คนซื้ออาหารมานั่งรับประทานกันที่โต๊ะ ก็ยังปล่อยเด็กเล่นค่ะ ไม่มีการเรียกไปกินหรือบอกให้หยุดให้อะไรเลยนะ พวกเค้าทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงแล้วก็นั่งคุยหัวเราะคิกคักกันอยู่ที่โต๊ะ  สักพักก็มีแม่บ้านค่ะ เข็นรถเก็บจานมา แล้วรถเนี่ยมันขึ้นบันไดไม่ได้ มันต้องเข็นขึ้นทางสโลป แม่บ้านก็เข็นมาจนถึงทางขึ้นคะ แต่ขึ้นไม่ได้เพราะว่ามีเด็กพวกนี้ขวางอยู่ สักพักหนึ่งในผู้ปกครองเด็กก็หันไปเห็นค่ะว่าลูกๆหลานๆตัวเองเนี่ยสร้างความเดือดร้อนมากแค่ไหน พวกเค้าเลยแก้ไขปัญญาด้วยการ...ยักไหล่แล้วกินข้าวต่อ  แม่บ้านเค้าก็ไม่กล้าค่ะ เค้าเลยต้องเดินขึ้นบันไดแล้วทิ้งรถเข็นไว้ตรงนั้น แล้วเดินเก็บจานทีละนิดแล้วเดินกลับไปที่รถเข็น แล้วก็เดินกลับมาหยิบจานใหม่ เรากับเพื่อนเห็นใจก็เลยช่วยเค้าเก็บจานกันค่ะ คือช่วยซ้อนๆจาน แล้วก็หยิบจานจากโต๊ะที่ไกลๆมารวมๆไว้ตรงบันได  พอเก็บเราเก็บเท่านั้นแหละ โต๊ะนั่นลุกแล้วก็เรียกลูกๆหลานๆเดินออกไป แล้วก็ทิ้งจาน 4 จานไว้บนโต๊ะ...

เรื่องที่ 2

เรื่องนี้ต่อจากเรื่องที่แล้วคะ ไม่รู้ว่าเป็นความซวยอะไรของเราที่ไปนั่งทานข้าววันนั้น พอโต๊ะนั้นลุกไปปุ๊บ โต๊ะข้างๆเราก็มีคนมานั่ง เป็นพ่อและลูกชาย 1 คน แต่ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วค่ะ อายุน่าจะ 6-7 ขวบได้  มานั่งกันเฉยๆไม่ได้กินอะไร ตัวพ่อก็นั่งเล่นไอแพดส่วนตัวลูกนั้นไซร้...นั่งโยกเก้ากี้ คือมันเป็นเก้าอี้กลมๆอะ ที่ไม่มีขา เป็นเก้าอี้ตันๆ (ไม่รู้จะอธิบายยังไง 555) เด็กก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยกเก้าอี้ขึ้นมา แล้วก็ทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างหนักให้เก้ากี้ตกลงมา มันจะดัง ตึก!! ไม่ใช่ครั้งเดียวนะ หลายครั้งมาก และเหมือนว่าพ่อเพิ่งจะได้ยินเสียงที่ลูกตัวเองทำ วางไอแพดและหันมาถามลูกชายว่า
พ่อ : เล่นอะไรน่ะ
ลูก : เล่นเก้าอี้
พ่อ : ไหนๆ ทำให้พ่อดูหน่อยสิ ทำไมมันถึงมีเสียงแบบนั้นน๊าาา
แล้วคุณลูกก็ตอบสนองด้วยการเล่นแบบเดิมหลายๆครั้งติดกัน แถมเหมือนพยายามกระแทกตัวให้แรงกว่าเดิมเพื่อให้มีเสียงดัง
พ่อ : โหย เก่งจังเลย พ่อยังทำไม่ได้เลยนะเนี่ย
ลูก : (พอได้ยินก็ยิ่งกระแทกตัวแรงขึ้นเรื่อยๆ)
พ่อ : ( ยิ้มแล้วลูบหัวลูกสองสามที ก่อนจะหันไปเล่นไอแพดตามเดิม)
เรากับเพื่อนลุกเลย ไม่นั่งมันละศูนย์อาหารนี้ ตอนแรกกะว่ากินข้าวเสร็จจะนั่งเล่นก่อนซักพัก เจองี้ไปล่ะ บายยยยย -_____-

เรื่องที่ 3

อันนี้เจอที่ร้านหมูกระทะค่ะ เรากับเพื่อน 6 คนไปนั่งกินหมูกระทะกัน แถวๆหน้า ม เราเนี่ยแหละ  กินไปได้สักพักใหญ่ๆ ก็มีครอบครัวหนึ่งเดินเข้ามา ไม่รู้เป็นพ่อแม่และลูกๆหรือเปล่า เพราะว่ามีเด็กอายุไล่เลี่ยกัน 4 คน แล้วก็มีอีก 2 ที่ดูโตขึ้นมาอีกนิดนึง คือผู้ปกครองของเด็กทั้ง 6 คน ก็นั่งเยื้องโต๊ะเราไปนิดนึง แล้วพวกเค้านั่งโต๊ะแบบมีเก้าอี้แค่สองตัว ไม่มีการต่อโต๊ะเพิ่มหรืออะไรนะ เค้าพูดอะไรกับเด็กสักอย่าง เราไม่ได้ยินอะ แล้วเด็กอกเริ่มวิ่งเล่นกัน ทีนี้ที่ร้านนี้เค้าเลี้ยงหมาตัวเล็กๆไว้ 2 ตัว เด็ก 6 คนนี้ก็จัดการจู่โจมน้องหมาที่กำลังนอนอยู่ทันที ตอนแรกๆมันก็เล่นด้วยนะ แต่พอนานๆเหมือนหมามันเบื่อและรำคาญอ่ะ หมาก็วิ่งนี้ไปทั่วร้านเลย เด็กพวกนี้ก็สนุกใหญ่ วิ่งไล่ตามหมาหัวเราะคิกคัก ไม่ทันไรก็มีเด็กคนนึงวิ่งมาชนโต๊ะเรา แล้วน้ำในกระทะที่อยู่รอบๆมันก็กระฉอกออกมา แล้วบังเอิญเรากำลังเอื้อมไปคีบหมูในจานพอดี ผลคือน้ำเดือดๆกระเด็นมาโดนมือเรา เราก็หันไปมองเด็กทันที (แอบทำสายตานางมารร้าย) แล้วเด็กก็วิ่งตามหมาต่อ ไม่ขอโทษไม่อะไรเลย เราเลยหันไปมองโต๊ะผู้ปกครองเด็ก เค้าจ้องหน้าเราเขม็งเลย คือเราไปทำอะไรหรอ? คนที่จ้องนี่สมควรเป็นเรามากกว่าไหม? เพื่อนเราก็พูดว่าใจเย็นๆ แล้วก็เช็ดมือให้ เราก็ไม่อยากมีเรื่องเท่าไหร่ก็เลยเงียบๆแล้วกินต่อ แต่ไม่นานเกินรอ น้องหมาผู้สู้ชีวิตก็ได้ตัดสินใจพลาดอย่างใหญ่หลวง นั่นคือการวิ่งหนีเด็กมาอยู่ใต้โต๊ะที่เรานั่ง แล้วดั๊นนนนนนนนน! มาหยุดนอนอยู่ตรงเท้าของเราพอดี ไม่ต้องถามเลยว่าเป็นไง เด็กๆต่างพากันมุดใต้โต๊ะเรามาเล่นกับน้องหมา เรากับเพื่อนก็ เฮ้ยยยยย! พร้อมกันหมด คืองงและตกใจ เราเลยดันเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะ ให้ขาออกห่างจากเด็กพวกนี้มากที่สุด พร้อมหันไปมองโต๊ะผู้ปกครอง ทั้งสองคนมองมาโต๊ะเราแล้วหัวเราะ คืออะไร? นี่เดือดร้อนนะ แล้วเหมือนเด็กคนนึงคงลืมว่าตัวเองอยู่ใต้โต๊ะ ลุกขึ้นยืนแล้วหัวโขกโต๊ะ แต่ไม่ร้องซักแอะ แถมก้มตัวคลานต่อแล้วมาเขี่ยรองเท้าเราเล่น (เราใส่รองเท้าอยู่นะ ไม่ได้ถอด!) คือเราอยู่ในท่าไขว่ห้าง เด็กมาเล่นรองเท้าข้างที่อยู่ข้างบนอะ เราก็ถามว่าทำอะไร! เด็กก็เงียบหันหน้ามาจ้องหน้าเราแล้วก็ตีรองเท้าเรา เราโมโหอะ เลยแกล้งกระดิกเท้าไปทีนึง แล้วบังเอิญรองเท้ามันเด้งไปเขกหัวน้องเค้า พ่อแม่เค้านี่เตรียมจะลุกเลย แต่พอเราหันไปมองเค้าก็นิ่งๆแล้วกินต่อ
เรา : น้องๆ
เด็ก : ?
เรา : ขอโทษนะ  น้องมีพ่อมีแม่ไหม! ( อันนี้บอกเลยว่าแทบจะตะโกน พูดเสียงดังอันทรงพลังมาก )
เด็ก : ....
เรา : ฟังภาษาไทยรู้เรื่องปะคะน้อง ?
เด็ก : หันไปมองโต๊ะผู้ปกครองแล้วหันกลับมาจ้องหน้าเรา
คือเราไม่ชอบกิริยาอะไรแบบนี้มาก ฟิวส์จะขาดให้ได้ เพื่อนเลยเรียกเก็บเงินแล้วออกจากร้าน ตอนที่เดินผ่านโต๊ะผู้ปกครองเด็กเพื่อนเราก็พูดแบบคุยเล่นกันดังๆให้พวกเค้าได้ยินนะว่า

"ตอนที่มีอะไรยุกยิกอยู่ใต้โต๊ะเยอะๆอะ ตอนแรกกูคิดว่าหมา! ถีบไปทีนึง"

จบการบรรยายแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านเรื่องของเรา อาจมีคำไม่สุภาพบ้างขออภัยนะคะ

เพื่อนๆท่านใดมีประสบการณ์ก็มาแชร์กันได้นะคะ เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นเลยค่ะ T_____T
สุดท้ายนี้ขอให้พ่อๆแม่ๆผู้ปกครองทั้งหลายรักลูกให้ถูกวิธีนะคะ ลูกทำถูกก็คือถูก ผิดก็ควรว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่ปล่อยไปเพราะคิดว่าเค้าเป็นแค่เด็กกำลังซน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่