จากทวิตเตอร์ของคุณสุภิญญา กลางณรงค์ (Twitter: @supinya) เธอทวีตมาถึง "กุหลาบพิษ" นักเขียนใน นสพ.บางกอกทูเดย์ มาดังนี้ครับ
ยอมรับว่า #กุหลาบพิษ เขียนได้จี้จุดอ่อนในใจเรื่องส่วนตัว สังเกตว่าคนเขียนทำการบ้านมาพอสมควรในการพูดถึงตัวตนดิฉัน แต่ตรรกะมันผลิตซ้ำอคติมาก
ที่หยิบเรื่องนี้มาพูดเพราะบทความนี้นำเรื่องอคติทางเพศสภาพมาผลิตซ้ำ ควรต้องถูกทักท้วงในสังคม เหมือนงานที่กำลังทำเรื่องยกระดับวิธีคิดในละครไทย
ผู้หญิงในชีวิตจริงคงไม่เหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ถูกสะท้อนในละครทีวีเสมอไป เรา/สื่อควรช่วยกันยกระดับทัศนคติที่empowerศักยภาพ/เหตุผลของมนุษย์
หลายครั้งที่สังคม(ไทย)ทำให้ผู้หญิงต้องลดทอนสิ่งที่เรียกว่า self-esteem ด้วยทัศนคติที่ถูกสร้างขึ้นมาและผู้หญิงก็ไปยึดถือมันไว้เอง
มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพที่จะแสดงเหตุผลและผลักดันบางส่ิงบางอย่างเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ว่าเขาหรือเธอจะอยู่ในเพศสภาพใด
สามีถ้าจะหาเมื่อใดก็คงเมื่อนั้น แต่การได้ทำงานที่มีความหมายต่อการเปลี่ยนแปลงระบบสื่อไทยใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ นับจาก2498พึ่งจะมีโอกาสนี้ Lol
ปล. พ.ศ. 2498 คือปีที่สยามเริ่มมีสถานีโทรทัศน์ขาว-ดำ ออนแอร์ในประเทศไทย และ พรบ.ควบคุมการใช้คลื่นความถี่ฯ ก็เริ่มต้นในปีนี้
ผู้หญิงเรา ไม่ว่าจะเป็น icon แบบ Joan of Arc หรือแบบ Amelie ขอเพียงให้เรามั่นใจ ซื่อตรงต่อตัวเอง รักในสิ่งที่เราเป็นและทำให้ดีที่สุดเสมอ
ขอบคุณทุก mentions ค่ะ ไม่ได้ติดใจกับบทความในมิติส่วนตัว แต่ข้องใจในตรรกะเลยต้องขอท้วงติงไว้ให้คนเขียนได้ตระหนักบ้าง #กุหลาบพิษ
เห็นบทความนี้เพราะ สนง.ทำ clipping ของวันนี้ให้บอร์ดทุกคนอ่าน ตอนเห็นพาดหัวก็งงๆว่า สนง.ตัดบทความนี้มาทำไม พอตั้งใจอ่านถึงรู้ว่าวิจารณ์เรา
คหสต. ผมว่าคนที่ชอบเขียนแบบนี้ควรจะมีจักรยาน เอ๊ย! วิจารณญาณในการเขียนนะ คิดก่อนเขียน ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรเขียนก็เขียนในสิ่งที่ไม่ควรเขียน การที่เขียนในลักษณะที่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวนั้นคือสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนคนนั้น "ต่ำ" ในทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก สื่อถึงนิสัยอันถาวร (ส.ด.) ของคนเขียนอย่างชัดเจน
คุณเก๋-สุภิญญา ฝากทวีตมาถึง "กุหลาบพิษ" ของ นสพ.บางกอกทูเดย์ ครับ
ยอมรับว่า #กุหลาบพิษ เขียนได้จี้จุดอ่อนในใจเรื่องส่วนตัว สังเกตว่าคนเขียนทำการบ้านมาพอสมควรในการพูดถึงตัวตนดิฉัน แต่ตรรกะมันผลิตซ้ำอคติมาก
ที่หยิบเรื่องนี้มาพูดเพราะบทความนี้นำเรื่องอคติทางเพศสภาพมาผลิตซ้ำ ควรต้องถูกทักท้วงในสังคม เหมือนงานที่กำลังทำเรื่องยกระดับวิธีคิดในละครไทย
ผู้หญิงในชีวิตจริงคงไม่เหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ถูกสะท้อนในละครทีวีเสมอไป เรา/สื่อควรช่วยกันยกระดับทัศนคติที่empowerศักยภาพ/เหตุผลของมนุษย์
หลายครั้งที่สังคม(ไทย)ทำให้ผู้หญิงต้องลดทอนสิ่งที่เรียกว่า self-esteem ด้วยทัศนคติที่ถูกสร้างขึ้นมาและผู้หญิงก็ไปยึดถือมันไว้เอง
มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพที่จะแสดงเหตุผลและผลักดันบางส่ิงบางอย่างเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ว่าเขาหรือเธอจะอยู่ในเพศสภาพใด
สามีถ้าจะหาเมื่อใดก็คงเมื่อนั้น แต่การได้ทำงานที่มีความหมายต่อการเปลี่ยนแปลงระบบสื่อไทยใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ นับจาก2498พึ่งจะมีโอกาสนี้ Lol
ปล. พ.ศ. 2498 คือปีที่สยามเริ่มมีสถานีโทรทัศน์ขาว-ดำ ออนแอร์ในประเทศไทย และ พรบ.ควบคุมการใช้คลื่นความถี่ฯ ก็เริ่มต้นในปีนี้
ผู้หญิงเรา ไม่ว่าจะเป็น icon แบบ Joan of Arc หรือแบบ Amelie ขอเพียงให้เรามั่นใจ ซื่อตรงต่อตัวเอง รักในสิ่งที่เราเป็นและทำให้ดีที่สุดเสมอ
ขอบคุณทุก mentions ค่ะ ไม่ได้ติดใจกับบทความในมิติส่วนตัว แต่ข้องใจในตรรกะเลยต้องขอท้วงติงไว้ให้คนเขียนได้ตระหนักบ้าง #กุหลาบพิษ
เห็นบทความนี้เพราะ สนง.ทำ clipping ของวันนี้ให้บอร์ดทุกคนอ่าน ตอนเห็นพาดหัวก็งงๆว่า สนง.ตัดบทความนี้มาทำไม พอตั้งใจอ่านถึงรู้ว่าวิจารณ์เรา
คหสต. ผมว่าคนที่ชอบเขียนแบบนี้ควรจะมีจักรยาน เอ๊ย! วิจารณญาณในการเขียนนะ คิดก่อนเขียน ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรเขียนก็เขียนในสิ่งที่ไม่ควรเขียน การที่เขียนในลักษณะที่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวนั้นคือสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนคนนั้น "ต่ำ" ในทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก สื่อถึงนิสัยอันถาวร (ส.ด.) ของคนเขียนอย่างชัดเจน