รักษ์กฐิน..........กว่าจะสำเร็จเป็นบุญ........

กระทู้สนทนา


ความเป็นมาของกฐิน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ก็มีวัดป่า บางวัดที่พ่อแม่ครูอาจารย์ฯ ไม่เอาอานิสงส์นี้มาใช้  เพราะทุกข้อนั้นเป็นการฝ่าฝืนวินัยสงฆ์

ความหมายของกฐิน  กฐิน เป็นศัพท์บาลี แปลตามศัพท์ว่าไม้สะดึง คือ "กรอบไม้" หรือ "ไม้แบบ" สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรในสมัยโบราณ ซึ่งผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน (ผ้าเย็บจากไม้แบบ)

กฐิน อาจจำแนกตามความหมายเพื่อความเข้าใจง่ายได้ดังนี้  กฐิน มีความหมาย ๔ ประการ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

กฐิน ในปัจจุบัน มีผู้ถวายผ้ามากขึ้น มีผู้สามารถตัดเย็บย้อมผ้าที่จะทำเป็นจีวรได้แพร่หลายขึ้นการใช้ไม้แม่แบบ อย่างเก่าจึงเลิกไป เพียงถวายผ้าขาวให้ตัด เย็บ ย้อม ให้เสร็จในวันนั้น หรือนำผ้าสำเร็จรูปมาถวายก็เรียกว่า "ถวายผ้ากฐิน" เช่นกัน

ความสำคัญพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่น
การถวายกฐินนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งทำให้การถวายกฐินมีความความพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่นดังนี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การทอดกฐินในประเทศไทยมีหลายแบบ ในกระทู้นี้ขอคุยเพียงเรื่อง กฐินราษฏร์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของวัดป่ามาคุยกัน
กฐินราษฎร์ คือกฐินที่คนทั่วไปที่มีจิตศรัทธาจัดถวายผ้ากฐิน และเครื่องกฐินไปถวายยังวัดราษฎร์ต่าง ๆ โดยนิยมเรียกกันว่า กฐินสามัคคี
ผู้เป็นประธานหรือเจ้าภาพในการทอดกฐินจะต้องไปติดต่อยังวัดนั้นๆ เพื่อขอเป็นเจ้าภาพ จะเป็นเจ้าภาพเดียวก็ได้  หรือ จะหาเจ้าภาพร่วมด้วยก็ได้  ถ้าหาเจ้าภาพร่วมก็เรียก กฐินสามัคคี

อย่างที่บอกข้างต้น  กฐินแปลโดยศัพท์แปลได้หลายอย่าง  แต่ถ้าพูดภาษาชาวบ้านเรื่องการทอดกฐิน ก็หมายถึง การนำผ้า (ที่ใช้เย็บเป็นจีวรหรือสบง) พร้อม เข็ม ด้าย สีย้อมผ้า รวมเรียก เครื่องกฐิน นอกเหนือจากนี้ไปจัดเป็นบริวารกฐินทั้งหมด  เช่น ถ้วย ชาม กะละมัง หม้อ แก้ว ไม้กวาด ไม้ถูพื้น สบู่ ยาสีฟัน ยารักษาโรค  ฯลฯ

ผ้าขาวซันฟลอไรซ์  เบอร์ 10000 เป็นที่นิยมนำมาทำผ้ากฐิน

สีย้อมผ้า

ด้ายและเข็มเย็บผ้า


แม้กระทั่งเรื่องเงิน ที่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นซองแจกไปตามสายบุญ โดยบางเจ้าภาพก็ไปหาต้นสาย นาย ก. นาย ข. นาย ค. รับไปคนละ ร้อยซอง ไปบอกบุญ  ก่อนถึงวันงานก็ไปตามเก็บรวมกันไปน้อมถวายวันงานทอดกฐิน  เงินที่ว่านี้ก็เป็นบริวารกฐินเช่นกัน

********** กรณีซองกฐินนี้  ตามวินัยสงฆ์ วัดห้ามทำเองนะครับ ต้องเป็นเจ้าภาพจัดทำเอง แจกเอง (แต่ปั๊มตราวัด) และก็ยังมีหลายวัดที่ปฏิบัติอยู่  ห้ามมีซองแจก  ห้ามขึ้นป้ายบอกบุญ  แล้วแต่ความฉลาดของเจ้าภาพจะไปจัดการเอง **********

มาดูทางวัดบ้าง ต้องเตรียมอะไร หลักๆคือ เตรียมสถานที่อาสนะสงฆ์เพื่อทำพิธีกรานผ้ากฐิน  โดยมีสายสิญน์ขึงโยงจากพระประทานและเครื่องกฐิน ไปยังจุดต่างๆ ให้ผู้มาร่วมงานได้นั่งอนุโมทนา รวมถึงสถานที่จัดโรงทาน ส่วนใหญ่แล้วในสายบารมี (ลูกศิษย์ในแต่ละวัด) เมื่อทราบข่าวก็จะจองโรงทาน ให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้กิน ดื่ม ฟรีตลอดงาน สุดท้ายที่ทางวัดต้องเตรียมคือ ที่จอดรถ รวมถึงวิธีขนส่งคนเข้าไปยังวัด หากสถานที่จอดอยู่ไกล

เมื่อถึงวันงานช่วงเช้า จะมีพิธีถวายอาหารพระ โดยข้าวปลาอาหารก็ได้จากโรงทานที่มาร่วมงาน  



ระหว่างที่พระฉันอาหาร  ผู้มาร่วมงานก็ทานอาหารและพักผ่อนรอเวลาพิธีกรานกฐิน  



พิธีทางสงฆ์เพื่อกรานกฐิน

เจ้าภาพผ้ากฐิน  กล่าวคำถวายผ้าให้แก่สงฆ์

คณะสงฆ์  ทำพิธีกรานกฐิน  พระผู้ที่จะรับกฐินจะนั่งเป็นประธานตรงหน้ากองผ้ากฐิน  ส่วนพระผู้กรานกฐิน  จะนั่งอยู่รายรอบ จำนวน ๔ รูป เพื่อกล่าวคำกรานกฐิน  พระที่จะรับกฐินต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มัคทายกกล่าวคำถวายผ้ากฐิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทสวดกรานกฐิน ภาษามคธ ดูได้ที่นี่ http://in84000.blogspot.com/2011/10/blog-post_4495.html  แปลเป็นไทย http://www.dhammajak.net/suadmon1/195.html หลังจากสวดกรานกฐินครบ ๔ รูปแล้ว ต้องตั้งญัตติยุติกรรมวาจา

หลังจากจบขั้นตอนนี้แล้ว  เจ้าภาพและผู้ศรัทธาที่มาร่วมงาน จึงนำบริวารกฐิน เข้าน้อมถวายแด่สงฆ์  คณะสงฆ์พร้อมใจอนุโมทนาเป็นอันเสร็จพิธี
เมื่อพิธีขั้นตอนต่างๆ เสร็จแล้ว  พระผู้ชำนาญ (หลายรูป) ต้องช่วยกันนำผ้ากฐินไป กะ (วาดแบบ) ตัดเย็บ  ย้อม  ตากแห้ง เพื่อนำไปให้พระผู้ที่รับผ้ากฐินได้พินทุ  พร้อมกันกับ พระทุกรูปที่อยู่ในเขตวัด เข้าร่วมพิธีอนุโมทนากฐินพร้อมกัน  และต้องทำให้เสร็จก่อนรุ่งอรุณของอีกวันหนึ่ง

กาลพิธี  ทอดกฐิน  จึงจะสมบูรณ์  หากว่า ทำไม่ทันรุ่งเช้าของอีกวัน  จะนับว่าเป็นกฐินเดาะ  หมายถึง  อานิสงส์แห่งกฐินของพระที่รับไม่สำเร็จ (แต่ศรัทธาญาติโยมที่น้อมถวายสำเร็จนะ)

พระผู้ชำนาญ กะ  วัด  ตัด  ทำจีวร หรือ สบง อย่างใดอย่างหนึ่ง  ตามที่พระผู้รับกฐิตต้องการ

แบบวิธีวาดผ้า และ ตัดเย็บ ขึ้นเป็นจีวร

พระผู้ชำนาญเย็บด้วยจักรอุตสาหกรรม

ตัดเสร็จแล้วต้องย้อมผ้าให้ได้สีอย่างที่ต้องการ

ผืนนี้เป็นผ้านุ่ง เรียกว่า  สบง
-------------------------
เครดิตภาพและบทความจากอินเตอร์เน็ต และ
http://student.nu.ac.th/katin/history.html
http://pantip.com/topic/31110063
ปล. บทความยังไม่สมบูรณ์นะ

ถึงตรงนี้แล้ว  เพื่อนๆเห็นไม๊ว่า  ก ฐิ น  ไม่ง่ายเลยที่จะทำได้สำเร็จ  องค์ประกอบมีมากมาย  หากแต่เราชาวพุทธ เปิดใจและ พร้อมใจ  

บุญนั้นย่อมสำเร็จ เป็นอานิสงส์บุญตามติดเราไปชั่วกาลนาน

จขกท. ขอน้อมใจเผยแพร่เป็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่