สนช.ต้องสง่างาม ...... ประชาไท ธนณรงค์ .... แนวหน้าออนไลน์
กรณี พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กับพวก 28 คนยื่นศาลปกครอง
เพื่อห้ามคณะกรรมการและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น(ปปช.)ไม่ให้เปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินต่อ
สาธารณชน กลายเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามว่า ทำไม สนช.ถึงกลัวการตรวจสอบ
อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ประกาศเจตนารมณ์ของการ
เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราวด้วยนโยบายโปร่งใส ไม่คอรัปชั่น เพราะเป็นรัฐบาลที่ไม่ใช่นักการเมือง จะต้อง
ทำทุกอย่างให้เป็นตัวอย่าง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์
ฉะนั้น สนช. จึงต้องไม่กลัวการตรวจสอบใดๆทั้งสิ้น
เหตุผลที่ พล.อ.นพดล ไม่ต้องการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินให้ประชาชนได้รับทราบคือ
สนช. ไม่ใช่นักการเมือง สนช.ไม่ใช่ สส.หรือ สว. จึงไม่ต้องเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินต่อประชาชน
จึงมีคนค้านความคิดดังกล่าว เพราะในวันที่มีการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในที่ประชุมสนช. ประเด็นที่ถกเถียงกันมากคือ หมวด10ว่าด้วยการถอดถอน
นักการเมืองที่กระทำผิด สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีอำนาจหรือไม่เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
ไม่ได้เขียนเอาไว้
แต่มีสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่า สนช.มีอำนาจถอดถอนได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว
มาตรา 6 บัญญัติว่า
ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจํานวนไม่เกินสองร้อยยี่สิบคนซึ่งพระมหากษัตริย์
ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบ
แห่งชาติถวายคําแนะนํา
ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา
ฉะนั้นเมื่อที่ประชุมสนช.มีมติรับร่างข้อบังคับการประชุมสภา 221 ข้อ โดยมีหมวดถอดถอน
รวมอยู่ด้วย นั่นหมายความว่า สนช.ทำหน้าที่เป็นสส.และสว. สรุปคือ สนช.ก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกับ
นักการเมือง จึงไม่ควรมีอภิสิทธิ์ชนเหนือใครที่จะไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินให้ประชาชนได้รับทราบ
เฉกเช่นรัฐมนตรี และนักการเมืองโดยทั่วไป
เพราะว่าการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นอีกหนทางหนึ่งในการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น
เพราะเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ประชาชนจะได้ทราบว่ามีทรัพย์สินเท่าไหร่ เมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้วมีทรัพย์เพิ่ม
หรือลด หรือผ่านไป 1 ปี มีลดหรือเพิ่มเพื่อตรวจสอบความโปร่งใส
คนที่ทำมาหากินสุจริต ไม่ว่าทหารหรือตำรวจที่เป็น สนช. ได้รับการโปรดเกล้าฯมาอย่าง
สมเกียรติ ทำไมจะต้องกลัวการเปิดเผยความจริงให้ประชาชนได้รับทราบ คนดีย่อมไม่กลัวคนชั่ว ทองแท้
ยังไงก็เป็นทองวันยังค่ำ เหมือนสนช.ต้องยืนอยู่อย่างสง่างามเพื่อเป็นตัวอย่างทีดี
มีแต่คนขี้โกงเท่านั้นแหละที่กลัวการตรวจสอบ
http://www.naewna.com/politic/columnist/14661
สนช. .... อาสาทำงานเพื่อชาติ ต้องโปร่งใส
กรณี พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กับพวก 28 คนยื่นศาลปกครอง
เพื่อห้ามคณะกรรมการและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น(ปปช.)ไม่ให้เปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินต่อ
สาธารณชน กลายเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามว่า ทำไม สนช.ถึงกลัวการตรวจสอบ
อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ประกาศเจตนารมณ์ของการ
เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราวด้วยนโยบายโปร่งใส ไม่คอรัปชั่น เพราะเป็นรัฐบาลที่ไม่ใช่นักการเมือง จะต้อง
ทำทุกอย่างให้เป็นตัวอย่าง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์
ฉะนั้น สนช. จึงต้องไม่กลัวการตรวจสอบใดๆทั้งสิ้น
เหตุผลที่ พล.อ.นพดล ไม่ต้องการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินให้ประชาชนได้รับทราบคือ
สนช. ไม่ใช่นักการเมือง สนช.ไม่ใช่ สส.หรือ สว. จึงไม่ต้องเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินต่อประชาชน
จึงมีคนค้านความคิดดังกล่าว เพราะในวันที่มีการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในที่ประชุมสนช. ประเด็นที่ถกเถียงกันมากคือ หมวด10ว่าด้วยการถอดถอน
นักการเมืองที่กระทำผิด สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีอำนาจหรือไม่เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
ไม่ได้เขียนเอาไว้
แต่มีสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่า สนช.มีอำนาจถอดถอนได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว
มาตรา 6 บัญญัติว่า
ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจํานวนไม่เกินสองร้อยยี่สิบคนซึ่งพระมหากษัตริย์
ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบ
แห่งชาติถวายคําแนะนํา
ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา
ฉะนั้นเมื่อที่ประชุมสนช.มีมติรับร่างข้อบังคับการประชุมสภา 221 ข้อ โดยมีหมวดถอดถอน
รวมอยู่ด้วย นั่นหมายความว่า สนช.ทำหน้าที่เป็นสส.และสว. สรุปคือ สนช.ก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกับ
นักการเมือง จึงไม่ควรมีอภิสิทธิ์ชนเหนือใครที่จะไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินให้ประชาชนได้รับทราบ
เฉกเช่นรัฐมนตรี และนักการเมืองโดยทั่วไป
เพราะว่าการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นอีกหนทางหนึ่งในการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น
เพราะเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ประชาชนจะได้ทราบว่ามีทรัพย์สินเท่าไหร่ เมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้วมีทรัพย์เพิ่ม
หรือลด หรือผ่านไป 1 ปี มีลดหรือเพิ่มเพื่อตรวจสอบความโปร่งใส
คนที่ทำมาหากินสุจริต ไม่ว่าทหารหรือตำรวจที่เป็น สนช. ได้รับการโปรดเกล้าฯมาอย่าง
สมเกียรติ ทำไมจะต้องกลัวการเปิดเผยความจริงให้ประชาชนได้รับทราบ คนดีย่อมไม่กลัวคนชั่ว ทองแท้
ยังไงก็เป็นทองวันยังค่ำ เหมือนสนช.ต้องยืนอยู่อย่างสง่างามเพื่อเป็นตัวอย่างทีดี
มีแต่คนขี้โกงเท่านั้นแหละที่กลัวการตรวจสอบ
http://www.naewna.com/politic/columnist/14661