+++คำกล่าวของ อดีตนายก ยิ่งลักษณ์ ไม่รับทุกข้อกล่าวหาในกรณีจำนำข้าว+++

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 58)--น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เพื่อโต้แย้งสำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในคดีถอดถอดจากตำแหน่งจากกรณีที่ไม่ระงับยับยั้งจนทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของทั้ง ป.ป.ช. และอดีตฝ่ายค้าน
          พร้อมทั้งยืนยันว่าบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วนถูกต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ตลอดจนกฎระเบียบข้อบังคับของทางราชการ และแนวทางการบริหารที่ดีโปร่งใสและเป็นธรรม
          "หากคิดจะดำเนินการต่อดิฉันอยากจะฝากข้อพิจารณาว่าการปฏิรูปทางการเมือง ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันและสมาชิกสภานิติบัญญัติทุกท่านต้องการเห็นหากมีการดำเนินการที่ไม่มีหลักนิติธรรมไม่มีกฎหมายรองรับสังคมจะเห็นว่าไม่ยุติธรรมการปฏิรูปอันจะนำไปสู่ความปรองดองในสังคมจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
          ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่าการยื่นสำนวนถอดถอนของ ป.ป.ช.ในครั้งนี้เป็นความซ้ำซ้อน และอาจสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ให้ถอดถอนแล้ว หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นจากการประกาศยุบสภา, คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
          "ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และจากประกาศ คสช. ทั้งหมดก็มีผลสมบูรณ์แล้ว และจนถึงวันนี้ดิฉันก็ไม่เหลือตำแหน่งอะไรที่จะให้ถอดถอนอีก ซึ่งหากยังมีการดำเนินการดังกล่าว ก็จะถือเป็นการซ้ำซ้อน และสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว
          น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าว เป็นแนวคิดของพรรคเพื่อไทยที่พัฒนาจนเป็นนโยบายในการหาเสียงหลักซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากพี่น้องประชาชน ด้วยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจึงถือว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นสัญญาประชาคมที่รัฐบาลมีต่อชาวนาไทยและประชาชนคนไทยทุกคน
          แนวคิดของนโยบาย มาจากการที่พรรคเข้าใจถึงปัญหาของชาวนา ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ และเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เผชิญกับปัญหาความยากจนต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานมีรายได้ที่ชักหน้าไม่ถึงหลังและต่ำกว่าค่าจ้างแรงงานทุกประเภททำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ด้วยราคาข้าวที่ตกต่ำมาตลอดในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้นทุกปีและชาวนาไทยเองได้รับส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม
          ดังนั้น จากสำนวนคดีในครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบไปถึงนักการเมือง แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงชาวนา และเกษตรกรโดยทั่วไปที่ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความยากจน และรอความหวังอยู่ที่นโยบายของรัฐบาล รวมทั้งจะมีผลไปถึงการจัดทำนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในอนาคตได้         
          ทั้งนี้ ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แถลงคัดค้านคำแถลงเปิดสำนวนเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุม สนช.ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการซักถามขึ้น 9 คน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า หากสมาชิก สนช.คนใดมีความประสงค์จะซักถามเพิ่มเติมให้ยื่นประเด็นซักถามมาภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 13 ม.ค.58 ขณะเดียวกันได้กำหนดวันนัดประชุมเพื่อตอบข้อซักถามในวันที่ 16 ม.ค.58 เวลา 10.00 น.




    
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--








สำหรับ..สลิ่ม....[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


http://youtu.be/gaREsO7gV6s ความเห็นของอาจารย์  ศิโรตม์  ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่