เรื่องที่ไม่แซ่บ เท่ากับกระทู้จับผิดหมอและพยาบาล แต่มันคือความจริง สักวันหนึ่งหวังว่าจะมีคนรู้ และ มันคงไม่สายเกินไป กับการเกิดปัญหาหมอลาออก เหมือนกับในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่มีปัญหาสมองไหลของหมอ ออกนอกประเทศ
แม่เด็กลูกครึ่งไทย-เยอรมัน คนไข้ประจำ เล่าให้ฟังว่า
"ลูกไปอยู่ที่เยอรมัน ได้ไปหาหมอที่โน่นด้วยค่ะ
พอได้เจอแล้ว รู้สึกคิดถึงหมอที่นี่มากเลยค่ะ"
"ลูกเป็นอะไรเหรอคะ"
"น้องล้ม มีแผลที่หน้าเลือดออก ไปหาหมอที่โน่น ไม่เจอหมอค่ะ
แต่คุณพยาบาลให้ใบนัดมาแทน ให้มาวันรุ่งขึ้น
เลือดก็หยุดไหลแล้วน่ะสิคะ"
"อีกบ้านนึง ลูกมีไข้สูง ไอ ไปหาหมอที่นั่น หมอก็ไม่ให้นอนง่าย ๆ นะคะ
นัดมาดูทุกวัน จนสุดท้าย ได้แอดมิท แต่เข้า ไอซียูไปเลยค่ะ เพราะหอบมาก"
อันนี้ คือ อีกสถานการณ์จริง อันหนึ่ง จากปากแม่เด็ก เกี่ยวกับแพทย์ที่เยอรมัน
ส่วนที่อังกฤษ กับอเมริกา ก็ไม่ต่างกัน คือ ไม่ได้เจอหมอทันที บางทีได้ใบนัดอีกที 3 สัปดาห์ อาการก็หายไปหมดแล้ว
เคสที่อังกฤษ ลูกไปมีไข้สูงตอน สองทุ่ม กว่าจะได้เจอหมอ คือ ตี 2 เพราะต้องรอให้ครบ 4 คน พยาบาลจึงจะโทร ตามหมอ ที่อยู่อีกเมืองให้ขับรถมาดูทีเดียว
"คนที่หัวแตก ก็รอจนเลือดหยุดไหลไปเลยค่ะหมอ"
อีกเคส ที่อเมริกา ลูกมีไข้สูง ไปหาหมอทุกวัน หมอไล่ให้กลับมากินพารา เช็ดตัวเอา แล้วนัดมาทุกวัน ติดกัน สี่วัน จนไข้ลงเอง ยาฆ่าเชื้อก็ไม่ได้ด้วยนะจ๊ะ..
ยังมีเคสที่ญี่ปุ่นอีก
อยากจะบอกว่า แพทย์ที่บ้านเรา เสียสละมาก ๆ แล้ว ทำงานมากกว่าชาติอื่นมากนัก หากประชาชนชาวไทย ยังเอาแต่ได้ ไม่เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาลแบบนี้ต่อไป
กำลังใจที่จะอยู่ช่วยเหลือกัน คงจะหมดเข้าสักวันนะคะ
หมายเหตุ อยากให้รู้สถานการณ์กันนิดนึง คนไทยชอบด่าหมอรพ.รัฐว่า บริการไม่ดี ไม่มีน้ำใจ ให้ยาไม่ดี อยู่เวรหน้าตาเหมือนง่วงนอน
อย่างนั้น อย่างนี้
ในขณะที่ ต่างชาติ กลับ เชื่อมั่น และศรัทธาในความสามารถของแพทย์ไทย จนหลั่งไหลเข้ามารักษา ทั้งที่ บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศก็แทบไม่พออยู่แล้ว แต่เขาเหล่านั้น ก็ยังเสียสละเพื่อคนไทย
แต่เมื่อไหร่ ที่หมดใจ คนไทยคงได้ตระหนักความจริงว่า ที่ผ่านมานั้น คุณได้ทำลายสิ่งที่มีค่าอยู่ในมือไปอย่างไรบ้าง
นะคะ
Credit จาก FACEBOOK คุณ 吴桂英 ครับ
เรื่องที่ไม่มีใครสนใจ เพราะมันไม่มัน แต่มันคือความจริง
แม่เด็กลูกครึ่งไทย-เยอรมัน คนไข้ประจำ เล่าให้ฟังว่า
"ลูกไปอยู่ที่เยอรมัน ได้ไปหาหมอที่โน่นด้วยค่ะ
พอได้เจอแล้ว รู้สึกคิดถึงหมอที่นี่มากเลยค่ะ"
"ลูกเป็นอะไรเหรอคะ"
"น้องล้ม มีแผลที่หน้าเลือดออก ไปหาหมอที่โน่น ไม่เจอหมอค่ะ
แต่คุณพยาบาลให้ใบนัดมาแทน ให้มาวันรุ่งขึ้น
เลือดก็หยุดไหลแล้วน่ะสิคะ"
"อีกบ้านนึง ลูกมีไข้สูง ไอ ไปหาหมอที่นั่น หมอก็ไม่ให้นอนง่าย ๆ นะคะ
นัดมาดูทุกวัน จนสุดท้าย ได้แอดมิท แต่เข้า ไอซียูไปเลยค่ะ เพราะหอบมาก"
อันนี้ คือ อีกสถานการณ์จริง อันหนึ่ง จากปากแม่เด็ก เกี่ยวกับแพทย์ที่เยอรมัน
ส่วนที่อังกฤษ กับอเมริกา ก็ไม่ต่างกัน คือ ไม่ได้เจอหมอทันที บางทีได้ใบนัดอีกที 3 สัปดาห์ อาการก็หายไปหมดแล้ว
เคสที่อังกฤษ ลูกไปมีไข้สูงตอน สองทุ่ม กว่าจะได้เจอหมอ คือ ตี 2 เพราะต้องรอให้ครบ 4 คน พยาบาลจึงจะโทร ตามหมอ ที่อยู่อีกเมืองให้ขับรถมาดูทีเดียว
"คนที่หัวแตก ก็รอจนเลือดหยุดไหลไปเลยค่ะหมอ"
อีกเคส ที่อเมริกา ลูกมีไข้สูง ไปหาหมอทุกวัน หมอไล่ให้กลับมากินพารา เช็ดตัวเอา แล้วนัดมาทุกวัน ติดกัน สี่วัน จนไข้ลงเอง ยาฆ่าเชื้อก็ไม่ได้ด้วยนะจ๊ะ..
ยังมีเคสที่ญี่ปุ่นอีก
อยากจะบอกว่า แพทย์ที่บ้านเรา เสียสละมาก ๆ แล้ว ทำงานมากกว่าชาติอื่นมากนัก หากประชาชนชาวไทย ยังเอาแต่ได้ ไม่เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาลแบบนี้ต่อไป
กำลังใจที่จะอยู่ช่วยเหลือกัน คงจะหมดเข้าสักวันนะคะ
หมายเหตุ อยากให้รู้สถานการณ์กันนิดนึง คนไทยชอบด่าหมอรพ.รัฐว่า บริการไม่ดี ไม่มีน้ำใจ ให้ยาไม่ดี อยู่เวรหน้าตาเหมือนง่วงนอน
อย่างนั้น อย่างนี้
ในขณะที่ ต่างชาติ กลับ เชื่อมั่น และศรัทธาในความสามารถของแพทย์ไทย จนหลั่งไหลเข้ามารักษา ทั้งที่ บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศก็แทบไม่พออยู่แล้ว แต่เขาเหล่านั้น ก็ยังเสียสละเพื่อคนไทย
แต่เมื่อไหร่ ที่หมดใจ คนไทยคงได้ตระหนักความจริงว่า ที่ผ่านมานั้น คุณได้ทำลายสิ่งที่มีค่าอยู่ในมือไปอย่างไรบ้าง
นะคะ
Credit จาก FACEBOOK คุณ 吴桂英 ครับ