หลังจากเขียนภาคแรกไปแล้ว 2 วัน วันนี้จะมาเขียนภาคสนองให้จบค่ะ ขาดวันที่ 3, 4 และ 5 ค่ะ
ใครที่ไม่ได้ติดตามภาคแรก กลับไปอ่านที่กระทู้นี้ได้นะคะ
http://pantip.com/topic/32628578
มาเริ่มต้นกันเลยดีกว่าค่ะ วันทีสามของการเที่ยวนี้ ขอบอกว่าวันนี้โหดสุดค่ะ ปีนเขาหนักๆเน้นๆ เดินจนขาลากกันไปเลยค่ะ ต้องขอว่าต้องบอึดมากค่ะ
ใจต้องเต็มไปด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้าค่ะ เพราะสถานที่ที่จะไปนั้น ต้องปีนกันโหดอยู่ค่ะ
ทริปวันที่สามค่ะ -- “Giant Buddha & Po Lin Monastery (พระใหญ่โปลิน) ที่เกาะลันตา” - “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” - “Ten Thousand Buddha Monastery (Man Fu Ji) (วัดหมื่นพุทธ)” - “Snoopy’s World”
เนื่องจากว่าช่วงที่ไปกระเช้านองปิงปิดค่ะ เปิดอีกทีวันที่ 20 กันยายน 2557 ค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้คนเลยมากมายมหาศาลค่ะ ทัวร์ลงด้วย ขนาดว่าไปถึงที่ Ngong Ping Cable Car ตั้งแต่ 8.00 นะคะ ยังได้ขึ้นกระเช้าเกือบสิบโมงค่ะ
การเดินทางมาที่ Ngong Ping Cable Car นั้น ง่ายแสนง่ายค่ะ จาก Mong Kok นะคะ นั่ง MTR สายสีแดง (Tsuen Wan Line) (เลือกไปทางสถานี Tsuen Wan) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Lai King (ระยะทาง 7 สถานี) เปลี่ยนเป็นสายสีส้ม (Tung Chung Line) (ระยะทาง 3 สถานี) ไปลงสถานีปลายทาง Tung Chung – Exit: B ขึ้นมาแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอ Ngong Ping Cable Car เด่นเป็นสง่าค่ะ
**วันไปแนะนำให้ทาครีมกันแดด พกร่ม พกหมวก พกพัด พกน้ำเปล่า ไปด้วยนะคะ อากาศร้อนมาก แดดแรงมากค่ะ

มีป้ายบอกทางชัดเจนมากค่ะ รับรองว่าไม่หลงค่ะ

ที่ Ngong Ping Cable Car นั้นเปิดบริการตอน 8.30 ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ๋์ แต่กระเช้านั้น ที่นั่นเปิดให้วิ่งขึ้นลงตั้งแต่ 7 โมงกว่าแล้วค่ะ แล้วก็เปิดให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำร้านขายของข้างบนได้ใช้บริการก่อนค่ะ ไปถึงก่อนเวลา เลยได้ถ่ายรูปเล่นค่ะ

ในที่สุดก็ได้ขึ้นกระเช้าค่ะ เลือกแบบ Crystal Cable Car ค่ะ ตั๋วนั้นซื้อจากเมืองไทยไปค่ะ ไปกลับคนละ 780 บาทค่ะ ขอบอกว่าคุ้มนะคะ เห็นวิวสวยๆแบบ 360 องศา อย่างที่ Ngong Ping Cable Car โฆษณาไว้ค่ะ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะเนี่ย) แต่การรอต่อคิว วันที่ไปคนใช้บริการ Crystal Cable Car มากกว่ากระเช้าปกติค่ะ แต่ก็คุ้มค่าที่รอคอยนะคะ เพราะวิวสวยจับใจค่ะ

วิวที่ได้จากกระเช้าคือ ภูเขา ทะเล เรือเฟอร์รี่ สนามบิน......สวยงามเกินบรรยายค่ะ

ใช้เวลาไปถึงชั่วโมงก็ถึง Ngong Ping Village ค่ะ ..... แต่อาจจะต้องทนแดดร้อนหน่อยนะคะ เพราะกระเช้าเปิดโล่ง แบบกระจกอ่ะค่ะ ไม่บังแดดเลย

พอลงจากกระเช้า ก็จะเห็นองค์พระใหญ่โปลินอยู่ไกลๆ เราก็ต้องเดินผ่าน Ngong Ping Village ไปค่ะ พอลงกระเช้ามา ก็จะมีคนมาขายรูปถ่ายเราตอนขึ้นกระเช้าค่ะ ขอบอกว่าซื้อมาค่ะ ซื้อมาครบเซทเลย รูปใหญ่หนึ่งรูป แบบที่อย่ที่ทับกระดาษที่มีน้ำใสๆข้างในอีกหนึ่งเซท พวงกุญแจสองพวง ถ้าซื้อรูปที่ด้านบน จะได้คูปองไปถ่ายรูปฟรีได้หนึ่งรูปค่ะ เป็นการค้าที่หัวใสมาก เพราะว่าเค้าถ่ายให้มากกว่าหนึ่งแอคค่ะ ก็เสียตังซื้อมาอีก อิอิ

สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป จะต้องหลงรักหมู่บ้านนี้ค่ะ เพราะว่ามีจุดให้ถ่ายรูปเยอะมาก อยากเป็นนางแบบบ้างอ่ะ แต่คุณแม่ถ่ายรูปไม่เป็น พูดแล้วเศร้า....

อันนี้ก็กาน้ำชาเก๋ๆๆค่ะ เรียกว่าตกแต่งหมู่บ้านนี้ได้น่ารักค่ะ

ส่วนตัวชอบมุมนี้ค่ะ ชอบความอลังการของต้นไม้ ของบ้าน ชอบค่ะ

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงองค์พระใหญ่โปลินค่ะ แต่ต้องขึ้นบันไดอีกทั้งหมด 268 ขั้นนะคะ ถึงจะถึงหน้าองค์พระค่ะ องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร ใช้เวลาสร้าง 10 ปี โดยรอบมีรูปปั้นนางฟ้า 6 องค์ อาจจะเหนื่อยที่ขึ้นบันได แต่ขอบอกว่าคุ้มค่ะ ความงามที่แท้จริงรอคุณอยู่

จากด้านบนมองลงมาจะเจอ "วัดจีน" ค่ะ แต่วันนั้นไม่ได้ไปค่ะ เพราะว่าไม่มีเวลาแล้ว

หลังจากฝ่าฟันการปีนบันไดทั้งหมด 268 ขั้น ในที่สุด ก็ถึงหน้าองค์พระค่ะ ยิ่งใหญ่ อลังการ แต่ก็มีความเงียบสงบผสมผสานอยู่ค่ะ

ไหว้พระใหญ่โปลินพอสมควร ก็ได้เวลากลับค่ะ มาทางไหนกลับทางนั้นค่ะ
หลังจากไหว้พระใหญ่โปลินเสร็จ นั่งกระเช้ากลับมา ด้านล่างตรงนี้เป็น City Gate ห้างที่รวมหลายshopsเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่รักการ shopping มาก ที่สำคัญแนะนำให้ลงไปที่ Super Market ด้วยนะคะ ให้ไปซื้อสตรอเบอรี่ 1 กล่องค่ะ เพราะว่าสตรอเบอรี่ที่นี่นั้นลูกใหญ่และอร่อยมาก (และขอแนะนำว่าให้เอาถุงไปเอง ที่ฮ่องกงและมาเก๊าคิดค่าถุง 1 HKD ค่ะ) แต่วันที่ไปคุณแม่เหนื่อยและเมื่อยมากค่ะ เลยไม่แวะเข้า City Gate ค่ะ มุ่งหน้าตรงสู่จุดมุ่งหมายต่อไปค่ะ นั่นคือ “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” ค่ะ
วิธีเดินทางจาก“Giant Buddha & Po Lin Monastery (พระใหญ่โปลิน) ที่เกาะลันตา” มาที่ “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” นั้นไม่ยากค่ะ -- นั่ง MTR สายสีส้ม (Tung Chung Line) (ระยะทาง 3 สถานี) ไปเปลี่ยนสถานีที่ Lai King เปลี่ยนเป็นสายสีแดง (Tsuen Wan Line) (เลือกไปทางสถานี Central) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Prince Edward (ระยะทาง 5 สถานี) เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว (Kwun Tong Line) (เลือกไปทางสถานี Tiu Keng Leng) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Kowloon Tong (ระยะทาง 2 สถานี) เปลี่ยนเป็นนั่ง MTR สายสีฟ้า (East Rail Line) (เลือกไปทางสถานี Lok Ma Chau / Lo Wu) (ระยะทาง 3 สถานี) มาลงที่สถานี Tai Wai – Exit: B เมื่อออกจากทางออกมา จะเป็น Bus Terminal ค่ะ ให้เดินออกมาที่ริมถนนค่ะ เมื่อออกจากตัวอาคารมาจะเห็นวัดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ (ฝั่งตรงข้ามค่ะ) จุดสังเกตุคือ หลังคาสีเขียวและตัวอาคารสีแดง แต่เราต้องเดินตามทางไปเรื่อยๆก่อนเพื่อข้ามสี่แยกเล็กๆ ซึ่งจะต้องเดินลง Subway เลี้ยวขวาไป เพื่อรอดไปยังอีกฝั่งก็ถึงหน้าวัดเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าเดินไกลอยู่พอสมควรนะคะ และถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำนะคะ แนะนำให้ออกมาเข้าที่ Public Toilets ด้านนอก MTR ค่ะ เพราะว่าคนจะไปแออัดกันอยู่ในสถานีค่ะ....

วัดกังหันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างถวายเทพเจ้าแชกงค่ะ ผู้ที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านการรบ ภายในอารามมีรูปปั้นนายพลสีทองอร่ามสูงกว่า 10 เมตรค่ะ ในวัดจะเต็มไปด้วยกังหันชนิดต่างๆจึงเป็นที่มาของชื่อวัดค่ะ เพราะมีความเชื่อกันว่าเทพแชกงมีความศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องขอพรเกี่ยวกับธุรกิจ ส่วนใหญ่ผู้คนจะมาขอพร 4 ข้อดังนี้ค่ะ
1. ขอให้สุขภาพแข็งแรง
2. ขอให้เดินทางปลอดภัย
3. ขอให้ธุรกิจเงินทองไหลมาเทมา
4. ขอให้คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
จึงเป็นที่มาของ 4 ใบพัด เพื่อนำความโชคดีเข้ามา และคอยปัดเป่าอุปสรรคแต่ละด้านออกไป
แถมให้ค่ะ...... วิธีการไหว้เทพแชกง -- ก่อนที่จะเข้าสู่อาราม ท่านสามารถหาซื้อธูปเพื่อมาไหว้ขอพรได้ที่ด้านหน้าเลย ในชุดไหว้จะมีกระดาษสีแดงตัวหนังสือจีนอีกชุด ให้ท่านเขียนชื่อที่อยู่ของท่าน พร้อมคำอธิษฐาน เพื่อใส่ไว้ในกล่องคำอธิษฐานของวัดกังหันแห่งนี้ ท่านที่เข้าสู่ปีชง ก็แก้ชงได้ที่วัดกังหันเช่นกันค่ะ ที่นี่ก็มีองค์เทพเจ้าไทส่วยเอี่ยทั้ง 60 องค์ค่ะ
เคล็ดลับการทำพิธีให้กังกัน หรือ จี้กังหัน (ในกรณีที่เราซื้อกลับเมืองไทยนะคะ) ถ้าจะซื้อกังหันหรือจี้กังหัน อย่าลืมทำพิธีให้กังหันก่อนออกจากวัด เพื่อให้เทพแชกงคุ้มครอง ปัดเป่าอุปสรรคตามความเชื่อ โดยอธิษฐาน ดังนี้
“ข้าพเจ้า...ชื่อ-นามสกุล - วันเดือนปีเกิด - เวลาที่ตกฟากค่ะ” ขออำนาจบารมีขององค์ท่านแชกง ช่วยปัดเป่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงออกจากตัวข้าพเจ้า และขอจงช่วยดลบันดาลให้กังหัน/จี้กังหันนี้ช่วยนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การเดินทางปลอดภัย ธุรกิจรุ่งเรือง และคิดสิ่งใดขอให้สมดังปรารถนา ขอกังหันทั้ง 4 ใบ ช่วยพัดนำความโชคดีเหล่านี้เข้ามาในชีวิต และปัดเป่าอุปสรรคความไม่ดีออกไป”
จากนั้นให้นำกังหัน/จี้กังหันไปวนรอบกระถางธูป 3 รอบ แล้วจุ่มลงกระถางธูปที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอาราม
สุดท้ายไม่ว่าจะมาขอพรอย่างเดียว หรือมาทำพิธีให้กังหัน อย่าลืมเข้าไปในอารามแล้วหมุนกังหันสีทองที่อยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่งขององค์เทพแชกง 3 รอบนะคะ เพื่อถือเคล็ดนำความโชคดีเข้าสู่ตัวเรา หลังจากนั้นให้ตีระฆังและตีกลอง เพื่อให้เทพแชกงรับรู้คำอธิษฐานค่ะ
ตะลอนฮ่องกงและมาเก๊า ทริปหนักบุญ 5 วัน 4 คืน (ภาคสอง)
ใครที่ไม่ได้ติดตามภาคแรก กลับไปอ่านที่กระทู้นี้ได้นะคะ
http://pantip.com/topic/32628578
มาเริ่มต้นกันเลยดีกว่าค่ะ วันทีสามของการเที่ยวนี้ ขอบอกว่าวันนี้โหดสุดค่ะ ปีนเขาหนักๆเน้นๆ เดินจนขาลากกันไปเลยค่ะ ต้องขอว่าต้องบอึดมากค่ะ
ใจต้องเต็มไปด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้าค่ะ เพราะสถานที่ที่จะไปนั้น ต้องปีนกันโหดอยู่ค่ะ
ทริปวันที่สามค่ะ -- “Giant Buddha & Po Lin Monastery (พระใหญ่โปลิน) ที่เกาะลันตา” - “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” - “Ten Thousand Buddha Monastery (Man Fu Ji) (วัดหมื่นพุทธ)” - “Snoopy’s World”
เนื่องจากว่าช่วงที่ไปกระเช้านองปิงปิดค่ะ เปิดอีกทีวันที่ 20 กันยายน 2557 ค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้คนเลยมากมายมหาศาลค่ะ ทัวร์ลงด้วย ขนาดว่าไปถึงที่ Ngong Ping Cable Car ตั้งแต่ 8.00 นะคะ ยังได้ขึ้นกระเช้าเกือบสิบโมงค่ะ
การเดินทางมาที่ Ngong Ping Cable Car นั้น ง่ายแสนง่ายค่ะ จาก Mong Kok นะคะ นั่ง MTR สายสีแดง (Tsuen Wan Line) (เลือกไปทางสถานี Tsuen Wan) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Lai King (ระยะทาง 7 สถานี) เปลี่ยนเป็นสายสีส้ม (Tung Chung Line) (ระยะทาง 3 สถานี) ไปลงสถานีปลายทาง Tung Chung – Exit: B ขึ้นมาแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอ Ngong Ping Cable Car เด่นเป็นสง่าค่ะ
**วันไปแนะนำให้ทาครีมกันแดด พกร่ม พกหมวก พกพัด พกน้ำเปล่า ไปด้วยนะคะ อากาศร้อนมาก แดดแรงมากค่ะ
มีป้ายบอกทางชัดเจนมากค่ะ รับรองว่าไม่หลงค่ะ
ที่ Ngong Ping Cable Car นั้นเปิดบริการตอน 8.30 ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ๋์ แต่กระเช้านั้น ที่นั่นเปิดให้วิ่งขึ้นลงตั้งแต่ 7 โมงกว่าแล้วค่ะ แล้วก็เปิดให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำร้านขายของข้างบนได้ใช้บริการก่อนค่ะ ไปถึงก่อนเวลา เลยได้ถ่ายรูปเล่นค่ะ
ในที่สุดก็ได้ขึ้นกระเช้าค่ะ เลือกแบบ Crystal Cable Car ค่ะ ตั๋วนั้นซื้อจากเมืองไทยไปค่ะ ไปกลับคนละ 780 บาทค่ะ ขอบอกว่าคุ้มนะคะ เห็นวิวสวยๆแบบ 360 องศา อย่างที่ Ngong Ping Cable Car โฆษณาไว้ค่ะ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะเนี่ย) แต่การรอต่อคิว วันที่ไปคนใช้บริการ Crystal Cable Car มากกว่ากระเช้าปกติค่ะ แต่ก็คุ้มค่าที่รอคอยนะคะ เพราะวิวสวยจับใจค่ะ
วิวที่ได้จากกระเช้าคือ ภูเขา ทะเล เรือเฟอร์รี่ สนามบิน......สวยงามเกินบรรยายค่ะ
ใช้เวลาไปถึงชั่วโมงก็ถึง Ngong Ping Village ค่ะ ..... แต่อาจจะต้องทนแดดร้อนหน่อยนะคะ เพราะกระเช้าเปิดโล่ง แบบกระจกอ่ะค่ะ ไม่บังแดดเลย
พอลงจากกระเช้า ก็จะเห็นองค์พระใหญ่โปลินอยู่ไกลๆ เราก็ต้องเดินผ่าน Ngong Ping Village ไปค่ะ พอลงกระเช้ามา ก็จะมีคนมาขายรูปถ่ายเราตอนขึ้นกระเช้าค่ะ ขอบอกว่าซื้อมาค่ะ ซื้อมาครบเซทเลย รูปใหญ่หนึ่งรูป แบบที่อย่ที่ทับกระดาษที่มีน้ำใสๆข้างในอีกหนึ่งเซท พวงกุญแจสองพวง ถ้าซื้อรูปที่ด้านบน จะได้คูปองไปถ่ายรูปฟรีได้หนึ่งรูปค่ะ เป็นการค้าที่หัวใสมาก เพราะว่าเค้าถ่ายให้มากกว่าหนึ่งแอคค่ะ ก็เสียตังซื้อมาอีก อิอิ
สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป จะต้องหลงรักหมู่บ้านนี้ค่ะ เพราะว่ามีจุดให้ถ่ายรูปเยอะมาก อยากเป็นนางแบบบ้างอ่ะ แต่คุณแม่ถ่ายรูปไม่เป็น พูดแล้วเศร้า....
อันนี้ก็กาน้ำชาเก๋ๆๆค่ะ เรียกว่าตกแต่งหมู่บ้านนี้ได้น่ารักค่ะ
ส่วนตัวชอบมุมนี้ค่ะ ชอบความอลังการของต้นไม้ ของบ้าน ชอบค่ะ
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงองค์พระใหญ่โปลินค่ะ แต่ต้องขึ้นบันไดอีกทั้งหมด 268 ขั้นนะคะ ถึงจะถึงหน้าองค์พระค่ะ องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร ใช้เวลาสร้าง 10 ปี โดยรอบมีรูปปั้นนางฟ้า 6 องค์ อาจจะเหนื่อยที่ขึ้นบันได แต่ขอบอกว่าคุ้มค่ะ ความงามที่แท้จริงรอคุณอยู่
จากด้านบนมองลงมาจะเจอ "วัดจีน" ค่ะ แต่วันนั้นไม่ได้ไปค่ะ เพราะว่าไม่มีเวลาแล้ว
หลังจากฝ่าฟันการปีนบันไดทั้งหมด 268 ขั้น ในที่สุด ก็ถึงหน้าองค์พระค่ะ ยิ่งใหญ่ อลังการ แต่ก็มีความเงียบสงบผสมผสานอยู่ค่ะ
ไหว้พระใหญ่โปลินพอสมควร ก็ได้เวลากลับค่ะ มาทางไหนกลับทางนั้นค่ะ
หลังจากไหว้พระใหญ่โปลินเสร็จ นั่งกระเช้ากลับมา ด้านล่างตรงนี้เป็น City Gate ห้างที่รวมหลายshopsเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่รักการ shopping มาก ที่สำคัญแนะนำให้ลงไปที่ Super Market ด้วยนะคะ ให้ไปซื้อสตรอเบอรี่ 1 กล่องค่ะ เพราะว่าสตรอเบอรี่ที่นี่นั้นลูกใหญ่และอร่อยมาก (และขอแนะนำว่าให้เอาถุงไปเอง ที่ฮ่องกงและมาเก๊าคิดค่าถุง 1 HKD ค่ะ) แต่วันที่ไปคุณแม่เหนื่อยและเมื่อยมากค่ะ เลยไม่แวะเข้า City Gate ค่ะ มุ่งหน้าตรงสู่จุดมุ่งหมายต่อไปค่ะ นั่นคือ “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” ค่ะ
วิธีเดินทางจาก“Giant Buddha & Po Lin Monastery (พระใหญ่โปลิน) ที่เกาะลันตา” มาที่ “Che Kung Temple (วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว)” นั้นไม่ยากค่ะ -- นั่ง MTR สายสีส้ม (Tung Chung Line) (ระยะทาง 3 สถานี) ไปเปลี่ยนสถานีที่ Lai King เปลี่ยนเป็นสายสีแดง (Tsuen Wan Line) (เลือกไปทางสถานี Central) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Prince Edward (ระยะทาง 5 สถานี) เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว (Kwun Tong Line) (เลือกไปทางสถานี Tiu Keng Leng) นั่งสายสีแดงไปเปลี่ยนสถานีที่ Kowloon Tong (ระยะทาง 2 สถานี) เปลี่ยนเป็นนั่ง MTR สายสีฟ้า (East Rail Line) (เลือกไปทางสถานี Lok Ma Chau / Lo Wu) (ระยะทาง 3 สถานี) มาลงที่สถานี Tai Wai – Exit: B เมื่อออกจากทางออกมา จะเป็น Bus Terminal ค่ะ ให้เดินออกมาที่ริมถนนค่ะ เมื่อออกจากตัวอาคารมาจะเห็นวัดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ (ฝั่งตรงข้ามค่ะ) จุดสังเกตุคือ หลังคาสีเขียวและตัวอาคารสีแดง แต่เราต้องเดินตามทางไปเรื่อยๆก่อนเพื่อข้ามสี่แยกเล็กๆ ซึ่งจะต้องเดินลง Subway เลี้ยวขวาไป เพื่อรอดไปยังอีกฝั่งก็ถึงหน้าวัดเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าเดินไกลอยู่พอสมควรนะคะ และถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำนะคะ แนะนำให้ออกมาเข้าที่ Public Toilets ด้านนอก MTR ค่ะ เพราะว่าคนจะไปแออัดกันอยู่ในสถานีค่ะ....
วัดกังหันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างถวายเทพเจ้าแชกงค่ะ ผู้ที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านการรบ ภายในอารามมีรูปปั้นนายพลสีทองอร่ามสูงกว่า 10 เมตรค่ะ ในวัดจะเต็มไปด้วยกังหันชนิดต่างๆจึงเป็นที่มาของชื่อวัดค่ะ เพราะมีความเชื่อกันว่าเทพแชกงมีความศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องขอพรเกี่ยวกับธุรกิจ ส่วนใหญ่ผู้คนจะมาขอพร 4 ข้อดังนี้ค่ะ
1. ขอให้สุขภาพแข็งแรง
2. ขอให้เดินทางปลอดภัย
3. ขอให้ธุรกิจเงินทองไหลมาเทมา
4. ขอให้คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
จึงเป็นที่มาของ 4 ใบพัด เพื่อนำความโชคดีเข้ามา และคอยปัดเป่าอุปสรรคแต่ละด้านออกไป
แถมให้ค่ะ...... วิธีการไหว้เทพแชกง -- ก่อนที่จะเข้าสู่อาราม ท่านสามารถหาซื้อธูปเพื่อมาไหว้ขอพรได้ที่ด้านหน้าเลย ในชุดไหว้จะมีกระดาษสีแดงตัวหนังสือจีนอีกชุด ให้ท่านเขียนชื่อที่อยู่ของท่าน พร้อมคำอธิษฐาน เพื่อใส่ไว้ในกล่องคำอธิษฐานของวัดกังหันแห่งนี้ ท่านที่เข้าสู่ปีชง ก็แก้ชงได้ที่วัดกังหันเช่นกันค่ะ ที่นี่ก็มีองค์เทพเจ้าไทส่วยเอี่ยทั้ง 60 องค์ค่ะ
เคล็ดลับการทำพิธีให้กังกัน หรือ จี้กังหัน (ในกรณีที่เราซื้อกลับเมืองไทยนะคะ) ถ้าจะซื้อกังหันหรือจี้กังหัน อย่าลืมทำพิธีให้กังหันก่อนออกจากวัด เพื่อให้เทพแชกงคุ้มครอง ปัดเป่าอุปสรรคตามความเชื่อ โดยอธิษฐาน ดังนี้
“ข้าพเจ้า...ชื่อ-นามสกุล - วันเดือนปีเกิด - เวลาที่ตกฟากค่ะ” ขออำนาจบารมีขององค์ท่านแชกง ช่วยปัดเป่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงออกจากตัวข้าพเจ้า และขอจงช่วยดลบันดาลให้กังหัน/จี้กังหันนี้ช่วยนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การเดินทางปลอดภัย ธุรกิจรุ่งเรือง และคิดสิ่งใดขอให้สมดังปรารถนา ขอกังหันทั้ง 4 ใบ ช่วยพัดนำความโชคดีเหล่านี้เข้ามาในชีวิต และปัดเป่าอุปสรรคความไม่ดีออกไป”
จากนั้นให้นำกังหัน/จี้กังหันไปวนรอบกระถางธูป 3 รอบ แล้วจุ่มลงกระถางธูปที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอาราม
สุดท้ายไม่ว่าจะมาขอพรอย่างเดียว หรือมาทำพิธีให้กังหัน อย่าลืมเข้าไปในอารามแล้วหมุนกังหันสีทองที่อยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่งขององค์เทพแชกง 3 รอบนะคะ เพื่อถือเคล็ดนำความโชคดีเข้าสู่ตัวเรา หลังจากนั้นให้ตีระฆังและตีกลอง เพื่อให้เทพแชกงรับรู้คำอธิษฐานค่ะ