ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ฉันได้มีโอกาสได้รู้จักกับชายคนหนึ่ง ผ่านช่องทางสื่อสารในโลกออนไลน์ช่องทางหนึ่ง ช่วงนั้นเรามักหาเวลามาพูดคุยกันค่อนข้างบ่อย ถึงบ่อยมาก จนวันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจขอ LINE ฉัน ฉันตอบตกลงและให้ ID LINE เขาไป หลงจากนั้นเป็นต้นมา เราสองคนก็พูดคุยกันบ่อยขึ้น ซึ่งแทบจะเรียกว่าเราสองคนพูดคุยกันตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ เราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น การพูดคุยกันระหว่างเราสองคนก็เริ่มสนิทกันมาก หยอกล้อกันไปมาตามประสาคนโสดสองคนมาเจอกัน ฉันรู้สึกมีความสุข และรู้สึกดีมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนที่ฉันรู้สึกไหม
เราพูดคุยกันได้พักใหญ่ๆ เขาก็เอ่ยชวนชวนฉันไปทานข้าว ฉันยอมรับว่าตอนนั้นฉันดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้ไปทานข้าวกับเขา และเราจะได้เจอกันสักที เรานัดทานข้าวกันที่ห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่ง การเดทครั้งแรกของเราเป็นไปได้ด้วยดี ราบรื่น เมื่อทานข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ระหว่างทางกลับบ้านเราสองคนก็คุยไลน์กันตลอดเวลา ฉันคิดว่าวันนี้ฉันมีความสุขมากๆเลย
หลังจากการการเดทครั้งนั้นไม่กี่อาทิตย์ เขาก็บอกกับเราว่าเขาอยากที่เจอกับเราอีกครั้ง เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ คงคิดว่าเขาคงพูดเล่นๆ แต่พอคุยไปคุยมา เฮ้ย!! พูดจริงหนอเนี่ย 55555+ ก็เอาสิอยากเจอก็เจอก็ไม่ได้ว่าอะไร การพูดคุยกันของสองเราก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยดี จนกระทั่ง......
วันหนึ่งอยู่ดีๆเขาก็พิมพ์คำคำหนึ่ง มาทางไลน์ คำคำนี้ที่มีแค่ 2 พยางค์ มันเป็นคำสั้นๆ แต่ทำไมความหมายของมันก็ได้ทำให้หัวใจฉันเต้นเร็วและรู้สึกดีอย่างนี้ หรือว่าเราได้หลงรักเขาอย่างไม่รู้ตัวไปแล้ว ไม่ใช่ๆ เราไม่ได้คิด แต่หัวใจที่เต้นเร็วและความตื่นเต้นพวกนี้คืออะไรกัน ทำไม??? ฉันยังคงเฝ้าถามตัวเองเสมอมา เขาจะ “คิดถึง” เราจริงๆหรอ? เขาคิดถึงเราทำไม? เขาคิดถึงเราในฐานะอะไร? คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน คำถามมากมายซึ่งไร้คำตอบ แค่คนคนเดียวที่รู้คำตอบมีเพียงเธอเท่านั้น
“ฉันคิดว่าฉันชอบเขา” นั่นคือคำตอบที่ฉันหาได้ด้วยตัวเองขณะนั้น แต่ฉันคิดไปฝ่ายเดียวหรือเปล่า? เขาจะชอบเราเหมือนทีเราชอบเขาไหม?? โอ้ยยย ฉันเป็นอะไรไปเนี่ยยย ฉันไมสามารถเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวได้ ฉันตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนๆของฉัน ซึ่งคำตอบที่ฉันได้รับกลับมานั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันแทบทุกคน คือ “มันกำลังจีบเมิงชัวร์ เชื่อกรู” ตอนนั้นฉันดีใจมาก หัวใจฉันพองโต และกำลังคิดว่าฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า ไม่นะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ฝัน ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ฉันตัดสินใจแล้ว การเดทครั้งที่สองฉันจะบอกความในใจนี้ให้เขารับรู้
ในที่สุดเวลานัดเดทครั้งที่สองก็มาถึง วันนั้นเป็นช่วงเวลาเย็นของวันที่แสนจะวุ่นวายในเมืองใหญ่ ฉันและเขานัดกันทานข้าวที่ห้างดังห้างหนึ่ง ฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเขา ฉันรอเขาอยู่สักพัก เขาก็มาถึงด้วยรอยยิ้ม เขายิ้มให้ฉัน เขาเดินมาใกล้
“ป่ะกินข้าวกัน” เขาพูดกับฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อะ อือ” ฉันตอบเขาด้วยเสียงเบาๆในคอ
แล้วสิ่งที่ฉันไม่คาดฝันก็เกิด เพราะเขาเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับมือของเขา ที่ตรงเข้ามาจับมือฉัน กรี๊ดดดดดดดดด
“เขาจับมือฉัน” นั่นคือเสียงที่ฉันพูดกับตัวเองในใจ เราสองคนไปกินข้าวกันและต่อด้วยการดูหนังอีก 1 เรื่อง บรรยากาศในโรงหนังฉันรู้สึกอึดอัดมาก แม้หนังเรื่องนั้นจะค่อนข้างสนุกมากก็เถอะ ทำไมฉันจึงรู้สึกอย่างนี้กันนะ หรือเป็นเพราะมือของเขาที่กุมมือของฉันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ใช่แน่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ มีบางช่วงของหนังที่ฉันตกใจ จนฉันเผลอเอาหน้าเข้าไปซบไหล่ของเขา
“กลัวหรอ” เขาถาม
“แค่ตกใจน่ะ”
ฉันตอบคำถามเขาและรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นของเขาสัมผัสที่แก้มของฉัน จึงทำให้ฉันรู้ว่าฉันกำลังกอดเขาอยู่ เมื่อรู้ตัวฉันจึงผละออกจากเขา ตอนนั้นฉันเขิลมาก หน้าคงแดงไปหมดแล้ว แต่ก็ได้ความมืดของโรงหนังช่วยชีวิตไว้
หลังจากหนังจบ เวลาก็ล่วงเลยมาดึกมากแล้ว เราตัดสินใจแยกย้ายกันกลับ เราเดินจูงมือกันมาจากโรงหนัง เดินกันจนมาถึงป้ายรถเมล์หน้าห้าง
“กลับละนะ วันนี้สนุกมากเลย” เขาเอ่ยกับฉันด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะที่มา ว่าแต่ปล่อยได้แล้วมั๊งมือน่ะ” ฉันบอกกับเขา ด้วยความรู้สึกที่ยังเขิลอายอยู่
“อุ่ย!! ขอโทษนะ รถเมล์มาพอดีเลย ไปละนะ ไว้โอกาสหน้าพบกันใหม่” เขาผละมืออกจากมือฉันและก้าวขึ้นรถ
ตรงหน้าของฉันตอนนี้คือแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีกับเขามากๆ และฉันคิดว่าตอนนี้ฉันหลงรักเขาเข้าซะแล้ว มีคำพูดมากมายที่อยู่ในใจฉันตอนนี้ ที่ฉันอยากจะพูดกับเธอ แต่ทำไม ทำไมฉันถึงไม่กล้า และเขาก็ขึ้นรถเมล์ แล้วรถเมล์ก็เคลื่อนที่ออกจากป้ายไป ฉันไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่ป้ายรถเมล์นานแค่ไหน ในหัวของฉันยังคงมีคำถามมากมายวนเวียนอยู่ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันควานหามือถือในกระเป๋าที่แสนจะรกของฉัน เปิดโปรแกรม LINE กดเข้าช่องแชท และกดเข้าไปที่แชทล่าสุดซึ่งเป็นแชทระหว่างฉันและเขา ฉันจึงเปิดประเด็นไปว่า...
ฉัน : ถามอะไรหน่อยสิ
เขา : มีอะไรหรอจากกับแป๊บเดียวคิดถึงละสิ
ฉัน : คิดอะไรกับเราหรือเปล่า??
เขา : คิดสิ เธอเป็นเพื่อนที่ดีนะ ^^
ฉัน : หราาาาาาาาาาาาาาา
เขา : เออออออออออออ
ฉัน : แล้วจับมือเราไมอะ
เขา : ก็เห็นเธอกลัว นี่บีบมือซะแน่น ไม่รู้ว่ากระดูกแตกหรือเปล่า โอ้ยยยย
ฉัน : เวอร์ไปละ
เขา : 55555555+ กลับบ้านดีๆนะเป็นห่วง
ฉัน : OK รถเมล์มาพอดี ไปนะ
เขา : บ๊ายบาย จุ๊ฟๆ
ฉัน : =_=’
นั่นคือประโยคการสนทนาระหว่างฉันกับเขา สรุปคือเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันสินะ ฮ่าๆๆๆๆ ขำตัวเองว่ะ คิดไปเองเป็นตุเป็นตะ ที่ผ่านมานี้เรามโนไปเองสินะ ตาฉันเริ่มพล่ามัว น้ำใสๆเริ่มเอ่อออกมาจากตาทั้งสองข้าง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ นี่หรอความรัก เจ็บจังเลย ทำไม?? “หากไม่เคยคิดที่จะรัก แล้วมาทำให้ฉันรักทำไม??
ฉันก็มีหัวใจนะ.....
นิยายดราม่าเรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงนะค่ะ
ถึงใครบางคน หากคุณไม่เคยคิดจะรัก แล้วมาทำให้ฉันรักทำไม??<<ฉบับเต็ม>>
เราพูดคุยกันได้พักใหญ่ๆ เขาก็เอ่ยชวนชวนฉันไปทานข้าว ฉันยอมรับว่าตอนนั้นฉันดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้ไปทานข้าวกับเขา และเราจะได้เจอกันสักที เรานัดทานข้าวกันที่ห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่ง การเดทครั้งแรกของเราเป็นไปได้ด้วยดี ราบรื่น เมื่อทานข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ระหว่างทางกลับบ้านเราสองคนก็คุยไลน์กันตลอดเวลา ฉันคิดว่าวันนี้ฉันมีความสุขมากๆเลย
หลังจากการการเดทครั้งนั้นไม่กี่อาทิตย์ เขาก็บอกกับเราว่าเขาอยากที่เจอกับเราอีกครั้ง เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ คงคิดว่าเขาคงพูดเล่นๆ แต่พอคุยไปคุยมา เฮ้ย!! พูดจริงหนอเนี่ย 55555+ ก็เอาสิอยากเจอก็เจอก็ไม่ได้ว่าอะไร การพูดคุยกันของสองเราก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยดี จนกระทั่ง......
วันหนึ่งอยู่ดีๆเขาก็พิมพ์คำคำหนึ่ง มาทางไลน์ คำคำนี้ที่มีแค่ 2 พยางค์ มันเป็นคำสั้นๆ แต่ทำไมความหมายของมันก็ได้ทำให้หัวใจฉันเต้นเร็วและรู้สึกดีอย่างนี้ หรือว่าเราได้หลงรักเขาอย่างไม่รู้ตัวไปแล้ว ไม่ใช่ๆ เราไม่ได้คิด แต่หัวใจที่เต้นเร็วและความตื่นเต้นพวกนี้คืออะไรกัน ทำไม??? ฉันยังคงเฝ้าถามตัวเองเสมอมา เขาจะ “คิดถึง” เราจริงๆหรอ? เขาคิดถึงเราทำไม? เขาคิดถึงเราในฐานะอะไร? คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน คำถามมากมายซึ่งไร้คำตอบ แค่คนคนเดียวที่รู้คำตอบมีเพียงเธอเท่านั้น
“ฉันคิดว่าฉันชอบเขา” นั่นคือคำตอบที่ฉันหาได้ด้วยตัวเองขณะนั้น แต่ฉันคิดไปฝ่ายเดียวหรือเปล่า? เขาจะชอบเราเหมือนทีเราชอบเขาไหม?? โอ้ยยย ฉันเป็นอะไรไปเนี่ยยย ฉันไมสามารถเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวได้ ฉันตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนๆของฉัน ซึ่งคำตอบที่ฉันได้รับกลับมานั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันแทบทุกคน คือ “มันกำลังจีบเมิงชัวร์ เชื่อกรู” ตอนนั้นฉันดีใจมาก หัวใจฉันพองโต และกำลังคิดว่าฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า ไม่นะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ฝัน ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ฉันตัดสินใจแล้ว การเดทครั้งที่สองฉันจะบอกความในใจนี้ให้เขารับรู้
ในที่สุดเวลานัดเดทครั้งที่สองก็มาถึง วันนั้นเป็นช่วงเวลาเย็นของวันที่แสนจะวุ่นวายในเมืองใหญ่ ฉันและเขานัดกันทานข้าวที่ห้างดังห้างหนึ่ง ฉันไปถึงที่นัดหมายก่อนเขา ฉันรอเขาอยู่สักพัก เขาก็มาถึงด้วยรอยยิ้ม เขายิ้มให้ฉัน เขาเดินมาใกล้
“ป่ะกินข้าวกัน” เขาพูดกับฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อะ อือ” ฉันตอบเขาด้วยเสียงเบาๆในคอ
แล้วสิ่งที่ฉันไม่คาดฝันก็เกิด เพราะเขาเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับมือของเขา ที่ตรงเข้ามาจับมือฉัน กรี๊ดดดดดดดดด
“เขาจับมือฉัน” นั่นคือเสียงที่ฉันพูดกับตัวเองในใจ เราสองคนไปกินข้าวกันและต่อด้วยการดูหนังอีก 1 เรื่อง บรรยากาศในโรงหนังฉันรู้สึกอึดอัดมาก แม้หนังเรื่องนั้นจะค่อนข้างสนุกมากก็เถอะ ทำไมฉันจึงรู้สึกอย่างนี้กันนะ หรือเป็นเพราะมือของเขาที่กุมมือของฉันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ใช่แน่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ มีบางช่วงของหนังที่ฉันตกใจ จนฉันเผลอเอาหน้าเข้าไปซบไหล่ของเขา
“กลัวหรอ” เขาถาม
“แค่ตกใจน่ะ”
ฉันตอบคำถามเขาและรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นของเขาสัมผัสที่แก้มของฉัน จึงทำให้ฉันรู้ว่าฉันกำลังกอดเขาอยู่ เมื่อรู้ตัวฉันจึงผละออกจากเขา ตอนนั้นฉันเขิลมาก หน้าคงแดงไปหมดแล้ว แต่ก็ได้ความมืดของโรงหนังช่วยชีวิตไว้
หลังจากหนังจบ เวลาก็ล่วงเลยมาดึกมากแล้ว เราตัดสินใจแยกย้ายกันกลับ เราเดินจูงมือกันมาจากโรงหนัง เดินกันจนมาถึงป้ายรถเมล์หน้าห้าง
“กลับละนะ วันนี้สนุกมากเลย” เขาเอ่ยกับฉันด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะที่มา ว่าแต่ปล่อยได้แล้วมั๊งมือน่ะ” ฉันบอกกับเขา ด้วยความรู้สึกที่ยังเขิลอายอยู่
“อุ่ย!! ขอโทษนะ รถเมล์มาพอดีเลย ไปละนะ ไว้โอกาสหน้าพบกันใหม่” เขาผละมืออกจากมือฉันและก้าวขึ้นรถ
ตรงหน้าของฉันตอนนี้คือแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีกับเขามากๆ และฉันคิดว่าตอนนี้ฉันหลงรักเขาเข้าซะแล้ว มีคำพูดมากมายที่อยู่ในใจฉันตอนนี้ ที่ฉันอยากจะพูดกับเธอ แต่ทำไม ทำไมฉันถึงไม่กล้า และเขาก็ขึ้นรถเมล์ แล้วรถเมล์ก็เคลื่อนที่ออกจากป้ายไป ฉันไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่ป้ายรถเมล์นานแค่ไหน ในหัวของฉันยังคงมีคำถามมากมายวนเวียนอยู่ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันควานหามือถือในกระเป๋าที่แสนจะรกของฉัน เปิดโปรแกรม LINE กดเข้าช่องแชท และกดเข้าไปที่แชทล่าสุดซึ่งเป็นแชทระหว่างฉันและเขา ฉันจึงเปิดประเด็นไปว่า...
ฉัน : ถามอะไรหน่อยสิ
เขา : มีอะไรหรอจากกับแป๊บเดียวคิดถึงละสิ
ฉัน : คิดอะไรกับเราหรือเปล่า??
เขา : คิดสิ เธอเป็นเพื่อนที่ดีนะ ^^
ฉัน : หราาาาาาาาาาาาาาา
เขา : เออออออออออออ
ฉัน : แล้วจับมือเราไมอะ
เขา : ก็เห็นเธอกลัว นี่บีบมือซะแน่น ไม่รู้ว่ากระดูกแตกหรือเปล่า โอ้ยยยย
ฉัน : เวอร์ไปละ
เขา : 55555555+ กลับบ้านดีๆนะเป็นห่วง
ฉัน : OK รถเมล์มาพอดี ไปนะ
เขา : บ๊ายบาย จุ๊ฟๆ
ฉัน : =_=’
นั่นคือประโยคการสนทนาระหว่างฉันกับเขา สรุปคือเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันสินะ ฮ่าๆๆๆๆ ขำตัวเองว่ะ คิดไปเองเป็นตุเป็นตะ ที่ผ่านมานี้เรามโนไปเองสินะ ตาฉันเริ่มพล่ามัว น้ำใสๆเริ่มเอ่อออกมาจากตาทั้งสองข้าง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ นี่หรอความรัก เจ็บจังเลย ทำไม?? “หากไม่เคยคิดที่จะรัก แล้วมาทำให้ฉันรักทำไม?? ฉันก็มีหัวใจนะ.....