
ใกล้เข้ามาทุกขณะจิตกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือ AEC ที่ใครหลายคนโดยเฉพาะนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งหลายต่างถวิลหา
บ้างก็ว่าการค้า การลงทุนข้ามชาติจะสะดวก รวดเร็ว ราวเสือติดปีก
การเดินทางข้ามประเทศจะสะดวกกว่าเมื่อก่อน ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในระดับชาติ
ตลาดจะเปิดกว้าง ซึ่งหมายถึงจำนวนลูกค้าจะทวีเพิ่มขึ้น ผลกำไรจะเพิ่มขึ้นตามมา


แต่ช้าก่อน ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงนักการศาสนา นักพัฒนา นักวิชาการ ตลอดจนนักสิทธิมนุษยชนได้กล่าวเตือนไว้
เนื่องจากเรามองถึงการเข้าเป็น AEC เพียงมิติด้านเศรฐกิจเพียงด้านเดียวเท่านั้น
แต่การรวมเป็น AEC ยังมีอีกสองมิติที่รัฐหลายประเทศมองข้าม และละเลยในความสำคัญ
หนึ่งก็คือมิติทางด้านการเมืองและความมั่นคง
และสองก็คือมิติทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม
ต้องไม่ลืมว่าภูมิภาคอาเซียนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนามากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศคาทอลิก ซึ่งยังมีความขัดแย้งกับชาวมุสลิมที่ขอปกครองตนเองที่มินดาเนา
พม่าเองก็มีชนพื้นเมืองหลายร้อยเชื้อชาติ และขณะนี้ยังรบกันไม่จบสิ้น เพียงแต่ถูกปิดข่าวเอาไว้
ส่วนประเทศลาวก็ยังมีการปิดกั้นการนับถือศาสนา โดยเฉพาะศาสนาคริสต์
การประกอบศาสนกิจของชาวคริสต์ในประเทศลาว ยังต้องกระทำในสถานที่ลับ
ผมเคยมีประสบการณ์ที่นั่นมาแล้วครับ น่ากลัวพอสมควร เพราะจะมีตำรวจคอยติดตามทุกฝีก้าว
ซึ่งความหลากหลายทางเชื้อชาติ ขนบประเพณี วัฒนธรรมนี่เองที่บ่อยครั้งได้สร้างความขัดแย้งขึ้น
หลายครั้งได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามย่อยๆเลยทีเดียว
เช่นกรณีของชาวพุทธกับมุสลิมในรัฐยะไข่ของพม่าเป็นต้น


ปัจจุบันผู้นำศาสนาหลักๆกลุ่มเล็กๆในอาเซียนได้ร่วมมือกันในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้
เพราะเชื่อว่าหากไม่มีการให้ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความแตกต่าง
ภูมิภาคอาเซียนอาจเกิดปัญหาขึ้นได้กับการมาของ AEC ที่มุ่งเน้นเพียงผลประโยชน์ด้านธุรกิจอย่างเดียว
เพียงแต่เรื่องราวเหล่านี้ไม่ปรากฏเป็นข่าวมากนัก
ซึ่งการทำงานของผู้นำศาสนาเหล่านี้ก็มีวิธีการหลากหลายที่ผมคงไม่มีความรู้ในรายละเอียดมากพอครับ
รู้แต่เพียงว่าถ้าหากเราคำนึงถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเดียว โดยไม่สนใจคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรม
มันจะทำให้การรวมเป็น AEC อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งในอนาคตได้
เพราะจะเกิดการเอาเปรียบต่อผู้คนชายขอบของสังคม เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย
เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกับชนพื้นเมืองที่จะถูกโยกย้ายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมแรงงานต่างๆ
หากไม่มีระบบการป้องกันที่ดีพอ
.....................
.....................
คนไทยได้ยินได้ฟังเพียงข้อดีของ AEC เท่านั้นครับ
แต่ข้อเสีย หรือข้อติติงก็ยังคงมีอีกมากมาย ที่ใครหลายคนไม่กล้าพูดครับ!!!


ภาพประกอบชุดนี้ถ่ายด้วยเลนส์ที่โมดิฟายแล้วก็เก็บเข้ากล่องเลยครับ
ไม่ค่อยได้เอามาใช้เท่าไหร่นัก กลัวเป็นรอยครับผม!!!

ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขตามสมควรครับผม!!!
ศาสนากับ AEC!!! by Voigtlander vaskar 4.5/75
ใกล้เข้ามาทุกขณะจิตกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือ AEC ที่ใครหลายคนโดยเฉพาะนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งหลายต่างถวิลหา
บ้างก็ว่าการค้า การลงทุนข้ามชาติจะสะดวก รวดเร็ว ราวเสือติดปีก
การเดินทางข้ามประเทศจะสะดวกกว่าเมื่อก่อน ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในระดับชาติ
ตลาดจะเปิดกว้าง ซึ่งหมายถึงจำนวนลูกค้าจะทวีเพิ่มขึ้น ผลกำไรจะเพิ่มขึ้นตามมา
แต่ช้าก่อน ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงนักการศาสนา นักพัฒนา นักวิชาการ ตลอดจนนักสิทธิมนุษยชนได้กล่าวเตือนไว้
เนื่องจากเรามองถึงการเข้าเป็น AEC เพียงมิติด้านเศรฐกิจเพียงด้านเดียวเท่านั้น
แต่การรวมเป็น AEC ยังมีอีกสองมิติที่รัฐหลายประเทศมองข้าม และละเลยในความสำคัญ
หนึ่งก็คือมิติทางด้านการเมืองและความมั่นคง
และสองก็คือมิติทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม
ต้องไม่ลืมว่าภูมิภาคอาเซียนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนามากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศคาทอลิก ซึ่งยังมีความขัดแย้งกับชาวมุสลิมที่ขอปกครองตนเองที่มินดาเนา
พม่าเองก็มีชนพื้นเมืองหลายร้อยเชื้อชาติ และขณะนี้ยังรบกันไม่จบสิ้น เพียงแต่ถูกปิดข่าวเอาไว้
ส่วนประเทศลาวก็ยังมีการปิดกั้นการนับถือศาสนา โดยเฉพาะศาสนาคริสต์
การประกอบศาสนกิจของชาวคริสต์ในประเทศลาว ยังต้องกระทำในสถานที่ลับ
ผมเคยมีประสบการณ์ที่นั่นมาแล้วครับ น่ากลัวพอสมควร เพราะจะมีตำรวจคอยติดตามทุกฝีก้าว
ซึ่งความหลากหลายทางเชื้อชาติ ขนบประเพณี วัฒนธรรมนี่เองที่บ่อยครั้งได้สร้างความขัดแย้งขึ้น
หลายครั้งได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามย่อยๆเลยทีเดียว
เช่นกรณีของชาวพุทธกับมุสลิมในรัฐยะไข่ของพม่าเป็นต้น
ปัจจุบันผู้นำศาสนาหลักๆกลุ่มเล็กๆในอาเซียนได้ร่วมมือกันในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้
เพราะเชื่อว่าหากไม่มีการให้ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความแตกต่าง
ภูมิภาคอาเซียนอาจเกิดปัญหาขึ้นได้กับการมาของ AEC ที่มุ่งเน้นเพียงผลประโยชน์ด้านธุรกิจอย่างเดียว
เพียงแต่เรื่องราวเหล่านี้ไม่ปรากฏเป็นข่าวมากนัก
ซึ่งการทำงานของผู้นำศาสนาเหล่านี้ก็มีวิธีการหลากหลายที่ผมคงไม่มีความรู้ในรายละเอียดมากพอครับ
รู้แต่เพียงว่าถ้าหากเราคำนึงถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเดียว โดยไม่สนใจคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรม
มันจะทำให้การรวมเป็น AEC อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งในอนาคตได้
เพราะจะเกิดการเอาเปรียบต่อผู้คนชายขอบของสังคม เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย
เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกับชนพื้นเมืองที่จะถูกโยกย้ายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมแรงงานต่างๆ
หากไม่มีระบบการป้องกันที่ดีพอ
.....................
.....................
คนไทยได้ยินได้ฟังเพียงข้อดีของ AEC เท่านั้นครับ
แต่ข้อเสีย หรือข้อติติงก็ยังคงมีอีกมากมาย ที่ใครหลายคนไม่กล้าพูดครับ!!!
ภาพประกอบชุดนี้ถ่ายด้วยเลนส์ที่โมดิฟายแล้วก็เก็บเข้ากล่องเลยครับ
ไม่ค่อยได้เอามาใช้เท่าไหร่นัก กลัวเป็นรอยครับผม!!!
ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขตามสมควรครับผม!!!