“ความเปราะบางทางวัฒนธรรม” ในสังคมไทย กรณีใช้หมุดหมายเป็นสังคมมุสลิมไทย เป็นตัวเฝ้าระวัง

กระทู้สนทนา
“ความเปราะบางทางวัฒนธรรม” ในสังคมไทย กรณีใช้หมุดหมายเป็นสังคมมุสลิมไทย เป็นตัวเฝ้าระวัง
เป็นกระทู้ที่เกิดจากการที่ เยาฮารี เสนอกับ ChatGPT และได้ข้อสรุปมาดังนี้ครับล
บทความนี้เปิดให้นำไปใช้ประโยชน์หรือพัฒนางานวิชาการอื่นต่อไปครับ

ในมุมมองของเยาฮารี สังคมไทยเป็นสังคมที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย แต่ในความหลากหลายนั้นกลับมี “ความเปราะบางทางวัฒนธรรม” ที่ไม่ค่อยถูกชี้ให้เห็นอย่างจริงจัง ความเปราะบางนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดเจนในรูปแบบการปะทะ หากแต่เป็นแรงกดดันที่ซ่อนอยู่ ซึ่งค่อย ๆ สะสมและบั่นทอนความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างผู้คนในระยะยาว (Horowitz, 2000) หากไม่มีการจัดการหรือกลไกเฝ้าระวัง ความเปราะบางเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถกลายเป็นรอยร้าวใหญ่ในสังคมได้

จังหวัดบางแห่งในประเทศไทยสะท้อนปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่มีประชากรมุสลิมจำนวนมากในฐานะ “ส่วนน้อยที่มีนัยสำคัญ” เช่น อุดรธานี ขอนแก่น หรือนครพนม จังหวัดเหล่านี้มีเศรษฐกิจที่พึ่งพาเกษตรกรรมและแรงงานย้ายถิ่นออกนอกพื้นที่ไปทำงานต่างประเทศ เช่น อิสราเอล (กระทรวงแรงงาน, 2023) ปรากฏการณ์แรงงานออกนอกพื้นที่ทำให้ครอบครัวและชุมชนอ่อนแอ ส่งผลให้ความผูกพันทางวัฒนธรรมลดลง และเกิดแรงกดดันใหม่ในการอยู่ร่วมกัน (Chantavanich, 2001)

กรอบพาราไดม์ของเยาฮารีชี้ว่า จุดเปราะบางทางวัฒนธรรม ประกอบด้วย 4 มิติหลัก ได้แก่

⦿เศรษฐกิจไม่มั่นคง – พื้นที่ที่พึ่งพาแรงงานนอกพื้นที่และไม่สามารถสร้างความมั่นคงทางรายได้ด้วยตนเอง
⦿สถานะของกลุ่มส่วนน้อย – การดำรงชีวิตท่ามกลางวัฒนธรรมหลักของจังหวัด ก่อให้เกิดแรงกดดันต่อการรักษาอัตลักษณ์ของตนเอง (อมรา พงศาพิชญ์, 2548)

⦿ การย้ายถิ่นแรงงานปัจจัยนี้เป็นจุดเปราะบางที่รุนแรงและซับซ้อนที่สุดในกรอบพาราไดม์ของเยาฮารี เพราะการย้ายถิ่นไม่เพียงทำให้ครอบครัวและชุมชนขาดกำลังคนและโครงสร้างค้ำจุนทางวัฒนธรรม (Chantavanich, 2001) แต่ยังสร้างแรงกดดันเชิงวัฒนธรรมและศาสนาโดยอ้อม เมื่อแรงงานไทยจำนวนมาก (ส่วนใหญ่ไม่ใช่มุสลิม) ต้องไปทำงานในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งรุนแรงถึงชีวิต เช่น ภาคเกษตรในอิสราเอล หรือในเขตพื้นที่ก่อตั้งอาณานิคมผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะทางการเมืองและความรุนแรงทางทหารอย่างต่อเนื่อง การทำงานในพื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อชีวิตของแรงงานไทยโดยตรง แต่ยังสร้าง “ภาวะความย้อนแย้ง” (cultural dissonance) ในระดับสังคม เพราะแรงงานไทยถูกผูกโยงเข้ากับสนามความขัดแย้งที่สัมพันธ์กับโลกมุสลิมโดยตรง (The Guardian, 2024; New Yorker, 2024)

⦿การขาดพื้นที่กลางทางวัฒนธรรม – การไม่มีเวทีหรือกลไกแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มวัฒนธรรม ทำให้ความต่างถูกตีความเชิงลบมากกว่าบวก (Galtung, 1996)

ปัจจุบัน จังหวัด ที่เข้าเกณฑ์เหล่านี้ประกอบด้วย
อุดรธานี
นครพนม

ในทัศนะของเยาฮารี การใช้สังคมมุสลิมไทยในพื้นที่เหล่านี้เป็น หมุดหมายหรือตัวเฝ้าระวัง (sentinel) สามารถสะท้อนระดับความเปราะบางทางวัฒนธรรมของสังคมไทยโดยรวมได้ชัดเจน มุสลิมในฐานะกลุ่มส่วนน้อยที่มีจำนวนมากพอสมควร ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านอัตลักษณ์และเศรษฐกิจพร้อมกัน จึงเป็นเหมือน “ดัชนีชี้วัด” ความสามารถของสังคมไทยในการจัดการกับความหลากหลาย หากสังคมสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งและลดความเปราะบางในกรณีนี้ได้ ก็หมายความว่ามีศักยภาพในการดูแลกลุ่มส่วนน้อยอื่น ๆ ในสังคมด้วย ในทางกลับกัน หากความเปราะบางนี้ถูกละเลย ก็อาจกลายเป็นสัญญาณเตือนของความไม่มั่นคงทางสังคมที่ลึกและกว้างขึ้นในอนาคต

แนวคิดนี้ของเยาฮารีสอดคล้องกับงานศึกษาหลายชิ้น เช่น แนวคิด Conflict Transformation และ Early Warning ของ Johan Galtung (1996) ที่ชี้ว่าการเฝ้าระวังโครงสร้างที่เปราะบางสามารถป้องกันความรุนแรงในอนาคตได้ ตลอดจนงานศึกษาของอมรา พงศาพิชญ์ (2548) ที่อธิบายแรงกดดันของมุสลิมไทยในฐานะกลุ่มส่วนน้อย และงานด้าน Migration ของ Chantavanich (2001) ที่ชี้ผลกระทบของแรงงานย้ายถิ่นต่อความมั่นคงของครอบครัวและชุมชน รวมถึงทฤษฎี Contact Zone ของ Pratt (1991) ที่อธิบายแรงกดดันจากการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมที่ไม่สมดุล ทั้งหมดนี้สะท้อนว่ากรอบพาราไดม์ความเปราะบางทางวัฒนธรรมในมุมของเยาฮารีมีรากฐานเชิงวิชาการรองรับ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สังคมไทยในภาพรวมได้อย่างเป็นระบบ


Reference
Amara Pongsapich. (2548). ความเป็นมุสลิมในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Chantavanich, S. (2001). Thai Migrant Workers Abroad. Asian Research Center for Migration, Chulalongkorn University.
Galtung, J. (1996). Conflict Transformation by Peaceful Means (UN Manual). United Nations.
Horowitz, D. L. (2000). Ethnic Groups in Conflict. University of California Press.
Pratt, M. L. (1991). Arts of the Contact Zone. Profession.
กระทรวงแรงงาน. (2023). รายงานการส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่