ผมผ่านสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร
ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าให้ผมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
ทางตัวของผมเองก็เข้าไปตรวจร่างกายและรอผล
ซึ่งผลการตรวจก็ออกมาหลังจากที่ผมตรวจเลือดเสร็จไม่ถึงสองชั่วโมง....
ผมพบว่าร่างกายของตนเองปกติดีทุกอย่าง มีเพียงกรดยูริค และคลอเรสเตอรอลที่สูงเกินค่ามาตรฐานในเลือด
ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากผมให้ญาติที่เป็นหมอวิเคราะห์ถึงค่าผลเลือด
ทางญาติก็แจ้งว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้และไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บแต่เพียงอย่างใดเนื่องจากตัวผมนั้นเพิ่งจะอายุ 22 ปีเท่านั้น
....เวลาผ่านไป "2 สัปดาห์" ไม่มีทางบริษัทโทรศัพท์มาแจ้งถึงความผิดปกติแต่อย่างใด ตัวผมเองนั้นจึงทำการปฏิเสธ
การสัมภาษณ์และการเรียกตัวจากบริษัทอื่น จองที่พัก วางเงินมัดจำไปเรียบร้อยครบกระบวนการเหลือเพียงรอเวลาเริ่มงาน
เนื่องจากเข้าใจว่าการตรวจร่างกายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด...
แต่แล้ววันหนึ่งหลังเวลาผ่านไป "2สัปดาห์"กว่าๆ ทางบริษัทก็โทรมาแจ้งว่าการที่คุณมีค่าของกรดยูริค และคลอเรสเตอรอลเกินเกณฑ์
" ทำให้คุณไม่สามารถเริ่มงานได้!! "
ทางผมเองจึงแจ้งกับทางบริษัทไปว่าแล้วที่ผมเช่าบ้าน และเตรียมตัวไปทั้งหมดจะทำอย่างไร
แล้วค่าของคลอเรสเตอรอลกับยูริคที่เกินมาก็จริงแต่จากการวินิจฉัยของแพทย์ทุกคนลงเอกฉันท์ว่า" ไม่มีแนวโน้มจะเป็นโรคแต่อย่างใด "
ยังไม่เพียงพจะบ่งชี้ว่าผมมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ดีอีกอย่างนั้นหรือ?
แล้วที่น่าสงสัยที่สุดคือเป็นไปได้อย่างไรที่ทางฝ่ายบุคคลเพิ่งแจ้งว่าเพิ่งจะได้รับผลการตรวจร่างกาย
หลังจากที่เวลาผ่านไป 2 สัปดาหทั้งที่ความจริงแล้ว
ผลการตรวจร่างกายนั้นได้ออกมาหลังจากที่ผมเจาะเลือดเสร็จไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ทางบริษัทต้องการให้ผมลดค่าของ คลอเรสเตอรอลและยูริค ให้อยู่ในเกณฑ์ จึงจะรับเข้าทำงาน
ซึ่งจากการสอบถามแพทย์ บอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่ค่าเหล่านี้จะลดลงในช่วงเวลาอันสั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน!!
ไม่ทราบว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติของการรับคนเข้าทำงานหรือเปล่า เพราะผมรู้สึกว่า
ผมคือผู้ได้รับผลกระทบจากการทำงานอันไร้ประสิทธิภาพของฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งนี้!!!
ปล.ผมทำงานในตำแหน่ง planning engineer และเชื่อว่าหากเข้าไปทำงานหลังจากลดค่าดังกล่าวได้แล้ว
สุดท้ายค่าก็คงเพิ่มขึ้นมาอีกอยู๋ดี
โดนไล่ให้ไปลดน้ำหนักและยูริคก่อนเข้าทำงาน??????
ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าให้ผมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
ทางตัวของผมเองก็เข้าไปตรวจร่างกายและรอผล
ซึ่งผลการตรวจก็ออกมาหลังจากที่ผมตรวจเลือดเสร็จไม่ถึงสองชั่วโมง....
ผมพบว่าร่างกายของตนเองปกติดีทุกอย่าง มีเพียงกรดยูริค และคลอเรสเตอรอลที่สูงเกินค่ามาตรฐานในเลือด
ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากผมให้ญาติที่เป็นหมอวิเคราะห์ถึงค่าผลเลือด
ทางญาติก็แจ้งว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้และไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บแต่เพียงอย่างใดเนื่องจากตัวผมนั้นเพิ่งจะอายุ 22 ปีเท่านั้น
....เวลาผ่านไป "2 สัปดาห์" ไม่มีทางบริษัทโทรศัพท์มาแจ้งถึงความผิดปกติแต่อย่างใด ตัวผมเองนั้นจึงทำการปฏิเสธ
การสัมภาษณ์และการเรียกตัวจากบริษัทอื่น จองที่พัก วางเงินมัดจำไปเรียบร้อยครบกระบวนการเหลือเพียงรอเวลาเริ่มงาน
เนื่องจากเข้าใจว่าการตรวจร่างกายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด...
แต่แล้ววันหนึ่งหลังเวลาผ่านไป "2สัปดาห์"กว่าๆ ทางบริษัทก็โทรมาแจ้งว่าการที่คุณมีค่าของกรดยูริค และคลอเรสเตอรอลเกินเกณฑ์
" ทำให้คุณไม่สามารถเริ่มงานได้!! "
ทางผมเองจึงแจ้งกับทางบริษัทไปว่าแล้วที่ผมเช่าบ้าน และเตรียมตัวไปทั้งหมดจะทำอย่างไร
แล้วค่าของคลอเรสเตอรอลกับยูริคที่เกินมาก็จริงแต่จากการวินิจฉัยของแพทย์ทุกคนลงเอกฉันท์ว่า" ไม่มีแนวโน้มจะเป็นโรคแต่อย่างใด "
ยังไม่เพียงพจะบ่งชี้ว่าผมมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ดีอีกอย่างนั้นหรือ?
แล้วที่น่าสงสัยที่สุดคือเป็นไปได้อย่างไรที่ทางฝ่ายบุคคลเพิ่งแจ้งว่าเพิ่งจะได้รับผลการตรวจร่างกาย
หลังจากที่เวลาผ่านไป 2 สัปดาหทั้งที่ความจริงแล้ว
ผลการตรวจร่างกายนั้นได้ออกมาหลังจากที่ผมเจาะเลือดเสร็จไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ทางบริษัทต้องการให้ผมลดค่าของ คลอเรสเตอรอลและยูริค ให้อยู่ในเกณฑ์ จึงจะรับเข้าทำงาน
ซึ่งจากการสอบถามแพทย์ บอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่ค่าเหล่านี้จะลดลงในช่วงเวลาอันสั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน!!
ไม่ทราบว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติของการรับคนเข้าทำงานหรือเปล่า เพราะผมรู้สึกว่า
ผมคือผู้ได้รับผลกระทบจากการทำงานอันไร้ประสิทธิภาพของฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งนี้!!!
ปล.ผมทำงานในตำแหน่ง planning engineer และเชื่อว่าหากเข้าไปทำงานหลังจากลดค่าดังกล่าวได้แล้ว
สุดท้ายค่าก็คงเพิ่มขึ้นมาอีกอยู๋ดี