เล่ม 1 เล่ม 2
เล่ม 3 บทที่
1 2 3 4 5 6 7 8
บทนี้ แล้วก็บทส่งท้าย ก็จบเล่ม 3 แล้วครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 9 งานวัฒนธรรมวันที่ 2
文化祭二日目
“สาวน้อยเวทมนตร์จอมมารอย่างชั้นเองก็ตื่นเต้นไปกับประสบการณ์ครั้งแรกเหมือนกันนะ! ผู้กล้า ชั้นอยากทำอะไรให้ที่นี่มันดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาซักหน่อยจะได้รู้สึกสงบใจลงได้น่ะ คิดว่าไงมั่งล่ะ?”
“ชั้นเอง…….ก็ตื่นเต้นซะจนคิดอะไรพวกนั้นไม่ออกแล้วล่ะ……..”
“ยูตะ ชั้นขอปลดปล่อยพลังของจาโอชินกัง ––––––– บัญชาแด่คู่สัญญา เจ้าชายนิลกาฬเอ๋ย จงประทานรอยยิ้มให้แก่ที่แห่งนี้ ณ บัดนี้!”
“พูดง่ายเกินไปแล้ว!”
งานวัฒนธรรมได้มาถึงวันที่ 2 แล้ว
และ เป็นช่วงเวลา 10 นาทีก่อนกำหนดการเริ่มการแสดงแบบ Guerilla กัน
เป็นการแสดงแบบที่ไม่ได้ซ้อมกันมาก่อน วันนี้จึงต้องทำการแสดงออกไปให้ดีที่สุดในแค่เทคเดียวเลย
เวลาในตอนนี้คือเที่ยง 20 นาที
ตอนเที่ยง ––––––– เป็นแค่ช่วงเวลาเดียวที่ไม่มีการแสดงใดๆ ในหอประชุมอเนกประสงค์หรือว่าในโรงยิมเลย
สถานที่ที่กำหนดไว้ในการแสดงแบบ Guerilla นี้ก็คือลานกว้างที่หน้าอาคารเรียน ซึ่งเป็นที่ที่มีคนเดินผ่านไปมามากที่สุด
ทางสนามกีฬาเองตอนนี้ก็มีคอนเสิร์ตกลางแจ้งกันอยู่ คนก็เลยไปรวมกันอยู่ทางนั้นเยอะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยล่ะ

เพราะเวลาที่การแสดงนี้จะสิ้นสุดลง ก็คือจนกว่าจะมีใครมาหยุดเลยนั่นแหละ [Note: คงหมายถึง พวกกรรมการรักษาระเบียบก็คงไปรวมอยู่ทางสนามกีฬาเยอะด้วย ทางนี้เลยไม่เข้มงวดเท่าไร]
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแสดงไปได้จนจบเนื้อเรื่องรึเปล่า
ถึงออกจะบ้าบิ่นไปก็จริง แต่ในเมื่อตัดสินใจว่าจะทำแล้วละก็ ต้องมุ่งมั่นที่จะแสดงให้มันจบเรื่องให้ได้เลยล่ะ
และในตอนนี้นั้น ––––––– พวกเราก็มารอกันอยู่ที่ห้องเก็บอุปกรณ์กีฬาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามกีฬากลางแจ้ง
เป็นเพราะชุดที่ใส่แสดงนั้นมันดูเตะตาเป็นอย่างมาก ก็เลยต้องมาซ่อนกันก่อนเพื่อไม่ให้ใครเห็น
และในพื้นที่ที่ทั้งมืดและแคบนั้น ––––––– รุ่นพี่ทั้ง 2 คนที่มองดูพวกเรากระซิบกระซาบตอบโต้กันสั้นๆ นั้น ก็หัวเราะคิกคักกันออกมา
“อะฮะฮะ วาตาชิคุงเองก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับการแสดงแบบที่ไม่ได้ซ้อมมาก่อนนี่เหมือนกันจริงๆ ด้วยแฮะ ถ้าได้คนมาทำให้หัวเราะผ่อนคลายลงหน่อยก็คงจะดีนะ”
“อื้มๆ ใช่แล้วล่ะ มันจะช่วยได้มากจริงๆ นะ เพราะชั้นเอง ก็รู้สึกตื้นเต้นอยู่มากๆ เลยเหมือนกันล่ะ นี่ไง”
แล้วรุ่นพี่คุมินก็พูดมาว่า “ลองฟังเสียงหัวใจเต้นของชั้นดูสิ!” แล้วก็ยืดลำตัวช่วงบนมาให้ ทำให้ตรงหน้าอกมันยิ่งดูเด่นออกมาเลย…….. ไม่ใช่สิ ตัวผมเองจะเอาหูไปแนบฟังดูมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยต้องให้ริกกะไปลองฟังดูแทน
น่าอิจฉา ––––––– แต่ผมก็ไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่หรอกหรอกนะ

“โอ้! เสียงเต้นของหัวใจ สุดยอดไปเลย”
“ใช่มั้ยล่ะ ริกกะจังเองก็คงเป็นเหมือนกันแน่ๆ เลยล่ะ แต่ว่า ทุกคนไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ เพราะเราจะต้องผ่านพ้นมันไปได้อยู่แล้วล่ะ––”
ในขณะที่ความตื่นเต้นมันเพิ่มมากขึ้นอย่างเงียบๆ รุ่นพี่คุมินก็พูดกับพวกเราด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ถึงจะรู้สึกว่าเมื่อกี้ คุมินแย่งทำหน้าที่แทนวาตาชิคุงไปเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่ถ้าวาตาชิคุงเป็นคนพูดเองมันก็จะดูธรรมดาไปน่ะนะ อื้ม ช่วยได้จริงๆ เลยล่ะ”
“ไม่หรอก ไม่หรอก––”
“จริงสิ ชุดแสดงของทุกคนเรียบร้อยดีรึเปล่า? เพราะตอนแสดงจะต้องมีการเคลื่อนที่ไปกันด้วย ยังไงก็ลองตรวจดูชุดให้ดีๆ กันด้วยล่ะ”
พอรุ่นพี่อามานิจิพูดเสร็จ ผมก็ตรวจดูชุดของตัวเอง
จะเรียกว่าเป็นชุดเจ้าชายตามปกติ ––––––– มันก็ไม่ใช่เลย เพราะได้รับมอบหมายบทบาทของ Dark Flame Master ผู้ลึกลับมาด้วย มือทั้ง 2 ข้างก็เลยต้องสวมถุงมือแบบครึ่งนิ้วเอาไว้ด้วย
เสื้อคลุมก็มีสีดำ (ยืมของที่ชิชิมิยะเคยใช้เมื่อก่อนหน้านี้มา) พร้อมโซ่ปริศนาสีเงิน แล้วก็มีดาบเก็บไว้ที่กลางหลัง ผมพูดเองมันก็ยังไงๆ อยู่ แต่นี่มันคือเจ้าชายที่เหมือนจะป่วยเป็นจูนิเบียวอย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะ
แถมคำพูดประจำตัวว่า ‘เผาไหม้ไปเลยใช่มั้ยล่ะ?’ ด้วย [Note: 燃えたろ?moetaro? โดย燃 = เผาไหม้]
อืม ทางผมเองดูจะไม่มีปัญหาอะไรแฮะ
“ชั้นเองก็ไม่มีปัญหาอะไร”
ริกกะที่แปลงกายไปก่อนหน้านี้ก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
บทบาทซินเดอเรลล่าที่ใส่ผ้าปิดตาของริกกะนั้น เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะแปลกใหม่ดีอยู่ก็จริง แต่ชุดสาวใช้ที่เหมือนทำมาจากผ้าขี้ริ้วนั่น ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
เป็นชุดสาวใช้ธรรมดาที่มีทั้งรอยขาดวิ่น และดูมอมแมม ถ้าแสดงออกไปให้เห็นได้ว่าซินเดอเรลล่าที่มอมแมมขนาดนี้ พอได้รับเวทมนตร์แปลงโฉมแล้วจะกลายไปเป็นแบบนั้นได้นี่ มันต้องเป็นอะไรที่ดูยอดเยี่ยมมากๆ เลยล่ะ พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเลยว่า บทซินเดอเรลล่าแบบนี้นี่ ถ้าไม่ใช่ริกกะก็คงทำไม่ได้ถึงขนาดนี้หรอก
เรียกว่าการแคสติ้งของรุ่นพี่อามานิจินี่ถือว่าไร้ที่ติเลยจริงๆ
“ผ้าพันคอนี่ คงไม่ดูแปลกใช่มั้ยคะ?”
ทางชุดพญาแม่มดของชิชิมิยะเองก็ดูค่อนข้างจะเด่นมากๆ ––––––– แต่ให้พูดก็คือ มันดูไม่ค่อยจะเหมือนแม่มดซักเท่าไรเลย
ผ้าคลุมนั่นถ้าดูดีๆ แล้วไม่มีความเป็นแม่มดเลยซักนิด แต่เป็นแบบของสาวน้อยเวทมนตร์ชัดๆ ––––––– เป็นการเอาชุดของโรงเรียนเก่ามาดัดแปลงเพิ่มเติมให้มันดูพลิ้วไหวมากขึ้น เหมือนกับของพวกสาวน้อยเวทมนตร์ [Note: ก็ชุดที่เห็นในอนิเมแหละครับ]
ผ้าพันคอสีดำนั่นที่ไม่รู้เหมือนกันว่าไปซื้อมาจากไหน ก็ดู stick(suteki!) อย่างน่าประหลาด [Note: ตรง stick นั้น มันใช้คำว่า ステッキ sutekki = stick ไม้เท้า ไม้คฑา แล้วมีวงเล็บตามหลังว่า 素敵 suteki ที่แปลว่าสวยงาม ดูดี ครับ]
จะว่ามันดีหรือว่าแย่ก็ไม่รู้ แต่มันดูยังไงก็ไม่เหมือนแม่มดผู้ชั่วร้ายเลย แล้วแค่ชุดนั่นมันก็ดูเด่นเตะตามากซะจนกลบรัศมีของตัวละครหลักไปได้ง่ายๆ เลยด้วย
อย่างกับเป็นตัวละครหลักซะเองเลย แต่นั่นก็เป็นรูปลักษณ์ที่สมกับตัวชิชิมิยะดีล่ะนะ
“อื้ม ไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ–– แล้วชั้นเองนี่โอเคแล้วรึเปล่านะ?”
รุ่นพี่คุมินเองก็กระโดดหมุนตัวไปมาเพื่อตรวจสอบดูชุดของตัวเอง
ถึงจะดูไม่มีจุดบกพร่องอะไรก็จริง……..แต่ชุดวันพีซเรียบๆ สีฟ้าอ่อน ดูสะอาดสะอ้านนั่น ไม่ให้ความรู้สึกของความเป็นจักรพรรดินีเลย
ยิ่งไปกว่านั้น รูปร่างท่าทางแบบเด็กน้อยนั่นของรุ่นพี่คุมิน จะทำให้คนดูเข้าใจได้รึเปล่าว่าตกลงเธอรับบทเล่นเป็นอะไรกันแน่
เอาเถอะ คิดว่าการแสดงของตัวเธอเองคงจะช่วยกลบตรงจุดนั้นได้แน่ๆ ล่ะนะ
“ดีล่ะ เรียบร้อยดีกันทุกคนสินะ”
ส่วนชุดจักรพรรดิของรุ่นพี่อามานิจินั้น ––––––– มีสีสันฉูดฉาด อลังการงานสร้างมากๆ
ถ้าให้พูดก็คือดูหรูหราตระการตาอย่างที่สุด ––––––– แล้วยิ่งรุ่นพี่อามานิจิมาใส่ชุดสีฉูดฉาดซะขนาดนี้เลยทำให้รู้สึกเหมือนเป็น Last Boss ขึ้นมาทันทีเลย ถึงแม้บทจะไม่ได้เป็นศัตรูกันก็เถอะ
ทรงผมนั้นก็เกล้าเข้าด้วยกันจนเหมือนกับของจักรพรรดิ ……….ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นจักรพรรดิแบบไหนก็เถอะนะ
หลังจากตรวจดูชุดแสดงกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็พากันตรวจดูอุปกรณ์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ด้วยกัน
ไม่มีลืมอะไร และไม่มีอะไรผิดปกติ
เท่านี้ก็พร้อมกันแล้ว
หลังจากทุกคนทำการตรวจดูกันเสร็จแล้ว รุ่นพี่อามานิจิก็พูดกับรุ่นพี่คุมินด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“คุมิน สุดท้ายแล้ว ––––––– ช่วยทีนะ”
“……เอ๊ะ? อะ อื้ม! นี่เป็นการแสดงแบบ Guerilla ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของพวกเราแล้ว! มาพยายามด้วยกันเถอะ!”
ทันทีที่สมาชิกทุกคนพยักหน้าตอบรับในคำพูดของรุ่นพี่คุมิน รุ่นพี่อามานิจิก็ยื่นมือซ้ายออกมา
ถึงจะไม่มีคำพูดใดๆ ก็จริง ––––––– แต่ก็สื่อผ่านความคิดถึงกันได้ แล้วทุกคนก็ทยอยกันประสานมือไว้ที่หลังมือของรุ่นพี่อามานิจิตามลำดับ
พอประสานมือกันแล้ว ก็เลยทำให้รู้สึกถึงความตื่นเต้นของแต่ละคนได้เลย
แต่ว่า ความอบอุ่นนี่ ก็ทำให้รู้สึกสบายใจดีจริงๆ
รุ่นพี่คุมิน ––––––– ที่ยิ้มไม่หุบมาตลอดเลยมาตั้งแต่เมื่อครู่
ชิชิมิยะ ––––––– ที่ถึงจะไม่ได้เล่นบทตัวละครนำ แต่ก็มีสีหน้าที่มุ่งมั่นราวกับได้เล่นเป็นตัวละครนำซะเอง
ริกกะที่ดูมีราศีเปล่งประกายออกมา ––––––– ก็พูดมาตลอดว่ารอคอยให้มาถึงวันนี้
แล้วก็ ––––––– รุ่นพี่อามานิจิ ที่ดูมีสีหน้าจริงจังยิ่งกว่าใครๆ ในที่นี้
ทุกคนสบตากัน
“ไปสนุกกันเลยเถอะ!”
รุ่นพี่อามานิจิพูดออกมาอย่างมุ่งมั่นเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วทุกคนต่างก็ร้อง “โอ้––!” ตอบรับคำนั่น พร้อมกับพากันสะบัดมือลงอย่างแรง

อย่างนิบุทานิหรือคาซาริจัง
หรืออิชชิกิหรือคนในห้องคนอื่นๆ ยังไงก็ต้องผ่านมาเห็นอยู่แล้วล่ะ
และเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ พวกน้องสาวของผมก็คงจะผ่านมาดูเหมือนกัน
แล้วก็เดโคโมริ ที่ยังไม่เห็นตัวเลย ก็คงจะมาดูแน่ๆ ล่ะ
และ–––––………ตัวรุ่นพี่หูแมวเอง ก็คงจะมาดูด้วยเหมือนกันแน่ๆ
เอาล่ะ ไปกันเถอะ
การแสดงครั้งสุดท้ายของชมรมการละครอันเป็นเอกเทศ ––––––– ได้เปิดม่านแล้ว ณ บัดนี้
เวลาตอนนี้คือเที่ยง 30 นาที
แล้วพวกเราก็พากันไปที่ลานกว้างหน้าอาคารเรียนไปพร้อมๆ กัน
ในเวลาเดียวกับที่คนที่ดูเตะตาทั้ง 5 คนมารวมกันที่ลานกว้างนั้น–––––––
“ชมรมการละครอันเป็นเอกเทศ! ขอเริ่มการแสดง ‘Princess ☆ Ash’! ที่เป็นการแสดงแบบ Guerilla! ณ บัดนี้!”
รุ่นพี่อามานิจิก็คำรามก้องออกมาด้วยเสียงอันดัง
ทั้งที่ยังไม่มีผู้ชมเลยซักคนเดียว
-----------------------------------------------------------------------------------------------
(Chuunibyou LN Vol 3) บทที่ 9 งานวัฒนธรรมวันที่ 2
เล่ม 3 บทที่ 1 2 3 4 5 6 7 8
บทนี้ แล้วก็บทส่งท้าย ก็จบเล่ม 3 แล้วครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้