เล่ม 1 เล่ม 2
เล่ม 3 บทที่
1
ตัวละครใหม่นี่ ผมเคยเห็นคนรู้จักทำผมแบบเดียวกันด้วยล่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 2 สาวน้อย 7 สี
七色乙女
เป็นเพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาอย่างรวดเร็วมาก ผมเลยนึกไม่ออก แต่แล้วก็นึกออกจนได้
ว่าผมนั้นรู้จักรุ่นพี่หมอบกราบ คนที่อยู่ตรงหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว
จริงๆ ที่บอกว่ารู้จักนั้น ต้องบอกว่าเป็นฝั่งนี้ที่ ‘รู้จักอีกฝ่าย’ อยู่ข้างเดียวถึงจะถูก
เพราะเป็นคนดังของโรงเรียนผมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
ไม่มีใครไม่รู้จัก ––––– พูดให้ชัดเข้าไปอีกก็ต้องบอกว่า ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวหลังหันมามองน่าจะถูกต้องมากกว่าล่ะมั้ง
ชื่อเต็มคือ อามานิจิ ฮิเดริ [天虹旱]
อยู่ชั้นปีสูงกว่าปีนึง
เป็นคนที่มีเอกลักษณ์มากๆ
และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รุ่นพี่หมอบกราบ หรือรุ่นพี่อามานิจินั้นเป็นคนดัง
จนมีชื่อเล่นว่า ––––– สาวน้อยผม 7 เฉดสี [Note : 七色の髪の乙女 Nanairo no kami no otome]
ที่ได้ชื่อเล่นว่าผม 7 เฉดสีนั้นไม่ได้เป็นเพราะเธอเปลี่ยนสีผมทุกวันอะไรแบบนั้นหรอก แต่เป็นมีผม 7 สีตรงตามตัวอักษรนั่นแหละ
แล้วก็ไม่ใช่เป็นแบบธรรมดาๆ อย่างเห็นแยกกันเป็น 7 สีเรียงตามลำดับสีของรุ้งกินน้ำหรอกนะ โดยผมตรงหน้าผากนั้นมีสีเหลืองอ่อน จากตรงนั้นไปก็จะเห็นการไล่เฉดสีสวยสดจากสีส้มไปสีแดงอ่อนๆ จากนั้นก็กลายเป็นสีชมพูแล้วก็สีม่วงตามลำดับ พอถึงส่วนผมที่ยาวทางด้านหลังนั้นก็จะเป็นการไล่สีจากฟ้าอ่อนไปเป็นสีเขียวอย่างสวยงาม
ใช่ ตรงตามตัวอักษรแบบชัดเจนแจ่มแจ้งเลยแหละ
และแน่นอนว่าจะไม่พูดเรื่องเครื่องแต่งกายเลยก็ยังไงอยู่ เพราะประดับประดาไปด้วยของตกแต่งสีรุ้งเต็มไปหมด
อย่างที่แขนเองก็มี Rainbow Slinky (เจ้าของที่เล่นโดยทำให้มันตกลงมาตามบันไดนั่นแหละ) คล้องไว้อยู่ด้วย ไม่ว่าใครมองยังไงก็ต้องรู้สึกแหละว่าสีสันฉูดฉาดสุดๆ
แถมกระโปรงก็เป็นแบบดัดแปลงเหมือนของริกกะ แถมตกแต่งซะเด่นสะดุดตาเต็มที่
จริงๆ นะ หลายอย่างมันดูผิดแผกเกินเลยไปหมด แค่เรื่องสีเองก็ดูจะเกินเลยไปมากแล้ว [Note: ตรงนี้ผมเข้าใจว่ามันเล่นคำนะ เพราะประโยคมันคือ ホント、色々違いすぎるし、色も違いすぎる]
ถึงจะรู้สึกว่าทั้งเรื่องผมเอย เสื้อผ้าเอยมันจะดูมหัศจรรย์พันลึกสุดๆ ก็จริง แต่ตรงส่วนใบหน้านั้นกลับดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยมาก
และเป็นเพราะผมที่มีสีสันแสนเจิดจ้านั่นก็เลยทำให้ผิวพรรณดูขาวเจิดจ้ามากไปด้วย
นอกจากนั้น ก็ยังมีตาที่กลมโตสวยงามอย่างน่าประหลาด
รู้สึกเหมือนกับจะโดนพลังอะไรบางอย่างดูดเข้าไปยังนัยน์ตาที่เป็นประกายระยิบระยับนั่น เป็นอะไรที่เตะตาในคนละแบบกับของริกกะ ––––– รู้สึกเหมือนโดนดึงดูดให้เข้าหา
ถึงจะเคยเห็นใกล้ๆ เป็นครั้งแรกก็จริง แต่ผมคิดว่าใบหน้านั่นสวยกว่าคนทั่วไปมากพอดู
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงรูปร่างจะไม่ได้สูงเท่าผมก็จริง แต่หน้าอกหน้าใจนั่นก็มากพอที่จะทำให้นักเรียนชายม.ปลายออกอาการบ้าคลั่งได้เหมือนกัน
รูปร่างเองก็เพรียวบาง ถ้ามองแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่สเป็คสูงมากๆ
ด้วยทั้งสีสันฉูดฉาดเจิดจ้าตระการตาขนาดนั้นแล้ว ไม่มีทางที่คนจะไม่พูดถึงอยู่แล้ว ––––– บางครั้งก็ยังมีพูดลือกันมาด้วยว่าเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนแบบสุดๆ แต่บางครั้งก็ไม่ได้พูดกันไปแบบนั้น
แต่ก็นะ เรื่องพวกนี้น่ะยกให้กับสุภาพบุรุษสุดหื่นผู้จริงจังกับการเก็บข้อมูลสาวๆ เถอะ
เพื่อนสนิทของผม อิชชิกิ มาโคโตะ เป็นคนบอกข้อมูลเรื่องนี้มาเอง แต่ผมก็ไม่รู้เรื่องรายละเอียดซักเท่าไร
แล้วก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่เล่ากันมาอีก อย่างเช่นว่าเวลาอยู่ในห้องเรียน เธอไม่ได้สนใจครูที่สอนเลย ดูเหมือนว่าจะเอาแต่จ้องไปที่ตัวอาจารย์โดยที่ไม่ยอมจดโน้ตอะไรเลยด้วย แต่ถึงยังงั้นก็ว่ากันว่าไม่ได้สนใจกันเลยจริงๆ ล่ะ
ข่าวลืออื่นๆ ก็เช่นมักเดินอยู่ตัวคนเดียวมั่งล่ะ มีนิสัยที่เหลือเชื่อบ้างล่ะ ไม่ใช่มนุษย์มั่งล่ะ พอเรื่องที่ลือกันหลายๆ อย่างพวกนี้(ที่รู้จากอิชชิกิทั้งหมด)มันแพร่กระจายออกไปแล้ว ก็เลยทำให้รุ่นพี่อามานิจิกลายเป็นคนดังของโรงเรียนไปซะอย่างนั้นเลย
แล้วคนที่ดังขนาดนั้น ทำไมถึงมาหมอบกราบอยู่ตรงหน้านี่ได้ล่ะเนี่ย
เพราะแน่นอนแหละว่า ผมกับรุ่นพี่อามานิจินั้นไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลยซักนิด
แถมผมก็รู้จักเธอเพียงข้างเดียวจากที่ได้รู้ข้อมูลและข่าวลือทั้งหลายจากอิชชิกิเท่านั้น แต่ทางรุ่นพี่อามานิจิน่ะ แค่ชื่อผมก็ยังไม่รู้เลยแน่ๆ ล่ะ
ถ้างั้นก็แปลว่าเป็นคนรู้จักของริกกะแบบนั้นรึเปล่านะ…….
ต้องขอโทษที่ต้องปล่อยให้เธอหมอบกราบแบบนั้นต่อไปก่อน แล้วผมก็กระซิบถามริกกะ
“นี่ริกกะ คนรู้จักงั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ”
“เปล่านี่……ไม่รู้จักหรอก…….”
“ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเหรอ!?”
ไม่ได้นึกว่าจะเป็นแบบนี้เลยซักนิดนะ เพราะเห็นว่าพูดคุยตอบโต้กันกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนึกว่ารู้จักกัน แต่กลับไม่ใช่ซะอย่างนั้นน่ะ
ถึงแม้ว่าที่พูดตอบโต้กันนั้นมันจะเหมือนกับบทพูดที่เอาไว้ใช้ในการแสดงละครก็เถอะ
“……..งั้น ทำไมถึงพูดออกมาว่า ‘มาแล้วงั้นรึ’ ล่ะ?”
“เพราะน่าสนุกดี”
“สนุกดี!?”
เต็มที่กับเรื่องแบบนี้จริงๆ เลยนะ ริกกะซัง!
ถึงริกกะมักจะเต็มที่กับการทำอะไรแบบนี้ก็จริง แต่การที่มีสนทนาโต้ตอบกันด้วยก็แปลว่าริกกะเองก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วสินะ
แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ว่าแต่ว่า ถ้าไม่ใช่คนรู้จักของริกกะแล้ว ––––– ถ้างั้นคนคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่เนี่ย เดาไม่ถูกเลยจริงๆ
แถมยังหมอบกราบอยู่ที่พื้นมาจนถึงตอนนี้ได้อีก ทำเอาคิดเลยเหมือนกันว่านี่เป็นคนจริงๆ รึเปล่า แล้วผมก็เลยลองพูดเรียกไปด้วยความนอบน้อม
“เอ่อ คือว่าอยากจะขอฟังเรื่องราวให้มันรู้เรื่องกันก่อน เพราะงั้นก่อนอื่นช่วยยืนขึ้นมาดีๆ เถอะครับ ขอร้องล่ะ”
“หืม นั่นสินะ ช่วยไม่ได้แฮะ…………..อยู่ในท่าแบบนี้มันคุยกันลำบากจริงๆ นั่นแหละ!”
พูดเสร็จก็ดีดตัวจากพื้นยืนขึ้นมา
เพียงแต่ว่าท่าทางเธอจะไม่สนใจคำขอของผมเท่าไร ยืนขึ้นมาด้วยท่าทางแปลกๆ
แขนซ้ายยกขึ้นฟ้า แขนขวาเหยียดลงพื้น ––––– อธิบายง่ายๆ ก็คือตั้งท่า Tenchimatou อยู่นั่นแหละ [Note: 天地魔闘 Tenchimatou เป็นการตั้งท่าแบบหนึ่งของราชาปีศาจเวิร์นร่างหนุ่ม ในเรื่องได ตะลุยแดนเวทมนตร์ ผมจำแปลไทยไม่ได้ครับ]
แต่ไม่ได้เตือนให้ระวังให้ดีแฮะ [刮目せざるを得ない Katsumoku sezaruwoenai ดูภาพข้างล่างประกอบ]
“……เดี๋ยวสิ นี่ไม่ได้เข้าใจที่ผมพูดเลยเหรอเนี่ย!? ช่วยยืนแบบธรรมดาดีๆ ไม่ได้เหรอครับ!?”
“เปล่าๆ ก็ถึงจะบอกวาตาชิคุงให้ทำแบบธรรมดา แต่คงทำแบบธรรมดาให้ไม่ได้หรอกนะ ต้องขอโทษด้วย”
“………….”
รู้สึกน่าเป็นห่วงจริงแฮะ…….
ผมเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์คุยกับคนที่ยืนทำท่าทางแบบนั้นมาก่อน (แต่จะให้มีก็ไม่เอาด้วยหรอก) และตัวเองก็คงกำลังทำหน้าตามึนงงอยู่แน่ๆ แต่ทางรุ่นพี่อามานิจิก็ยังคงพูดมาด้วยท่าทางที่ดูจะไม่ได้สนใจอะไรเท่าไร
คงจะเหมือนกับที่ลือกันว่าเป็นคนแปลกๆ นั่นแหละมั้ง
“จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นะ วาตาชิคุงเป็นรุ่นพี่พวกคุณอยู่ปีนึง มีชื่อว่า อามานิจิ ฮิเดริ ค่ะ จากนี้ไปก็ช่วยจำไว้ให้ดีด้วยนะ แล้วก็ในอนาคตข้างหน้าก็ขอฝากตัวด้วยนะ”
“เฮ้อ……ก็เคยรู้มาก่อนแล้วแหละครับ…….เอ่อ โทงาชิ ยูตะ ครับ ทางนี้เองก็ต้องขอฝากตัวด้วยเหมือนกันครับ”
พอโดนอีกฝ่ายแนะนำตัวเองมา ทางนี้ก็เลยต้องแนะนำตัวเองกลับไปด้วย
พอผมแนะนำตัวเองไปแล้ว ริกกะก็เป็นคนต่อไป
“ชั้นชื่อทาคานาชิ ริกกะ”
เธอพูดแนะนำตัวเองอย่างเป็นเรื่องเป็นราวออกมา
โอ้ เป็นการแนะนำตัวแบบปกติธรรมดาที่ไม่ค่อยได้เห็นเลย คงเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ด้วยล่ะมั้งนะ
“แต่ว่านามที่แท้จริงนั้นคือ ‘ผู้ใช้จาโอชินกังที่แข็งแกร่งที่สุด นางฟ้าตกสวรรค์ผู้ชั่วร้ายที่เป็นคู่พันธสัญญาของยูตะ ––––– ทาคานาชิ ริกกะ’ ยินดีที่ได้รู้จัก” [Note: 最強の邪王真眼の使い手、勇太の契約者であり漆黒の堕天使––––– 小鳥遊六花]
แต่จากนั้นแป๊บเดียว ริกกะก็เพิ่มชื่อที่สองเข้ามาเหมือนกับทุกครั้งจนได้ จากนั้นเธอก็โค้งตัวลงให้เล็กน้อย
บ้าจริงเชียว คืนความรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นของที่ไม่ค่อยได้เห็นมาเลยนะ!
“เข้าใจแล้วล่ะ ผู้ใช้จาโอชินกังที่แข็งแกร่งที่สุด นางฟ้าตกสวรรค์ผู้ชั่วร้ายที่เป็นคู่พันธสัญญาของยูตะ –––––ทาคานาชิ ริกกะจัง สินะ”
“นี่จะเรียกชื่อกันแบบนั้นทุกครั้งเลยเหรอครับ?”
เผลอตบมุกไปจนได้
เพราะไม่ว่าจะคิดยังไง การมีชื่อผมไปแอบปะปนอยู่แบบนั้นเป็นได้ทำให้เข้าใจผิดกันพอดี
“อืม เป็นชื่อที่ไพเราะดี ให้เรียกแบบนั้นต่อไปก็ไม่เป็นปัญหา แต่จะให้เรียกชื่อที่ใครๆ ก็เรียกกันมันออกจะธรรมดาไปหน่อย ถ้างั้น……..ย่อเป็นจาชินริกกะจัง(邪真六花ちゃん) ย่ออีกก็เป็น ‘จาชิริก้า(ジャシリカ)’จัง ดีมั้ย?”
“……..ถึงจะช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่มีปัญหา”
……..ช่วยไม่ได้จริงดิ ไม่มีปัญหาจริงดิ
คงจะคิดเพราะมันดูค่อนข้างเท่ดีด้วยล่ะมั้ง เพราะริกกะมีสีหน้าดูจะชอบใจเอามากๆ
(Chunibyou LN Vol 3) บทที่ 2 สาวน้อย 7 สี
เล่ม 3 บทที่ 1
ตัวละครใหม่นี่ ผมเคยเห็นคนรู้จักทำผมแบบเดียวกันด้วยล่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้