คบกัน 4 คน 3 คนเป็นเอดส์ แต่อีก 1 ต้องทรมานใจ (เรื่องจริง)

ผมได้รู้จักผู้ชายคนนึง ชื่อ แมนครับ ผมอายุ 18 แต่แมนอายุ 20 ปีแมนเป็นเกย์และผมก็เป็นเกย์ด้วย เราสองคนอยู่คนละโรงเรียน เราสองคนได้ตกลงคบหาดูใจกันครับ แต่ระหว่างที่ผมกับแมนคบกันอยู่ เค้ามักจะแอบไปคุยโทรศัพท์ ผมก็ไม่ได้เอะใจใดๆ เป็นมาเกือบปี วันนึงเค้าบอกผมว่า เค้าคบกับพี่คนนึงมาก่อนผม   แต่ผมก็ไม่ยอมที่จะทิ้งเค้าไป เค้าก็ไม่ยอมทิ้งผมไป  ครอบครัวผม และครอบครัวเค้าก็รู้ว่าเราคบกันครับ วันนึงแมนตัดสินใจพาผมไปเที่ยว กทม. เค้าพาผมไปที่ร้านแห่งหนึ่งแถวๆ รังสิตครับ เค้าเข้าไปที่ร้านผมนั่งรออยู่นาน สักพักเค้าพาผมเข้าไปในร้าน เจอพี่สองคนอายุประมาณ 20-30 กว่าๆ ทั้งสองคนดูเป็นคนเรียบร้อย แมนบอกผมว่า พี่สองคนเค้าเป็นแฟนกันครับ พี่เค้าชื่อ พี่มิกซ์กับพี่แวน สองคนคบกันมาเกือบแปดปีแล้วครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแมน เล่าให้ผมฟังทำไม เแมนบอกว่า เค้าคบกันมาเกือน 8 ปีแล้ว แต่พี่มิกซ์มาชอบแมน เค้าก็เลยจีบแมน พี่แวนก็ยอมและคบกันแบบ 3 คนเรื่อยมา แมนบอกผมว่า จะเลิก หรือจะอยู่ต่อ ผมตัดสินใจว่าผมจะอยู่ต่อ แมนบอกว่า ผมต้องยอม พี่เค้าทั้ง 2 คน ผมก็ยอม ในที่สุด เราก็เลยอยู่กันแบบสี่คน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำไงดีครับ ผมทรมานใจเหลือเกิน จะทิ้งแมนก็ไม่ได้เพราะเรารักเค้าจนยอมทุกอย่าง  แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาแมนมาบอกพวกเราว่าแมนเป็นเอดส์ พี่ทั้งสองคน ก็เป็น ผมไปตรวจเลือดมา มีผมคนเดียวที่ไม่ติดเอดส์ ผมต้องทำยังไงทุกข์ใจที่ต้องอยู่ แต่จะแยกไปก็สงสารพวกเขา อีกทั้งเรายังรักแมน ช่วยบอกผมทีเถอะว่าผมต้องทำยังไงคิดมาหลายเดือนแล้ว? ช่วยผมทีเถอะครับ ผมไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียใจ ในตอนนี้ พวกเขาเจอกันมัวแต่ร้องไห้ เค้าบอกให้ผมออกไปอยู่ที่อื่นแทน อย่าทนอยู่เลย เฮ้อออออออ (ที่บ้านแมนและบ้านผมไม่รู้ว่าเราอยู่กับ 4 คน และไม่รู้ว่าแมนเป็นเอดส์)
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 141
ความรักเป็นเรื่องที่ดี (ถ้าเป็นรักที่ดี) ประเด็นความรักผมขอไม่พูดมากว่านี้นะครับ
ขอแสดงความคิดเห็นผ่านการตั้งคำถามให้น้องหาคำตอบดังนี้นะครับ
1. แมนและอีก 2 คน ทานยาต้านไวรัสหรือเปล่า (ถ้ากินยาจริง คงไม่ใช่การโกหก เพื่อกันคุณออกไป..กรณีที่กินยาต้านต้องดูว่าเขากินยาดี ตรงเวลา viral load <40 คุณก็เสี่ยงน้อย ตรงนี้ต้องขอข้อมูลจากสถานพยาบาล ซึ่งเจ้าตัวต้องอนุญาต เช่นไปรพ.พร้อมกับเขา)
2. ทั้ง 3 คนใช้ถุงยางและเปลี่ยนถุงระหว่างคู่ทุกครั้ง (เน้นว่าทุกครั้ง) หรือไม่ (ถ้าใส่และเปลี่ยนถุงคุณก็เสี่ยงน้อย)
3. คุณควรเจาะเลือดซ้ำภายใน 3 เดือน ตามที่มีคนแนะนำไว้แล้ว (ยืนยันว่าคุณไม่ติดเชื้อ)
4. กรณีที่คุณไม่มั่นใจว่าเขาดีพอ จากคำตอบในขอ 1 และ 2 (ปกติคนที่ทราบว่าติดเชื้อควรมีจริยธรรมในการใส่ถุงยางทุกครั้งที่มี sex กัน ถ้าเขารู้ตัวว่าเป็นแต่ไม่ใส่ถุงยางกับคุณ อาจแสดงได้ว่าเขาไม่มีจริยธรรมกับเรา) ดังนั้นคุณควรถอยความสัมพันธ์ออกมา อย่างน้อยลดความเสี่ยงเรื่อง sex อาจเป็นแค่เพื่อนกัน
5.  กรณีที่คิดดีแล้วว่าต้องการคบเขาต่อ ขอให้คุณ safe sex ตลอดไปนะครับ แต่ขอแนะนำว่า sex มากกว่า 2 คนแบบนี้จะเสี่ยงมากครับ ควรเลิกไปถ้าคุณไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นจริงๆ (อาจยอมให้แมนมีได้ แล้วคุณมาป้องกันจากแมนอย่างเดียวน่าจะปลอดภัยต่อคุณมากกว่าแบบหมู่)
6. ตอบคำถามสุดท้ายว่าหน้าที่ของน้องตอนนี้คืออะไร ใช่การตั้งใจเรียนเพื่อมีอนาคตที่ดีสำหรับตัวเองและครอบครัวของเราหรือไม่  เรื่องระหว่างคุณกับอีก 3 ท่าน อาจเป็นเรื่องใหญ่ตอนนี้ แต่เวลาผ่านไป มันจะเป็นเรื่องที่แค่ผ่านเข้ามาให้เราเรียนรู้ และมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายจะเข้ามาในชีวิตเรานะครับ
ปล.ให้กำลังใจน้องนะครับ เลือกทางเดินอย่างมีสตินะครับ...ขอให้น้องโชคดีนะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คิดถึงพ่อแม่บ้างรึยังคับ
ความคิดเห็นที่ 9
ขอด่า จขกท นะคะ อย่ากินหญ้าแทนข้าวค่ะ
สงสารพวกเค้าทำไมคะ

พวกเค้าไม่เห็นสงสารคุณเลย ทั้ง 3 คนเลือดเย็นมากโดยเฉพาะ eha แมนเนี่ย
จิตใจทำด้วยอะไร รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเอดส์ยังลากคุณเข้าไปเอี่ยวอีก
ทั้ง 3 คนชั่วช้ามาก ไม่น่าเห็นใจเลย

อย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่าตัวเองไม่ติดเพราะมันมีช่วงที่ฟักตัวหลังติดเชื้ออีก window period
การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเป็นอะไรที่มีโอกาสติดเชื้อง่ายมากโดยเฉพาะรับ
เพราะช่องทางมันคับแคบมาก มีการเสียดสีค่อนข้างแรง เกิดแผลง่ายทั้งรุกและรับ
ยิ่งรับหากรุกมีเชื้อหลั่งใน นั่นแหละบรรลัย น้ำมันขังอยู่ในนั้นโอกาสที่เชื้อจะเข้าแผลก็ยิ่งมา

เอากระทู้นี้มาฝากค่ะ
http://pantip.com/topic/32620824/comment1
ความคิดเห็นที่ 44
อยากให้ทุกท่านเข้าใจเพิ่มเติมซักนิดนะครับ

ว่าการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ท่านคิด

HIV ไม่ใช่ไข้หวัดครับที่จะติดกันได้ง่ายๆ หากเรามีความรู้และเข้าใจที่จะป้องกัน

อีกประเด็นคือ ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์ที่มีโอกาสติดเชื้อเยอะครับ ผู้ชายและผู้หญิง ที่เป็นรักต่างเพศ ก็มีสิทธิ์ติดเชื้อได้เท่าๆ กัน หากไม่มีความรู้มากเพียงพอ

ผมยังคงสะเทือนใจกับความคิดเห็นของหลาย ๆ ท่าน ที่มีต่อคนๆ นึงที่เค้าอยู่ในสภาวะเสี่ยงขนาดนี้
เรายังขาดความรู้ความเข้าใจ และยังมีความเชื่อฝังหัวอีกหลายอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
และเมื่อรวมกับความรู้สึกที่ขาดการกลั่นกรองตามยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค นั่นยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

ผมขอกราบวิงวอน ให้ท่านใส่ใจในชีวิตของคน ๆ นึงมากขึ้นซักนิด เพราะหากวันหนึ่งวันใด เราหาทางออกไม่เจอ เราจะได้มีความหวังว่า คนในสังคม ยังมีแสงเล็กๆ ให้เห็นในความมืดดำของชีวิตบ้าง ซักเล็กน้อยก็ยังดี
ความคิดเห็นที่ 25
Watch 3 Simple Steps of HIV Testing
สำหรับคนไทย - การตรวจฟรีและเป็นความลับ

ขั้นแรก : ลงทะเบียน และรับบริการให้คำปรึกษา "ก่อน" การตรวจเลือด
เมื่อท่านเดินทางมาถึงคลีนิคนิรนาม (ไม่ต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า) เพียงไปที่ช่องลงทะเบียน กรอกแบบฟอร์ม และนำไปให้เจ้าหน้าที่ พร้อมบัตรประชาชน พร้อมจ่ายเงิน 20 บาทค่าทำบัตร จากนั้นจะได้รับบัตรคิว ข้อมูลของท่านที่ลงทะเบียนน้ันจะถูกเก็บเป็นความลับ และเมื่อถึงคิวของท่าน เจ้าหน้าที่จะเชิญท่านเข้าไปในห้องให้คำปรึกษา เจ้าหน้าที่จะสอบถามและให้คำปรึกษา "ก่อน" ที่จะตรวจเลือด ข้อมูลจากการสอบถามพูดคุยจะถูกเก็บเป็นความลับ และไม่มีการตัดสินใดๆ จากเจ้าหน้าที่ ถึงความประพฤติหรืออัตลักษณ์ ดังนั้น ท่านจึงสบายใจได้และสามารถตอบคำถามตามความเป็นจริง เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ตัวท่านเอง ท่านควรใช้โอกาสนี้ ในการพูดคุยถึงข้อสงสัยในใจ เพื่อเราจะสามารถป้องกันและรู้ทันในอนาคต ขั้นตอนการให้คำปรึกษาประมาณ 10 นาที ส่วนคิวนั้น แล้วแต่จำนวนผู้มาเข้ารับบริการ

ขั้นที่สอง : การตรวจเลือด
สำหรับการตรวจเลือด เจ้าหน้าที่จะเชิญท่านไปนั่งรอที่หน้าห้องตรวจ จนกว่าคิวของท่านจะถูกเรียก และเมื่อถึงคิวของท่านแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการเจาะเลือดที่แขนด้านในใส่หลอด โดยไม่มีการเขียนชื่อ แต่จะเป็นการระบุหมายเลข อุปกรณ์และเข็มจะใช้ของใหม่ทั้งหมด เจ้าหน้าที่มีความชำนาญ เจาะอย่างรวดเร็วและไม่เจ็บตัว จบด้วยการปิดสำลีที่แขนของท่าน และขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเพียง 3 นาที

ขั้นสุดท้าย : รับผลเลือด และรับคำปรึกษา "หลัง" การตรวจ
ประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากการเจาะเลือด ท่านสามารถมายื่นบัตร รอรับผลได้ โดยเจ้าหน้าที่จะเชิญเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาท่านเดิม เพื่อรับผล โดยท่านจะเลือกรับผลแบบพิมพ์หรือไม่พิมพ์ผลออกมาก็ได้ และเจ้าหน้าที่จะคุยกับท่านอีกเพื่อแนะนำการมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย

ข้อสำคัญของระยะฟักตัว ก่อนมาเข้ารับบริการ
ช่วงระยะเวลาระหว่างการติดเชื้อเอชไอวี และเวลาที่แอนติบอดีในร่างกายต้านเชื้อเอชไอวี ที่สามารถตรวจเลือดหาเชื้อได้นั้น เราเรียกว่า ระยะฟักตัว
99% ของผู้มีเชื้อเอชไอวี ร่างกายจะต้านเชื้อและปรากฏให้เห็นการการตรวจ หลังจากระยะเวลา 3 เดือนไปแล้ว อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน เรามีการตรวจแอนติบอดี ที่มีประสิทธิภาพกว่าเมื่อก่อน
ดังนั้น เราจะสามารถตรวจหาเชื้อได้ภายในเวลา 30 วัน หลังจากได้รับเชื้อเอชไอวี ดังนั้น หากท่านมีความเสี่ยงและอยากเข้ามารับการตรวจ ก็สามารถมาได้เลยในช่วงเดือนแรก แต่ว่าจะต้องมาตรวจซ้ำอีกครั้งหลัง 3 เดือนไปแล้ว

สำคัญที่สุด คือ ณ ตอนนี้ คลีนิคนิรนาม เปิดให้บริการการตรวจ "แนท" ที่สามารถตรวจหาเชื้อได้เลย หลังจากรับเชื้อหรือมีความเสี่ยงมา 5 วัน เท่านั้น! อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ "แนท"
และท่านสามารถเข้าดูรายละเอียด เวลาทำการ และอัตราค่าบริการ ที่นี่

สำหรับคนไทย - ข้อชี้แจงในการรับบริการตรวจเลือด

คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทย ขอชี้แจงกระบวนการรับบริการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวี และวิธีการตรวจเลือด ดังนี้

1. ผู้มารับบริการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีทุกรายที่คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทย จะได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำก่อนการตรวจเลือดเพื่อประเมินความเสี่ยงและทำ การตัดสินใจรับการตรวจเลือด หากผู้มารับบริการตัดสินใจตรวจ จะได้รับการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจด้วยวิธี 4th generation enzyme immunoassay  หรือ EIA ซึ่งจะตรวจจับภูมิหรือแอนติบอดี้ (antibody) ต่อเชื้อเอชไอวี ร่วมกับตรวจจับชิ้นส่วนของเชื้อหรือแอนติเจน (antigen) พร้อมกันไปด้วย จึงมีความไวมากกว่าการตรวจด้วยวิธี EIA รุ่นก่อนๆ และสามารถตรวจพบผลบวกได้หลังมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อมาประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไป โดยผู้มารับบริการจะทราบผล 4th generation EIA ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังเจาะเลือด

2. หากผลการตรวจ 4th generation EIA เป็นลบ ผู้มารับบริการจะได้รับการแจ้งผลลบของ 4th generation EIA ในระหว่างการให้คำปรึกษาแนะนำหลังการตรวจเลือด เพื่อวางแผนร่วมกันให้ผลเลือดเป็นลบตลอดไป และจะได้รับการแจ้งว่าจะมีการนำตัวอย่างเลือดที่เก็บไว้ไปทำการตรวจด้วยวิธี แนท (NAT หรือ nucleic acid testing) ต่อไป ซึ่งวิธี NAT จะตรวจจับสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี จึงมีความไวมากกว่าการตรวจด้วยวิธี EIA และสามารถตรวจพบผลบวกได้หลังมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อมาประมาณ 5 วันขึ้นไป โดยหากผู้มารับบริการยินดีให้เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ไว้กับทางคลีนิ คนิรนาม ก็จะได้รับการโทรศัพท์แจ้งให้กลับมาที่คลีนิคนิรนามหากผล NAT เป็นบวก และจะมีการตรวจเลือดเพื่อวัดปริมาณ viral load (ไวรัลโลด) ยืนยันอีกครั้งด้วย หากผล NAT เป็นลบจะไม่ได้มีการโทรศัพท์แจ้งกลับไป นอกจากนี้ ผู้มารับบริการอาจเลือกที่จะโทรศัพท์มาถามผล NAT ด้วยตัวเองก็ได้ โดยจะสามารถทราบผลได้ตั้งแต่ 1-2 วันหลังการมาตรวจครั้งแรก ที่ผ่านมา พบมีผู้มารับบริการของคลีนิคนิรนามที่ผล 4th generation EIA เป็นลบ แต่ผล NAT เป็นบวก ซึ่งแปลว่าเป็นผู้ที่เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีในระยะเฉียบพลัน ประมาณ 4 ใน 1000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย

3. หากผลการตรวจ 4th generation EIA เป็นบวก ผู้มารับบริการจะได้รับการแจ้งผลบวกครั้งแรกจาก 4th generation EIA และจะได้รับการเจาะเลือดซ้ำอีกครั้ง เพื่อนำไปตรวจด้วยวิธี rapid test อีก 2 วิธี หากผล rapid test อย่างน้อย 1 วิธี หรือทั้ง 2 วิธีเป็นบวก ผู้มารับบริการจะได้รับการแจ้งยืนยันผลบวกในระหว่างการให้คำปรึกษาแนะนำหลัง การตรวจเลือด เพื่อวางแผนการรับการดูแลรักษาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีต่อไป และจะได้รับการแจ้งว่าจะมีการนำตัวอย่างเลือดที่เก็บไว้ไปทำการตรวจด้วยวิธี EIA รุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งจะมีความไวน้อยกว่า 4th generation EIA โดยหากผล EIA รุ่นก่อนหน้านี้ยังเป็นลบอยู่ แปลว่าเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มสร้างแอนติบอดีและยังเป็นผู้ที่เพิ่งติดเชื้อเอ ชไอวีในระยะเฉียบพลันอยู่ (ถึงแม้จะไม่เฉียบพลันเท่าผู้ที่ผล 4th generation EIA เป็นลบ แต่ผล NAT เป็นบวกก็ตาม) ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ที่เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีในระยะเฉียบพลันจะได้รับการ ติดต่อกลับไปทางโทรศัพท์หากได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ เพื่อให้กลับมารับคำปรึกษาแนะนำเพิ่มเติมสำหรับต่อไป

ที่มา.http://www.adamslove.org/d.php?id=69
ความคิดเห็นที่ 56
แล้วที่ว่าครอบครัวรับรู้นี่... ครอบครัวนี่ใคร?

งง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่