ตลาดใหญ่ "เก๋งเล็ก" ร่วงหนัก
แหล่งข่าวใน วงการยานยนต์ ระบุว่า แม้ว่าตั้งแต่เข้าช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา
สถานการณ์ต่างๆปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
จากปัญหาการเมืองคลี่คลาย มีรัฐบาลใหม่ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และยังส่งผลถึงวันนี้ ก็คือ
หนี้ครัวเรือน และกำลังซื้อที่น้อยลง
โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ยังไม่ฟื้นตัว
หลังจากที่กำลังซื้อถูกดึงไปใช้กับโครงการรถคันแรก
ทำให้ลูกค้ายังไม่กลับมาซื้อรถใหม่
ขณะที่ผู้ที่ซื้อรถจากโครงการก็กำลังมีปัญหากับเรื่องของการผ่อนชำระ
และบางส่วนผ่อนชำระไม่ไหว
ล่าสุดนายซานเจย์ มิชรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า
มีประมาณ 15% ที่มีปัญหาการผ่อนชำระ และการที่กำลังซื้อถูกดึงไปใช้ล่วงหน้า
การที่ลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระได้ ทำให้ตลาดรถมือสองได้รับผลกระทบตามไปด้วย
เนื่องจากปริมาณเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้โครงสร้างราคาปรับตัวลดลง
และย้อนกลับมาฉุดกำลังซื้อในตลาดรถใหม่อีกครั้ง
ในส่วนของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่
เนื่องจากรถคันเดิมที่ราคาตก จึงยกเลิกการขายและทนใช้คันเดิมต่อไป
ทั้งนี้จากข้อมูลการขายรถช่วง ม.ค.-ก.ค.เห็นได้ชัดเจนว่า รถยนต์นั่งขนาดเล็ก
ซึ่งเป็นรถที่ได้รับประโยชน์จากโครงการรถคันแรก และมีบทบาทในตลาดอย่างมาก
เนื่องจากมีสัดส่วนการขาย 73% ของตลาดรวมรถยนต์นั่ง
มียอดขายที่ลดลงอย่างรุนแรง ทำให้มีผลต่อการฉุดตลาดโดยรวมอย่างมาก
โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา รถยนต์นั่งขนาดเล็กมียอดขาย 142,775 คัน ลดลง 50%
จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่ากลุ่มอื่น ทั้งรถยนต์นั่งคอมแพคท์ ขนาดใหญ่
และกลุ่มลักซัวรี่ ที่ลดลง 41% และ 38% ตามลำดับ
ขณะที่ตลาดรวมรถยนต์นั่ง ลดลง 48%
นอกจากนี้รถปิกอัพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อตลาดรถยนต์จาก การมีสัดส่วนการขาย 42%
และเป็นกลุ่มรถที่ได้สิทธิโครงการรถคันแรกเช่นกัน
ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว
รวมถึงผลจากการที่สินค้าเกษตรหลายตัวราคาตกต่ำ
ทำให้ยอดขายลดลง 35% แต่ก็ยังมีสถานการณ์ที่ดีกว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก
เนื่องจากรถบางกลุ่มเป็นรถที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ในการประกอบอาชีพ
แตกต่างจากรถยนต์นั่ง ที่ใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวัน
เครดิต : bangkokbiznews 10/09/2014
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/auto-mobile/auto-mobile/20140910/603870/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94.html
<><> รถคันแรกอีกหนึ่งความเจ็บปวด <><>
แหล่งข่าวใน วงการยานยนต์ ระบุว่า แม้ว่าตั้งแต่เข้าช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา
สถานการณ์ต่างๆปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
จากปัญหาการเมืองคลี่คลาย มีรัฐบาลใหม่ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และยังส่งผลถึงวันนี้ ก็คือ
หนี้ครัวเรือน และกำลังซื้อที่น้อยลง
โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ยังไม่ฟื้นตัว
หลังจากที่กำลังซื้อถูกดึงไปใช้กับโครงการรถคันแรก
ทำให้ลูกค้ายังไม่กลับมาซื้อรถใหม่
ขณะที่ผู้ที่ซื้อรถจากโครงการก็กำลังมีปัญหากับเรื่องของการผ่อนชำระ
และบางส่วนผ่อนชำระไม่ไหว
ล่าสุดนายซานเจย์ มิชรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า
มีประมาณ 15% ที่มีปัญหาการผ่อนชำระ และการที่กำลังซื้อถูกดึงไปใช้ล่วงหน้า
การที่ลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระได้ ทำให้ตลาดรถมือสองได้รับผลกระทบตามไปด้วย
เนื่องจากปริมาณเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้โครงสร้างราคาปรับตัวลดลง
และย้อนกลับมาฉุดกำลังซื้อในตลาดรถใหม่อีกครั้ง
ในส่วนของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่
เนื่องจากรถคันเดิมที่ราคาตก จึงยกเลิกการขายและทนใช้คันเดิมต่อไป
ทั้งนี้จากข้อมูลการขายรถช่วง ม.ค.-ก.ค.เห็นได้ชัดเจนว่า รถยนต์นั่งขนาดเล็ก
ซึ่งเป็นรถที่ได้รับประโยชน์จากโครงการรถคันแรก และมีบทบาทในตลาดอย่างมาก
เนื่องจากมีสัดส่วนการขาย 73% ของตลาดรวมรถยนต์นั่ง
มียอดขายที่ลดลงอย่างรุนแรง ทำให้มีผลต่อการฉุดตลาดโดยรวมอย่างมาก
โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา รถยนต์นั่งขนาดเล็กมียอดขาย 142,775 คัน ลดลง 50%
จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่ากลุ่มอื่น ทั้งรถยนต์นั่งคอมแพคท์ ขนาดใหญ่
และกลุ่มลักซัวรี่ ที่ลดลง 41% และ 38% ตามลำดับ
ขณะที่ตลาดรวมรถยนต์นั่ง ลดลง 48%
นอกจากนี้รถปิกอัพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อตลาดรถยนต์จาก การมีสัดส่วนการขาย 42%
และเป็นกลุ่มรถที่ได้สิทธิโครงการรถคันแรกเช่นกัน
ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว
รวมถึงผลจากการที่สินค้าเกษตรหลายตัวราคาตกต่ำ
ทำให้ยอดขายลดลง 35% แต่ก็ยังมีสถานการณ์ที่ดีกว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก
เนื่องจากรถบางกลุ่มเป็นรถที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ในการประกอบอาชีพ
แตกต่างจากรถยนต์นั่ง ที่ใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวัน
เครดิต : bangkokbiznews 10/09/2014
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้