คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
มีรูปแรกที่พอดูได้
รูปที่ 2,3 ไม่ชัดเอาซะเลย
จากรูปแรก คิดถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง น่าจะมีปนๆกันระหว่าง impetigo กับ ecthyma
ที่จริงก็คล้ายกัน เชื้อก่อโรคกลุ่มเดียวกัน แต่ ecthyma กินเข้าไปลึกกว่าเวลาหายเลยมักจะเป็นแผลเป็น
เชื้อกลุ่มนี้เป็นได้ทั้งเชื้อในกลุ่ม Streptococcus และ Staphyllococcus
เป็นไปได้ที่อนามัยจะใช้ยาปฏิชีวนะหรือที่เรียกกันว่ายาฆ่าเชื้อ(แบคทีเรีย)เป็นพวก amoxicillin ซึ่งเป็นยายอดฮิตของอนามัย
ซึ่งครอบคลุมเฉพาะ Strep ไม่คลุม Stap
ดังนั้นถ้าเชื้อเป็น Stap ก็จะไม่หาย
ปกติมักใช้ยาในกลุ่ม
-กลุ่ม penicillin ที่ครอบคลุม Stap,Strep ได้ เช่น Cloxa, Dicloxa เป็นยาเลือกใช้อันดับแรกๆ
แต่ข้อเสียคือยาขม ต้องกินหลายมื้อ (4มื้อ) และต้องกินตอนท้องว่าง (ก่อนอาหาร 1/2-1 ชั่วโมง ถ้ากินไปแล้วรอหลังอาหาร 2 ชั่วโมง)
เพราะอาหารรบกวนการดูซึมยา
ในเด็กเล็กที่ต้องกินนมบ่อยจะให้ยาค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะเดี๋ยวๆก็จะกินอีกแล้ว
-อีกกลุ่มคือกลุ่ม Cephalosporin รุ่นที่ 1 ซึ่งมีผลต่อเชื้อ Strep,Stap ซึ่งเป็นเชื้อกลุ่มแกรมบวกได้ดีกว่ารุ่นหลังๆและถูกกว่าด้วย
ยากินกลุ่มนี้ที่นิยมใช้ก็ Cephalexin ซึ่งมีข้อดีคือกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ รสชาดไม่แย่เท่าพวก Cloxa , Dicloxa
ส่วนยาทาใช้ยาเสริมได้ เช่น Mupirocin(bactroban) ได้ผลดี แต่รายที่แผลจำนวนมากจะทาไม่ทัน เดี๋ยวตุ่มใหม่ขึ้นอีก ไล่ทากันไม่จบ
จึงยังต้องใช้ยากินเป็นหลักสำหรับรายที่แผลมีจำนวนมากครับ
ถ้าให้ยาที่เหมาะสมควรดีขึ้นชัดเจน ส่วนใหญ่ 3-5 วันก็ดีขึ้นชัดแล้ว
แต่ควรให้ยา 10 วันเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นปฏิกริยาทางภูมิคุ้มกันจากเชื้อกลุ่มนี้ด้วย
ทีนี้ ถ้าคิดว่ารักษาด้วยชนิดของยา ขนาดยา และระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
หรือเป็นบ่อยมาก ไม่หายซักที
ต้องดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่
เช่นเป็นผิวหนังอักเสบแบบภูมิแพ้ atopic ร่วมด้วย
ทำให้คัน เกา หนังถลอก เชื้อเข้าทางผิวหนัง
อีกอันที่เพิ่งเจอเมื่อสัปดาห์ก่อนเลย
ที่ส่งเด็กอายุ 6-7 เดือนมาปรึกษาด้วยเรื่องแผลวินิจฉัยว่าเป็น impetigo ที่รักษามา 1 สัปดาห์ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แต่ดีขึ้นบางส่วน
และใน 2-3 เดือนรักษามาแล้ว 3 ครั้ง ไม่เคยหายขาด
เด็กมากับพ่อแม่
คือประวัติคันและเป็นแผลพุพองร่วมด้วยเป็นๆหายๆไม่หายขาดมานาน 2-3 เดือนแบบนี้
ซักประวัติเพิ่ม ซึ่งเป็นประวัติที่หมอทั่วไปที่รักษาอยู่ไม่เคยได้ถามแม่เด็กคือ
พ่อก็คันมาก พี่ชายก็คัน แม่ก็คันนิดหน่อย พ่อมีผื่นด้วยมีที่ตัว มือง่ามนิ้ว กลางคืนคันมากๆ
รายนี้คือนอกจากเป็น impetigo ที่มีด้วยแล้ว
ก็คือเป็นหิด ( scabies ) ร่วมด้วย
ซึ่งถ้าไม่รักษาหิด และต้องรักษาหิดให้กับทุกคนในบ้านด้วย
มันก็จะไม่จบครับ
สำหรับน้องถ้าเป็นๆหายๆมานาน
แนะนำให้พบหมอเฉพาะทางเป็นหมอผิวหนังไปเลยซักครั้งนะครับ
บางที case แบบนี้ หมอทั่วไปอาจหลุดได้เหมือนกันถ้ามีอะไรที่นอกเหนือจาก impetigo และ ecthyma ซ่อนอยู่ด้วย
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
รูปที่ 2,3 ไม่ชัดเอาซะเลย
จากรูปแรก คิดถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง น่าจะมีปนๆกันระหว่าง impetigo กับ ecthyma
ที่จริงก็คล้ายกัน เชื้อก่อโรคกลุ่มเดียวกัน แต่ ecthyma กินเข้าไปลึกกว่าเวลาหายเลยมักจะเป็นแผลเป็น
เชื้อกลุ่มนี้เป็นได้ทั้งเชื้อในกลุ่ม Streptococcus และ Staphyllococcus
เป็นไปได้ที่อนามัยจะใช้ยาปฏิชีวนะหรือที่เรียกกันว่ายาฆ่าเชื้อ(แบคทีเรีย)เป็นพวก amoxicillin ซึ่งเป็นยายอดฮิตของอนามัย
ซึ่งครอบคลุมเฉพาะ Strep ไม่คลุม Stap
ดังนั้นถ้าเชื้อเป็น Stap ก็จะไม่หาย
ปกติมักใช้ยาในกลุ่ม
-กลุ่ม penicillin ที่ครอบคลุม Stap,Strep ได้ เช่น Cloxa, Dicloxa เป็นยาเลือกใช้อันดับแรกๆ
แต่ข้อเสียคือยาขม ต้องกินหลายมื้อ (4มื้อ) และต้องกินตอนท้องว่าง (ก่อนอาหาร 1/2-1 ชั่วโมง ถ้ากินไปแล้วรอหลังอาหาร 2 ชั่วโมง)
เพราะอาหารรบกวนการดูซึมยา
ในเด็กเล็กที่ต้องกินนมบ่อยจะให้ยาค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะเดี๋ยวๆก็จะกินอีกแล้ว
-อีกกลุ่มคือกลุ่ม Cephalosporin รุ่นที่ 1 ซึ่งมีผลต่อเชื้อ Strep,Stap ซึ่งเป็นเชื้อกลุ่มแกรมบวกได้ดีกว่ารุ่นหลังๆและถูกกว่าด้วย
ยากินกลุ่มนี้ที่นิยมใช้ก็ Cephalexin ซึ่งมีข้อดีคือกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ รสชาดไม่แย่เท่าพวก Cloxa , Dicloxa
ส่วนยาทาใช้ยาเสริมได้ เช่น Mupirocin(bactroban) ได้ผลดี แต่รายที่แผลจำนวนมากจะทาไม่ทัน เดี๋ยวตุ่มใหม่ขึ้นอีก ไล่ทากันไม่จบ
จึงยังต้องใช้ยากินเป็นหลักสำหรับรายที่แผลมีจำนวนมากครับ
ถ้าให้ยาที่เหมาะสมควรดีขึ้นชัดเจน ส่วนใหญ่ 3-5 วันก็ดีขึ้นชัดแล้ว
แต่ควรให้ยา 10 วันเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นปฏิกริยาทางภูมิคุ้มกันจากเชื้อกลุ่มนี้ด้วย
ทีนี้ ถ้าคิดว่ารักษาด้วยชนิดของยา ขนาดยา และระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
หรือเป็นบ่อยมาก ไม่หายซักที
ต้องดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่
เช่นเป็นผิวหนังอักเสบแบบภูมิแพ้ atopic ร่วมด้วย
ทำให้คัน เกา หนังถลอก เชื้อเข้าทางผิวหนัง
อีกอันที่เพิ่งเจอเมื่อสัปดาห์ก่อนเลย
ที่ส่งเด็กอายุ 6-7 เดือนมาปรึกษาด้วยเรื่องแผลวินิจฉัยว่าเป็น impetigo ที่รักษามา 1 สัปดาห์ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แต่ดีขึ้นบางส่วน
และใน 2-3 เดือนรักษามาแล้ว 3 ครั้ง ไม่เคยหายขาด
เด็กมากับพ่อแม่
คือประวัติคันและเป็นแผลพุพองร่วมด้วยเป็นๆหายๆไม่หายขาดมานาน 2-3 เดือนแบบนี้
ซักประวัติเพิ่ม ซึ่งเป็นประวัติที่หมอทั่วไปที่รักษาอยู่ไม่เคยได้ถามแม่เด็กคือ
พ่อก็คันมาก พี่ชายก็คัน แม่ก็คันนิดหน่อย พ่อมีผื่นด้วยมีที่ตัว มือง่ามนิ้ว กลางคืนคันมากๆ
รายนี้คือนอกจากเป็น impetigo ที่มีด้วยแล้ว
ก็คือเป็นหิด ( scabies ) ร่วมด้วย
ซึ่งถ้าไม่รักษาหิด และต้องรักษาหิดให้กับทุกคนในบ้านด้วย
มันก็จะไม่จบครับ
สำหรับน้องถ้าเป็นๆหายๆมานาน
แนะนำให้พบหมอเฉพาะทางเป็นหมอผิวหนังไปเลยซักครั้งนะครับ
บางที case แบบนี้ หมอทั่วไปอาจหลุดได้เหมือนกันถ้ามีอะไรที่นอกเหนือจาก impetigo และ ecthyma ซ่อนอยู่ด้วย
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
แสดงความคิดเห็น
ลูกมีตุ่ม หนอง ขึ้นตาม แขน ขา ก้น ค่ะ