ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผมก็เข้าใจ นิสัยผู้หญิงกับผู้ชาย ย่อมต่างกัน คำบอกเลิกของผู้หญิง
มันอาจจะเกิดได้ทุกวัน ทุกเดือน (ผู้หญิงบางคน)
ไม่พอใจอะไร ก็บอกเลิก บางครั้งก็เรื่องเล็ก บางครั้งก็เรื่องใหญ่ ปะปนกันไป
และแฟนผมคนนี้ เค้าก็จะเป็นคนที่ชอบบอกเลิกเสมอๆ เวลาที่
มีเรื่องทะเลาะหรือผิดใจกัน ผมจะไม่พูดว่าเรื่องอะไรบ้าง
เพราะผมพูด ก็จะเหมือนว่า ฟังความฝ่ายเดียว
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ครั้งล่าสุด เมื่อสักหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
มีเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกัน(อีกแล้ว) และไม่รู้อะไรมันฉุดผมให้ไม่เหมือนเดิม
ผมเก็บกด ผมเคลียด และสำคัญที่สุด ผมอึดอัดมาก ที่ต้องเจอคำบอกเลิกซ้ำๆซากๆ
จนใจหมด อยากที่จะอยู่คนเดียว..... มันทำให้ผมคิดว่า
ถ้าผมอยู่คนเดียว ผมก็จะได้เต็มที่กับงาน ไม่ต้องคอยพะวง แน่นอน
ความคิดนี้ในอีกมุมนึงมันก็แย่มาก ยังไงชีวิตคู่ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ไปให้ได้
แต่ เหมือนครั้งนี้มันถึงจุดที่ผมรู้สึกและยอมรับแล้วว่า ชีวิตคนสองคนที่มันต่างกันเกินไป
แค่คำว่ารัก ก็ไม่อาจประคองกันไปถึงฝั่งได้
เมื่อผมเริ่มวางแผนว่าผมจะอยู่คนเดียว ผมจะโฟกัสที่เรื่องงานให้มากๆ เพื่อให้ลืมๆ
ผมก็เริ่มอยู่ได้ ด้วยการ เปลี่ยนชีวิตตัวเอง ตอนกลางคืน
ก็ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ(เกี่ยวกับงาน และเรื่องเรียนต่อ)เพื่อหวังจะพัฒนาตัวเอง
แต่หลังจากนั้นประมาณสองสามอาทิตย์ เค้ากลับมาง้อผม ง้อยังไง ผมขอไม่อธิบาย
และความรู้สึกผม มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
ใช่มันแย่มาก ผมเคยบอกเค้าว่าผมรักและอยากแต่งงานกับเค้า(แต่อีกนานนะ เพราะตอนนี้อายุ
ยี่สิบกลาง อยากแต่งงานก็ตอนนู่นแหละ 28-30)
และสุดท้ายผมก็เลือกที่จะใจแข็ง บอกเค้าไปว่า ผมวางแผนชีวิตทุกอย่างใหม่หมดแล้ว (ผมไม่ได้มีใครใหม่นะ)
ผมไม่อยากกลับไป ความรู้สึกผมตอนนี้มันไม่เหมือนดิมแล้ว
ตอนที่ผมพูด ผมเคลียดมาก แต่ผมก็เลือกที่จะใจแข็งและบอกทุกอย่างไปแบบนี้
ดีกว่าที่จะใจอ่อน และกลับไปแบบ ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม
กลัวว่าอาจจะยิ่งสร้างความผูกพันธ์และสุดท้ายก็เลิกกันเพราะ ความเข้ากันไม่ได้อยู่ดี
และผมก็คิดว่า เค้าคงเหมาะกับผู้ชายที่อายุมากกว่า
พร้อมจะมีเวลาให้ พร้อมจะดูแลมากกว่า ที่คบกับคนอายุแบบเพิ่งเรียนจบเพิ่งทำงาน แบบผม
ตอนนี้ผมเคลียด ผมเคลียดมากๆ ผมผิดมากไหมที่เลือกจะใจแข็ง
แฟนกลับมาง้อ แต่ผมไม่ได้กลับไปคืนดีด้วย ผมผิดมากไหมครับ?
มันอาจจะเกิดได้ทุกวัน ทุกเดือน (ผู้หญิงบางคน)
ไม่พอใจอะไร ก็บอกเลิก บางครั้งก็เรื่องเล็ก บางครั้งก็เรื่องใหญ่ ปะปนกันไป
และแฟนผมคนนี้ เค้าก็จะเป็นคนที่ชอบบอกเลิกเสมอๆ เวลาที่
มีเรื่องทะเลาะหรือผิดใจกัน ผมจะไม่พูดว่าเรื่องอะไรบ้าง
เพราะผมพูด ก็จะเหมือนว่า ฟังความฝ่ายเดียว
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ครั้งล่าสุด เมื่อสักหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
มีเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกัน(อีกแล้ว) และไม่รู้อะไรมันฉุดผมให้ไม่เหมือนเดิม
ผมเก็บกด ผมเคลียด และสำคัญที่สุด ผมอึดอัดมาก ที่ต้องเจอคำบอกเลิกซ้ำๆซากๆ
จนใจหมด อยากที่จะอยู่คนเดียว..... มันทำให้ผมคิดว่า
ถ้าผมอยู่คนเดียว ผมก็จะได้เต็มที่กับงาน ไม่ต้องคอยพะวง แน่นอน
ความคิดนี้ในอีกมุมนึงมันก็แย่มาก ยังไงชีวิตคู่ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ไปให้ได้
แต่ เหมือนครั้งนี้มันถึงจุดที่ผมรู้สึกและยอมรับแล้วว่า ชีวิตคนสองคนที่มันต่างกันเกินไป
แค่คำว่ารัก ก็ไม่อาจประคองกันไปถึงฝั่งได้
เมื่อผมเริ่มวางแผนว่าผมจะอยู่คนเดียว ผมจะโฟกัสที่เรื่องงานให้มากๆ เพื่อให้ลืมๆ
ผมก็เริ่มอยู่ได้ ด้วยการ เปลี่ยนชีวิตตัวเอง ตอนกลางคืน
ก็ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ(เกี่ยวกับงาน และเรื่องเรียนต่อ)เพื่อหวังจะพัฒนาตัวเอง
แต่หลังจากนั้นประมาณสองสามอาทิตย์ เค้ากลับมาง้อผม ง้อยังไง ผมขอไม่อธิบาย
และความรู้สึกผม มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
ใช่มันแย่มาก ผมเคยบอกเค้าว่าผมรักและอยากแต่งงานกับเค้า(แต่อีกนานนะ เพราะตอนนี้อายุ
ยี่สิบกลาง อยากแต่งงานก็ตอนนู่นแหละ 28-30)
และสุดท้ายผมก็เลือกที่จะใจแข็ง บอกเค้าไปว่า ผมวางแผนชีวิตทุกอย่างใหม่หมดแล้ว (ผมไม่ได้มีใครใหม่นะ)
ผมไม่อยากกลับไป ความรู้สึกผมตอนนี้มันไม่เหมือนดิมแล้ว
ตอนที่ผมพูด ผมเคลียดมาก แต่ผมก็เลือกที่จะใจแข็งและบอกทุกอย่างไปแบบนี้
ดีกว่าที่จะใจอ่อน และกลับไปแบบ ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิม
กลัวว่าอาจจะยิ่งสร้างความผูกพันธ์และสุดท้ายก็เลิกกันเพราะ ความเข้ากันไม่ได้อยู่ดี
และผมก็คิดว่า เค้าคงเหมาะกับผู้ชายที่อายุมากกว่า
พร้อมจะมีเวลาให้ พร้อมจะดูแลมากกว่า ที่คบกับคนอายุแบบเพิ่งเรียนจบเพิ่งทำงาน แบบผม
ตอนนี้ผมเคลียด ผมเคลียดมากๆ ผมผิดมากไหมที่เลือกจะใจแข็ง