สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณไม่ผิดที่ยังไม่พร้อมแต่งงาน ความพร้อมคือเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะในโลกของความจริงที่ชีวิตคู่ไม่ได้รอดเพราะความรักอย่างเดียว
แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าแฟนคุณเองก็ไม่ได้ผิดเช่นกันที่อยากได้ความชัดเจน หลังจากรอมา 4 ปี
แต่ จขกท บอกว่าอยากรักษาเธอไว้ แต่ยังไม่พร้อมแต่งงาน สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้เลยนะ
- คุยกันตรงๆ และจริงใจ ส่งข้อความไปหรือโทรคุย บอกให้เธอรู้ว่าคุณยังรัก
แต่คุณกำลังเร่งพัฒนาตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่สมกับการใช้ชีวิตคู่ในอนาคต
- กำหนดเวลาชัดเจน ถ้ายังแต่งไม่ได้ในวันนี้ กำหนดให้ชัดว่าอีกกี่ปีคุณจะพร้อม พร้อมแบบมีแผน ไม่ใช่พูดลอยๆ
- แสดงการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด ลงมือทำทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน รายได้ หรือการจัดการครอบครัว แฟนคุณจะสัมผัสได้เองว่าคุณจริงจัง
แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากคิดถึงเธอทุกคืนโดยไม่ลงมือเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองจริงๆ
ก็ปล่อยให้เธอไปเจอคนที่พร้อมกว่าคุณเถอะครับ
การง้อไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี ถ้าทำด้วยความจริงใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจน
แต่ถ้าง้อไปโดยที่ตัวคุณยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มันก็คือการดึงเธอกลับมาทนซ้ำอีกครั้ง
สุดท้ายแล้ว ความรักไม่ใช่เรื่องของ “คนที่อยากอยู่ด้วย” แต่คือ “คนที่พร้อมจะรับผิดชอบไปด้วยกัน”
คุณตอบตัวเองได้มั๊ย ว่าคุณพร้อมรึยัง?
ถ้า “ยัง” ก็อย่าทำลายความรักของเธออีกเลย
ถ้า “พร้อม” ก็โทรไปเลยครับ
อ้อ! การแต่งงานมันจำกัดงบประมาณได้นะครับ เชิญแค่ญาติสนิท เพื่อนสนิทได้ครับ
ไม่จำเป็นต้องเชิญประธานบริษัท หรือคณะรัฐมนตรีครับ
โดยเฉพาะในโลกของความจริงที่ชีวิตคู่ไม่ได้รอดเพราะความรักอย่างเดียว
แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าแฟนคุณเองก็ไม่ได้ผิดเช่นกันที่อยากได้ความชัดเจน หลังจากรอมา 4 ปี
แต่ จขกท บอกว่าอยากรักษาเธอไว้ แต่ยังไม่พร้อมแต่งงาน สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้เลยนะ
- คุยกันตรงๆ และจริงใจ ส่งข้อความไปหรือโทรคุย บอกให้เธอรู้ว่าคุณยังรัก
แต่คุณกำลังเร่งพัฒนาตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่สมกับการใช้ชีวิตคู่ในอนาคต
- กำหนดเวลาชัดเจน ถ้ายังแต่งไม่ได้ในวันนี้ กำหนดให้ชัดว่าอีกกี่ปีคุณจะพร้อม พร้อมแบบมีแผน ไม่ใช่พูดลอยๆ
- แสดงการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด ลงมือทำทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน รายได้ หรือการจัดการครอบครัว แฟนคุณจะสัมผัสได้เองว่าคุณจริงจัง
แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากคิดถึงเธอทุกคืนโดยไม่ลงมือเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองจริงๆ
ก็ปล่อยให้เธอไปเจอคนที่พร้อมกว่าคุณเถอะครับ
การง้อไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี ถ้าทำด้วยความจริงใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจน
แต่ถ้าง้อไปโดยที่ตัวคุณยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มันก็คือการดึงเธอกลับมาทนซ้ำอีกครั้ง
สุดท้ายแล้ว ความรักไม่ใช่เรื่องของ “คนที่อยากอยู่ด้วย” แต่คือ “คนที่พร้อมจะรับผิดชอบไปด้วยกัน”
คุณตอบตัวเองได้มั๊ย ว่าคุณพร้อมรึยัง?
ถ้า “ยัง” ก็อย่าทำลายความรักของเธออีกเลย
ถ้า “พร้อม” ก็โทรไปเลยครับ
อ้อ! การแต่งงานมันจำกัดงบประมาณได้นะครับ เชิญแค่ญาติสนิท เพื่อนสนิทได้ครับ
ไม่จำเป็นต้องเชิญประธานบริษัท หรือคณะรัฐมนตรีครับ
ความคิดเห็นที่ 30
เราเคยตอบกระทู้คุณแล้ว ก่อนหน้านี้ แล้วเราก็คาดไม่ผิดจริงๆ ว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี คุณก็ไม่พร้อมหรอกที่จะแต่งงานกับเขา เพราะปมขัดแย้งภายในของคุณเอง คุณรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า รู้สึกกดดัน รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถที่จะดูแลผู้หญิงให้สมฐานะเขาได้
แล้วความคิด ความกลัว มันก็สะท้อนการกระทำของคุณไง ผู้หญิงให้เวลาคุณพิสูจน์ตัวเอง 1 ปี คุณก็ยังไม่คิดที่จะพัฒนาอะไรสักอย่าง ไม่เริ่มทำ ไม่ลองพยายามด้วยซ้ำ ปล่อยเวลาผ่านไปวันๆ ปล่อยให้ความกลัวกัดกินหัวใจ ความกลัวในใจของคุณมันมีท่วมท้นมากล้นกว่าความกลัวที่จะเสียเธอไปเสียอีก
การกระทำมันก็บ่งบอกแล้วว่า ตัวคุณเองก็รักอีโก้ตัวเองมากกว่าผู้หญิง ถ้าผู้หญิงจะทิ้งไป คุณก็ไม่มีสิทธิ์โกรธเขานะ
ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่พร้อมและหวังดีกับเธอจริงๆ ก็ควรปล่อยเธอไปได้แล้ว อย่าเห็นแก่ตัว หากทำในสิ่งที่ผู้หญิงต้องการไม่ได้ก็อย่ากั๊กเขาไว้ ผู้หญิงมีเวลาเจริญพันธ์จำกัด อายุมากขึ้นก็เริ่มหาสามียากแล้ว คิดถึงคนที่คุณบอกว่า"รัก"ด้วย อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่งั้นคุณก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่"รักแต่ปาก" หรอกนะ
แล้วความคิด ความกลัว มันก็สะท้อนการกระทำของคุณไง ผู้หญิงให้เวลาคุณพิสูจน์ตัวเอง 1 ปี คุณก็ยังไม่คิดที่จะพัฒนาอะไรสักอย่าง ไม่เริ่มทำ ไม่ลองพยายามด้วยซ้ำ ปล่อยเวลาผ่านไปวันๆ ปล่อยให้ความกลัวกัดกินหัวใจ ความกลัวในใจของคุณมันมีท่วมท้นมากล้นกว่าความกลัวที่จะเสียเธอไปเสียอีก
การกระทำมันก็บ่งบอกแล้วว่า ตัวคุณเองก็รักอีโก้ตัวเองมากกว่าผู้หญิง ถ้าผู้หญิงจะทิ้งไป คุณก็ไม่มีสิทธิ์โกรธเขานะ
ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่พร้อมและหวังดีกับเธอจริงๆ ก็ควรปล่อยเธอไปได้แล้ว อย่าเห็นแก่ตัว หากทำในสิ่งที่ผู้หญิงต้องการไม่ได้ก็อย่ากั๊กเขาไว้ ผู้หญิงมีเวลาเจริญพันธ์จำกัด อายุมากขึ้นก็เริ่มหาสามียากแล้ว คิดถึงคนที่คุณบอกว่า"รัก"ด้วย อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่งั้นคุณก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่"รักแต่ปาก" หรอกนะ
แสดงความคิดเห็น
คิดไม่ถึงว่าการตกลงห่างกันจะทำให้เราพังได้ขนาดนี้
และเป็นกระทู้ที่อยากฟังความคิดเห็นจากทุกคนครับ
ผมคบกับแฟนมา 4 ปีครับ
ปีที่แล้วผมเคยตั้งกระทู้หนักใจเรื่องแฟนที่ต้องการแต่งงาน ในขณะที่เรายังเป็นเดอะแบก
ตอนนั้นแฟนให้เวลา 1 ปีเตรียมตัว เตรียมงาน เคลียเรื่องครอบครัวครับ
และสุดท้ายแล้วผมทำไม่ได้ตามที่สัญญากับแฟนไว้ รู้สึกว่าตัวเองห่วยมาก Loser สุดๆไปเลย
สาเหตุที่ทำไม่ได้เพราะ ผมยังไม่มี Energy ที่อยากแต่งงานเลยครับ เลยไม่ได้จัดการอะไร
ปล่อยเวลาให้ผ่านไปวันๆ ทุกอย่างดำเนินอย่างช้าๆจากผม ไม่มีความคืบหน้า
จนกระทั่งแฟนทนความสล๊อตไม่ไหวครับ เลยขอห่าง และบอกว่า การห่างกันคือการทบทวนว่า "เราควรไปต่อทางไหนดี"
ผมถามว่า คือการเลิกกันหรือป่าว แฟนตอบว่า "รอคำตอบไปก่อนนะ ลองเป็นฝ่ายรอคอยดูบ้าง"
ซึ่งผมตกลงห่างกับแฟนครับ
ตั้งแต่วันที่ตกลงห่างกันจนถึงวันนี้ประมาณ 20 วันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน
1-2 วันแรก ผมยังรู้สึกปกติดี และรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ไม่ต้องคอยฟังแฟนถามเรื่องงานแต่ง
แต่หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ความคิดถึงแฟนพุ่งสูงมาก และผมพังลงทุกวัน เริ่มกลัวกลางคืน เริ่มนอนน้ำตาไหล
แต่ผมก็ยังไม่ได้โทรหรือส่งข้อความไปหาเค้าครับ
ส่วนเค้าก็ไม่ได้ทักอะไรกลับมาเลย
ใน FB IG เค้ายังคงโพสรูปต่างๆปกติ ผมมั่นใจว่าเค้ายังไม่ได้มีใครใหม่
เพราะ4ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวดีๆเยอะกว่าเรื่องไม่ดีครับ
ถ้าถามผมตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมแต่งอยู่ดี ด้วยฐานะของผม และฐานะทางบ้าน
แต่ผมก็ยังอยากเป็นแฟนกับคนนี้ครับ และพร้อมซื่อสัตย์กับเค้าคนเดียว
ไปต่อไม่ถูกครับ ผมควรทำไงดี
ปล่อยเธอไป หรือเดินหน้าง้อเธอครับ