คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
พระทักษะประชาบดี เป็นมานัสบุตร(บุตรที่เกิดจากการเนรมิต)ของพระพรหม ตอนสร้างจักรวาลครับ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประชาบดีครองโลกในช่วงแรก โดยท่านมีธิดามาก เกือบ 60 นาง แบ่งได้ดังนี้
- 13 นางแรก เป็นชายาของฤาษีกัศยปเทพบิดร(เป็นโอรสของพรหมฤาษีมาริจิ มานัสบุตรของพระพรหม หากนับตามศักดิ์แล้ว ฤาษีกัศยปจะเป็นหลานของพระทักษะประชาบดี)
- 27 นางถัดมา เป็นชายาของพระจันทร์ (เป็นที่มาของนักษัตรทั้ง 27 ราศีในตำรานักษัตรของฮินดู)
- 13 นางถัดมา เป็นชายาพระยมเทพ
และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงพระศิวะมหาเทพ ก็เป็นลูกเขยของพระทักษะประชาบดีด้วยเช่นกัน เพราะพระนางสตี ธิดาของพระทักษะ(เป็นพระศักติอวตารลงมาเป็นคู่ครองของพระศิวะ) ก็เป็นชายาของพระศิวะ จึงนับได้ว่า ท่านเป็นพ่อตาของเหล่าเทพรุ่นแรกเกือบทั้งหมดนั่นเอง
และสาเหตุที่ท่านมีศีรษะเป็นแพะ มีเหตุมาแต่แรกคือ เหล่าฤาษีทั้งหลาย ไปปรึกษากับพระพรหมจะทำพิธีบูชายัญใหญ่ ซึ่งเชิญทุกๆคนไปทั้งหมด และพระศิวะเป็นยัชเญศวร (เจ้าแห่งยัชญะทั้งปวง) จึงเป็นองค์ประทานในพิธี และเมื่อพระทักษะประชาบดี ท่านเข้าไปร่วมในพิธี ทุกคนในงาน ลุกขึ้นต้อนรับพระทักษะทั้งหมด ยกเว้นพระศิวะ ที่ท่านนั่งนิ่งอยู่ไม่ได้ลุกขึ้นแต่ประการใด แต่เนื่องด้วยพระทักษะท่านโกรธ เพราะเห็นว่าพระศิวะเป็นเพียงลูกเขย ควรจะให้ความเคารพตนบ้าง จึงสาปให้พระศิวะไม่ได้รับเครื่องทักษิณา และไล่ออกจากพิธีนั้น รวมถึงจะไม่ได้เชิญเข้าร่วมพิธียัชญะใดๆอีกเลย เหตุนั้น นนทิเกศวร หัวหน้าเหล่าสาวกของพระศิวะ ได้ยินเช่นนั้นก็โกรธ จึงสาปให้พระทักษะต้องมีศีรษะเป็นสัตว์ พระศิวะจึงบอกให้นนทิเกศวรสงบลง และพากันออกจากพิธีกลับไปยังเขาไกลาส โดยไม่ได้บอกให้พระนางสตีทราบเรื่องนี้
ต่อมา พระทักษะประชาบดี ประสงค์จะจัดพิธียัชญะ จึงเชิญเหล่าเทพ มนุษย์ ยักษะ คนธรรพะ กินนร กินรี ทานพ ทุกๆคนทั่วทั้งหมดมาร่วมพิธี แต่ไม่ได้เชิญพระศิวะกับพระนางสตีมาร่วมด้วย หมายจะทำให้พระศิวะได้รับความอับอาย และเป็นไปตามคำสาปของตน จนเทวฤาษีนารัทมุนี มาบอกกล่าวกับพระนางสตี พระนางสตีจึงขอพระศิวะผู้สามีเดินทางไปยังพิธี เพื่อถามพระทักษะผู้บิดา ว่าทำไมไม่เชิญตนกับสวามีมาในพิธี
ซึ่งเมื่อไปถึงงาน พระทักษะประชาบดี ก็ลบหลู่พระศิวะ ด่าทอพระนางสตีด้วยคำหยาบคายต่างๆ จนพระนางสตีทนไม่ได้ และเสียใจมาก จึงสละชีวิตเผาตัวเองกลางลานพิธีนั้น นนทิเกศวรที่ไปกับพระนางสตีเห็นเช่นนั้น จึงไปทูลพระศิวะให้ทราบ พระศิวะก็พิโรธ ดึงปอยผมออกมาและโยนลงพื้น เกิดเป็น วีระภัทร (อวตารของพระศิวะ) พระศิวะจึงสั่งให้ไปทำลายพิธีของพระทักษะประชาบดีให้พินาศ และวีระภัทร ก็ทำลายพิธีของพระทักษะประชาบดีลงจนสิ้น และตัดศีรษะของพระทักษะโยนลงไปในกองไฟกลางพิธีนั้นจนมอดไหม้ไปหมดสิ้น เหล่าเทพและคนอื่นๆในพิธีต่างได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า จนพระศิวะหายพิโรธ จึงไปยังพิธี และต่อเอาหัวแพะที่บูชายัญในพิธี ให้กับพระทักษะประชาบดีแทนเศียรเดิมที่ไหม้ไฟไป พระทักษะจึงมีเศียรเป็นแพะนับแต่นั้น และก็ไม่ได้มีกล่าวถึงอีกเลย
เหตุที่ไม่ได้รับการเคารพ คงเพราะดูหมิ่นพระศิวะมหาเทพ และเป็นโอรสของพระพรหม ซึ่งยุคหลังๆ ไศวะนิกาย และไวษณพนิกายมีบทบาทมากกว่า จึงไม่ค่อยได้มีบูชาเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือแต่กล่าวถึงในตำนานพิธีสตี และเบ็ดเตล็ดอื่นๆเท่านั้นเองครับ
- 13 นางแรก เป็นชายาของฤาษีกัศยปเทพบิดร(เป็นโอรสของพรหมฤาษีมาริจิ มานัสบุตรของพระพรหม หากนับตามศักดิ์แล้ว ฤาษีกัศยปจะเป็นหลานของพระทักษะประชาบดี)
- 27 นางถัดมา เป็นชายาของพระจันทร์ (เป็นที่มาของนักษัตรทั้ง 27 ราศีในตำรานักษัตรของฮินดู)
- 13 นางถัดมา เป็นชายาพระยมเทพ
และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงพระศิวะมหาเทพ ก็เป็นลูกเขยของพระทักษะประชาบดีด้วยเช่นกัน เพราะพระนางสตี ธิดาของพระทักษะ(เป็นพระศักติอวตารลงมาเป็นคู่ครองของพระศิวะ) ก็เป็นชายาของพระศิวะ จึงนับได้ว่า ท่านเป็นพ่อตาของเหล่าเทพรุ่นแรกเกือบทั้งหมดนั่นเอง
และสาเหตุที่ท่านมีศีรษะเป็นแพะ มีเหตุมาแต่แรกคือ เหล่าฤาษีทั้งหลาย ไปปรึกษากับพระพรหมจะทำพิธีบูชายัญใหญ่ ซึ่งเชิญทุกๆคนไปทั้งหมด และพระศิวะเป็นยัชเญศวร (เจ้าแห่งยัชญะทั้งปวง) จึงเป็นองค์ประทานในพิธี และเมื่อพระทักษะประชาบดี ท่านเข้าไปร่วมในพิธี ทุกคนในงาน ลุกขึ้นต้อนรับพระทักษะทั้งหมด ยกเว้นพระศิวะ ที่ท่านนั่งนิ่งอยู่ไม่ได้ลุกขึ้นแต่ประการใด แต่เนื่องด้วยพระทักษะท่านโกรธ เพราะเห็นว่าพระศิวะเป็นเพียงลูกเขย ควรจะให้ความเคารพตนบ้าง จึงสาปให้พระศิวะไม่ได้รับเครื่องทักษิณา และไล่ออกจากพิธีนั้น รวมถึงจะไม่ได้เชิญเข้าร่วมพิธียัชญะใดๆอีกเลย เหตุนั้น นนทิเกศวร หัวหน้าเหล่าสาวกของพระศิวะ ได้ยินเช่นนั้นก็โกรธ จึงสาปให้พระทักษะต้องมีศีรษะเป็นสัตว์ พระศิวะจึงบอกให้นนทิเกศวรสงบลง และพากันออกจากพิธีกลับไปยังเขาไกลาส โดยไม่ได้บอกให้พระนางสตีทราบเรื่องนี้
ต่อมา พระทักษะประชาบดี ประสงค์จะจัดพิธียัชญะ จึงเชิญเหล่าเทพ มนุษย์ ยักษะ คนธรรพะ กินนร กินรี ทานพ ทุกๆคนทั่วทั้งหมดมาร่วมพิธี แต่ไม่ได้เชิญพระศิวะกับพระนางสตีมาร่วมด้วย หมายจะทำให้พระศิวะได้รับความอับอาย และเป็นไปตามคำสาปของตน จนเทวฤาษีนารัทมุนี มาบอกกล่าวกับพระนางสตี พระนางสตีจึงขอพระศิวะผู้สามีเดินทางไปยังพิธี เพื่อถามพระทักษะผู้บิดา ว่าทำไมไม่เชิญตนกับสวามีมาในพิธี
ซึ่งเมื่อไปถึงงาน พระทักษะประชาบดี ก็ลบหลู่พระศิวะ ด่าทอพระนางสตีด้วยคำหยาบคายต่างๆ จนพระนางสตีทนไม่ได้ และเสียใจมาก จึงสละชีวิตเผาตัวเองกลางลานพิธีนั้น นนทิเกศวรที่ไปกับพระนางสตีเห็นเช่นนั้น จึงไปทูลพระศิวะให้ทราบ พระศิวะก็พิโรธ ดึงปอยผมออกมาและโยนลงพื้น เกิดเป็น วีระภัทร (อวตารของพระศิวะ) พระศิวะจึงสั่งให้ไปทำลายพิธีของพระทักษะประชาบดีให้พินาศ และวีระภัทร ก็ทำลายพิธีของพระทักษะประชาบดีลงจนสิ้น และตัดศีรษะของพระทักษะโยนลงไปในกองไฟกลางพิธีนั้นจนมอดไหม้ไปหมดสิ้น เหล่าเทพและคนอื่นๆในพิธีต่างได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า จนพระศิวะหายพิโรธ จึงไปยังพิธี และต่อเอาหัวแพะที่บูชายัญในพิธี ให้กับพระทักษะประชาบดีแทนเศียรเดิมที่ไหม้ไฟไป พระทักษะจึงมีเศียรเป็นแพะนับแต่นั้น และก็ไม่ได้มีกล่าวถึงอีกเลย
เหตุที่ไม่ได้รับการเคารพ คงเพราะดูหมิ่นพระศิวะมหาเทพ และเป็นโอรสของพระพรหม ซึ่งยุคหลังๆ ไศวะนิกาย และไวษณพนิกายมีบทบาทมากกว่า จึงไม่ค่อยได้มีบูชาเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือแต่กล่าวถึงในตำนานพิธีสตี และเบ็ดเตล็ดอื่นๆเท่านั้นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมถึงไม่ค่อยมีใครบูชา พระทักษะประชาบดี