เมื่อพวกเค้าเอาเงินภาษีของเราไปเที่ยว เค้าใช้ข้ออ้างอะไร

กระทู้สนทนา
ผมเคยตั้งกระทู้ “เมื่อข้าราชการนำเงินภาษีของประชาชนไปเที่ยว” http://pantip.com/topic/32480138  กระทู้นี้ได้เป็นกระทู้แนะนำเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่พวก กกต.  ทั้งหลายจะเอาเงินภาษีของพวกเราไปละลายกันให้เห็น เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นจริง
หลายท่านที่ไม่ใช่ข้าราชการหรืออยู่ในตำแหน่งที่จะเอาเงินภาษีไปใช้ท่องเที่ยวคงไม่ทราบว่าแท้จริงแล้ว คนพวกนี้เค้ามีวิธีการอย่างไรในการหาเรื่องไปเที่ยวฟรีๆ ทั้งในและต่างประเทศ ตามผมแล้วกัน ผมจะบอกให้คุณได้รู้ว่า เค้ามีช่องทางอะไรบ้าง
1.    จัดสัมมนา อันนี้พบกันบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะการจัดสัมมนาเป็นการกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง หน่วยราชการจัดงานก็ต้องเช่าห้องประชุม ห้องพัก อาหาร พวกข้าราชการที่เข้าร่วมก็ต้องเดินทางกันมาเช้าร่วมงาน ในกรณีที่จัดกันนอกพื้นที่และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาร่วมงาน บางงานก็มีแจกกระเป๋าเอกสาร วึ่งนิยมกันมาก เพราะผู้เข้าร่วมงานจะได้กระเป๋าไปใช้ฟรีๆ กระเป๋าผ้าบ้าง กระเป๋าหนังบ้าง หลากหลายกันไปแล้วแต่ว่าใครมีงบเท่าไหร่ ในงานก็ต้องมีพีเปิดงาน เชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมงานกัน หลังจากนั้นก็รับประทานอาหารว่าง แล้วผู้ใหญ่ทั้งหลายก็เดินทางกลับ หาได้อยู่ฟังการสัมมนาไม่ ทั้งๆที่เค้าจัดเพื่อให้ท่านฟังด้วย ฝ่ายผู้ร่วมงานหลังจากทานอาหารว่างในมื้อเช้า ก็เข้าฟังวิทยากร พร้อมทั้งก้มหน้าก้มตาส่งไลน์ ไลค์เฟสกันให้สนุกสนาน พอถึงอาหารกลางวันก็ร่วมกันรับประทานของฟรีกันอย่างเอร็ดอร่อย ยิ่งโรงแรมใหญ่อาหารยิ่งดี ยิ่งเจ้าภาพงบเยอะยิ่งดีใหญ่ ของฟรีนะครับอุตส่าห์อดทนนั่งอยู่ตั้งนานเสียเวลาเล่นเฟส พร้อมปล่อยให้เสียงของวิทยากรรบกวนสมาธิในการกดไลค์ ส่งแชรื แถไลน์ พอไงเวลากินก็จัดซะให้เรียบร้อยทั้งคาวทั้งหวาน สองมื้อก็พอแล้วครับ ตอนบ่ายไปช้อปปิ้งต่อหรือไม่ก็ถือโอกาสกลับบ้านก่อนซะเลย กระเป๋าก็ได้แล้วนี่ครับ เอกสารก็มี กินก็แล้วอยู่ทำไมครับไปดีกว่า
2.    ไปร่วมประชุม สัมมนา ในต่างประเทศครับ กรณีนี้มีสองแบบคือ แบบที่เค้าเชิญให้ไป กับเค้าจัดแล้วก็ไปร่วม ทั้งสองกรณีมักจะเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศ หรือประเทศเจ้าภาพจัดขึ้น แล้วหน่วยงานในประเทศไทยก็เป็นสมาชิก หรือไม่ก็อยู่ในแวดวงวิชาการเดียวกัน เวลาจัดงานก็ทำหนังสือเชิญมายังหน่วยงาน ระดับกระทรวง กรม กอง สำนัก ก็ว่ากันไป เค้าเชิญมาก็ของบไปสิครับ อ้างความจำเป็น อ้างว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ อ้างไปทั่วแหละครับ เพื่อจะได้ไปร่วมงาน อีกกรณีนึงก็คือ เป็นการประชุมสัมมนาที่จัดกันทุกปีสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามประเทศต่างๆ กรณีนี้หน่วยงานก็จะตั้งงบเอาไว้ทุกปีเพื่อไปร่วมกิจกรรม  เวลาไปก็เบิกจ่ายค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่ายานพาหนะในประเทศก็คือ ค่ารถที่จะไป-กลับสนามบิน ค่ายานพาหนะในต่างประเทศ ได้แก่ค่ารถทั้งหลายที่ต้องใช้เดินทางในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ ค่าเบี้ยเลี้ยง ตามตำแหน่งและโซนที่เข้าร่วม อันนี้ไปหาดูได้ตามระเบียบแล้วกัน นะครับ ว่าเค้าได้กันคนละเท่าไหร่ต่อวัน  ส่วนจะได้อะไรจาการประชุมสัมมนาก็ลองคิดดูว่าถ้าปฎิบัติตัวตามข้อหนึ่ง พวกเค้าจะได้อะไร อ้อ ไม่รวมกับที่ฟังภาษาอังกฤษแบบรู้บ้างไม่รู้บ้างอีกนะครับ  ซึ่งกรณีนี้ไม่รวมการเชิญโดยเจาะจงตัวให้เข้าร่วมงานโดยเจ้าภาพเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
3.    ไปดูงาน อันนี้แหละผลาญงบกันเลยทีเดียว ข้ออ้างก็คือ เพื่อไปศึกษาแนวทางที่ประเทศนั้นๆเค้าทำกัน หรือเพราะเค้าเป็นต้นตำรับ ที่ต้องเอามาใช้การดำเนินงานถึงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ งบประมาณอาจตั้งไว้ก่อน หรือไม่ก็ใช้งบที่เรียกว่าเหลือจ่ายเพื่อเอามาเที่ยวเล่นเย็นใจ แทนที่จะเอาเงินไปทำอย่างอื่น กรณีนี้ผู้บริหารจะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากเงินเหลือจ่าย เอากันตั้งแต่ระดับเจ้ากระทรวงมาถึง ผอ .สำนัก รวมผู้เชี่ยวชาญอะไรทั้งหลายทั้งปวงแล้วพากันยกโขยงไปเที่ยว ประเทศแถบเอเชียนี่เค้าไม่สนหรอกครับต้องยุโรป อมเริกา มันถึงจะสมฐานะผู้บริหาร การไปดูงานเค้าจะให้บริษัททัวร์เป็นผู้ดำเนินการในการติดต่อ ประสานงาน ทุกเรื่องในการเดินทางโดยเหมาจ่ายกันไป กลุ่มใหญ่กลุ่มเล็กก็ว่ากันไป บางหน่วยงานก็ผูกขาดกลุ่มดูงานไว้กับพวกพ้องและผองเพื่อนหน้าเดิมๆ จนทำให้คิดว่า พวกท่านทำไมถึงไม่รู้จักพอกันเสียทีไอ้เรื่องดูงานเนี่ย เพราะเห็นไปกันจนจะทั่วโลกแล้วแต่ก็ไม่เห็นเอามาพัฒนาหน่วยงานซะที โปรแกรมครึ่งวันเช้าดูงาน ตกบ่ายไปเที่ยว แต่ ช้าก่อนครับ ในการทำโปรแกรมเสนอราชการน่ะ ดูงานแลกเปลี่ยน สนทนา กันเต็มวัน แต่โปรแกรมของผู้เดินทางก็ครึ่ง ๆนั่นแหละ แถมบางที่ไปถึงดันเป็นวันหยุดซะอีกไม่รู้ว่าตั้งใจจะให้ตรงกับวันหยุดหรือไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือบ้างว่าเค้าทำงานกันวันไหนบ้าง วันไหนเป็นวันหยุดราชการของเค้า  อันนี้ก็ถือเป็นกำไรของผู้ดูงานที่ได้ใช้เวลาไปเที่ยวกันจนเต็มอิ่ม กลับมาก็นั่งเทียนเขียนรายงานตามแบบฟอร์ม ซึ่งไม่มีอะไรจะให้เขียน นอกจากเก็บโบร์ชัวร์มาให้ลูกน้องนั่งแปลแล้วส่งเป็นรายงาน
สามอย่างที่ผมบอกมานี่แหละคือวิธีที่เค้าใช้เป็นข้ออ้างในการนำเงินของพวกเราไปเที่ยว อยากอ่านว่าไปแล้วเป็นยังไงก็ตามไปอ่านที่กระทู้นร้ได้ครับ http://pantip.com/topic/32480138
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่