คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
DNA สามารถบอกได้หลายอย่างครับ ทั้งเรื่องความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หรือว่าความผิดปกติของทารกในท้อง (โครโมโซมประกอบไปด้วยดีเอ็นเอครับ) สำหรับกระทู้ที่เจ้าของกระทู้เขียนขึ้นมาเป็นการพูดถึงเรื่องการตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์จากเลือดแม่ หรือที่เรียกกันว่า Non-Invasive Prenatal Test (NIPT) นั่นเองครับ ตอนนี้ในเมืองไทยก็มีให้บริการแยู่หลักๆ 2 เจ้าครับ คือ Panorama กับ Nifty ครับ ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในอินเตอร์เน็ทครับ
แสดงความคิดเห็น
ผู้หญิงตั้งครรภ์ อายุ 35 UP ระหว่าง การตรวจ ดีเอ็นเอ กับ เจาะน้ำคร่ำ ต่างกันอย่างไร อะไรดีกว่ากัน
...การตรวจ ดีเอ็นเอ ทารกในครรภ์ ผ่านทางเลือดมารดาตั้งครรภ์ (Cell free fetal DNA: cf fetal DNA) เป็นวิธีที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และที่หลายๆคนชอบกล่าวถึง คือ การตรวจดีเอ็นเอของทารกในเลือดมารดา เนื่องจากเราสามารถตรวจพบดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมของทารกหลุดเข้าไปอยู่ปะปนกับเลือดมารดาตั้งครรภ์ได้ เราสามารถนำดีเอ็นเอของทารกในครรภ์มาตรวจ เพื่อดูความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ ด้วยเทคโนโลยี การตรวจทาง ดีเอ็นเอ สมัยใหม่ ผลที่ได้จึงมีความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 99 และผลบวกลวงน้อยกว่าร้อยละ 1 โดยไม่มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ในเรื่องของการแท้งบุตร การติดเชื้อ จากการเจาะน้ำคร่ำ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลาย เพราะไม่เกิดผลเสีย หรือ อันตรายต่อทารกในครรภ์ จนมีบางคนกล่าวว่า การตรวจที่มีความเสี่ยง เช่น การเจาะน้ำคร่ำ ตัดเนื้อรก หรือเจาะเลือดจากสายสะดือ เป็นหัตถการอาจจะสูญพันธุ์ไปอนาคตอันใกล้ เนื่องจากการมาของการตรวจชนิดใหม่นี้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของการตรวจอยู่หลายประการ การตรวจ ดีเอ็นเอ ทารกในครรภ์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการตรวจคัดกรอง ในกลุ่มมารดาตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี หรือในรายที่มารดาตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี ที่กลัวหรือปฏิเสธในเรื่องของการตรวจเจาะน้ำคร่ำ ไม่ว่าจะเป็นกลัวเรื่องแท้ง หรือกลัวอาการเจ็บจากการเจาะตรวจน้ำคร่ำ