ชีวิตแบบนี้ ควรทำยังไง

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ
เราเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่อายุ 17 ปี อาจจะเนื่องมาจากสังคมครอบครัวทหาร ที่ทำให้เราต้องเป็นแบบนี้  ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเราต้องเจอกับคำสั่ง ข้อบังคับ ที่ไม่สามารถต่อรองหรือลดหย่อนอะไรได้เลย ก่อนเราจะถูกหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า เราร้องไห้จนช็อคไปเพราะโดนพ่อด่า และจะฆ่าให้ตาย หมอสั่งทำ MRI สมอง และให้ยามากิน พอเราเข้ามหาลัย เราก็หยุดทานยาไป เราว่าเราโอเคขึ้นนะ การห่างจากสังคมที่บ้านทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ลองทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำ  โดยไม่มีคนห้ามหรือออกคำสั่ง

แต่พอเรากลับมาใช้ชีวิตอยู่บ้าน (ตอนอายุ 21 ปี)
เราถูกบังคับอีกครั้ง ด้วยการให้เป็นในสิ่งที่พ่อแม่เราอยากให้เป็น .. ให้ไปเป็นทหาร แต่ด้วยความที่เราไม่ชอบสังคมนี้ ทำให้เราเกิดความคิดและการกระทำที่ต่อต้าน เรากลายเป็นเด็กดื้อที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนด้วยคำพูดและการกระทำ (ซึ่งเป็นตอนไหนไม่รู้) เราคิดแค่ว่า อนาคตของเรา เราอยากเลือกมันเอง เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็นด้วยตัวเอง (ลืมบอกไปว่าตั้งแต่เราเข้ามหาลัย เราขายของหาเงินใช้เองเลี้ยงตัวเอง โดยไม่ขอเงินจากทางบ้าน จนถึงปัจจุบัน) การที่เราทำในสิ่งที่เราอยากทำ ถูกด่าว่าไร้ค่า ไร้สาระ เมื่อไหร่จะตายๆไป ทำให้พ่อแม่ไม่มีหน้ามีตาในสังคม เราก็ไม่รู้ว่าการเป็นทหารนี่มันมีหน้ามีตาในสังคมยังไง เราต้องทนทำความเคารพคนนั้นคนนี้ เสิร์ฟข้าวให้ผู้บังคับบัญชา ยืนดูเขากินข้าว เสิร์ฟนั่นเสิร์ฟนี่ เหลือแต่ป้อนเข้าปาก เขากินเสร็จก็เก็บกับข้าวที่เหลือมากิน ล้างจาน ทำความสะอาด นี่เหรอสังคมที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เราถูกลงโทษเพราะยืนคุยกับพ่อ สั่งซ่อมจนเลือดกำเดาไหล โดนแกล้งสารพัด ให้ยืนตากแดดจนเป็นลม สุขภาพเราก็ไม่ค่อยจะดี เราเป็นเอสแอลอีด้วย เราป่วยบ่อย เราไม่ควรมาทำอะไรหนักๆแบบนี้ ..จริงไหม ? แต่พ่อแม่เราก็ว่าเราสำออย เรากระแดะ แค่นี้คนอื่นทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้ ทั้งที่ยอมไปเป็นทหารตามความต้องการของพ่อแม่ สุดท้ายเราไม่ไหว เราไม่ไปทำงาน เราต้องการดูแลร่างกายและความรู้สึกของเรา เรากลายเป็นลูกอกตัญญูที่ไม่ทำตามพ่อแม่สั่ง ทำให้เรามีปัญหาครั้งใหญ่กับพ่อแม่ เราไม่พูดคุยกันในบ้านเวลาไม่พอใจกันถือเป็นเรื่องธรรมดา นานที่สุด 3-4 เดือน ที่เราเงียบ เราไปหาหมอเองตลอด พ่อแม่ไม่รับรู้การเจ็บป่วยทั้งกายและใจของเรา ใช่ มันคือการแสดงความสำออยสำหรับเขา เราคิดผูกคอตาย เพราะโดนด่าว่าตัวภาระ ไร้ค่า กับการที่เราอาศัยเลี้ยงตัวเองอยู่ในบ้านพ่อแม่ แต่ไม่ทำตามคำสั่ง  เราคิดมากกับคำพูดของพ่อที่ว่า "ทุกวันนี้ได้แต่นั่งคิดนอนคิดว่าเมื่อไหร่จะตายๆไปซักที" เรากินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ ติดอยู่กับคำด่า คำดูถูกและคำพูดถากถางของพ่อแม่ตัวเอง

ทุกวันนี้เราออกมาอยู่ข้างนอก เพราะทนไม่ไหวกับความกดดันภายในบ้าน
สภาพร่างกายเราแย่มาก เอสแอลอีกำเริบหลังจากโรคสงบไป 2 ปี จากแค่เป็นผื่นแพ้แดด กับผลเลือดแย่ ตอนนี้มันลามมาที่ข้ออักเสบ ปวดกระดูก ปวดเนื้อปวดตัว และฉี่เป็นเลือด เราเหนื่อยแทบไม่อยากรักษา และที่มากไปกว่าความเจ็บปวดทางร่างกายคือ จิตใจ  ปกติเรากิน fluoxetine + clonazepam + cinnarizine + alprazolam (ตัวหลัก) เป็นประจำ แต่ตอนนี้มันเหมือนยาใช้ไม่ได้ผลแล้ว ตัว alprazolam นี่ถ้าเรากินแล้วนอนไม่หลับ เราจะร้องกินอีก  ล่าสุดเรากิน alprazolam 0.5 mg. ไป 4 เม็ด แล้วเบลอกิน 0.25 ไปอีก 20 เม็ด ดีที่ล้างท้องทัน วันต่อมาเราไปหาหมอที่จิตเวช หมออยากให้ช็อตไฟฟ้ารักษาโรคซึมเศร้า+รักษาโรคเอสแอลอีควบคู่กันไป เราก็โอเค เราอยากหลุดพ้นความรู้สึกแย่ๆนี้ซักที
ทุกวันนี้เราไม่ค่อยพูดกับใคร ร้องไห้ เหม่อลอย เงียบ เก็บตัว จากปกติที่เวลาเราอยู่ในสังคมมีเพื่อนฝูง เราร่าเริงมาก ตอนนี้กลายเป็นเราไม่อยากเจอใคร ไม่ชอบเสียงดัง หงุดหงิดเวลาที่มีใครมายุ่งกับเรามากๆ ที่สำคัญคือเราหงุดหงิดตัวเอง

เรารู้ตัวเองดีว่าเราผิดปกติ เราแค่อยากรักษาให้ตัวเองหายดี แต่การต่อสู้กับการที่ไม่มีใครเข้าใจมันยากจัง ตอนนี้ความเข้าใจและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรามาก แต่เราเหมือนตัวคนเดียว พ่อแม่ไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบครึ่งปี เขาไม่สนใจเรา ไม่ไถ่ถาม ไม่ติดต่อ .. การต่อสู้เพียงคนเดียวมันโหดร้ายเกินไปไหมสำหรับผู้หญิงอายุ 22 ปี ..

ขอบคุณพื้นที่ที่ให้เราระบายความรู้สึกนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่