สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ คือเราเป็นเด็กที่ถูกเพื่อนแกล้งมาตั้งแต่อนุบาล เช่น ถูกเมินจากเพื่อน ๆ เพราะโดนหัวโจกเกลียด เพื่อนคนอื่นเลยทำตาม ถูกเหยียบรองเท้าเวลาเข้าแถว เพื่อนบางคนเอาไม้ฟุตเหล็กตีเรา หยิกเราให้เนื้อเขียว ๆ ใช้คำพูดแย่ ๆ ล้อเลียนเราประจำค่ะ (บางอย่างเหมือนตัวร้ายในละครสมัยก่อนอะ ต้องเป็นพฤติกรรมเลียนแบบแน่ ๆ ใครบอกว่าละครไม่มีผลกับสังคม) นับวันก็ยิ่งแรงขึ้น โรงเรียนเป็นที่ที่เราไม่อยากไปเลย ยังกับนรก แทบจะร้องไห้ทุกวัน เรามีปัญหาด้านการเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน พูดน้อย เข้าหาคนอื่นไม่เป็นเพราะกลัวเป็นที่รังเกียจ แต่อยู่บ้านเราปกติมาก เป็นเด็กว่าง่าย แต่ก็ซน ๆ ธรรมดาทั่วไป แม่เราเลยงงมากตอนที่ครูบอกว่าเราเงียบเกินไป คือเราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟังเลย กลัวถูกเพื่อนแกล้งมากกว่าเดิม เพราะเคยถูกขู่ว่าอย่าเอาไปฟ้องใครนะ ไม่งั้นจะโดนตี พอไม่สู้คนยิ่งกลายเป็นเป้าโจมตีจากใครก็ตามที่สนุกกับการแกล้งเรา
พอเราโตขึ้นอีก เจอเพื่อนดีเจอสังคมที่ดีขึ้น แต่เรากลับไม่ค่อยเห็นคุณค่าตัวเอง เคยเป็นซึมเศร้าด้วย เราว่ามันเป็นผลกระทบจากช่วงวัยนี้แหละค่ะ
ตอนนั้นครูที่โรงเรียนแบบว่า.... คือวิธีแก้ปัญหาบางอย่างทำให้ชะตากรรมเด็กแย่ลงกว่าเดิมน่ะค่ะ เพราะผู้ปกครองกับคุณครู ไม่ได้อยู่กับเด็กตลอดเวลา ดังนั้น ดีที่สุดคือเราคิดว่าควรฝึกให้เค้าสู้คนค่ะ ให้เค้าเข้มแข็ง ให้เค้ารู้ว่าเราสามารถปกป้องตัวเองได้ตามสมควร และแก้ไขปัญหาเองได้
ตอนถึงคราวน้องสาวเราเข้าเรียน โดนเพื่อนแกล้งร้องไห้กลับมา เราใจหายแวบเลย คือถ้าน้องเรายอมไปเรื่อยต้องเป็นแบบเราแน่ เพราะถ้าคนนึงแกล้งได้ที่เหลือจะอยากทำตาม (เราว่าสังคมเด็กน่ากลัว เพราะทำไปแบบใส ๆ ไม่ได้คิดถึงใจใคร แค่รู้สึกสนุก) เลยสอนให้สู้คน ไม่ต้องกลัวที่บ้านจะดุ ใครดีมาดีตอบ ใครแรงมาให้แรงกลับไปเลย ห้ามกลัวเด็ดขาด ต้องแสดงว่าเราเป็นคนมีมือมีขาเหมือนกัน อาทิตย์ถัดมาได้เรื่องเลยค่ะ เพราะมีเรื่องกันอีกแต่น้องเราสู้กลับ แถมต่อยชนะด้วย (พ่อไปโรงเรียนกลับมาเล่าว่า น้องมีแผลบ้าง แต่เด็กคนนั้นตาเขียวเลย) โชคดีที่เด็กไม่ได้ผูกใจเจ็บกัน แค่เห็นว่าแกล้งไม่ได้แล้วเลยเลิกแกล้ง เราไม่ได้สนับสนุนให้ใช้กำลังกับผู้อื่น แต่สนับสนุนการป้องกันตัวเองค่ะ สังคมและประสบการณ์วัยนี้สำคัญนะคะ น้องเราเป็นคนกล้าเผชิญปัญหา มั่นใจ กล้าแสดงออก เหตุการณ์เล็ก ๆ ส่งผลต่อระยะยาวได้ค่ะ
พอเราโตขึ้นอีก เจอเพื่อนดีเจอสังคมที่ดีขึ้น แต่เรากลับไม่ค่อยเห็นคุณค่าตัวเอง เคยเป็นซึมเศร้าด้วย เราว่ามันเป็นผลกระทบจากช่วงวัยนี้แหละค่ะ
ตอนนั้นครูที่โรงเรียนแบบว่า.... คือวิธีแก้ปัญหาบางอย่างทำให้ชะตากรรมเด็กแย่ลงกว่าเดิมน่ะค่ะ เพราะผู้ปกครองกับคุณครู ไม่ได้อยู่กับเด็กตลอดเวลา ดังนั้น ดีที่สุดคือเราคิดว่าควรฝึกให้เค้าสู้คนค่ะ ให้เค้าเข้มแข็ง ให้เค้ารู้ว่าเราสามารถปกป้องตัวเองได้ตามสมควร และแก้ไขปัญหาเองได้
ตอนถึงคราวน้องสาวเราเข้าเรียน โดนเพื่อนแกล้งร้องไห้กลับมา เราใจหายแวบเลย คือถ้าน้องเรายอมไปเรื่อยต้องเป็นแบบเราแน่ เพราะถ้าคนนึงแกล้งได้ที่เหลือจะอยากทำตาม (เราว่าสังคมเด็กน่ากลัว เพราะทำไปแบบใส ๆ ไม่ได้คิดถึงใจใคร แค่รู้สึกสนุก) เลยสอนให้สู้คน ไม่ต้องกลัวที่บ้านจะดุ ใครดีมาดีตอบ ใครแรงมาให้แรงกลับไปเลย ห้ามกลัวเด็ดขาด ต้องแสดงว่าเราเป็นคนมีมือมีขาเหมือนกัน อาทิตย์ถัดมาได้เรื่องเลยค่ะ เพราะมีเรื่องกันอีกแต่น้องเราสู้กลับ แถมต่อยชนะด้วย (พ่อไปโรงเรียนกลับมาเล่าว่า น้องมีแผลบ้าง แต่เด็กคนนั้นตาเขียวเลย) โชคดีที่เด็กไม่ได้ผูกใจเจ็บกัน แค่เห็นว่าแกล้งไม่ได้แล้วเลยเลิกแกล้ง เราไม่ได้สนับสนุนให้ใช้กำลังกับผู้อื่น แต่สนับสนุนการป้องกันตัวเองค่ะ สังคมและประสบการณ์วัยนี้สำคัญนะคะ น้องเราเป็นคนกล้าเผชิญปัญหา มั่นใจ กล้าแสดงออก เหตุการณ์เล็ก ๆ ส่งผลต่อระยะยาวได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องต่อยเก่งนี่สำคัญครับ
ถ้าเราต่อยเก่ง ต่อให้เราขี้แตกรดกางเกง ก็ไม่มีใครกล้าล้อ
ถ้าย้ายโรงเรียนเสร็จแล้ว ก็พาน้องไปฝึกต่อยมวยด้วยก็ดีครับ
มวยไทยน่าจะดีกว่าเทควันโด้
เพราะการสู้กันในโรงเรียน ส่วนมากก็จะเป็นที่ห้องเรียนช่วงเปลี่ยนคาบ ครูคนเก่าออกไป คนใหม่ยังไม่มา
หรือไม่ก็ห้องน้ำ ซึ่งล้วนแต่เป็นที่แคบๆ ไม่ค่อยมีที่ให้ตั้งท่าอะไรมากมาย
ใช้วิธีดึงล้ม ดึงต่อย ใส่ก่อนใส่เร็วได้เปรียบกว่า
เด็กที่ไม่เคยฝึกต่อย โดนต่อยทีสองทีก็ยอมแพ้แล้วครับ
หรืออย่างน้อยถ้ายังต่อยไม่เก่ง ฝึกด่าเก่งไว้ก่อนก็ได้ครับ
ตะโกนดังๆ ด่ารัวๆ บางทีพวกชอบแกล้งมันก็ฝ่อครับ
แต่ถ้ามันไม่ยอมฝ่อ เราก็ต้องต่อยอยู่ดีแหละครับ
เวลาต่อยถ้าไม่อยากต่อยหลายรอบ ก็เลือกต่อยกับตัวหัวโจกไปเลยครับ
ถ้าเลือกต่อยกับตัวลูกน้อง เดี๋ยวลูกน้องตัวอื่นก็มาหาเรื่องท้าต่อยอีก
ถ้าเราต่อยเก่ง ต่อให้เราขี้แตกรดกางเกง ก็ไม่มีใครกล้าล้อ
ถ้าย้ายโรงเรียนเสร็จแล้ว ก็พาน้องไปฝึกต่อยมวยด้วยก็ดีครับ
มวยไทยน่าจะดีกว่าเทควันโด้
เพราะการสู้กันในโรงเรียน ส่วนมากก็จะเป็นที่ห้องเรียนช่วงเปลี่ยนคาบ ครูคนเก่าออกไป คนใหม่ยังไม่มา
หรือไม่ก็ห้องน้ำ ซึ่งล้วนแต่เป็นที่แคบๆ ไม่ค่อยมีที่ให้ตั้งท่าอะไรมากมาย
ใช้วิธีดึงล้ม ดึงต่อย ใส่ก่อนใส่เร็วได้เปรียบกว่า
เด็กที่ไม่เคยฝึกต่อย โดนต่อยทีสองทีก็ยอมแพ้แล้วครับ
หรืออย่างน้อยถ้ายังต่อยไม่เก่ง ฝึกด่าเก่งไว้ก่อนก็ได้ครับ
ตะโกนดังๆ ด่ารัวๆ บางทีพวกชอบแกล้งมันก็ฝ่อครับ
แต่ถ้ามันไม่ยอมฝ่อ เราก็ต้องต่อยอยู่ดีแหละครับ
เวลาต่อยถ้าไม่อยากต่อยหลายรอบ ก็เลือกต่อยกับตัวหัวโจกไปเลยครับ
ถ้าเลือกต่อยกับตัวลูกน้อง เดี๋ยวลูกน้องตัวอื่นก็มาหาเรื่องท้าต่อยอีก
ความคิดเห็นที่ 8
มันงี่เง่าตั้งแต่ครูห้ามไปห้องน้ำแล้วแหละ น่าจะด่าครูมากกว่าครับ
ถ้ามีเหตุผลแล้วปล่อยให้ไปห้องน้ำแต่แรก เรื่องทั้งหมดนี้คงไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
เป็นผมคงให้ย้ายหนี เพราะครูดูยังไงก็พึ่งไม่ได้ เรียกไปลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ มันจะยิ่งแกล้งหนักกว่าเดิม
ถึงสอนให้สู้คน เอากำปั้นฟาดปากมัน ครูก็จะเข้าข้างฝ่ายที่โดนชกอยู่ดี ยังไงก็ซวย
ถ้ามีเหตุผลแล้วปล่อยให้ไปห้องน้ำแต่แรก เรื่องทั้งหมดนี้คงไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
เป็นผมคงให้ย้ายหนี เพราะครูดูยังไงก็พึ่งไม่ได้ เรียกไปลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ มันจะยิ่งแกล้งหนักกว่าเดิม
ถึงสอนให้สู้คน เอากำปั้นฟาดปากมัน ครูก็จะเข้าข้างฝ่ายที่โดนชกอยู่ดี ยังไงก็ซวย
แสดงความคิดเห็น
ทำอย่างไรดี หลานถูกเพื่อนๆ ล้อ
เนื่องจากตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้น ป. 6 ที่ต่างจังหวัด (ทางภาคใต้)
หลานจะถูกเพื่อนล้อ หรือด่าว่า ลับหลังคุณครู
" ไอ้ควาย...." " ไอ้ตุ๊ด...." "ไอ้ขี้ฟ้อง....."
โดยสาเหตุเกิดจาก
1. เด็กปวดปัสสาวะในชั่วโมงเรียนคาบเรียนภาษาอังกฤษ แต่คุณครูไม่ให้ไป
โดยให้เหตุผลว่ากำลังถึงช่วงสำคัญ กลัวจะเรียนไม่เข้าใจ เด็กจึงอั้นไว้ และ
สุดท้ายเด็กก็ปัสสาวะรดกางเกง .... ซึ่งเพื่อนผู้ชายก็เริ่มล้อว่า ไอ้ควายมั่ง ไอ้เด็กขี้แตก
ไอ้เยี่ยวรดกางเกง โดยเพื่อนจะล้อลับหลังคุณครู ก่อนเริ่มการสอน พักเที่ยง เลิกเรียน
ซึ่งก็นำไปสู่เหตุการณ์ที่ 2
2. หลานชายถูกเพื่อนผู้ชายในห้องใช้ขวดน้ำตีหัว เค้าบอกว่าก่อนหน้านี้เค้าก็ตีเบาๆ
ซึ่งหลานชายก็ได้ถามคนที่ตีหัวเค้าว่า ตีหัวเค้าทำไม มันเจ็บนะ แต่มันยังไม่จบแค่นั้น
หลังจากนั้นเค้าก็ถูกตีแรงขึ้น จนทนไม่ไหวจึงไปบอกคุณครู โดยครูก็ได้เรียกเพื่อนๆ ไปทำโทษ
ซึ่งกลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำให้เด็กที่ถูกทำโทษโกรธแค้น โดยบอกให้เพื่อนเด็กผู้ชายเลิกคบ
แรกๆ เค้าก็ไม่รู้ ว่าทำไมเด็กผู้ชายไม่เล่นกับเค้า เค้าจึงต้องทำงานกลุ่มกับเพื่อนผุ้หญิง
เหลือเพือนผู้ชายที่ยังคบกันอยู่ แค่ 2 คน และ เริ่มมีการล้อเพิ่มเติมเค้าว่า ไอ้ขี้ฟ้อง..... ไอ้ตุ๊ด.....
และจะล้อแบบนี้มาเรื่อยๆ เค้าก็ไม่กล้าบอกใครเลย แม้แต่ที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะถูกเพื่อนแกล้งมากกว่านี้
โดยเหตุการณ์เหล่านี้เริ่มมาตั้งแต่เปิดภาคเรียนใหม่ๆ เค้าปิดเงียบ จนล่าสุดเค้า
แม่ของหลานถามเกี่ยวเพื่อนๆ เช่นว่าสนิทกับเพื่อนกี่คน ชื่ออะไรบ้าง
แล้วเพื่อนๆ ดีไหม เด็กก็เงียบจนแม่เด็กสงสัย เพราะปกติเค้าเป็นคนชั่งคุย
ชอบเล่านั่น เล่านี่ให้ฟัง แต่จะไม่พูดถึงโรงเรียน เพื่อนในโรงเรียนเลย
พอแม่เค้าถามมากๆ เค้าถึงได้ยอมเล่าให้ฟัง....
อยากถามคุณพ่อ คุณแม่ว่าแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้างค่ะ คือกลุ่มใจมาก
เพราะช่วงเวลานี้ มันจะส่งผลกระทบต่อช่วงชีวิตวัยรุ่น และการโตไปเป็นผู้ใหญ่