เริ่มแรกขอเล่าเหตุผลก่อนนะครับว่าทำไม
***ผมคิดว่ามันยาวมาก และอาจจะเล่าวนๆ ไปบ้าง ต้องอภัยด้วยนะครับ
เริ่มแรกเนื่องจากผมพักอยู่ที่ห้องหอพักคนเดียว (ห้องค่อนข้างใหญ่ และครอบครัวผมเป็นเจ้าของ) ทำให้มีพื้นที่เหลือในห้องเยอะมาก ผมเลยมีความคิดที่ว่าจะชวนเพื่อนสนิทที่บ้านไกลมาอยู่กัน เพราะเวลาทำงานอะไรๆ จะได้สะดวก แล้วบังเอิญมีอยู่ 1 เทอมที่ผมต้องทำโปรเจ็ตจบ ผมก็เลยชวนเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทและอยู่กลุ่มโปรเจ็ตเดียวกันมาพักด้วยกัน (บ้านเขาห่างจากที่เรียนไป 50 กิโลเมตร ต้องขี่มอเตอร์ไซด์รถไป-กลับทุกวัน 100 กิโลเมตร ก็เลยชวนมา) ... ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ผ่านไป จบการศึกษา (ปวส.) ... เมื่อจบแล้วเพื่อนคนนั้นก็ย้ายออกเพราะเขาจะทำงาน ส่วนผมก็เรียนต่อ ป.ตรี จนเมื่อเวลาผ่านไปอีก 1 ปีหลังจากเรียน ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนอีกคนที่มาจากต่างจังหวัด ซึ่งเขาพักอยู่ที่หออยู่แล้ว ผมคิดว่าเขาก็เป็นคนที่ดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมก็เลยชวนให้มาอยู่ด้วยกันเพราะเขาจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เขาต้องจ่ายให้กับหอพักของเขา (เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วมีเงื่อนไขคือเขาจะต้องเป็นคนจ่ายค่าไฟของห้องทั้งหมด ประมาณเดือนล่ะ 500 แต่จะไม่ให้จ่ายค่าห้องเพราะอยู่กับผม) ต่อมาผมทราบทีหลังว่าเขาต้องกู้เงินเรียนมาตลอดตั้งแต่ ปวช. เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ผมก็เลยไปเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวของผมฟัง แล้วครอบครัวผมก็เลยคิดว่าจะช่วยก็เลยไม่ให้เขาจ่ายค่าไฟ (ยกเลิกไปก็เลยทำให้เขาไม่ต้องเสียเงินสักบาทกับการพักที่นี่) ... เดือนแรกๆ ก็อยู่ดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเดือนต่อมาเริ่มมีปัญหาครับ
1. เขาเป็นคนที่ไม่รักษาความสะอาด เวลากินอะไรแล้วก็จะวางไว้อยู่ตรงนั้นไม่เอาลงถุงขยะ และโดยเฉพาะที่ปั่นหู ปั่นเยอะมากวันนึงไม่ต่ำกว่า 2 อัน เวลาปั่นเสร็จก็เอาวางไว้ตรงนั้น (โต๊ะทำงานและเตียงนอน) และกระดาษตกพื้นใต้โต๊ะทำงานอยู่แผ่นเดียว ผมมองดูอยู่ 1 อาทิตย์ก็ไม่คิดจะเก็บ (จานข้าวจะไม่ล้าง จนกว่าจะกินครั้งต่อไปถึงจะล้าง) และก็การกวาดห้อง (อยู่มา 5 เดือนทำเองอยู่ 2 รอบและก็ไม่สะอาดเพราะทำแค่หน้างานไม่มุดเข้าไปลึกๆ) สุดท้ายผมก็เป็นคนต้องไปจัดการเองทั้งหมดอยู่ดี (เจอที่ปั่นหูตกตามพื้นเพียบ)
2. เขามีแฟนของเขาที่อยู่ห่างกันมาก (700 กิโลเมตร) เมื่อเวลาคิดถึงกันก็ต้อง คุยกันผ่านทางโทรศัพท์แรกๆ ก็ดี แต่นานเข้าเริ่มคุยทุกวัน และทั้งวัน (ตื่นถึงนอน) ทำให้ผมที่อยู่ด้วยแล้วรำคาญมาก เคยเตือนไปแล้ว 2 รอบ แต่ก็เหมือนจะดี สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีความเกรงใจ ถึงแม้จะคุยเบาแค่ไหนผมยังได้ยิน
3. ตั้งแต่อยู่มา 5 เดือนเขาไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้ครอบครัวผมเลยสักครั้ง อยู่พักเฉยๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง
4. เรื่องนี้อาจจะไม่เป็นปัญหาก็ได้ แต่เมื่อเข้ามาพักอยู่ด้วย แล้วเจอครอบครัวผม เขาไม่เคยที่จะไหว้เคารพเลยสักครั้ง (หรือผมอาจจะไม่เห็น แต่ถ้าเห็นเขาก็ไม่ไหว้นะ และถ้าวันไหนดีๆ ครอบครัวผมก็จะซื้อข้าวมาเผื่อเขาด้วย)
5. ผมเห็นใจครอบครัวผมครับ เพราะครอบครัวผมต้องรับภาระค่าไฟ - ค่าน้ำ เพิ่มจากปกติอีกเกือบ 1 เท่าเลย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เลย (ปกติผมอยู่คนเดียวเสียค่าไฟประมาณ 200 บาท/เดือน น้ำอีกราวๆ 80 บาท *เรทของบ้านพักปกติ และเฉพาะห้องผมนะครับ)
ที่จริงปัญหามีเยอะกว่านี้นะครับ แต่ใหญ่ๆ ก็ 4-5 ข้อนั่น และผมคุยกับเขาบ้างแล้วนะครับ ถึงแม้บางอย่างจะดีขึ้นแต่ก็ไม่มาก เพราะโตๆ กันแล้ว คิดว่าคงรู้เรื่อง แต่ก็พูดเหมือนเสียงผ่านหูไป เดี๋ยวก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก ... ผมเลยอยากจะถามว่า ผมจะมีวิธีอย่างไรที่จะให้เขาย้ายออกไป โดยไม่เป็นการเสียน้ำใจมากเกินไปครับ เพราะตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันมาจะเข้าเดือนที่ 6 แล้ว และใกล้จะจบเทอมพอดี เลยอยากให้ออกไปช่วงนี้ครับ
ปล. ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ นะครับ และห้องผมมันค่อนข้างกว้างสำหรับพักอยู่คนเดียว (6*7 เมตร) ก็เลยแค่ชวนเพื่อนมาพักด้วยกันเท่านั้นเมื่อเวลาทำงานจะได้สะดวก ไม่มีอะไรเกินนี้นะครับ
ปล. ถ้าเขาคนนี้ออกไปแล้ว ผมจะไม่ชวนใครมาอีกแล้ว สุดท้ายพอ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
*เพิ่มเรื่อง และแก้คำผิดนิดหน่อยครับ
อยากทราบวิธีการคุย ให้เพื่อนที่อยู่ด้วยกันย้ายออกไปครับ
***ผมคิดว่ามันยาวมาก และอาจจะเล่าวนๆ ไปบ้าง ต้องอภัยด้วยนะครับ
เริ่มแรกเนื่องจากผมพักอยู่ที่ห้องหอพักคนเดียว (ห้องค่อนข้างใหญ่ และครอบครัวผมเป็นเจ้าของ) ทำให้มีพื้นที่เหลือในห้องเยอะมาก ผมเลยมีความคิดที่ว่าจะชวนเพื่อนสนิทที่บ้านไกลมาอยู่กัน เพราะเวลาทำงานอะไรๆ จะได้สะดวก แล้วบังเอิญมีอยู่ 1 เทอมที่ผมต้องทำโปรเจ็ตจบ ผมก็เลยชวนเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทและอยู่กลุ่มโปรเจ็ตเดียวกันมาพักด้วยกัน (บ้านเขาห่างจากที่เรียนไป 50 กิโลเมตร ต้องขี่มอเตอร์ไซด์รถไป-กลับทุกวัน 100 กิโลเมตร ก็เลยชวนมา) ... ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ผ่านไป จบการศึกษา (ปวส.) ... เมื่อจบแล้วเพื่อนคนนั้นก็ย้ายออกเพราะเขาจะทำงาน ส่วนผมก็เรียนต่อ ป.ตรี จนเมื่อเวลาผ่านไปอีก 1 ปีหลังจากเรียน ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนอีกคนที่มาจากต่างจังหวัด ซึ่งเขาพักอยู่ที่หออยู่แล้ว ผมคิดว่าเขาก็เป็นคนที่ดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมก็เลยชวนให้มาอยู่ด้วยกันเพราะเขาจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เขาต้องจ่ายให้กับหอพักของเขา (เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วมีเงื่อนไขคือเขาจะต้องเป็นคนจ่ายค่าไฟของห้องทั้งหมด ประมาณเดือนล่ะ 500 แต่จะไม่ให้จ่ายค่าห้องเพราะอยู่กับผม) ต่อมาผมทราบทีหลังว่าเขาต้องกู้เงินเรียนมาตลอดตั้งแต่ ปวช. เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ผมก็เลยไปเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวของผมฟัง แล้วครอบครัวผมก็เลยคิดว่าจะช่วยก็เลยไม่ให้เขาจ่ายค่าไฟ (ยกเลิกไปก็เลยทำให้เขาไม่ต้องเสียเงินสักบาทกับการพักที่นี่) ... เดือนแรกๆ ก็อยู่ดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเดือนต่อมาเริ่มมีปัญหาครับ
1. เขาเป็นคนที่ไม่รักษาความสะอาด เวลากินอะไรแล้วก็จะวางไว้อยู่ตรงนั้นไม่เอาลงถุงขยะ และโดยเฉพาะที่ปั่นหู ปั่นเยอะมากวันนึงไม่ต่ำกว่า 2 อัน เวลาปั่นเสร็จก็เอาวางไว้ตรงนั้น (โต๊ะทำงานและเตียงนอน) และกระดาษตกพื้นใต้โต๊ะทำงานอยู่แผ่นเดียว ผมมองดูอยู่ 1 อาทิตย์ก็ไม่คิดจะเก็บ (จานข้าวจะไม่ล้าง จนกว่าจะกินครั้งต่อไปถึงจะล้าง) และก็การกวาดห้อง (อยู่มา 5 เดือนทำเองอยู่ 2 รอบและก็ไม่สะอาดเพราะทำแค่หน้างานไม่มุดเข้าไปลึกๆ) สุดท้ายผมก็เป็นคนต้องไปจัดการเองทั้งหมดอยู่ดี (เจอที่ปั่นหูตกตามพื้นเพียบ)
2. เขามีแฟนของเขาที่อยู่ห่างกันมาก (700 กิโลเมตร) เมื่อเวลาคิดถึงกันก็ต้อง คุยกันผ่านทางโทรศัพท์แรกๆ ก็ดี แต่นานเข้าเริ่มคุยทุกวัน และทั้งวัน (ตื่นถึงนอน) ทำให้ผมที่อยู่ด้วยแล้วรำคาญมาก เคยเตือนไปแล้ว 2 รอบ แต่ก็เหมือนจะดี สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีความเกรงใจ ถึงแม้จะคุยเบาแค่ไหนผมยังได้ยิน
3. ตั้งแต่อยู่มา 5 เดือนเขาไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้ครอบครัวผมเลยสักครั้ง อยู่พักเฉยๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง
4. เรื่องนี้อาจจะไม่เป็นปัญหาก็ได้ แต่เมื่อเข้ามาพักอยู่ด้วย แล้วเจอครอบครัวผม เขาไม่เคยที่จะไหว้เคารพเลยสักครั้ง (หรือผมอาจจะไม่เห็น แต่ถ้าเห็นเขาก็ไม่ไหว้นะ และถ้าวันไหนดีๆ ครอบครัวผมก็จะซื้อข้าวมาเผื่อเขาด้วย)
5. ผมเห็นใจครอบครัวผมครับ เพราะครอบครัวผมต้องรับภาระค่าไฟ - ค่าน้ำ เพิ่มจากปกติอีกเกือบ 1 เท่าเลย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เลย (ปกติผมอยู่คนเดียวเสียค่าไฟประมาณ 200 บาท/เดือน น้ำอีกราวๆ 80 บาท *เรทของบ้านพักปกติ และเฉพาะห้องผมนะครับ)
ที่จริงปัญหามีเยอะกว่านี้นะครับ แต่ใหญ่ๆ ก็ 4-5 ข้อนั่น และผมคุยกับเขาบ้างแล้วนะครับ ถึงแม้บางอย่างจะดีขึ้นแต่ก็ไม่มาก เพราะโตๆ กันแล้ว คิดว่าคงรู้เรื่อง แต่ก็พูดเหมือนเสียงผ่านหูไป เดี๋ยวก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก ... ผมเลยอยากจะถามว่า ผมจะมีวิธีอย่างไรที่จะให้เขาย้ายออกไป โดยไม่เป็นการเสียน้ำใจมากเกินไปครับ เพราะตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันมาจะเข้าเดือนที่ 6 แล้ว และใกล้จะจบเทอมพอดี เลยอยากให้ออกไปช่วงนี้ครับ
ปล. ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ นะครับ และห้องผมมันค่อนข้างกว้างสำหรับพักอยู่คนเดียว (6*7 เมตร) ก็เลยแค่ชวนเพื่อนมาพักด้วยกันเท่านั้นเมื่อเวลาทำงานจะได้สะดวก ไม่มีอะไรเกินนี้นะครับ
ปล. ถ้าเขาคนนี้ออกไปแล้ว ผมจะไม่ชวนใครมาอีกแล้ว สุดท้ายพอ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
*เพิ่มเรื่อง และแก้คำผิดนิดหน่อยครับ