ต่อจากภาคที่แล้ว หลังการสอบproposal อาการของเราดีขึ้น ทานยาm...ทุกวันก่อนนอน ไม่ต้องเพิ่งยานอนหลับ
มีแต่เรื่องแล็บ ไม่มีเรื่องที่บ้าน และเรื่องแฟนมาทำร้ายกัน
แต่ปัญหาเริ่มเกิด แล็บดิฉันไม่ก้าวหน้า อ.ให้ทำซ้ำไปซ้ำมา พอดิฉันทดลองจนได้condition ซึ่งใช้เวลา2เดือน อ.ก้มาบอกว่า ลืมว่าน้ำยาตัวนี้ใช้กับการทดลองขึ้นต่อไปไม่ได้ ให้เปลี่ยนเป้นตัวที่สองที่ถูกลง เสียเวลาไป3อาทิตย์ ก็ยังไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาเป็นตัวที่สาม ซึ่ง เกิดปัญหาอีก ประมาณว่าเหลือproductชิ้นเดียวที่amp ไม่ขึ้น (multiplex pcr) เรียกอีกอย่างว่า ไม่สมบูรณ์ละกันนะคะ
เราติดอยู่ขั้นนี้มา4เดือน ก็ยังพอประคองสติต่อไปได้
แต่มาวันนึงที่บ้านเร่งให้เราไปต่อพรบ. รถเก่าที่จอดตายอยู่หอเรามาหลายเดือน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสายไฟในรถและแบตเตอรี่ พอเราบอกว่าช่วงนี้ไม่ว่าง ก็น้อยใจใส่ว่า อะไรกัน ขอแค่นี้ทำให้ช้า เราเลยเคลียร์ให้ภายในอาทิตย์ และบอกว่า เดี๋ยวจัดการเอง
ยังไม่พอ ลุงเราทราบว่าเราทานยาซึมเศ้รา แต่ต้องบอกก่อนว่า คนตจว.แถวบ้านเรา ไม่เข้าใจสักนิด ลุง เดินมาบอกแม่เราว่า "ระวังนะ มันกินยาฆ่าตัวตาย เหมือนหลานเค้า"
เราอธิบายตัวยาให้ท่านๆฟัง แต่เรื่องอื่นใดๆเราไม่แคร์ และเราถามพ่อกะแม่ว่าแล้วคิดว่าเราเป้นซึมเศร้าหรือเปล่า
คำตอบที่ได้มาคือ...."จะเป็นหรือไม่เป็นไม่รู้หรอกนะ แต่ป๊า/แม่ รับไม่ได้ที่คนอื่นเดินมาบอกว่าลูกเราเป็นบ้า!!!!!"
แทบจะล้มทั้งยืน เราพยายามอธิบายอาหาร ยา และสารเคมีให้ท่านฟัง แต่ท่านไม่เข้าใจเลยค่ะ
เราเลยต้องยอมรับ ว่า เขาไม่เข้าใจ
ส่วนเรื่องแฟน แฟนเรามีปัญหาส่วนตัวเขา จนมากระทบจิตใจเรามาก ไม่ใช่เรื่องเจ้าชู้ค่ะ แต่มันทำให้อาการเราdownลงไป จน ร้องไห้ทั้งคืน นอนไม่หลับและอาการอยากฆ่าตัวตายมันเกิดขึ้นเร้วและรุนแรงกว่าเดิม
เราจึงรีบไปหาหมอในเช้าวันถัดมา เราเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น
หมอให้ข้อสรุปมาว่า.....เราจะholdงานได้ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นมาทำร้ายจิตใจมากเกินไป ถ้าเรื่องมันเข้ามาทีละอย่างน่ะ ok แต่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก ให้เราพัก ไปเที่ยว ขอลาไปพักผ่อน ถ้าที่บ้านไม่เข้าใจก็ ทำงานเรียนให้ดีที่สุด แล้วมาหางานทำใช้ชีวิตต่อไป หมอเชื่อว่า ถ้าเราเรียนจบ หลายอย่างจะดีขึ้นแน่นอน
ส่วนเรื่องแฟน หมอฝากคำถามไปให้แฟนเราคิดและแก้ไขปัญหาดูค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรเราเรื่องนี้
แฟนเราเค้าพยายามจะดูแลเรา แต่บางทีเค้าไม่เข้าใจเราจริงๆ รวมถึงปัญหาส่วนตัวเขา ทำให้เรารู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เลยค่ะ เขาบอกเขาจะพยายามปรับปรุงตัว
แล้วหมอก็ให้ยานอนหลับมาเพิ่มค่ะ
เราออกกำลังกายสัปดาห์ละ3ครั้ง ครั้งละ1ชม. มันดีค่ะ แต่มันไม่ช่วยให้อาการเศร้าหายไป เพราะ พอเราออกจากฟิตเนส ตึกแล็บเราติดฟิตเนสเลยค่ะ แค่มองก็flashbackแล้ว สยอง5555+
มีเพื่อนเราอีก2คนที่เริ่มรู้สึกไม่มีความสุข มาปรึกษาเรา (นางๆรู้ว่าเราพบหมอค่ะ)
เราเห็นใจเขามากถึงแม้เขาจะยังไม่เป็นโรคก็ตาม
เขาถามเราว่า ตอนเขามีอาการแบบนี้ เขารู้สึกแย่มาก แทบอยู่ไม่ได้ ถามเราคืนว่า เราทนอยู่กับมันมาเกือบปีได้ไง
"แต่ชั้นกินยานะแก๊!!!!! แกหายก็ดีแล้ว"
เราบอกเลยว่า ใครไม่เคยสัมผัสกับตัวเอง ก็ไม่มีวันเข้าใจค่ะ อาจป้องกันได้โดยการปรับความคิด นั่งสมาธิ อะไรก็ตาม
แต่เมื่อเป็น"โรค"ขึ้นมา ยา เวลา และการบำบัดเท่านั้นค่ะ ที่ประคองได้
นี่เป้นอีกช่วงที่เรามืด8ด้าน อาการแย่ลง ตอนกินยานอนหลับกินทุกคืน และกลับมาร้องไห้บ่อยขึ้นอีกแล้ว
แต่เราก้ยังมีความหวังเล็กๆที่จะกลับมาเป็นปกติ จึงมาเขียนแบ่งปันความรู้สึกให้ทราบกันค่ะ
ปล.tagห้องการศึกษา เพื่อเป็นตัวอย่างของการเรียนดท สายวิทย์ที่นี่ค่ะ อยากทราบเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้ค่ะ
เรียนโทและโรคซึมเศร้า ภาคสอง "วงจรdownๆและมืดมน"
มีแต่เรื่องแล็บ ไม่มีเรื่องที่บ้าน และเรื่องแฟนมาทำร้ายกัน
แต่ปัญหาเริ่มเกิด แล็บดิฉันไม่ก้าวหน้า อ.ให้ทำซ้ำไปซ้ำมา พอดิฉันทดลองจนได้condition ซึ่งใช้เวลา2เดือน อ.ก้มาบอกว่า ลืมว่าน้ำยาตัวนี้ใช้กับการทดลองขึ้นต่อไปไม่ได้ ให้เปลี่ยนเป้นตัวที่สองที่ถูกลง เสียเวลาไป3อาทิตย์ ก็ยังไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาเป็นตัวที่สาม ซึ่ง เกิดปัญหาอีก ประมาณว่าเหลือproductชิ้นเดียวที่amp ไม่ขึ้น (multiplex pcr) เรียกอีกอย่างว่า ไม่สมบูรณ์ละกันนะคะ
เราติดอยู่ขั้นนี้มา4เดือน ก็ยังพอประคองสติต่อไปได้
แต่มาวันนึงที่บ้านเร่งให้เราไปต่อพรบ. รถเก่าที่จอดตายอยู่หอเรามาหลายเดือน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสายไฟในรถและแบตเตอรี่ พอเราบอกว่าช่วงนี้ไม่ว่าง ก็น้อยใจใส่ว่า อะไรกัน ขอแค่นี้ทำให้ช้า เราเลยเคลียร์ให้ภายในอาทิตย์ และบอกว่า เดี๋ยวจัดการเอง
ยังไม่พอ ลุงเราทราบว่าเราทานยาซึมเศ้รา แต่ต้องบอกก่อนว่า คนตจว.แถวบ้านเรา ไม่เข้าใจสักนิด ลุง เดินมาบอกแม่เราว่า "ระวังนะ มันกินยาฆ่าตัวตาย เหมือนหลานเค้า"
เราอธิบายตัวยาให้ท่านๆฟัง แต่เรื่องอื่นใดๆเราไม่แคร์ และเราถามพ่อกะแม่ว่าแล้วคิดว่าเราเป้นซึมเศร้าหรือเปล่า
คำตอบที่ได้มาคือ...."จะเป็นหรือไม่เป็นไม่รู้หรอกนะ แต่ป๊า/แม่ รับไม่ได้ที่คนอื่นเดินมาบอกว่าลูกเราเป็นบ้า!!!!!"
แทบจะล้มทั้งยืน เราพยายามอธิบายอาหาร ยา และสารเคมีให้ท่านฟัง แต่ท่านไม่เข้าใจเลยค่ะ
เราเลยต้องยอมรับ ว่า เขาไม่เข้าใจ
ส่วนเรื่องแฟน แฟนเรามีปัญหาส่วนตัวเขา จนมากระทบจิตใจเรามาก ไม่ใช่เรื่องเจ้าชู้ค่ะ แต่มันทำให้อาการเราdownลงไป จน ร้องไห้ทั้งคืน นอนไม่หลับและอาการอยากฆ่าตัวตายมันเกิดขึ้นเร้วและรุนแรงกว่าเดิม
เราจึงรีบไปหาหมอในเช้าวันถัดมา เราเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น
หมอให้ข้อสรุปมาว่า.....เราจะholdงานได้ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นมาทำร้ายจิตใจมากเกินไป ถ้าเรื่องมันเข้ามาทีละอย่างน่ะ ok แต่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก ให้เราพัก ไปเที่ยว ขอลาไปพักผ่อน ถ้าที่บ้านไม่เข้าใจก็ ทำงานเรียนให้ดีที่สุด แล้วมาหางานทำใช้ชีวิตต่อไป หมอเชื่อว่า ถ้าเราเรียนจบ หลายอย่างจะดีขึ้นแน่นอน
ส่วนเรื่องแฟน หมอฝากคำถามไปให้แฟนเราคิดและแก้ไขปัญหาดูค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรเราเรื่องนี้
แฟนเราเค้าพยายามจะดูแลเรา แต่บางทีเค้าไม่เข้าใจเราจริงๆ รวมถึงปัญหาส่วนตัวเขา ทำให้เรารู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เลยค่ะ เขาบอกเขาจะพยายามปรับปรุงตัว
แล้วหมอก็ให้ยานอนหลับมาเพิ่มค่ะ
เราออกกำลังกายสัปดาห์ละ3ครั้ง ครั้งละ1ชม. มันดีค่ะ แต่มันไม่ช่วยให้อาการเศร้าหายไป เพราะ พอเราออกจากฟิตเนส ตึกแล็บเราติดฟิตเนสเลยค่ะ แค่มองก็flashbackแล้ว สยอง5555+
มีเพื่อนเราอีก2คนที่เริ่มรู้สึกไม่มีความสุข มาปรึกษาเรา (นางๆรู้ว่าเราพบหมอค่ะ)
เราเห็นใจเขามากถึงแม้เขาจะยังไม่เป็นโรคก็ตาม
เขาถามเราว่า ตอนเขามีอาการแบบนี้ เขารู้สึกแย่มาก แทบอยู่ไม่ได้ ถามเราคืนว่า เราทนอยู่กับมันมาเกือบปีได้ไง
"แต่ชั้นกินยานะแก๊!!!!! แกหายก็ดีแล้ว"
เราบอกเลยว่า ใครไม่เคยสัมผัสกับตัวเอง ก็ไม่มีวันเข้าใจค่ะ อาจป้องกันได้โดยการปรับความคิด นั่งสมาธิ อะไรก็ตาม
แต่เมื่อเป็น"โรค"ขึ้นมา ยา เวลา และการบำบัดเท่านั้นค่ะ ที่ประคองได้
นี่เป้นอีกช่วงที่เรามืด8ด้าน อาการแย่ลง ตอนกินยานอนหลับกินทุกคืน และกลับมาร้องไห้บ่อยขึ้นอีกแล้ว
แต่เราก้ยังมีความหวังเล็กๆที่จะกลับมาเป็นปกติ จึงมาเขียนแบ่งปันความรู้สึกให้ทราบกันค่ะ
ปล.tagห้องการศึกษา เพื่อเป็นตัวอย่างของการเรียนดท สายวิทย์ที่นี่ค่ะ อยากทราบเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้ค่ะ