สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาSและ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน ครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index ค่อนข้างแกว่งตัว โดยเปิดตลาดช่วงเช้า ร่วงลงไป -11 จุด ตามตลาดภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า
การประชุม FOMC ครั้งล่าสุด (วันที่16-17 ก.ย)ที่จะมาถึงนี้ FED อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยไวกว่าคาด จึงทำให้เกิดแรงเทขาย
ทำกำไรทั่วทั้งภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรงซื้อ กลับเข้ามา ในกลุ่มพลังงาน ทำให้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของดัชนี ขึ้นมาเรื่อยๆ
จนสามารถปิดตัวในแดนบวกได้ที่ระดับ 1581 จุด +0.49 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าจะสามารถใต่ระดับขึ้นไปต่อ ได้ไกลเพียงใด
Fundamental
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตา
การประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 61.49 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 16,987.51 จุด
ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.91 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 1,985.54 จุด
ดัชนี Nasdaq ลดลง 24.21 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 4,567.60 จุด
นักลงทุนมีความวิตกกังวลตลอดทั้งสัปดาห์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ในขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะเดิน
หน้าปรับลดขนาดโครงการรับซื้อพันธบัตรลงอย่างต่อเนื่องและอาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในวันพุธนี้
ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 0.9% ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.1% และ ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
การใช้จ่ายของชาวอเมริกันกระเตื้องขึ้น และช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3
ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัว 0.4%
ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ยอดขายโดยรวมของกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง และค้าปลีก เพิ่มขึ้น 0.8% จากระดับเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราสต็อกธุรกิจต่อยอดขายทั้งหมด อยู่ที่ 1.29
ในช่วงสิ้นเดือนก.ค. ซึ่งทรงตัวจากระดับเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนก.ย.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน
เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 84.6 จากระดับเดือนส.ค.ที่ 82.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ในขณะที่ผลการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อในรอบ 1 ปี ร่วงลงมาอยู่ที่ 3.0% จากระดับ 3.2% ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วง 5-10 ปี อยู่ที่ 2.8%
ในส่วนของบริษัทเอกชน หุ้นยาฮูเพิ่มขึ้น 3.93% แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังมีรายงานว่า อาลีบาบา ซึ่งเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน
จะปิดการจองหุ้นเร็วขึ้น เนื่องจากมีความต้องการลงทุนในหุ้น IPO ของบริษัทสูง โดยยาฮูถือหุ้น 22% ในอาลีบาบา
- หุ้นคอนเวอร์แซนท์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 30% หลังจากอัลลายแอนซ์ ดาต้า ซิสเท็ม คอร์ป ตกลงซื้อธุรกิจของบริษัท
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างผันผวนในการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากการการ
เปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย ในเร็วๆนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดทรงตัวที่ 344.27 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,441.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,651.13 จุด ลดลง 40.15 หรือ -0.41%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,806.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.34 จุด หรือ +0.11%
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนกำลังรอดูความชัดเจนในเรื่องช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า
ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก.ค. แตะระดับ 4.444 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน
กระเตื้องขึ้น และช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3
ทั้งนี้ ข้อมูลค้าปลีกล่าสุดอาจจะช่วยหนุนกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3 หลังจากที่ปรับตัวผันผวน
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของผลผลิต
ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนก.ย.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 84.6 จากระดับเดือนส.ค.ที่
82.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
-หุ้นอาวีวา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ของยุโรปลดลง 25% หลังจากคาดว่า รายได้ในครึ่งปีแรกของบริษัทอาจจะต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์
ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดอเมริกาใต้และเอเชีย
- หุ้น RWE AG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภครายใหญ่ของเยอรมนีลดลง 1.8% หลังจากบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับลดน้ำหนัก
การลงทุนในหุ้นของบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน แม้ตอนเช้าจะร่วงลงไป หลุดระดับ 1570 จุด
แต่ช่วงบ่าย ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ Rebound ขึ้นมาปิดยืน 1580+ จุด ได้อีกครั้ง พร้อมกับแท่งเทียน "Hammer" ซึ่งแนวโน้มวันนี้
จึงคาดว่า ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ น่าจะทะลุ High 1591 จุด ผ่านไปได้สบายๆ / แต่ถ้าไม่สามารถ ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ
ระวังย่อตัว หลุดเส้น EMA25 วัน และ Support line ซึ่งจะทำให้ เกิดแรงเทขายหนักๆ ตามมา ก็เป็นได้
S50U14 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่อนข้างแกว่งตัว แม้ตอนเช้าจะร่วงลงไป แต่ก็ไม่ได้หลุด Low ที่ทำไว้เมื่อวันพุธ
แล้วช่วงบ่าย เริ่มเห็นแรง Rebound ขึ้นมาเรื่อยๆ จนปิดตัวยืน 1050+ ได้อีกครั้ง พร้อมกับแท่งเทียน "Hammer" ซึ่งแนวโน้มวันนี้
คาดว่า ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ น่าจะทะลุ High 1061 จุด ผ่านไปได้สบายๆ / แต่ถ้าไม่สามารถ ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ
ระวังย่อตัว หลุดเส้น EMA25 วัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิด แรงเทขายหนักๆ ตามมา ก็เป็นได้
TF60 : วันศุกร์ช่วงเช้า เจอแรงเทขายออกมา จนทำให้ร่วงหลุด EMA75 วัน ลงมา แต่ช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรง Rebound ขึ้นมา
จากรูปแบบการกลับตัว "Morning Star" ทำให้กลับขึ้นมาปิดตัว ยืนเหนือ EMA25,75 วัน ได้สำเร็จอีกครั้ง สำหรับแนวโน้ม วันนี้คาดว่า
น่าจะใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ คงจะทะลุ High 1061 ได้อย่างสบายๆ / แต่ถ้าหากไม่สามารถใต่ระดับขึ้นไปได้ ระวังย่อตัว
หลุดเส้น EMA25,75 วัน และอาจจะไถลลงต่อ หลุด Low ที่ทำไว้เมื่อวันพุธ ก็เป็นได้
Resistance 1057 1061 1065 / 1585 1591 1595 1600
Support 1050 1046 1040 / 1575 1570
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (15 Sep 14)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาSและ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน ครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index ค่อนข้างแกว่งตัว โดยเปิดตลาดช่วงเช้า ร่วงลงไป -11 จุด ตามตลาดภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า
การประชุม FOMC ครั้งล่าสุด (วันที่16-17 ก.ย)ที่จะมาถึงนี้ FED อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยไวกว่าคาด จึงทำให้เกิดแรงเทขาย
ทำกำไรทั่วทั้งภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรงซื้อ กลับเข้ามา ในกลุ่มพลังงาน ทำให้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของดัชนี ขึ้นมาเรื่อยๆ
จนสามารถปิดตัวในแดนบวกได้ที่ระดับ 1581 จุด +0.49 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าจะสามารถใต่ระดับขึ้นไปต่อ ได้ไกลเพียงใด
Fundamental
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตา
การประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 61.49 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 16,987.51 จุด
ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.91 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 1,985.54 จุด
ดัชนี Nasdaq ลดลง 24.21 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 4,567.60 จุด
นักลงทุนมีความวิตกกังวลตลอดทั้งสัปดาห์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ในขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะเดิน
หน้าปรับลดขนาดโครงการรับซื้อพันธบัตรลงอย่างต่อเนื่องและอาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในวันพุธนี้
ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 0.9% ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.1% และ ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
การใช้จ่ายของชาวอเมริกันกระเตื้องขึ้น และช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3
ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัว 0.4%
ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ยอดขายโดยรวมของกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง และค้าปลีก เพิ่มขึ้น 0.8% จากระดับเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราสต็อกธุรกิจต่อยอดขายทั้งหมด อยู่ที่ 1.29
ในช่วงสิ้นเดือนก.ค. ซึ่งทรงตัวจากระดับเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนก.ย.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน
เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 84.6 จากระดับเดือนส.ค.ที่ 82.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ในขณะที่ผลการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อในรอบ 1 ปี ร่วงลงมาอยู่ที่ 3.0% จากระดับ 3.2% ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วง 5-10 ปี อยู่ที่ 2.8%
ในส่วนของบริษัทเอกชน หุ้นยาฮูเพิ่มขึ้น 3.93% แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังมีรายงานว่า อาลีบาบา ซึ่งเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน
จะปิดการจองหุ้นเร็วขึ้น เนื่องจากมีความต้องการลงทุนในหุ้น IPO ของบริษัทสูง โดยยาฮูถือหุ้น 22% ในอาลีบาบา
- หุ้นคอนเวอร์แซนท์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 30% หลังจากอัลลายแอนซ์ ดาต้า ซิสเท็ม คอร์ป ตกลงซื้อธุรกิจของบริษัท
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างผันผวนในการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากการการ
เปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ย ในเร็วๆนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดทรงตัวที่ 344.27 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,441.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,651.13 จุด ลดลง 40.15 หรือ -0.41%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,806.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.34 จุด หรือ +0.11%
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนกำลังรอดูความชัดเจนในเรื่องช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า
ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก.ค. แตะระดับ 4.444 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน
กระเตื้องขึ้น และช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3
ทั้งนี้ ข้อมูลค้าปลีกล่าสุดอาจจะช่วยหนุนกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3 หลังจากที่ปรับตัวผันผวน
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของผลผลิต
ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนก.ย.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 84.6 จากระดับเดือนส.ค.ที่
82.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
-หุ้นอาวีวา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ของยุโรปลดลง 25% หลังจากคาดว่า รายได้ในครึ่งปีแรกของบริษัทอาจจะต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์
ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดอเมริกาใต้และเอเชีย
- หุ้น RWE AG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภครายใหญ่ของเยอรมนีลดลง 1.8% หลังจากบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับลดน้ำหนัก
การลงทุนในหุ้นของบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน แม้ตอนเช้าจะร่วงลงไป หลุดระดับ 1570 จุด
แต่ช่วงบ่าย ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ Rebound ขึ้นมาปิดยืน 1580+ จุด ได้อีกครั้ง พร้อมกับแท่งเทียน "Hammer" ซึ่งแนวโน้มวันนี้
จึงคาดว่า ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ น่าจะทะลุ High 1591 จุด ผ่านไปได้สบายๆ / แต่ถ้าไม่สามารถ ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ
ระวังย่อตัว หลุดเส้น EMA25 วัน และ Support line ซึ่งจะทำให้ เกิดแรงเทขายหนักๆ ตามมา ก็เป็นได้
S50U14 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่อนข้างแกว่งตัว แม้ตอนเช้าจะร่วงลงไป แต่ก็ไม่ได้หลุด Low ที่ทำไว้เมื่อวันพุธ
แล้วช่วงบ่าย เริ่มเห็นแรง Rebound ขึ้นมาเรื่อยๆ จนปิดตัวยืน 1050+ ได้อีกครั้ง พร้อมกับแท่งเทียน "Hammer" ซึ่งแนวโน้มวันนี้
คาดว่า ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ น่าจะทะลุ High 1061 จุด ผ่านไปได้สบายๆ / แต่ถ้าไม่สามารถ ใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ
ระวังย่อตัว หลุดเส้น EMA25 วัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิด แรงเทขายหนักๆ ตามมา ก็เป็นได้
TF60 : วันศุกร์ช่วงเช้า เจอแรงเทขายออกมา จนทำให้ร่วงหลุด EMA75 วัน ลงมา แต่ช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรง Rebound ขึ้นมา
จากรูปแบบการกลับตัว "Morning Star" ทำให้กลับขึ้นมาปิดตัว ยืนเหนือ EMA25,75 วัน ได้สำเร็จอีกครั้ง สำหรับแนวโน้ม วันนี้คาดว่า
น่าจะใต่ระดับขึ้นไปได้ต่อ และ คงจะทะลุ High 1061 ได้อย่างสบายๆ / แต่ถ้าหากไม่สามารถใต่ระดับขึ้นไปได้ ระวังย่อตัว
หลุดเส้น EMA25,75 วัน และอาจจะไถลลงต่อ หลุด Low ที่ทำไว้เมื่อวันพุธ ก็เป็นได้
Resistance 1057 1061 1065 / 1585 1591 1595 1600
Support 1050 1046 1040 / 1575 1570
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ