ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก รับแรงหนุนคาดการณ์เฟดจ่อปรับลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังชุดข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดส่งสัญญาณสนับสนุนแนวโน้มที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามในเดือนธันวาคม

ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ปิดในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นโดดเด่นที่สุด อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้น Nvidia ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ยังเป็นปัจจัยฉุดรั้ง Nasdaq โดยหุ้น Nvidia ลดลง 2.6% ขณะที่ดัชนีชิปเซมิคอนดักเตอร์ของฟิลาเดลเฟียปรับขึ้นเพียง 0.2%
 

ข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากที่เผยแพร่ในวันเดียวกันส่วนใหญ่สะท้อนมุมมองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลง 0.25% ในการประชุมรอบถัดไป แม้รายงานอย่างเป็นทางการหลายฉบับล่าช้าเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะชะงักงันของรัฐบาลก่อนหน้า
 

กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกันยายน ซึ่งบ่งชี้การใช้จ่ายที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่เย็นลง ขณะที่ข้อมูลล่าสุดจาก Conference Board ระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุดตัวมากกว่าคาด โดยดัชนีคาดการณ์ระยะสั้นลดลงเกือบ 12%
 

ตลาดการเงินตอบรับข้อมูลดังกล่าว โดยปัจจุบันให้น้ำหนักความเป็นไปได้ถึง 84.7% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า เพิ่มขึ้นจาก 50.1% เมื่อสัปดาห์ก่อน แนวโน้มนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลังถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด
 

ด้านนายสก็อต เบสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสสูงที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะมาแทนประธานเฟด เจโรม พาวเวลล์ ก่อนช่วงคริสต์มาส โดยมีนายเควิน แฮสเซต ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวเป็นตัวเต็ง
 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 664.18 จุด หรือ 1.43% ที่ระดับ 47,112.45 จุด 
 
ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 60.77 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 6,765.89 จุด 
 
และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 153.59 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 23,025.59 จุด
 

ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 1% หลังยูเครนส่งสัญญาณว่าความพยายามทางการทูตของสหรัฐฯ ในการยุติสงครามกับรัสเซียอาจเริ่มเห็นผล ซึ่งหากสงครามยุติลง อาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรพลังงานของรัสเซียและเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาดในช่วงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เผชิญแรงกดดันจากคาดการณ์ภาวะล้นตลาดในปีหน้า 
 

น้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.6% แตะ 62.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
 
ส่วนน้ำมันดิบสหรัฐฯ WTI ลดลง 99 เซ็นต์ หรือ 1.7% อยู่ที่ 57.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 

ด้านราคาทองคำทรงตัว หลังยอดค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐฯ ตอกย้ำกระแสคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม 
 

ราคาทองสปอตทรงตัวที่ 4,139.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยช่วงเช้าแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ 14 พฤศจิกายน และเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในวันก่อนหน้า หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณสนับสนุนการลดดอกเบี้ยครั้งที่สามของปีในการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคม 
 
ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ส่งมอบเดือนธันวาคมปิดเพิ่มขึ้น 1.1% ที่ 4,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่