ขอระบายปัญหาครอบครัวของเด็กอายุสิบหกค่ะ.

สวัสดีค่ะ ไม่เคยตั้งกระทู้ที่พันทิปมาก่อนเลย
แต่วันนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ มันรู้สึกอยากระบาย อึดอัด ไม่รู้จะหันหน้าเข้าหาใคร

หนูอายุสิบหกปีอยู่มอสี่ค่ะ อยู่ต่างจังหวัดไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ ฐานะทางบ้านไม่ได้ถือว่าดีเลย ติดหนี้เยอะ
แต่ส่วนตัวคุณพ่อก็มีงานดีทำอยู่ ส่วนแม่ไม่ได้ทำอะไร เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
คือที่บ้านปัญหาอย่างแรกที่กวนใจคือคุณแม่เป็นคนติดเหล้า กินทุกวันเลยค่ะ ไม่ได้กินวันไหนก็ตื๊อจะกินให้ได้
คือแม่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยหนูจำความได้ กินมาตลอด หนูก็เลยชิน ไม่ได้ว่าอะไร เตือนอะไรไปก็หลายครั้งแต่แม่ก็ไม่เคยฟัง
ชีวิตดีค่ะตั้งแต่เด็กๆ มีครบทุกอย่าง แต่พอมันมาถึงจุดหนึ่งของชีวิตแล้วอะไรๆก็เปลี่ยนไป

คือช่วงแรกพ่อกับแม่จะดิ้นรนหางานกันตลอดเลยตอนหนูยังเด็ก คือชีวิตการงานไม่ค่อยแน่นอน แต่หนูก็คิดว่าหนูอยู่สบาย
จนประมาณปอห้า พ่อหนูได้งานใหม่ ทำงานกับบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งประเทศไทย คือเทียวไปเทียวกลับตจว.ประมาณเดือนนึงกลับบ้านครั้งนึง
ตอนแรกๆพ่อก็กลับบ้านบ่อยอยู่หรอก แต่ล่าสุดมันก็น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งบางเดือนไม่กลับเลยก็มี พ่อมักจะบอกเหตุผลว่าติดอบรมเสมอเลยค่ะ
และช่วงแรกที่พ่อทำงาน แม่ก็ดีๆอยู่หรอก แต่นานเข้าแม่ก็อยู่ไม่ได้ เอาง่ายๆคือแม่หนูเป็นคนขี้เหงา อยู่คนเดียวไม่ได้
หนูมีพี่สาวอยู่คนนึงค่ะ วันธรรมดาหนูกับพี่ก็ไปเรียน แม่ก็จะอยู่คนเดียวตลอดเวลาพ่อไปทำงาน มีกันแค่สามคน
แม่ก็จะกินเหล้ากินเบียร์ของแม่ทุกวันเหมือนเดิม จนนานวันเข้าหนูกับจับได้ว่าช่วงนั้นแม่มีชู้ แต่หนูก็ไม่พูดอะไร
ที่หนูรู้เพราะหนูนอนห้องเดียวกันกับแม่ตอนช่วงปอห้าปอหก หนูก็สะดุ้งตื่นตอนแม่กลับจากบ้านดึกๆแล้วได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ ตอนนั้นหนูรับไม่ได้ รู้สึกเสียใจจนไม่รู้จะทำยังไง แล้วก็จับได้อีก เพราะค้นโทรศัพท์แม่แล้วเจอข้อความแปลกๆเยอะมาก แต่ที่หนูรู้คือไม่ใช่คนเดียวกับที่แม่คุยโทรศัพท์ด้วย แต่หนูก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อไป ช่วงนั้นหนูจำได้ว่าหนูได้ไปเช่าบ้านอยู่กันกับแม่กับพี่ เพราะบ้านที่เคยอยู่ก่อนหน้านั้นเปิดเป็นร้านซ่อมรถใหญ่ๆ แต่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง มาอาศัยเขาอยู่ แต่เจ้าของบ้านจริงๆที่อยู่อเมริกาก็ขายไป จนพวกหนูต้องระหกระเห็ดมาอยู่บ้านเช่านี่แหละค่ะ
แม่เคยกินเหล้าเมาดึกจนขับรถชน ไปโรงพัก วันนั้นหนูนอนอยู่คนเดียวในห้อง ตื่นเช้ามาก็ไม่เจอแม่ ไม่ได้ไปโรงเรียน หนูก็นั่งร้องไห้อยู่ในห้องจนแม่กลับมา หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแม่ก็ดีขึ้น ไม่ออกไปไหน แต่กินอยู่ที่บ้าน พอนานๆไปพ่อก็ตัดสินใจกู้ยืมเงินจากธนาคาร ไปซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ในหมู่บ้านโครงการหนึ่งในจังหวัดค่ะ ไม่ได้เลิศหรูอะไรมาก แต่ก็อยู่ได้ มีความสุข ตอนนั้นชีวิตเหมือนจะลงตัว หนูไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องชู้แม่
อีกเรื่องนึงค่ะ พี่สาวหนูคนหนึ่งตอนนี้ไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว พี่ทำตัวเกเรมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ จนตอนนี้ท้องมีลูกหนึ่ง จากนั้นมาเรื่องนี้ก็กลายเป็นบทเรียนหนูมาตลอด ใครเห็นหลานหนูก็ได้แต่ตอบเขาว่าเป็นน้องแท้ๆ ลูกหลง เพราะพี่ท้องตั้งแต่อายุสิบห้าค่ะ
กลับเข้าเรื่องหลักก็คือตอนย้ายมบ้านมาใหม่ ชีวิตเหมือนจะดีมากๆ แต่แล้วพ่อก็ไม่กลับบ้านเลยเหมือนช่วงที่เล่าไปตอนแรก
จนวันนึงพ่อก็กลับมาบ้านเหมือนที่ทำอย่างเคย พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวัน หนูก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร หนูก็ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสือไป เป็นช่วงตอนที่อยู่มอสามค่ะ ตอนนั้นตั้งใจมากว่าอยากจะเข้าแผนวิทย์ จนวันนึงนั่นแหละ กำลังนั่งทำการบ้านอยู่ในห้องเพราะเป็นวันหยุด ตอนนั้นแม่ออกไปข้างนอก ไปไหนไม่รู้ พ่อก็เปิดประตูเข้ามาบอกว่าพ่อจะไปแล้วนะ หนูก็ไม่รู้ว่าไปไหน แต่ตอนนั้นก็พอจะเดาทุกอย่างออก พ่อพูดแค่นั้นก็หอบกระเป๋าใบใหญ่ออกจากบ้านโดยที่ไม่รอแม่กลับมาด้วยซ้ำ ตอนนั้นเหมือนทุกอย่างมันพังลงมา ทำอะไรไม่ถูก จนต่อมาก็ได้รู้ความจริงแหละค่ะว่าพ่อมีคนอื่นไปแล้ว อยู่ที่กรุงเทพ เป็นแค่นักศึกษาจบใหม่จากมหาลัยดีๆแห่งหนึ่ง แต่ว่างงาน อายุห่างกับหนูแค่ไม่กี่ปี หนูอึ้งจนไม่รู้จะอึ้งยังไง คิดว่าชีวิตที่เคยดีมาตลอดกลับเป็นแบบนี้ ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วหนูรักครอบครัวมากๆ มากๆ แคร์เรื่องนี้มาก เป็นอันดับหนึ่งในชีวิตเลย พอรู้เรื่องพ่อหนูก็พยายามทำให้ตัวเองไม่คิดมาก ให้ทุกคนรอบข้างเข้าใจว่าหนูโอเค หนูไม่เป็นไร แต่พอไม่คิดแล้วมันก็ดีจริงๆค่ะ มันทำให้ลืม แต่พอได้คิด ก็มักจะร้องไห้เสมอๆ จากวันนั้นพ่อก็ไม่กลับมาบ้านอีกเลยค่ะ แต่พ่อก็พยายามโทรมา จนพ่อมีไลน์ก็ทักไลน์มาคุยด้วยทุกวัน พ่อหนูเป็นคนที่รักลูกนะคะ พ่อพยายามให้ทุกอย่างที่ให้ได้ เหมือนจะทดแทนในสิ่งที่ทำผิดลงไป พยายามที่จะอุดรูช่องว่างในสิ่งที่หนูขาดไป แต่พอแม่รู้เรื่องพ่อ จากนั้นแม่ก็มีคนใหม่ ถึงกับขั้นเอาเขามาอยู่ด้วยที่บ้าน หนูเดินผ่านมองหน้าเขาแล้วก็ต้องตกใจ ว่านี่ใคร แม่เอาใครมาที่บ้าน มานอนในห้องแม่ เตียงเดียวกันกับแม่ มาแทนที่พ่อทุกๆอย่าง เขาไม่ใช่คนวิเศษวิโสอะไรเลยค่ะ ไม่มีหน้าที่การงานด้วยซ้ำ แม่ก็บอกหนูแค่ว่าเขามาแปปเดียว เดี๋ยวก็ไป แต่จนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่ไปไหนเลยค่ะ... หนูก็ใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน แต่เลี่ยงไม่คุยได้หนูก็ไม่คุย มันรับไม่ได้ค่ะ ช่วงนั้นหนูพูดได้เลยว่า...หนูรังเกียจจริงๆ แต่รักแม่มั้ยหนูก็รักแม่เหมือนเดิม เพราะแม่ถึงแม้แม่จะไม่ดียังไง แต่แม่ก็เป็นคนเดียวที่คอยดูแลหนูในช่วงที่พ่อไม่อยู่นานๆ แม่ว่างค่ะไม่เคยทำงานเลยหลังจากพ่อได้งานใหม่ ทุกๆเดือนพ่อก็จะส่งเงินมาให้แม่ใช้เหมือนเดิม จ่ายค่าบ้านค่ารถและค่าต่างๆอีกมากมาย ช่วงแรกเงินก็เยอะอยู่หรอกค่ะ แต่พอซื้อบ้านใหม่บวกกับภาระที่เพิ่มมาอีกก็คือฝั่งทางพ่อ ทำให้ค่าใช้จ่ายที่ส่งมาให้ครอบครัวหนูมันลดลง ลดลงเรื่อยๆ ได้มารู้ความจริงก็คือพ่อซื้อรถใหม่ที่ฝั่งนู้น แล้วก็หมดค่าใช้จ่ายไปกับคนใหม่ของพ่ออีกเยอะแยะมากมาย
ตอนแรกก็คิดอะไรชีวิตมันจะละครขนาดนี้ บางครั้งทั้งสองฝั่งก็พากันไม่มีเงินใช้ จนถึงขั้นมาขอยืมเงินลูกเลยก็มี คนรับภาระก็คือแฟนพี่ของหนูค่ะ เพราะแฟนพี่นั้นมีฐานะดี แล้วบางครั้งแม่ก็มายืมเงินหนู ยิ่งช่วงหลังถี่มาก หนูไม่ได้มีรายได้พิเศษอะไรหรอกค่ะ ได้เงินเดือนเดือนละพันห้า ก็ประหยัดๆใช้เอา แม่ก็จะมายืมเงินแล้วพอเงินเข้าอีกทีก็ค่อยคืน แต่มักจะยืมไปกับสิ่งที่เรียกว่าเหล้าเบียร์เสมอเลยค่ะ จนหนูไม่ให้ยืมเลยบางครั้ง
นั่นแหละค่ะ ทุกวันนี้หนูขับรถมอไซค์ไปโรงเรียน ช่วงนี้ตื่นเช้ามาไม่เคยเจอหน้าแม่ อาบน้ำรีดผ้าไปโรงเรียนเองทุกวัน
กลับบ้านมาหนูก็อยู่แต่ในห้อง แม่ก็นัดเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้านกินเหล้ากันทุกวัน
เป็นอย่างนี้ทุกวันจนหนูรู้สึกขาดความอบอุ่นไม่เหลือใคร
พี่หนูก็ไม่เรียน ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลยค่ะ ลูกของพี่แม่ก็เป็นคนเลี้ยง น้องก็นั่งอยู่ในวงเหล้าทุกวัน ตอนนี้สามขวบแล้ว หนูก็ไม่รู้จะมีผลกระทบอะไรกับน้องตอนโตขึ้นมั้ย
จนตอนนี้แม่แทบไม่เคยเปิดประตูห้องเข้ามาหาหนูแล้วถามเลยว่าวันนี้เรียนเป็นไงบ้าง? เหนื่อยไหม? อยากได้อะไรไหม? ไม่มีเลยค่ะ...
จนบางครั้งก็รู้สึกเหนื่อย ถึงพ่อจะมีคนอื่นแต่พ่อก็พยายามเลี้ยงลูก ทำงานหนักจนตอนนี้ป่วยออดๆแอดๆ เป็นคนหาเงินแต่ไม่ได้ใช้
บางครั้งหนูก็สงสารแม่ที่พยายามเลี้ยงหลานอยู่คนเดียว พี่ไม่เคยสนใจอะไรเลย
แล้วหนูก็เหนื่อยที่หนูยายามอยู่ทุกวันนี้ พยายามก้มหน้าก้มตาเรียน ไม่สุงสิงเรื่องอะไรที่มันไม่ดีด้วยซ้ำ
มีจุดมุ่งหมายในชีวิตนะ อยากให้พ่อกับแม่สบายตอนแก่ตอนเฒ่า แต่บางครั้งก็เหนื่อยจริงๆที่หนูไม่เคยได้รับกำลังใจอะไรเลย

จบไว้เท่านี้ดีกว่าค่ะ ขอโทษนะคะพิมพ์ซะยืดยาว มีผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วย
หนูรู้ค่ะชีวิตคนอื่นแย่กว่าหนูเยอะแยะมากมาย เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนูก็ดูเล็กน้อยด้วยซ้ำ
แต่บางครั้งจิตใจของคนเรามันก็ไม่มีเหมือนกัน ว่าเราจะรับเรื่องนี้ได้มากน้อยต่างกันแค่ไหน
หนูอาจจะดูเด็ก ดูไม่โตทั้งที่อายุก็ตั้งสิบหกแล้ว แต่ปัจจัยเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่เซนซิทิฟกับหนูมากจริงๆค่ะ
เศร้าก็เศร้าจนไม่รู้จะทำยังไงตอนอยู่บ้าน แต่พอไปโรงเรียนก็เป็นอีกแบบ ร่าเริงดีค่ะ มีความสุขกับคนรอบข้าง
พอจะกลับบ้านก็แทบไม่อยากกลับต้องมาเจอภาพเดิมๆ จนตอนนี้ยังอยากจะไปหาพ่อที่กรุงเทพเลยค่ะ อยากปิดเทอมเร็วๆ

ก็เท่านี้แหละค่ะ ขอบคุณคนที่เสียเวลาอ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่