สมาธิภาค2

ก่อนตรัสรู้เมื่อยังไม่ตรัสรู้ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ ได้ทรงทราบว่า วิตก มันควรเเยกออกเป็น2ส่วน
ส่วน1คือ กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก  
ส่วน1คือ เนกขัมมะวิตก(หลีกจากกาม) ไม่พยาบาท อวิหิงสาวิตก
พระองค์ทรงบอกเหตุว่า หากเวลานั่นจิตตริตรึกอยู่ กามวิตก นั่นก็เเสดงว่า เนกขัมมะวิตก(หลีกจากกาม) ก็ละเสียเเล้ว
เเต่หากจิตดำริไปถึง เนกขัมมะวิตก ตอนนั่น กามวิตกก็ถูกละไปเสียเเล้ว เช่นกัน

ดังนั่นจุดประสงค์ของการ ทำ สมาธิ ต้องรู้ชัด หากไม่รู้ว่า นั่งทำไม เมื่อไปเห็น สมณะ พราหมณ์ ที่เค้านั้งอยู่ ด้วยความเพียร จะมีความเคลืองเเคงว่าผู้นี้หนอถึงความละโมบในกามหรือไม่ ผู้นี้หนอถึงความพยาบาท  ไม่มีสติ ไม่มีสัมปปชัญญะ ถึงเป็นผู้มักมาก ด้วยความสุข คือชอบติดสุข นั้นเอง
เคยมีปริพาชก ในสมัยพุทธกาล สงสัยอย่างนี้มาเเล้ว
เเต่ ไอคำว่าติดสุขเนี่ย เราจะต้องเคยเห็นยินในปัจจุบัน ให้รู้ไว้ว่านั่นเค้ากำลัง เอากามวิตก มาถากถาง สมณะหรือพรามหณ์ ผู้ที่หลีกจากกามอยู่ อย่าพึ้งไปตัดสินว่าเค้าเป็นใคร เพราะ หากคนที่ศึกษาพุทธศาสนาจริงๆเค้าไม่พูดกันหรอก เดียวติดสุข ฉนั่นไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้น ในธรรมธาตุ เเค่คุณ กิน ขี้ อี้ นอน มันก็ทำให้จิตติดได้เหมือนกันทั่งนั้น  จิตคิด ดำริ มีจิตปักลงไปในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นอารมณ์เพื่อการตั้งขึ้นทั่งหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามในโลกธาตุ เเม้เเต่ความ ทุกข์ จิตมันก็ติดได้
เเต่ความสุขที่มันเกิดจาก รูป เกิดจากการสงัดเเล้วเหลือความสุขเนี่ย มันก็คือสิ่งที่มันมีของอยู่ ตามธรรมดา ไม่ได้เพิ่มเข้ามา เเละเป็นสุขที่ไม่ควรกลัว ควรที่จะทำให้มากเจริญให้มาก ควรที่จะเสพ ไม่ควรกลัว


นะ

พอเข้าใจกันเเล้วนะว่า นั่งสมาธิเพื่ออะไร...
เพื่อหลีก ออก จากกามวิตกซึ่งเป็นบาปอกุศล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่